ข้าวแบบเดียวกันเลี้ยงคนร้อยแบบ
ครอบครัวเฉิงชิงตกระกำลำบาก บางคนตีชิงตามไฟ บางคนเก็บมือชมอยู่ด้านข้าง บางคนชมเื่ตลกด้วยสายตาเ็า
และก็มีคนจำนวนน้อยที่คิดจะช่วยเหลือครอบครัวเฉิงชิงจริงๆ เช่นเศรษฐีเฒ่าเหอที่ค่อนข้างชื่นชอบเฉิงชิง... แต่ว่าคดีใหญ่ที่ทำให้ราชสำนักจับตามองทั้งบนและล่างเช่นนี้ เศรษฐีเฒ่าเหอไม่มีกำลังพอที่จะจัดการ!
ที่เขาสามารถทำได้ ก็มีแต่ส่งของกินไปให้บางส่วน
ตระกูลเหอไม่เกี่ยวข้องกับคดียักยอกเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ เศรษฐีเฒ่าเหอกระทำโดยไร้ความละอาย ที่เขาส่งสิ่งของให้เป็เพราะชื่นชมเ้าหนุ่มเฉิงชิงผู้นี้เท่านั้น
เมื่อผู้ตรวจการพิเศษของศาลต้าหลี่มาถึง เศรษฐีเฒ่าเหอ้าจะส่งสิ่งของช่วยเหลือครอบครัวเฉิงชิงก็ล้วนทำไม่ได้แล้ว
ชายชราได้แต่ถอนหายใจที่บ้านทั้งวัน
“เ้าหนุ่มเฉิงมีอนาคตไกล เพียงแต่น่าเสียดาย…”
เหอหว่านต่อคำพูดครึ่งหลังที่ถูกตัดออกไปอย่างเงียบๆ ภายในใจ แต่น่าเสียดายที่ชะตาไม่ดี ไม่ทันรอถึงวันที่ทำให้ผู้คนตกตะลึง ก็ถูกตัดหนทางในอนาคตไปจนหมดสิ้น
เหอหว่านสงสัยว่าเศรษฐีเฒ่าเหอคิดจะเป็พ่อสื่อระหว่างนางกับเฉิงชิง และเพราะการคาดเดานี้ เมื่อมองเฉิงชิงนางจึงรู้สึกกระอักกระอ่วน นางพยายามที่จะหาข้อบกพร่องของอีกฝ่าย
ร่างกายเล็กเตี้ย หน้าตาไม่หล่อเหลา... คิดจะหาข้อด้อยของคนผู้หนึ่งนั้นง่ายดายมาก
แต่เฉิงชิงมีทั้งไหวพริบและจัดการอย่างใจกว้าง คืนงานชุมนุมวรรณกรรมกลางสารทฤดูนั้น เหอหว่านจดจำเฉิงชิงเอาไว้แล้ว
หากจะกล่าวว่านางชื่นชอบอีกฝ่ายเพราะไหวพริบนั้นเป็ไปไม่ได้ แต่นางก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจ
ไม่ต้องพูดถึงว่านาง้าจะแต่งให้อีกฝ่ายหรือไม่ เ้าหนุ่มน้อยเฉิงชิงนั่นก็เหมาะสมกับโอกาสในการแสดงความสามารถที่มีอยู่
ก็เหมือนกับที่ท่านปู่ของนางกล่าวไว้ ช่างน่าสงสารเหลือเกิน อุตส่าห์สอบเข้าสถานศึกษาหนานอี๋ได้แล้วทั้งที
“ท่านปู่เ้าคะ ราชสำนักจะลงโทษครอบครัวเฉิงชิงจริงๆ หรือเ้าคะ?”
