"ลูกผอมลงนะ"ซีถูิซื่อกล่าวด้วยสายตาอ่อนโยน
"ไม่ซะหน่อย"เฉียงเวยตอบเสียงแข็ง
หลายคนต่างมึนงงกับสถานการณ์ในปัจจุบันของพ่อลูกคู่นี้ไม่นานมานี้ทั้งสองหาเื่กันคล้ายเป็ศัตรูั้แ่ชาติปางก่อน แต่ตอนนี้กลับเงียบขรึม และพูดคุยเกี่ยวกับเรือนร่างของลูกสาวซะงั้น!?
ซีถูิซื่อมองเฉียงเวยพลางถอนหายใจกล่าวว่า
"ยิ่งโตลูกยิ่งเหมือนแม่"
"ฉันจำไม่ได้"เฉียงเวยรีบตอบกลับทันควัน
"ลูกจำไม่ได้หรอกแม่ของลูกจากไปตอนลูกเกิด พูดถึงเื่นี้แล้วทั้งแม่ทั้งลูกต่างทิ้งพ่อไปด้วยกันทั้งคู่" ซีถูิซื่อพูดอย่างอาลัยอาวรณ์
"ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เราแต่อยู่ที่คุณ"
"นั่นเป็เพราะเ้าไม่เคยเข้าใจพ่อ"
ใบหน้าของเฉียงเวยยังคงสงบนิ่ง
"คุณมาที่นี่เพียงเพื่อบอกเื่พวกนี้งั้นหรือ?"
"อย่าพูดอย่างนั้นสิยังไงพ่อก็เป็พ่อของเ้า เืที่ไหลเวียนครึ่งนึงเป็ของพ่อเ้าไม่อาจปฏิเสธนี้เื่นี้ได้" ซีถูิซื่อยิ้มเล็กน้อย
"ไม่ว่าเ้าจะเป็อะไรแข็งกร้าวและดื้อรั้นขนาดไหน ชั่วชีวิตนี้เ้าก็คือ ซีถูเฉียงเวย"
เฉียงเวยกำหมัดแน่นจากนั้นจึงคลายออกอย่างช้าๆ พร้อมกล่าวว่า
"คุณแก่แล้วและยังชอบพูดจาไร้สาระอีก"
"ฮ่าๆ"ซีถูิซื่อหัวเราะออกมาด้วยเสียงอันดัง "ใช่พ่อแก่แล้วจริงๆ ผมเผ้าหงอกแล้วหงอกอีก แต่โชคดีที่มีลูกสาวที่ยอดเยี่ยมดังนั้นฉันจะไม่เหงาเมื่อแก่ตัวลง"
"คุณจะเหงาแน่ๆ"เฉียงเวยกล่าวเสียงเข้ม
"บางทีล่ะนะ"ซีถูิซื่อรีบตอบอย่างรวดเร็วพลางมองเฉียงเวยพร้อมกล่าวว่า "าแลูกเป็อย่างไรบ้าง?"
เฉียงเวยได้ยินดังนั้นก็ยิ้มมุมปากทันที
"ขอบคุณที่เป็ห่วงลูกน้องของคุณไม่มีทักษะในการยิงปืนเอาเสียเลย"
"พ่อดีใจนะที่ลูกไม่เป็อะไร ที่จริง… มันน่าเสียดายที่ลูกสามารถร่วมงานเลี้ยงน้ำชาในสัปดาห์หน้าได้"
"ฉันจะไปแน่ๆ"เฉียงเวยกล่าวต่ออย่างรวดเร็วว่า "ถ้าหมดเื่ก็ออกไปได้แล้ว"
ในขณะนั้นเองคนของแก๊งหนามแดงก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหลังจากพูดคุยสักพักก็รีบวิ่งมาหาเฉียงเวยทันทีพร้อมกระซิบอะไรบางอย่างข้างหูเธอ
หลังจากนั้นการแสดงออกของเฉียงเวยก็เปลี่ยนไปทันทีเธอจ้องมองไปซีถูิซื่อเขม็งกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็าว่า
"หนังหนาจริงเสาะหาทุกโอกาสที่จะเอาเปรียบ!"
"ฮ่าๆเมื่ออายุมากก็ี้เีมากขึ้น แทนที่จะต่อสู้กับลูกน้องลูกทำไมไม่ยึดอาณาเขตในขณะที่เ้าาเ็อยู่ซะเลยล่ะ"ซีถูิซื่อกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "เป็เื่น่ายินดีที่พ่อสามารถยึดอาณาเขตคืนได้โดยที่ไม่เสียพี่น้องสักคนเดียวส่วนถ้าหากจะมาทวงคืนก็มาได้ทุกเวลา พ่อสัญญาว่าจะไม่นำคนไปคุ้มกันเยอะแน่นอน ฮ่าๆๆ..."
