รถของหลัวจ้งซีไม่ใช่แบรนด์ดังแต่อย่างใด แต่ก็ยังเป็ของใหม่ เป็รถครอบครัวอเนกประสงค์ อี้สี่ะโเข้าไปในรถด้วยความตื่นเต้น และหลังจากปิดประตูแล้ว ทั้งสองต่างก็ส่งยิ้มให้กัน เธอมองรอยยิ้มที่ทั้งอบอุ่นทั้งสนิทสนมของเขา ซึ่งแตกต่างจากความห่างเหินในตอนเช้าอย่างสิ้นเชิง
“สัปดาห์นี้เป็ไงบ้าง?” เสียงของเขาแหบห้าว
“ยอดเยี่ยมค่ะ คุณล่ะคะ?”
“ราบรื่นมากเหมือนกัน” หลัวจ้งซีพูด ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนั้นพิเศษมาก ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเป็เ้าข้าวเ้าของกัน ทว่ามีขอบเขตบางๆ กันไว้ คลุมเครือแต่ก็ยังใส่ใจกัน บางสิ่งบางอย่างจึงยากที่จะพูดหรือเอ่ยถาม อี้สี่อยากรู้เื่แผนการเดินทางห้าวันของเขามาก ในระหว่างห้าวันนี้ พวกเขาไม่แม้จะไลน์พูดคุยกันเลยด้วยซ้ำ
“เมื่อเช้านี้ต้องขอโทษด้วย ผมไม่อยากเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเราเพราะว่าเราทำงานที่เดียวกัน” เขาพูด เขาเองก็เป็คนที่มีความคิดละเอียดละอ่อนมาก ดูจากคิ้วของเธอก็บอกได้ว่าเธอค่อนข้างกังวลเล็กน้อย
“ฉันเข้าใจสิ่งที่คุณคิด ฉันโอเคค่ะ” อี้สี่พูด ในความเป็จริงอี้สี่คิดเสมอว่าเธอสามารถเข้าใจความสัมพันธ์รูปแบบนี้ได้เป็อย่างดี และเธอก็รู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็ผู้หญิงที่เป็ผู้ใหญ่ขึ้น แต่แวบแรกเมื่อเธอเห็นหลัวจ้งซี บางทีอาจจะเป็เพราะไม่ได้เจอเขาหลายวัน เธอจึงไม่สามารถควบคุมความรู้สึกบนใบหน้าของเธอได้ชั่วขณะหนึ่ง
รถขับตรงมุ่งหน้าไปทางูเาแถวเขตชานเมือง บนถนนมีรถน้อยมาก และสัญญาณไฟจราจรก็สว่างเป็พิเศษทำให้รู้สึกว่าถนนสายนี้ค่อนข้างเปลี่ยว ต่อมาฝนก็เริ่มตกลงมาเบาๆ พวกเขาเงียบไปสักพัก แต่ภายในใจจริงๆ แล้วมีเื่มากมายที่อยากจะพูด การจากกัน่สั้นๆ มักนำไปสู่่เวลาแห่งความเขินอายกระอักกระอ่วนเสมอ แต่เมื่อได้พูดคุยกันก็จะพาให้รู้สึกใกล้ชิดมากกว่าเก่า
“คุณคงกินข้าวมาแล้วใช่ไหม?” ในที่สุดเขาก็พูดอะไรบางอย่าง
