ชายหนุ่มที่เข้ามาในห้องคือหลี่ชิงหยุนอย่างแท้จริง เขาเดินไปทางนาหลันเสี่ยวฉีพร้อมกับส่งอาหารในมือของเขาให้กับนาง
"หลี่ชิงหยุน คารวะองค์หญิง" หลังจากยื่นอาหารในมือของตนให้กับนาหลันเสี่ยวฉีแล้ว หลี่ชิงหยุนก็ทักทายองค์หญิงอย่างเป็ทางการทันที
"เอ่อ..." โม่หยุนซีไม่มีการตอบกลับอยู่นาน ราวกับว่ากำลังหลงทางอยู่ในภวังค์
"อะแฮ่มๆ องค์หญิง ร่างกายของท่านฟื้นตัวเต็มที่แล้วหรือไม่?" เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มน่าอึดอัดใจ หลี่ชิงหยุนไอเบาๆเพื่อปลุกองค์หญิงจากภวังค์ในทันที
"ขะ-ขอบใจเ้ามาก ตอนนี้ข้าหายดีแล้ว" โม่หยุนซีตอบกลับแบบอ้ำๆอึ้งๆ นางไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนมีเสน่ห์เท่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ามาก่อน ดังนั้นนางจึงทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย
"องค์หญิง ขออภัยที่เสียมารยาท ท่านมาทำอะไรที่นี่? แล้วองครักษ์ส่วนตัวของท่านอยู่ที่ใด?" หลี่ชิงหยุนอยากรู้ว่าเหตุใดองค์หญิงผู้นี้ต้องปกปิดตัวตนและทำอะไรลับๆล่อๆ
แม้ว่ามันจะดูไม่สุภาพ แต่เื่นี้ไม่ใช่เื่ปกติที่องค์หญิงจะทำกัน
โม่หยุนซีเงียบอยู่สักพัก ไม่นานนางก็ตัดสินใจบอกความจริง
"ข้า...ข้ามาสอบสวนอะไรบางอย่างและโดนโจมตีเข้าระหว่างทาง" โม่หยุนซีตอบหลี่ชิงหยุนแบบตะกุกตะกัก
"หืม?" เมื่อเห็นว่าคำตอบของโม่หยุนซีผิดปกติ มุมปากของหลี่ชิงหยุนกระตุกเบาๆพร้อมกับมีความคิดที่ไร้สาระผุดขึ้นมาในหัวของเขา
[ อย่าบอกนะว่านางหนีออกจากบ้านเช่นเดียวกับเสิ่นชิง? ]
"องค์หญิง เชิญท่านตามสบาย ข้าจะออกไปก่อน" หลี่ชิงหยุนไม่ได้คะยั้นคะยอถามอะไรเพิ่มเติม เขาเดินออกจากห้องเพื่อตามหาหลี่หยุนเฟิงทันที
เมื่อสามสาวในห้องเห็นว่าหลี่ชิงหยุนจากไป เสิ่นชิงก็ริเริ่มคุยกับโม่หยุนซีด้วยท่าทางสนิทสนมและถามว่าทำไมองค์หญิงแห่งราชวงศ์โม่ถึงมาอยู่ในที่ห่างไกลเช่นนี้
โม่หยุนซีและเสิ่นชิงต่างเป็ตระกูลขุนนาง พวกนางสองคนพบกันบ่อยๆในงานเลี้ยงประจำปีของราชวงศ์ แต่พวกนางไม่ค่อยสนิทสนมกันมากนักก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ทัศนคติของโม่หยุนซีดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย
"องค์หญิง ท่านถูกโจมตีโดยหน่วยสืบราชการ พวกเขาเป็คนของตระกูลเล่ยงั้นหรือ?" เมื่อฟังเื่ราวของโม่หยุนซี เสิ่นชิงก็พอจะเริ่มเข้าใจเื่ราว บางทีชายชราผู้นั้นอาจจะรู้เกี่ยวกับตัวตนขององค์หญิงพวกเขาเลย้าจะปิดปาก เพื่อไม่ให้แผนการของตระกูลเล่ยรั่วไหล
"อันที่จริงพวกตระกูลหยานและตระกูลเล่ยที่ส่งมาทั้งหมดก่อนหน้านี้...ถูกกำจัดไปหมดแล้ว" เสิ่นชิงรู้ว่าไม่จำเป็ต้องปิดบังเื่นี้ นางจึงเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่หลี่ชิงหยุนทำลายตระกูลหยานให้นางได้ฟัง
หากคิดตามสถานการณ์แล้ว ตอนนี้ทั้งคู่มีศัตรูคนเดียวกัน
โม่หยุนซีที่ได้ฟังก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจอย่างมาก จากที่เสิ่นชิงเล่ามา ก่อนหน้านี้หลี่ชิงหยุนผู้นี้อยู่ที่ระดับลมปราณทองขั้นสมบูรณ์แบบเท่านั้น แต่สามารถต่อสู้และสังหารนักสู้ระดับลมปราณหยกได้ทั้งหมด แม้กระทั่งระดับลมปราณโลกอย่างเล่ยหยาน
"ขะ...เขาแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยหรือ?" นางไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายน้อยตระกูลหลี่ที่หน้าตาบอบบางราวกับหญิงสาวผู้นี้จะโเี้ได้ขนาดนี้เมื่อมีคนมาแตะต้องหรือทำร้ายครอบครัวของเขา
"ถูกต้อง ก่อนหน้านี้ข้าเองก็ไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน อีกทั้งเขายังเป็นักปรุงยาระดับ 4 อีกต่างหาก" เสิ่นชิงเริ่มเล่าเกี่ยวกับหลี่ชิงหยุนให้องค์หญิงฟัง นางรู้สึกภูมิใจอย่างมากเมื่อเห็นโม่หยุนซีประหลาดใจ นางริเริ่มที่จะอวดสามีในอนาคตของนางอย่างไม่หยุดหย่อน
โม่หยุนซีเห็นว่าเสิ่นชิงกำลังเล่าเื่ราวของหลี่ชิงหยุนอย่างภูมิใจ นางจึงอดไม่ได้ที่จะถาม "เสิ่นชิง... อย่าบอกนะว่าเ้าชอบเขา?"