เศรษฐีเฒ่าเหอส่ายศีรษะ “ข้าก็ไม่รู้ ดูผลลัพธ์ของสถานการณ์ในยามนี้คงไม่ดีเท่าไร แม้ราชสำนักจะยอมปล่อยไม่ไปตรวจสอบเฉิงชิงและครอบครัว แต่อนาคตของตัวเขาเองก็พังพินาศแล้ว บุตรชายของขุนนางต้องโทษไม่อาจเข้าร่วมการสอบเข้ารับราชการ”
เหอหว่านไร้คำพูดไปชั่วขณะ
ทุกคนในแคว้นเว่ยล้วนรู้ดี การสอบเข้ารับราชการเป็ขุนนางเป็หนทางหลักทางเดียว
คำพูดอย่าง ‘สามร้อยหกสิบอาชีพ ทุกๆ อาชีพมีจ้วงหยวน[1]’ เป็คำพูดที่ปลอบใจตนเอง ไม่มีอะไรที่มีน้ำหนักเทียบเท่าได้กับจ้วงหยวนของการสอบเข้ารับราชการ
ให้ผู้ที่มีบรรพบุรุษรุ่นก่อนเป็ขุนนางไปทำการค้า นั่นก็ถือเป็การลบหลู่บรรพบุรุษก่อนหน้า จากผู้มีอำนาจบารมีตกต่ำลงไปเป็พ่อค้า จะนับว่ามีอนาคตได้อย่างไร
ได้ยินว่าเฉิงชิงขยันหมั่นเพียรอย่างหนักที่สถานศึกษาหนานอี๋ การสอบทุกครั้งก็ล้วนมีพัฒนาการ ผู้ที่ใฝ่ดีอย่างเฉิงชิง หากแม้แต่คุณสมบัติในการเข้าร่วมการสอบเข้ารับราชการไม่มีแล้ว ก็คงจะลำบากมากกระมัง?
เหอหว่านเอ่ยพึมพำ “หากสุดท้ายราชสำนักตัดสินว่าใต้เท้าเฉิงไร้ความผิดล่ะเ้าคะ?”
“หว่านเหนียง ความเป็ไปได้นี้น้อยมากแล้ว——”
เศรษฐีเฒ่าเหอไม่้าจะดับฝันหลานสาว แต่ความจริงก็เป็เช่นนี้
แต่เหอหว่านไม่ยอมแพ้ “ผู้ใดจะรู้ว่าราชสำนักจะตัดสินยามใด คดีของปีที่แล้วก็เลื่อนมาถึงปีนี้ ทั้งยังไม่มีผลลัพธ์ หนังสือตัดสินยังไม่มาหนึ่งวัน ก็กักขังเฉิงชิงหนึ่งวัน นี่มีเหตุผลที่ไหนกัน? ขังเขาห้าปี สิบปี จากที่เขาเป็เด็กหนุ่มเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา กลายเป็คนหนุ่มที่เ็าตายด้านถึงปล่อยออกมา อนาคตของเขาก็พังพินาศหมดพอดี!”
อนาคต?
อนาคตล้วนเป็สิ่งที่โอรส์มอบให้ บัณฑิตจิ้นซื่อทุกคนล้วนถูกเรียกขานว่า ‘ศิษย์แห่งโอรส์’ เป็เฉิงจือหย่วนที่ทรยศต่อความไว้ใจของโอรส์ก่อน จึงพัวพันมาถึงการที่เฉิงชิงสูญเสียคุณสมบัติในการสอบเข้ารับราชการ
เศรษฐีเฒ่าเหอไม่้าที่จะทะเลาะกับหลานสาว แม่นางน้อยในห้องหอล้วนใสซื่อ ประจวบกับมีคนมาแจ้งพอดี กล่าวว่าที่ประตูทางเข้ามีเด็กหนุ่มแซ่ชุยผู้หนึ่งมาขอพบเศรษฐีเฒ่าเหอ
“แซ่ชุย?”
เศรษฐีเฒ่าเหองงงวย เขาไม่รู้จักคนแซ่ชุยที่ไหนมาก่อน
“เขากล่าวว่าตนเองเป็ศิษย์ของสถานศึกษาหนานอี๋ เป็สหายร่วมเรียนของเฉิงชิงขอรับ”
แววตาเหอหว่านเปล่งประกาย “เขาต้องมาเพราะเฉิงชิงเป็แน่!”
“ศิษย์คนหนึ่งจะมีวิธีอะไรได้”
เศรษฐีเฒ่าเหอปากเอ่ยเช่นนั้น แต่ก็ยินยอมพบชุยเยี่ยนโดยไม่ลังเล
เศรษฐีเฒ่าเหอเป็ผู้ที่ชุยเยี่ยนมาคารวะเป็คนแรก
ท่านผู้เฒ่าเป็ผู้ที่มีเมตตาและใจบุญ ชื่อเสียงที่ยึดมั่นในความยุติธรรมเป็ที่รู้กันทั่วทั้งอำเภอหนานอี๋ ยิ่งไปกว่านั้น ั้แ่ครอบครัวเฉิงชิงเชิญดวงิญญากลับบ้านเกิด เศรษฐีเฒ่าเหอก็ยิ่งแสดงความชื่นชมและชื่นชอบต่อเฉิงชิง
ชุยเยี่ยนรู้ว่าตระกูลเหอได้เคยส่งสิ่งของไปยังตรอกหยางหลิ่ว จึงมาหาเพื่อเยี่ยมเยียน
เมื่อได้ฟัง ‘แผนการ’ ของชุยเยี่ยนแล้ว เศรษฐีเฒ่าเหอก็ขมวดคิ้ว
“จะทำได้หรือ?”