“ค่ะ! คุณกินข้าวหรือยัง?” อี้สี่ถาม เขาพยักหน้า “รู้แล้วว่าพวกคุณไปกินข้าวกันผมเลยไปหาของกินก่อนมาแล้ว” ฝนเริ่มตกหนักขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย พอเข้าสู่เขตูเา บนูเาก็เริ่มมีหมอกหนา ไฟตัดหมอกเปิดอยู่และทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็ขาวโพลนไปหมด บรรยากาศโดยรอบเริ่มพร่ามัวเล็กน้อย ราวกับว่าทั้งสองคนได้ออกจากโลกแล้วได้เข้ามาถึงสถานที่ลึกลับ ต่อมาหลัวจ้งซีก็ได้จอดรถที่ลานจอดรถแห่งหนึ่ง “เดิมทีอยากพาไปดูวิวตอนกลางคืนของไทเป แต่ตอนนี้หมอกหนามาก มองอะไรไม่เห็นเลย” น้ำเสียงของเขาฟังดูเสียดายเล็กน้อย
“ไม่เป็ค่ะ แค่คืนนี้ได้เจอคุณ ฉันก็ดีใจมากแล้ว” อี้สี่พูด เธอเฝ้ารออีกฝ่ายมาตลอดทั้งวันจริงๆ และมันก็เป็ความรู้สึกทรมานที่ต้องรอคอยอย่างใจจดใจจ่อโดยที่ไม่รู้ผลลัพธ์เลย
หลัวจ้งซีรู้สึกวูบไหวในใจเล็กน้อย ภายในรถที่มืดแต่เขายังคงมองเห็นขนตาที่ขยับกะพริบของเธอและลักยิ้มเล็กๆ ด้านนอก นอกหน้าต่างมีเพียงเสียงฝนตกหนักกระทบกระจกรถ เขาก้มหน้าลงประกบจูบเธออย่างอดใจไม่ไหว
อี้สี่รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเขา ริมฝีปากร้อนมีกลิ่นบุหรี่เล็กน้อย ส่วนบนร่างกายของเขามีกลิ่นโคโลญจางๆ เมื่อััแก้มของเขาทั้งสองก็พบตอหนวดที่เพิ่งงอกขึ้นมา เธอโอบแขนรอบคอของเขาด้วยความรู้สึกอบอุ่นที่อบอวลภายในใจ เป็เื่แปลกมากที่พวกเขาทั้งสองเคยนอนด้วยกันหลายครั้งแล้ว แต่นี่เป็ครั้งแรกที่พวกเขาจูบและกอดกัน ในขณะนี้อี้สี่รู้สึกว่าชิ้นส่วนที่ขาดหายไประหว่างเธอกับหลัวจ้งซีได้รับการเติมเต็มแล้ว
การจูบเบาๆ และการกอดเบาๆ ทำให้เกิดความรักใคร่ที่ลึกซึ้งมากกว่าครั้งก่อน จิตใจอันสกปรกของอี้สี่คิดว่าคงจะมีบางอย่างเกิดขึ้นในรถ ด้วยเพราะว่ารถก็ค่อนข้างกว้างขวาง แต่หลัวจ้งซีก็ควบคุมตัวเองได้มากพอที่จะหยุด “ไปพักผ่อนที่บ่อน้ำพุร้อนกันเถอะ!” เขาเปลี่ยนเกียร์รถถอยหลังแล้วขับมุ่งหน้าตรงไปยังโรงแรมบ่อน้ำพุร้อน
“พรุ่งนี้ต้องไปทำงานนะคะ!”
