“ข้าอยากให้พวกนางอยู่กับเราที่จวน นางเป็เมียของข้าอีกคน!” สิ้นเสียงของใต้เท้าหลี่เท่านั้น ซูซินก็เดินเข้ามาแล้วฟาดมือไปที่หน้าของสามี พร้อมบ่าวไพร่บริเวณนั้นจะพากันก้มหน้าหลบ
“พูดสิ่งใดออกมารู้ตัวหรือไม่! ก่อนแต่งงานท่านเคยสัญญากับข้า ว่าท่านจะมีข้าเป็หญิงเดียวในชีวิต ท่านจะไม่มีหญิงอื่นใดนอกจากข้า ตอนนี้ลูกสาวของเราโตจนสามารถออกเรือนได้แล้ว แต่ท่านกล้าเอ่ยปากขอให้พวกนาง อยู่ที่จวนของเรา...หมายความว่าท่านหมดรักข้าแล้ว?” ใต้เท้าหลี่ชะงักนิ่ง น้ำตาของซูซินไหลอาบแก้มด้วยความเ็ป พร้อมทอดสายตาไปยังสองแม่ลูกที่นั่งกอดกันไม่พูดจา
“เซิ่นหลาน เ้ากับข้าเป็เพื่อนกันมาั้แ่เด็ก เ้าเป็คนพูดเอง ว่าเพื่อนกันจะไม่มีวันหักหลังกัน เพื่อนกันต้องช่วยเหลือดูแลกัน ตอนที่สามีของเ้าตาย เป็ข้าไม่ใช่เหรอที่ให้พวกเ้าเข้ามาอยู่ที่นี่ เ้าตอบแทนข้าเช่นนี้ถูกต้องแล้วงั้นเหรอ” ซูซินเอ่ยถามอีกฝ่ายทั้งน้ำตา ทว่าซินหยางไม่ฟังสิ่งใดทั้งสิ้น นางก้าวเท้าเข้าไปตบหน้าเซิ่นหลานอย่างแรงเพื่อระบายโทสะ ก่อนบิดาของนางจะหมดความอดทนแล้วะโขึ้น
“หยุดทำร้ายนาง!” ทุกคนในที่นั้นชะงักนิ่ง ซินหยางง้างมือค้างอยู่ ก่อนบิดาจะเดินเข้ามาแล้วผลักนางออกจากร่างของเซิ่นหลาน พลันค่อย ๆ ประคองเซิ่นหลานขึ้นช้า ๆ ท่ามกลางสายตาของซูซินที่มองเหตุการณ์นั้นด้วยความเ็ปอย่างถึงที่สุด
“ท่านพ่อ!!” ซินหยางไม่อาจทนได้ นางปรี่เข้ามากระชากร่างของเซิ่นหลานอีกครั้ง ก่อนจะถูกบิดาผลักออก จนเสียหลักล้มลง ท่ามกลางสายตาเหยียดหยันของฟางเหมย มองตรงมาด้วยความสะใจ
“หากเ้าแตะต้องตัวเซิ่นหลานอีก ข้าจะทำโทษเ้าอย่างสาสม เ้าตบตีนางเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ข้าจะไม่ปล่อยให้เ้าตบตีนางอีกเป็แน่! ถึงอย่างไรตอนนี้นางก็ได้ชื่อว่าเป็เมียของข้าแล้ว นางถือว่าเป็ฮูหยินสกุลหลี่เช่นกัน!” คำพูดของใต้เท้าหลี่ ทำให้ซินหยางปล่อยน้ำตารินไหลออกมาด้วยความเ็ป
“หากท่านพ่อรับพวกมันมาอยู่ที่จวน ข้าก็ไม่ขอร่วมชีวิตอยู่กับพวกมันที่นี่!” คำพูดของซินหยางทำให้ใต้เท้าหลี่ชะงักนิ่ง อย่างไรคำขู่ของซินหยาง ก็ทำให้ชายกลางคนหวาดหวั่นอยู่บ้าง
“ใต้เท้าหลี่เ้าคะ เช่นนั้นข้ากับลูกขอไปจากที่นี่จะดีกว่า ไม่อยากทำให้พวกท่านต้องบาดหมางกันเพราะข้า”
“เสียแรงที่ข้านับถือเ้ามานาน นังสารเลว! หากเ้าไม่้าสร้างปัญหาที่จวนสกุลหลี่ เ้าก็ไม่ควรขึ้นนอนบนเตียงกับพ่อของข้า อย่าแสร้งเป็คนดี ถ้าดีจริงก็คงไม่ทำเช่นนี้กับสามีคนอื่น!”