เมื่อองค์หญิงยิงคำถามเช่นนี้ออกมา ใบหน้าของเสิ่นชิงมีรอยแดงจางๆในทันที
นาหลันเสี่ยวฉีที่อยู่ด้านข้างก็นั่งฟังอย่างสนุกสนาน
"แม่นางนาหลัน เ้าไม่หึงเสิ่นชิงหรือ?" โม่หยุนซีเห็นว่าสถานการณ์นี้แปลกๆ ทั้งที่เสิ่นชิงชอบคู่หมั้นของนาง แต่นางกลับนั่งหัวเราะด้านข้างอย่างสนุกสนาน มันเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้กันแน่?
"องค์หญิง มีอะไรให้ต้องกังวลเกี่ยวกับเื่นี้ ถ้าอาหยุนชอบเสิ่นชิงจริงๆ นางสามารถเป็ภรรยาคนที่สองได้" ทัศนคติที่สบายๆของนาหลันเสี่ยวฉี ทำให้โม่หยุนซีรู้สึกว่าโลกของนางกลับหัวไปหมด
โม่หยุนซีไม่ทราบว่าตอนนี้ นาหลันเสี่ยวฉีได้คิดแผนการชั่วร้ายบางอย่างกับนางไปแล้ว นาหลันเสี่ยวฉีตั้งใจจะลากองค์หญิงผู้นี้ให้ลงเรือลำเดียวกับตนและเสิ่นชิงให้เป็ผู้หญิงของหลี่ชิงหยุนเช่นกัน หากหลี่ชิงหยุนได้องค์หญิงมาเป็ภรรยา สถานะและตำแหน่งของหลี่ชิงหยุนจะสูงกว่าตอนนี้อย่างแน่นอน
"องค์หญิงข้าจะออกไปก่อน พรุ่งนี้พวกเราทั้งสามจะเดินทางไปยังเมืองหลวง ท่านจะไปพร้อมกับพวกเราหรือไม่?" นาหลันเสี่ยวฉีเริ่มแผนการในทันที
เสิ่นชิงเห็นใบหน้าของนาหลันเสี่ยวฉีที่ดูตื่นเต้นในขณะนี้ ดูเหมือนว่านางจะรู้อยู่แล้วว่านาหลันเสี่ยวฉีกำลังวางแผนอะไรที่ซุกซนอย่างแน่นอน
"ก็ได้..." โม่หยุนซีใช้เวลาคิดไม่นาน นางก็พยักหน้าตอบตกลงทันที หลังจากตกลงกันแล้วทั้งสองก็ขอตัวจากไปเพื่อให้โม่หยุนซีได้พักผ่อน
เมื่อนาหลันเสี่ยวฉีและเสิ่นชิงออกจากห้องไป โม่หยุนซีกำลังนั่งอยู่บนเตียงราวกับว่ากำลังหลงทางอยู่ในความคิด
"หลี่ชิงหยุน..." โม่หยุนซีพึมพำเบาๆ ด้วยความที่นางเป็หญิงสาวจากราชวงศ์ดูเหมือนว่านางจะเริ่มชอบบุคลิกของหลี่ชิงหยุนเข้าให้แล้ว
นางเกิดมาในพระราชวัง แต่นางกลับไม่ชอบชีวิตเช่นนั้น ผู้คนในพระราชวังต่างก็เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนบุคคลเป็แค่พวกกลุ่มคนร้าย แม้กระทั่งขุนนางหรือข้าราชการที่นางรู้จักก็ไม่มีข้อยกเว้น
ความหน้าซื่อใจคดและการหลอกลวง เป็สิ่งที่นางรังเกียจมากที่สุด แต่เมื่อนางได้ฟังเกี่ยวกับเหตุการณ์การลักพาตัวของนาหลันเสี่ยวฉีจากเสิ่นชิง ทำให้นางรู้สึกประทับใจชายหนุ่มอย่างหลี่ชิงหยุนอย่างมาก
แิและการกระทำของหลี่ชิงหยุนที่นางได้ฟังคือจุดอ่อนของผู้หญิงหลายๆคนที่หวังจะมีสามีที่ห่วงใยคนที่รักและยอมเสี่ยงทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อความปลอดภัยของพวกนาง โม่หยุนซีเองก็อยากจะมีคนแบบหลี่ชิงหยุนปกป้องเช่นกัน
โม่หยุนซีที่เพิ่งรู้สึกตัวว่าเผลอเรียกชื่อเขาก่อนหน้านี้ออกมา ก็เขินอายเป็อย่างมากจนใบหน้าเป็สีแดงระเรื่อ
.