“ผมรู้ แต่ผมคิดถึงคุณ” เขาพูด อี้สี่คิดว่ามีสิ่งหนึ่งในตัวเขาที่นับว่าดีคือไม่ว่าเขาจะ้ามันมากแค่ไหน เขาจะไม่ยอมหาสถานที่ส่งๆ เพื่อทำเื่พวกนี้กับเธอ
“ห้าวันนี้คุณยุ่งหรือเปล่า?” อี้สี่ถาม การจูบดูเหมือนจะทำลายความเคอะเขินออกไปแล้ว และระหว่างทางไปโรงแรม ในที่สุดทั้งคู่ก็สามารถพูดคุยกันได้เหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
“มีนิทรรศการไวน์ใหญ่ที่ฮ่องกง ผมกับเพ่ยจวนได้ใช้เวลาสองวันไปเยี่ยมชมนิทรรศการ จากนั้นก็ไปทานอาหารกันที่ร้านอาหารที่ไหลลาจองไว้ ตารางงานค่อนข้างแน่น” หลัวจ้งซีพูด อี้สี่รู้ว่าเพ่ยจวนเป็ฝ่ายจัดซื้อที่เธอเห็นเมื่อตอนเที่ยง แม้ว่าเพ่ยจวนจะอายุสามสิบแล้ว แต่เธอก็มีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่มาก ซึ่งเข้ากันได้ดีกับหลัวจ้งซี ที่ผ่านมาเธอคิดมาตลอดว่าเขาไปทำงานคนเดียว ทว่าจริงๆ แล้วดันไปกับหญิงสาวสวยคนหนึ่ง ดังนั้นเธอจึงจินตนาการไปมากมายหลายอย่าง “ฉันคิดว่ามีแค่คุณคนเดียวซะอีก” เธอพูด
หลัวจ้งซีมองตาของอี้สี่ เห็นเพียงรอยยิ้มเล็กๆ ประดับอยู่บนใบหน้าของเธอ คาดไม่ถึงว่าหลัวจ้งซีดูสงบมาก เขาทำเหมือนไม่ต้องอธิบายอะไรกับอี้สี่ ทำเพียงขับรถไปอย่างสบายๆ “แล้วคุณล่ะ? ออกไปทำงานนอกสนามเป็ครั้งแรกโอเคไหม? ซ่งจื่อฉีบอกว่าเขาให้จินอิ๋นมาช่วย เขาคงจะสอนคุณได้ดี” เขาถามกลับ น้ำเสียงราบเรียบมากราวกับว่าเขาไม่รู้เื่อะไรเลย
เมื่อเขาพูดเช่นนี้บทสนทนาก็แทบจะไปต่อไม่ได้ จริงๆ แล้วเขารู้เื่ทุกอย่าง ร่องรอยของความตื่นตระหนกแวบขึ้นมาในดวงตาของอี้สี่ แต่เธอรู้สึกว่าเธอไม่มีอะไรแก้ต่างได้ ดังนั้นเธอจึงพูดว่า “สอนค่ะ เขาเป็คนดีมาก” อี้สี่กอดหลัวจ้งซี เธอคิดว่าหากเขายังคงถามต่อไป เธอคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสารภาพแล้วยอมรับผลที่ตามมาทั้งหมด แต่เนื่องจากหลัวจ้งซีไม่ได้ถาม ใบหน้าของเขายังคงสง่างามมากและยังคงยิ้มอยู่
อี้สี่เข้าใจได้ทันที ไม่ว่าพวกเขาจะจูบ กอดหรือมีอะไรกัน แต่ก็ยังมีพื้นที่ที่ไม่สามารถก้าวล่วงข้ามผ่านไปได้ระหว่างพวกเขาอยู่ นี่ก็คืออุปสรรคระหว่างความสัมพันธ์เช่นนี้ ไม่ควรถามหรือขอคำอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน และในความเป็จริงหลัวจ้งซียังคงเป็คนที่อยู่ห่างไกลจากเธอมาก และเธอก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะสามารถก้าวข้ามเข้าไปในความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกว่านี้ได้ ยิ่งตอนนี้ยิ่งไม่มีทาง