หลังจากหัวเราะจบซีถูิซื่อก็โบกมือทันใดนั้นเองเหล่าคนจากพันธมิตรตะวันตกต่างลุกขึ้นโดยพร้อมเพรียงบางคนยังหัวเราะออกมาเสียงดังก่อนเดินออกจากบาร์ไป
หลายคนจากแก๊งหนามแดงต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอกแต่เมื่อเห็นเฉียงเวยขมวดคิ้วพวกเขาก็เดินไปหาเพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เมื่อเฉียงเวยอธิบายให้ฟังทุกคนก็ต่างโกรธแค้นขึ้นมาทันที
เื่มีอยู่ว่าในขณะที่เฉียงเวยาเ็และแก๊งหนามแดงที่กำลังอยู่ในความวุ่นวายนั้น ซีถูิซื่อก็ส่งคนมายึดเขตแดนของแก๊งหนามแดงไปทันที ถึงสามเขต
หยางเฉินที่ดูเหตุการณ์เงียบๆจากบาร์ก็ดื่มค็อกเทลไปแล้วสามแก้วจากนั้นจึงเดินเข้าไปหาเฉียงเวยพร้อมตบก้นเธอเบาๆ ต่อหน้าทุกคน
"อย่ากังวลไปเลยทุกอย่างจะจบลงหลังจากงานเลี้ยงน้ำชา"
เฉียงเวยพิงศีรษะบนไหล่หยางเฉินพยักหน้าเล็กน้อยสีหน้าเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย
ทั้งหมดนี้ทำให้คนรอบข้างอึดอัดเล็กน้อยพวกเขาไม่เคยเห็นหัวหน้าทำแบบนี้กับชายใดมาก่อนแต่ทั้งหมดก็ต่างอวยพรให้หัวหน้าอย่างเงียบๆ
เมื่อหยางเฉินออกจากบาร์มามันเป็เวลาประมาณเที่ยงพอดี หยางเฉินรู้สึกหิว และเขาก็นึกขึ้นได้ว่าร้านอาหารที่เขาเคยไปกินกับหลิวิอวี้นั่นอร่อยใช้ได้ดังนั้นเขาจึงขับรถไปที่ร้านนั้นอย่างรวดเร็ว
หลังจากมาถึงที่ร้านบริกรก็นำหยางเฉินไปนั่งตรงมุมหนึ่งของร้าน หยางเฉินยังไม่อยากดื่มเขาจึงสั่งเนื้อและผักมาอย่างละจาน เขาวางแผนที่จะกลับไปนอนต่อที่บริษัทหลังทานอาหารเสร็จ
ก่อนที่อาหารจะมาเสิร์ฟก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา หยางเฉินตะลึงงันไปในทันทีเมื่อเห็นคนกลุ่มที่ว่าเป็ลุงหลี่และครอบครัว!
แต่สิ่งที่ทำให้หยางเฉินรู้สึกประหลาดใจคือเจี่ยงซั่วเองก็มาพร้อมกับพวกเขาด้วย!