“จะได้หรือไม่ได้ข้าก็ล้วนต้องลองดูขอรับ หากไม่ลองแล้วจะรู้ได้อย่างไร ไม่ทราบว่าท่านผู้เฒ่าเหอยินยอมที่จะช่วยเหลือหรือไม่——”
นี่คือความรักของมิตรสหายและความฮึกเหิมที่คนหนุ่มผู้มีความสามารถมีอย่างแท้จริง
ชายชรายังไม่ทันจะเอ่ย เหอหว่านที่แอบฟังอยู่หลังฉากกันลมรีบส่งเสียงกระแอมอย่างอดไม่ได้เพื่อเตือนสติ
ชุยเยี่ยนทำเป็ไม่ได้ยินความเคลื่อนไหว เขารอคำตอบจากเศรษฐีเฒ่าเหอ
เศรษฐีเฒ่าเหอไม่ทำให้เขาผิดหวัง สุดท้ายก็พยักหน้าอย่างช้าๆ
“เช่นนั้นก็ลองดูเถิด ถึงอย่างไรข้าก็ไม่ได้เสียหายอะไร”
ยามชุยเยี่ยนออกจากจวนเหอ ฝีเท้าก็ทั้งรวดเร็วและแ่เบา
เื่เช่นนี้ก็เหมือนการทำธุรกิจ อำนาจของตระกูลเดียวนั้นน้อยเกินไป ดังนั้นจึงต้องรวมตัวกันให้มีอิทธิพลมากขึ้น ไปวิ่งเต้นหากับพ่อค้าที่พูดด้วยได้ง่ายก่อน ขยายเบี้ยต่อรองของตนเอง แล้วค่อยไปหาพ่อค้าที่รับมือด้วยยากเพื่อเจรจา
ตระกูลแล้วตระกูลเล่า พูดคุยจนสุดท้ายเบี้ยต่อรองของเขาก็จะยิ่งมากขึ้น โอกาสชนะก็เพิ่มมากขึ้น
เศรษฐีเฒ่าเหอคือเป้าหมายแรก
นายท่านห้าเฉิงคือเป้าหมายที่สอง
ร่างกายเล็กๆ ของเ้าเด็กเฉิงชิงนั่น หน้าตาก็ไม่เจริญตา แต่แววตาในการมองคนกลับไม่เลวเลย
เฉิงชิงเคยกล่าวว่าเศรษฐีเฒ่าเหอเป็ผู้าุโที่โอบอ้อมอารี เศรษฐีเฒ่าเหอไม่มีทางที่จะทำให้เฉิงชิงผิดหวัง
เฉิงชิงยังกล่าวอีกว่า คู่สามีภรรยานายท่านห้าเฉิงเป็ผู้ที่สงสารเขาจากใจที่สุดจากทั้งตระกูลแล้ว
“เฉิงชิงนะเฉิงชิง เ้าพูดถูกแล้ว”
ชุยเยี่ยนมีความภาคภูมิใจอย่างเบาบาง สหายร่วมเรียนและสหายร่วมห้องโน้มน้าวเขาให้ไล่ตามผลประโยชน์หลีกเลี่ยงอันตราย เหตุใดเขาจึงต้องครุ่นคิดพยายามอย่างหนักเพื่อเอาเฉิงชิงขึ้นฝั่งพ้นจากน้ำวนนี้ด้วยเล่า... ถ้าไม่ใช่ว่าเพราะเฉิงชิงกล่าวว่าผู้อื่นล้วนมาทีหลัง ผู้ใดก็ไม่สนิทสนมใกล้ชิดเท่าพวกเขาสองคน!
ดังนั้นเ้าเด็กเฉิงชิงมีแววตาในการมองคนที่ดีมาก รู้อยู่นานแล้วว่าเขาชุยเยี่ยนเป็ผู้ที่ให้ความสำคัญกับไมตรีและพวกพ้อง
ชุยเยี่ยนแปะทองนับไม่ถ้วนบนใบหน้าตนเอง บุกไปยังบ้านห้าด้วยความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยม
เขาขอพบนายท่านห้าเฉิงด้วยขั้นตอนที่ราบรื่นมาก นายท่านห้าพิจารณาเขาจากหัวจรดเท้า “ไม่กลัวการสอบระดับอำเภอของตนเองจะล่าช้าหรือ เ้าวิ่งเต้นเช่นนี้เพื่อเฉิงชิง คุ้มค่าหรือ? เฉิงชิงพลาดการสอบระดับอำเภอในปีนี้ ปีหน้าก็ยังสามารถเข้าร่วมได้ แค่ช้าไปปีเดียว เมื่อเทียบกับคดีของบิดาเขาแล้วไม่นับว่าเป็อันใดได้”
ชุยเยี่ยนกระวนกระวาย
ช้าไปหนึ่งปีนี่เื่ใหญ่มาก เข้าใจไหม!
ปีนี้เฉิงชิงก็อายุสิบสี่ปีแล้ว พี่สาวคนโตของเฉิงชิงอายุสิบแปดปี พี่สาวคนรองและพี่สาวคนที่สามอายุสิบหกปี เฉิงชิงจุดตะเกียงตรากตรำร่ำเรียนจนดึกดื่นหวังที่จะได้คุณวุฒิ ยามพี่สาวทั้งสามเจรจาเื่แต่งงานจะได้ยิ่งมีความมั่นใจและมีต้นทุน
ดังนั้นผลลัพธ์ของการที่เฉิงชิงสอบผ่านวุฒิซิ่วไฉในปีนี้ กับสอบผ่านวุฒิซิ่วไฉในปีหน้าจึงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
หาสามีในวัยสิบแปดถือว่าอายุค่อนข้างเยอะแล้ว อายุสิบเก้ายิ่งมากเข้าไปใหญ่ ยิ่งช้าก็ยิ่งไม่อาจเลือกผู้ที่มีเงื่อนไขดีได้
นอกเหนือจากนี้ หากเฉิงชิงสามารถเข้าร่วมการสอบระดับอำเภอในปีนี้ สถานการณ์ของการกักบริเวณนั่นก็เหมือนจะใกล้พังทลายแล้ว เลื่อนไปจนไม่เห็นปลายทางเช่นนี้ ใช้การสอบระดับอำเภอมาหยั่งเชิงท่าทีของเ้าเมืองอวี๋ก็ดูเหมือนว่าน่าจะได้?
ชุยเยี่ยน้าจะโน้มน้าวนายท่านห้าเฉิงโดยไม่สนใจเก็บงำอะไรแล้ว
นายท่านห้าเฉิงค่อนข้างแปลกใจ ความฉลาดไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ ไม่ได้อยู่ที่พื้นเพ ความกล้าของชุยเยี่ยนมีไม่น้อยเลยจริงๆ !
เมื่อคิดไปแล้ว หากไม่มีความกล้ามากพอ ไหนเลยจะสามารถเป็สหายกับเฉิงชิงได้?
เฉิงชิงหนึ่งคน รวมกับชุยเยี่ยนที่อยู่ต่อหน้านี้ ยังมีเมิ่งไหวจิ่นอีกคนที่เดินทางไปสอบที่เมืองหลวงแล้ว คาดไม่ถึงว่าสามคนนี้จะรวมอยู่ด้วยกัน ช่างสมเป็คนประเภทเดียวกันดึงดูดกันจริงๆ——
วิธีของชุยเยี่ยนไม่ได้พิถีพิถันอะไรนัก ก็แค่ลากทุกคนที่สามารถขอหยิบยืมพลังอำนาจได้ ขึ้นเรือมาร้องทุกข์ กดดันวังหลวงด้วยกัน
ถือเป็วิธีที่ใครต่อใครถือว่าล่วงเกินผู้มีเกียรติมากที่สุด แม้จะได้ผลเป็การชั่วคราว แต่ผู้ที่ริเริ่มกระทำเป็คนแรก ไม่แน่ว่าจะถูกจดบัญชีไว้อย่างเหี้ยมโหด!
[1] สามร้อยหกสิบอาชีพ ทุกๆ อาชีพมีจ้วงหยวน หมายถึงทำอาชีพใดก็ตามหากทุ่มเทก็สามารถเป็อันดับหนึ่งของอาชีพนั้นได้