โรงแรมบ่อน้ำพุร้อนไม่ใช่โมเทล ทั้งสองต้องจอดรถในลานจอดรถ เมื่อลงจากรถหลัวจ้งซีก็จับมือเธอมาซุกในกระเป๋าเสื้อของเขา อี้สี่ยังคงรู้สึกอบอุ่น แม้ว่าชายคนนี้จะมองออกได้ยาก แต่เธอก็ยังคงทนไม่ได้ที่จะปล่อยมือไป
ภายในห้องพักมีสระน้ำพุร้อนขนาดใหญ่อยู่หนึ่งบ่อ มีเตียงขนาดใหญ่อยู่ด้านหนึ่ง โดยทั้งสองฝั่งไม่ได้มีฉากกั้นเลย เมื่อน้ำพุร้อนเริ่มไหลเข้ามา ไอน้ำก็ระเหยลอยขึ้น ทำให้ทั้งห้องกลายเป็หมอกจางๆ ซึ่งโรแมนติกมาก หลังจากปิดประตูแล้ว หลัวจ้งซีก็ไม่รั้งตัวเองไว้อีกต่อไป เขาจูบเธออย่างดูดดื่ม กดเธอให้นอนลงไปบนเตียง บนตัวเธอสวมเสื้อยืดและกางเกงยีนส์เรียบง่ายเหมือนเมื่อตอนที่ไปทำงาน เขาถกเสื้อผ้าของอี้สี่ขึ้น กอบกุมอกนิ่มแล้วป้อนเข้าปากคำโต ส่วนมืออีกข้างปลดกระดุมกางเกงของเธอ สอดมือเข้าไปกุมตรงกลางกายสาวโดยตรง เธอรู้สึกได้ทันทีว่านิ้วมืออันหยาบกร้านของเขากำลังถูไถมันอยู่
“ฉันอยากอาบน้ำก่อน” อี้สี่พูด เธอพยายามดันไหล่ของเขาแต่ก็ไม่เป็ผล
“ผมคิดถึงคุณมาก” เขาพูด อี้สี่ถูกรายล้อมด้วยกลิ่นอายความเป็ชายและความหื่นกระหาย เธอดิ้นรนอยู่พักหนึ่งแล้วก็หยุด เธอััลูบผมของเขา บนตัวเขามีกลิ่นอายบางอย่างที่อี้สี่ชอบ และเธอก็ชอบมันอย่างไม่มีเหตุผล ในที่สุดหลัวจ้งซีก็ยอมปล่อยเธอไป ด้วยเขาไม่อยากให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ หลัวจ้งซีอ่อนโยนพอที่จะช่วยเธอถอดเสื้อผ้าแล้วปลดกางเกงของเธอออก น้ำหวานของอี้สี่ได้ทำให้มือของเขาเปียกชื้น เธอรู้สึกเขินอายเล็กน้อยจึงวิ่งตรงเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำทันที
ห้องอาบน้ำมีฉากกั้นเป็กระจกโปร่งใส อี้สี่เห็นว่าหลัวจ้งซีไม่ได้ตามมา ทำได้เพียงมองดูเธอด้วยสีหน้าสับสนจากตรงนั้น “เขาคิดอะไรอยู่ คิดว่าฉันเป็ผู้หญิงแบบไหนกัน?” อี้สี่คิด แต่ตัวเธอเองกลับไม่เข้าใจตัวเอง โดยเฉพาะพอเข้าสู่วงการนี้ เธอกลับรู้สึกสับสนกับตัวเองราวกับอยู่บนรถไฟที่ควบคุมไม่ได้
อี้สี่ะโลงไปในบ่อน้ำพุร้อนซึ่งเต็มไปด้วยน้ำร้อนเกือบเต็มบ่อ น้ำร้อนทำให้เธอถอนหายใจด้วยความผ่อนคลาย และเธอก็ได้ยินเสียงหลัวจ้งซีเดินไปอาบน้ำ เธอยังไม่้าที่คิดเื่น่ารำคาญในตอนนี้ ด้วยยังไม่อยากเผชิญกับสิ่งเ่าั้ เธอคอยตอบสนองความคาดหวังของผู้คนมานานกว่ายี่สิบปี และตอนนี้เธอก็แค่อยากอยู่กับปัจจุบัน และปัจจุบันก็คือเธอรู้สึกสบายใจและมีความสุขกับพวกเขา หลัวจ้งซีเดินมาที่ขอบสระที่เปียกแฉะ ก่อนที่เขาจะได้นั่งลงในน้ำ อี้สี่ก็ขยับเข้ามาใกล้ จับแกนกายส่วนล่างที่ยังไม่ตื่นเต็มตัวส่งมันเข้าปาก สำหรับอี้สี่นี่เป็การยอมจำนนรูปแบบหนึ่ง และเป็เพราะรู้สึกติดค้างในใจเล็กน้อยด้วย เพียงไม่นานเขาก็ขยายตัวจนใหญ่เกินกว่าที่เธอจะกลืนกินเข้าไปได้ ข้อนิ้วของหลัวจ้งซีจับผมเธอรวบแน่น ร่างกายส่วนล่างขยับดันเข้าไปในปากของเธอเบาๆ อย่างห้ามใจไม่ไหว อี้สี่รู้ว่าเขาเสียวมาก เขาครางออกมาเสียงแหบพร่า ซึ่งในความรู้สึกของเธอมันฟังดูลามกแล้วก็น่าหลงไหลมาก เมื่อมองดูสิ่งที่มีขนาดใหญ่โตเข้าออกภายในปาก แม้จะดูลำบากมาก แต่เมื่อคิดว่าแท่งร้อนนี้จะแทรกเข้ามาตรงช่องทางนุ่มของเธอ ทันใดก็รู้สึกว่ามีกระแสอุ่นร้อนไหลออกมาจากหว่างขาของอี้สี่
หลายครั้งที่หลัวจ้งซีรู้สึกเสียววาบจนเอนตัวไปด้านหลัง เขาอดไม่ได้ที่จะขยับดันเข้าไปลึกอีก ทำให้ปลายแกนกายแทงลึกเข้าไปในลำคอของอี้สี่ จนทำให้เธอสำลักน้ำตาไหลลงมา หลัวจ้งซีรู้สึกผิด เขาจึงดึงตัวตนออกมาจากปากของเธอ อุ้มอี้สี่มานั่งที่ขอบบ่อ จับขาของเธอกางออก แล้วค่อยๆ ดันเข้าไปในร่างกายของเธอทีละนิด เสียงครางแห่งความพอใจหลุดออกจากปากของเธอ การเติมเต็มความอุ่นร้อนที่กลางกายสาวนั้นดีกว่าปากมาก ความสูงของขอบบ่อก็กำลังพอดีเช่นกัน ทุกจังหวะที่กระแทกเข้ามาช่างเน้นย้ำจนเข้ามาลึกมาก และน้ำหวานในกายสาวที่มีอยู่มากมายก็ได้ทำให้ตัวตนของอีกฝ่ายขยับเข้าออกได้เป็อย่างดี
ครั้งนี้เธอได้ััเขาโดยตรง ทั้งร่างกาย ิั และความร้อนทั้งหมด มันให้ความรู้สึกที่ดีมาก บวกกับแรงกระแทกจากเอวสอบของเขา เธอทำได้เพียงแต่ส่งเสียงครางออกมาเท่านั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขา ร่างกายของอี้สี่เปลี่ยนเป็อ่อนไหวมากเป็พิเศษ เธอชอบยามที่ถูกเขาสอดใส่ตัวตนเข้ามาในร่างกายจนสุด นอกจากจะเต็มไปด้วยความเสียวซ่านแล้ว เธอยังรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยบางอย่างอีกด้วย เนื่องจากเธอไม่้าให้เขาถอนตัวตนออกไป อี้สี่จึงกอดหลัวจ้งซีไว้แน่น ซึ่งหลัวจงซีก็กดแช่ตัวตนของเขาลงเบาๆ เพียงไม่นานอี้สี่ก็ได้ไปถึงฝั่งแล้ว
เมื่อเธอไปถึงฝั่งฝันแล้ว ร่างกายของเธอก็กระตุกสั่นอยู่ใต้ตัวเขา กลางกายสาวกระตุกตอดรัดหลายครั้งจนทำให้หลัวจ้งซีทนไม่ไหวเช่นกัน วันนี้เขาเหนื่อยมากและก็ไม่อยากจะทนอีกต่อไปแล้ว หลัวจ้งซีปล่อยให้ตัวเองเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกเสี่ยวซ่านเมื่อถึงจุดสุดยอด เขาหลับตาสนุกไปกับมัน เมื่อความรู้สึกเสียวซ่านเพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่ไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป เขาก็รีบดึงออกมา ของเหลวสีขาวร้อนก็พ่นรดอยู่ที่หน้าท้องของเธอ