.
.
~ ในห้องรับรองแขก ~
หลี่ชิงหยุนคุยกำลังคุยอยู่กับหลี่หยุนเฟิง เขา้าออกไปหาสมุนไพรชนิดต่างๆเพื่อไปปลูกในสวนยาของเจดีย์ปฐมกาล สวนสมุนไพรของเจดีย์นั้นอุดมไปด้วยฉีต้นกำเนิดที่หนาแน่น การเร่งการเจริญเติบโตของสมุนไพรก็ไม่น่าจะมีปัญหาเช่นกัน อีกทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อสมุนไพรอีกด้วย
"หยุนเอ๋อร์ ทำตามที่เ้า้า แต่ระวังตัวด้วย ตระกูลเล่ยอาจจะเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว" หลี่หยุนเฟิงบอกให้หลี่ชิงหยุนระวังเกี่ยวกับตระกูลเล่ย
"ท่านพ่อ เข้าใจแล้ว ข้าขอตัวก่อน" หลี่ชิงหยุนเตรียมตัวเข้าไปในป่าสนดำอีกครั้ง สมุนไพรที่นั่นแม้จะมีระดับต่ำ แต่มันก็มีหลากหลายชนิดให้เลือกในการเพาะปลูก
เมื่อหลี่ชิงหยุนกำลังจะออกจากตระกูลหลี่ เขาเห็นกองทหารกองใหญ่กำลังเดินตรงมายังที่พักของตระกูลหลี่
"เครื่องแบบเช่นนี้... กองทัพตระกูลเล่ย?" หลี่ชิงหยุนขมวดคิ้วเป็ปม
เขาเข้าใจในทันทีที่เห็นเครื่องแบบทหารที่กำลังดาหน้าเข้ามา "ตระกูลเล่ยเคลื่อนไหวแล้วจริงๆ"
ขณะนี้ตระกูลหลี่มีข้อจำกัดภาพลวงตา เมื่อทหารเข้าสู่เขตข้อจำกัดพวกเขาจะตกอยู่ในภาพลวงตาทันที แต่ภาพลวงตาใช้ได้เฉพาะกับผู้ที่ระดับต่ำกว่าลมปราณฟ้าลงไปเท่านั้น
หลี่ชิงหยุนแอบออกจากตระกูลหลี่โดยใช้ 9 ก้าวลวงตา ตอนนี้เขาอยากจะรู้ว่าตระกูลเล่ยส่งคนแบบไหนมา เขาเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดพร้อมกับหาที่หลบที่ปลอดภัยหลังพุ่มไม้
จู่ๆมีเสียงรบกวนดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา
"ใครอยู่ตรงนั้น!?" เสียงของชายชราดังขึ้นจากด้านหลังพุ่มไม้
หลี่ชิงหยุนที่ได้ยินเสียงก็ตกตะลึง 'เหตุข้าไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของคนๆนี้เลย?'
"เ้าจะออกมาหรือไม่!?" เสียงของชายชราฟังดูจริงจัง พร้อมปล่อยออร่าคุกคามออกมา พร้อมที่จะจู่โจมเป้าหมายได้ทุกเมื่อ
"ลมปราณโลกขั้นกลาง!" เหงื่อเย็นๆเริ่มก่อตัวบนใบหน้าของหลี่ชิงหยุนในขณะนี้ ดูเหมือนว่าชายชราคนนี้กำลังรอซุ่มโจมตีใครบางคนอยู่
ระดับพลังของหลี่ชิงหยุนตอนนี้ เขาสามารถต่อสู้กับระดับลมปราณโลกขั้นเริ่มต้นได้อย่างแน่นอน แต่หากเขาต้องสู้กับระดับลมปราณโลกขั้นกลางแบบซึ่งๆหน้า เขาแทบจะไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย
'ดูเหมือนว่าข้าจะต้องหนีไปให้ไกลที่สุด' หลี่ชิงหยุนไม่รีรอพร้อมกับหยิบหน้ากากหยกและเสื้อชั้นนอกสีดำมาสวมไว้ทันที เขากำลังวางแผนจะล่อชายชราผู้นี้เข้าไปในป่าสนดำและค่อยหาโอกาสลอบโจมตี
"9 ก้าวลวงตา!"
หลี่ชิงหยุนออกจากพุ่มไม้และพุ่งตรงไปยังทิศทางของป่าสนดำในทันที
"หยุดอยู่ตรงนั้น!" ชายชราเห็นว่าเป้าหมายที่สวมชุดดำกำลังหลบหนี เขารีบเคลื่อนไหวตามไปทันที