“ซินหยาง เ้าดูดี ๆ พ่อเ้าต่างหากที่มานอนเตียงเดียวกับแม่ข้า!” ฟางเหมยพูดแทนมารดา พร้อมรอยยิ้มเยาะเย้ย ทำให้ซินหยางรับรู้ธาตุแท้ของอีกฝ่าย ความรักความผูกพันที่ผ่านมาเป็เพียงภาพลวงตาที่พวกนางสร้างขึ้น เมื่อตั้งสติได้ซินหยางจึงยิ้มมุมปาก แล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“พ่อของข้า หน้าตาเหมือนพ่อเ้างั้นรึ? แม่เ้าจึงหน้ามืดตามัวยอมให้ขึ้นเตียง!” ซินหยางเอ่ยถามอีกฝ่าย ก่อนฟางเหมยจะชะงักนิ่ง
“หยุดได้แล้ว ไม่ว่าอย่างไร เซิ่นหลานก็เป็เมียของข้าแล้ว ข้าจะให้นางกับฟางเหมยอยู่ที่จวนสกุลหลี่ ผู้ใดก็เปลี่ยนความคิดข้าไม่ได้” ใต้เท้าหลี่พยายามยุติความวุ่นวาย จึงประกาศคำสั่ง ก่อนเสียงของซูซินจะเอ่ยขึ้นอย่างสั่นเครือ
“เช่นนั้น ท่านก็อยู่กับนางไป ข้าจะเป็ฝ่ายหลีกทางให้” คำพูดของซูซิน ทำให้ใต้เท้าหลี่ชะงัก
“ซูซินเ้าอย่าทำเป็อวดเก่ง โลกภายนอกไม่ได้สวยงาม หากเ้าไม่มีข้าคุ้มครองเ้าจะลำบาก” คำพูดของใต้เท้าหลี่ ทำให้ซูซินน้ำตาไหลอาบแก้ม สุดแสนจะผิดหวังกับผู้เป็สามีที่ครองรักกันมาหลายปี
“ลำบากเช่นใด ข้าก็อยู่ได้ ให้ข้าอยู่ที่นี่ เท่ากับท่านกำลังฆ่าข้าให้ตายทั้งเป็ เื่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันทำให้ข้ารู้แล้วว่าคำสัญญาไม่มีอยู่จริง” นางพูดจบ ก็เบี่ยงตัวเดินจากไป ก่อนซินหยางจะเลื่อนสายตามมายังบิดาเป็ครั้งสุดท้าย
“นับจากวันนี้ ข้ากับท่านแม่จะไม่กลับมาเหยียบจวนสกุลหลี่อีก ข้าไม่มีพ่อที่ชื่อหลี่เฉินตงอีกต่อไป!” ซินหยางมองบิดาแล้วเอ่ยคำตัดขาด พลันเลื่อนสายตามายังสองแม่ลูกตัวร้าย
“ข้าโง่ ที่รับพวกเ้าสองแม่ลูกเข้ามาอยู่ที่จวนเพราะเมตตาสงสาร วันนี้ข้ารู้แล้ว ว่าความเมตตา หากมีให้ผิดคนก็ทำชีวิตวิบัติได้เช่นกัน ในชีวิตข้าทำสิ่งที่ผิดพลาดเดียว คือมอบความจริงใจให้กับเ้า นับจากนี้ทุกอย่างที่สูญเสียไป ข้าจะไม่เสียดาย แต่ระหว่างเ้ากับข้าจะเป็ศัตรูกันไปชั่วชีวิต” นางพูดจบก็หันตัวเดินจากไป ทว่าใต้เท้าหลี่เตรียมจะเดินตาม ก่อนเสียงไอของเซิ่นหลานก็ดังขึ้น
“ท่านแม่ นี่ซินหยางทำร้ายท่านจนเืออกมากมายเพียงนี้เชียวรึ” ฟางเหมยแสร้งเช็ดเืที่ขอบปากมารดาแล้วเหลือบสายตามายังใต้เท้าหลี่ ก่อนชายกลางคนจะตัดสินใจประคองเซิ่นหลานอีกครั้งด้วยความเป็ห่วง
หลังจากนั้นสองแม่ลูกก็ตัดสินใจหอบเสื้อผ้า และข้าวของไม่กี่อย่างขึ้นรถม้า ท่ามกลางเสียงร้องไห้ของบ่าวไพร่ในเรือน ที่มายืนส่งหน้าประตูดังระงมขึ้น
“คุณหนูอย่าไปได้หรือไม่เ้าคะ” สาวใช้คนสนิทเดินเข้ามาแล้วร้องได้อย่างหนัก มือทั้งสองข้างจับแน่นไม่ยอมปล่อยให้ซินหยางขึ้นรถม้า