อี้สี่เห็นความสับสนในดวงตาของเขาอีกครั้ง ดวงตาทั้งสองข้างของเขาแดงก่ำ และดูเหนื่อยล้ามาก พวกเขาทั้งสองแช่ตัวในน้ำอุ่นเงียบๆ กล้ามเนื้อต่างก็ผ่อนคลาย ชั่วขณะหนึ่งบรรยากาศมีแต่ความเงียบสงบ
“คุณกำลังคิดอะไรอยู่” อี้สี่นอนพิงอยู่ข้างๆ เขา
“ผมดูเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ?” หลัวจ้งซีถาม
“กำลังคิดถึงเื่ของฉันหรือเปล่า” เธอถาม
อี้สี่กำลังอ่อนไหวมากเป็พิเศษ เธอรู้สึกว่าวันนี้หลัวจ้งซีเหนื่อยมากจริงๆ แต่การทำเช่นนี้แม้ว่าเขาจะเหนื่อยมากก็แสดงให้เห็นว่าเขาสนใจเื่จินอิ๋น ถ้าเขาถาม เธอก็จะสารภาพตามจริง บางทีทั้งคู่อาจจะรู้สึกโล่งใจก็ได้
“ถ้าหากฉัน…” อี้สี่ถาม “ถ้าหากฉันขอให้คุณถามคำถามหนึ่ง คุณจะถามฉันว่าอะไร?”
หลัวจ้งซีเงียบไปสักพัก จ้องมองไปที่อี้สี่ด้วยสายตาที่เป็ผู้ใหญ่และเข้าใจ “ผมจะถามว่าคุณชอบไวน์ขาว ไวน์แดง หรือแชมเปญ?”
อี้สี่หัวเราะเบาๆ “แชมเปญสีชมพู” เธอพูด
ประสบการณ์ชีวิตสิบห้าปีของหลัวจ้งซีไม่ได้ไร้ประโยชน์ เขารักษาสมดุลระหว่างคนทั้งสองได้ดี
เนื่องด้วยพรุ่งนี้ต้องไปทำงาน เขาจึงอุ้มเธอมาเข้านอน พวกเขาทั้งสองอาบน้ำในบ่อน้ำพุร้อน และพอร่างกายของพวกเขาอบอุ่นก็ผล็อยหลับไปทันที
“อี้สี่!” หลัวจ้งซีเรียกเธอเบาๆ
“อืม?”
“อย่ามาเลือกผมง่ายๆ ล่ะ” น้ำเสียงของเขาแหบห้าวและน่าดึงดูด
“ประโยคปฏิเสธเหรอ? คุณนี่แปลกคนดีนะ” เธอหัวเราะเบาๆ อย่างเข้าใจ จริงๆ แล้วที่เธอรอคอยอยู่ก็คือประโยคนี้
คืนนั้นอี้สี่นอนหลับอย่างสงบ เมื่อได้นอนข้างๆ หลัวจ้งซีมันทำให้เธอนอนหลับได้อย่างสงบมากเป็พิเศษ
เวลาทำงานของอี้สี่เร็วกว่าของหลัวจ้งซีสามชั่วโมง พอเช้าพวกเขาจึงลงจากเขาทันที “ส่งฉันตรงถนนข้างหน้าแล้วคุณกลับไปพักผ่อนได้เลย! ฉันจะเดินไปร้านเองค่ะ” อี้สี่พูด ด้วยเธอรู้ว่าเขาไม่้าให้เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่
“ได้” หลัวจ้งซีไปส่งเธอที่หัวมุมถนน ปรากฏว่าเป็ไฟแดงพอดี เขาจ้องมองเธอจากกระจกมองหลัง เธอไม่ได้ตรงไปทางร้านแต่เดินไปทางร้านขายยาที่เพิ่งเปิดร้านแทน ทันใดนั้นหลัวจ้งซีก็รู้สึกผิดเล็กน้อย และในส่วนลึกเขากลับรู้สึกห่วงใยเธอมากกว่าเดิม
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้