เป็เวลานานมากแล้วที่หยางเฉินไม่ได้ติดต่อหลี่จิงจิงและเธอเองก็ไม่ได้ติดต่อเขามาด้วยเช่นกัน
เวลานี้เขาสังเกตเห็นหลี่จิงจิงดูไม่ร่าเริงเหมือนแต่ก่อนเธอสวมชุดสีขาว กระเป๋าสีกาแฟ ผมของเธอถูกรวบเป็ทรงหางม้าเหมือนเมื่อก่อนเธอดูเหมือนเป็ผู้ใหญ่มากขึ้นบางทีหลังจากที่กลายเป็คุณครูเธอก็เปลี่ยนไปกลายเป็หญิงสาวชาวเมืองเต็มตัวไม่ใช่เด็กสาวมหาวิทยาลัยผู้ใสซื่ออีกต่อไป
หลี่จิงจิงเดินมากับแม่ของเธอในขณะที่ลุงหลี่กำลังคุยกับเจี่ยงซั่วอยู่ด้านหน้าอย่างสนุกสนานพร้อมกับเดินมาทางหยางเฉิน
วันนี้เจี่ยงซั่วอยู่ในชุดสูทสีดำ ผูกเนกไทสีแดง พร้อมเส้นผมอันเงางามและเป็ระเบียบ เขาดูค่อนข้างหล่อเหลาใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะขณะพูดกับลุงหลี่เขาดูเป็คนอบอุ่นและถ่อมตน
เมื่อพนักงานเสิร์ฟนำอาหารมาก็เป็วินาทีเดียวกันกับที่ลุงหลี่สังเกตเห็นหยางเฉิน
"เสี่ยวหยางเอ็งก็มาที่นี่ด้วยงั้นหรือ"ลุงหลี่ถามหยางเฉินด้วยท่าทางยินดี
ขณะนั้นเองหลี่จิงจิงป้าหลี่ และเจี่ยงซั่วก็มามองที่หยางเฉินด้วยเช่นกันป้าหลี่มีสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย ในขณะที่หลี่จิงจิงมีสีหน้าหน้าลนลานสำหรับเจี่ยงซั่วเขาหมวดคิ้ว และเผยให้เห็นรอยยิ้มและสีหน้าอันเยาะเย้ย
"ไม่นึกว่าจะเจอทุกคนที่นี่นะครับผมแวะมาทานอาหารที่นี่ก่อนจะกลับไปทำงานต่อ" หยางเฉินแกล้งทำเป็ไม่เห็นเจี่ยงซั่ว
"ทำไมไม่กินกับพวกเราล่ะเดี๋ยวนี้พวกเราไม่ได้ทานอาหารด้วยกันเลย" ลุงหลี่กล่าว
ป้าหลี่ที่ยืนอยู่ข้างหลังแสดงสีหน้าไม่พอใจทันทีเธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วลากหลี่จิงจิงมาด้านหน้าพร้อมกล่าวว่า
"เสี่ยวหยางยังต้องไปทำงานต่อพวกเรามาที่นี่เพื่อหารือเื่ที่สำคัญของจิงจิงและเจี่ยงซั่วบางทีมันอาจต้องใช้เวลานานตาแก่ถ้าแกจะดื่มก็ค่อยชวนเสี่ยวหยางออกมาในภายหลังไม่ได้หรือยังไง!"
เื่สำคัญระหว่างหลี่จิงจิงและเจี่ยงซั่ว?
หยางเฉินตะลึงเขามองหลี่จิงจิงที่มีสีหน้าขาวซีด เธอไม่ได้พูดอะไรเพียงก้มหน้าลงเหมือนมีเื่อะไรบางอย่าง
หยางเฉินรู้สึกหดหู่เล็กน้อยอยู่ภายในเป็ไปได้ว่าใน่ที่เขาไม่อยู่ หลี่จิงจิงอาจกลายเป็สนิทกับเจี่ยงซั่ว
"โอ้ใช่พวกเราเจอกันครั้งหนึ่ง พวกเรายินดีต้อนรับหากพี่หยางมาร่วมวงด้วยแต่ผมกับจิงจิงมีธุระต้องคุยกัน เกรงว่าอาจใช้เวลานาน จนพี่หยางอาจไปทำงานสายเป็ไปได้มั้ยว่าเราอาจไปทานอาหารด้วยกันในภายหลัง"เจี่ยงซั่วกล่าวอย่างร่าเริง
ลุงหลี่ขายของมาทั้งชีวิตแล้วตอนนี้ลูกชายของผู้อำนวยการโรงเรียนก็กลับมาชอบลูกสาวของตน นั่นทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่บน์ขั้นเจ็ดเมื่อคิดถึงเื่นี้ลุงหลี่ก็คิดว่ามันค่อนข้างไม่เหมาะสมหากหยางเฉินจะมารับรู้เื่ในครอบครัวนั่นค่อนข้างเป็ที่น่าอึดอัดใจพอสมควร คิดได้ดังนั้นลุงหลี่จึงพยักหน้ากล่าวว่า
"เอาล่ะไว้คราวหน้าแล้วกันนะเสี่ยวหยาง ไว้ลุงจะเลี้ยงข้าวทีหลังก็แล้วกัน"
หยางเฉินเพียงยิ้มกล่าวว่า"ไม่เป็ไรครับ ผมจะไปแล้วพวกคุณคุยธุระกันต่อเถอะ"
"ดูสิ เสี่ยวหยางของเราเป็คนมีเหตุผลจริงๆ" ป้าหลี่กล่าวอย่างมีความสุข
เจี่ยวซั่วเหลือบมองไปที่หยางเฉินด้วยความรังเกียจเขารู้สึกราวกับว่าในที่สุดก็สามารถล้างความอัปยศอดสูที่เขาได้รับจากหยางเฉินที่บาร์์รำไรไปได้แล้ว
ขับBMW แล้วยังไง?ผู้หญิงที่ผม้ายังไงก็เป็ผู้หญิงของผมวันยังค่ำเจี่ยงซั่วรู้สึกยินดีอยู่ภายใน เขามองไปที่หลี่จิงจิงซึ่งยังคงเงียบด้วยความหื่นกระหาย
ภายใต้การแนะนำของป้าหลี่ทั้งสี่ก็เดินเข้าไปยังห้องที่จองไว้อย่างรวดเร็วและทิ้งหยางเฉินให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวต่อไป
ั้แ่ต้นจนจบหลี่จิงจิงไม่เคยสบตาหยางเฉินเลยสักครั้งนั่นทำให้เขารู้สึกขมขื่นอยู่ในใจ
ที่จริงหยางเฉินเข้าใจเป็อย่างดีว่าเขามีภรรยาอย่างหลินรั่วซีและคนรักอย่างเฉียงเวยอยู่แล้ว เขาไม่ควรจะไปยุ่งเกี่ยวกับหญิงสาวบริสุทธิ์อย่างหลี่จิงจิงอีก
นอกจากนี้หลินรั่วซีที่ปฏิบัติกับเขาอย่างเ็ากับแปรเปลี่ยนเป็มีประสบการณ์ร่วมกันมากขึ้นจนหยางเฉินค่อนข้างเข้าใจในตัวหลินรั่วซีบ้างแล้วดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองได้กลายเป็ซับซ้อนขึ้นไปอีกนอกจากนี้ยังมีสัญญาการแต่งงานกับตระกูลหลินนั่นทำให้ยางเฉินไม่สามารถปล่อยหลินรั่วซีไปได้ ไม่ว่าเธอจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม
ดังนั้นถ้าหลี่จิงจิงจะแต่งงานกับคนอื่นบางทีนั่นอาจเป็เื่ที่ดีสำหรับเธอ
อย่างไรก็ตามเป็เพราะฝั่งตรงข้ามเป็เจี่ยงซั่วนั้นทำให้หยางเฉินปวดหัว ลุงหลี่และป้าต่างมาจากครอบครัวยากจนเป็ธรรมดาหากพวกเขาจะหวังให้ลูกสาว แต่งออกไปกับครอบครัวที่ร่ำรวยแต่การตัดสินใจครั้งนี้อาจทำให้หลี่จิงจิงพบกับความทุกข์ทรมาน
หลังจากขบคิดสักพักหยางเฉินก็ตัดสินใจที่จะไม่ยุ่งกับครอบครัวคนอื่น ดังนั้นเขาเพียงแค่ปล่อยให้เป็เื่ของโชคชะตา
ในขณะนั้นเองลุงหลี่กับภรรยาก็เดินไปในห้องพูดคุยกันเงียบๆ
หลังจากกล่าวอำลาเสร็จหยางเฉินลุกขึ้นจากไปแล้วลุงหลี่ซึ่งกำลังอึดอัดใจหันกล่าวกับป้าหลี่ด้วยท่าทีลังเลว่า
"เสี่ยวหยางเขาดีต่อเราขนาดไหนทำไมเรากลับทำเ็ากับเขาอย่างนั้น?"
ป้าหลี่จ้องหน้าลุงหลี่พร้อมกล่าวว่า
"แกพูดบ้าอะไรของแกห๊ะตาแก่แกจะยอมให้ความสุขของจิงจิงพังทลายไปอย่างนั้นหรือแกเสียสติไปแล้วหรือไงกำลังพ่นอะไรเื่ไร้สาระอะไรอยู่?ถ้าเราปล่อยให้ลูกชายผู้อำนวยการโรงเรียนหลุดมือไปแกจะรับผิดชอบอนาคตของจิงจิงไหวมั้ย?!"
ลุงหลี่มองเจี่ยงซั่วกับหลี่จิงจิงที่เดินเคียงกันอยู่ด้านหน้าเจี่ยงซั่วกระตือรือร้นชวนหลี่จิงจิงพูดคุยด้วยในขณะที่หลี่จิงจิงได้แต่ฝืนยิ้มเล็กน้อย
เื่ของเด็กนั้นยากที่จะยุ่งเกี่ยวลุงหลี่รู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้าขึ้นมา และไม่อาจทำอย่างไรได้ ทำได้เพียงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้