“คุณชายิ! คุณชายิ! ไจ้เฉิน! ศิษย์พี่! เอาแต่อ่านตำรามันน่าเบื่อ เรามาสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้กันดีเถอะ!”
ิหยวนปวดหัวกับคนผู้นี้มาก
จางจิ่วรั่งผู้คลั่งไคล้หมากล้อม นับั้แ่ิหยวนไปดูเขาเล่นหมากล้อมในวันนั้น เขาก็ตามติดิหยวนอย่างกับแผ่นแปะหนังสุนัข
คุณชายใหญ่จางผู้นี้เดิมทีเช่าห้องพักอยู่ข้างนอก แต่ตั้งใจย้ายกลับมาอยู่หอพักในสำนักศึกษา เพราะอยากอยู่ที่เดียวกันกับิหยวน
เขามักมาดักรอิหยวนที่หน้าประตูห้องทุกวัน พยายามรบเร้าให้ิหยวนเล่นหมากล้อมกับตน รุกหนักเสียจนิหยวนนึกกลัวคนผู้นี้ แทบอยากมุดดินหนี
คุณชายสามิผู้นั้นก็กระไร ไร้ความรับผิดชอบที่สุด ขายเขาแล้วตัวเองก็ปัดตูดหนีกลับสำนักศึกษากลางหน้าตาเฉย ก่อนไปยังหัวเราะเยอะเขาที่ยืนกรานจะมาอยู่หอพัก บอกให้พักด้วยกันก็ไม่ฟัง ิหยวนอยากจะวิ่งไล่เตะคนผู้นั้นสักทีคงดีไม่น้อย
“คุณชายิ…”
“คุณชายจาง ข้าบอกท่านไปหลายหนแล้ว ทักษะเดินหมากของข้าก็แค่พอใช้ได้เท่านั้น คงมิอาจประลองกับผู้ใดได้ ที่สำนักศึกษาหลวงมีปรมาจารย์หมากล้อมฝีมือสูงส่งมากมาย ไยท่านต้องปักใจอยากเล่นกับคนเดียวด้วยเล่า?”
เพราะเื่วันนั้น ิหยวนจึงกลายเป็คนดังทั้งที่พึ่งเข้าสำนักได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น
“แต่วันนั้นเ้าแค่ดูแวบเดียวก็คาดเดาผู้ชนะได้อย่างแม่นยำ แสดงว่าทักษะหมากล้อมของท่านเหนือกว่าพวกข้าสองคนมาก ต้องมีทักษะสูงกว่าข้าอย่างน้อยสองขั้น ไม่แน่ว่าทักษะของเ้าอยู่ที่ขั้นแปดขั้นเก้าก็ได้ ซึ่งในชีวิตนี้ข้าไม่เคยพบเห็นผู้ที่มีฝีมือสูงส่งขนาดนั้นมาก่อน แล้วจะไม่ให้ข้าปักใจได้อย่างไร?”
วันนี้น้ำเต้าใบใหญ่ไม่ได้ห้อยไว้ข้างกาย แต่ถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขน ก่อนมันจะถูกวางลงข้างหน้าิหยวน “นี่เป็สุราที่ดีที่สุดในเยี่ยนโจว เ้ากับข้าไปกินดื่มด้วยกันเถิด เดี๋ยวข้าเลี้ยงเอง ว่าอย่างไร?”
ิหยวนจนใจเหนื่อยจะอธิบาย “ข้าบอกไปแล้วว่าข้าไม่ได้ดูออกว่าผู้ใดแพ้ชนะ ข้าเพียงรู้ว่าท่านเป็ผู้ใด”
เขาไม่ได้โกหก ิหยวนโชคดีที่มีอาจารย์เป็คน “โดดเด่นไม่เหมือนผู้ใด” อย่างโหวอิง ยิ่งพอได้รู้ว่าผู้เป็อาจารย์สามารถทิ้งทุกอย่างแล้วหนีไปพร้อมกับสาวงาม ิหยวนจึงได้เข้าใจคำว่ามนุษย์ผู้รักอิสระและมีรักลึกซึ้ง แม้ยามสอนเขาเข้มงวดจริงจัง แต่นอกเวลาสอนเขาเป็คนสบายๆ ไม่ถือตัว ไม่ว่าเื่น้อยใหญ่อันใด ทั้งข่าวสารบ้านเมืองจากทุกหนแห่ง ซึ่งไม่รู้เขาจะจดจำเื่พวกนั้นไปเพื่อสิ่งใด ทว่าเขาก็มักยกเื่เ่าั้มาบอกเล่าพูดคุยกับิหยวนอยู่บ่อยครั้ง ิหยวนจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฟังเื่เล่าจากผู้เป็อาจารย์ เหตุเพราะเขาเคยเดินทางไปหลายหนหลายแห่ง จึงมีประสบการณ์เยอะพอตัว ทั้งวิธีการเล่าก็น่าฟัง อีกทั้งเขาดูมีความสุขยามได้เล่าเื่ คนฟังจึงรู้สึกสนุกสนานไม่น่าเบื่อ ิหยวนจึงมีความรู้เกี่ยวกับความเป็ไปของตระกูลน้อยใหญ่ทั้งหลายไปโดยปริยาย
แน่นอนว่าพวกเขาต้องเคยศึกษาตำราหมากล้อมมาก่อน โหวอิงยังเล่าเื่ราวเกี่ยวกับความเป็ไปของตระกูลจางใน่เวลาที่ผ่านมาเรียกได้ว่าละเอียดยิบ ทายาทรุ่นเล็กอย่างจางรั่ง มีข่าวลือว่าเดิมทีเขาเป็เพียงบุตรนอกสมรสที่ไม่ได้รับความสนใจ มารดากับเขาต้องใช้ชีวิตลำบากอยู่ข้างนอกจนต้องพาเขามาขอข้าวที่จวน แต่กลับถูกบ่าวรับใช้ขับไล่ไสส่งอย่างไม่ไยดี ประจวบเหมาะที่เวลานั้นผู้าุโจางกำลังเล่นหมากล้อมอยู่ในสวน พวกเขาไม่ทันระวังจึงเผลอไปทำกระดานหมากคว่ำ ในขณะที่ชายชรากำลังจะโมโห เหล่าบ่าวรับใช้ต่างคุกเข่าร้องขอความเมตตา ทว่าจางรั่งที่ตอนนั้นอายุเพียงไม่กี่ขวบกลับยืนตัวตรง และกล่าวว่าก็แค่กระดานหมากคว่ำ เก็บมาเรียงใหม่ได้
ชายชราหัวเราะร่าพร้อมบอกให้จางรั่งเก็บหมากมาเรียงใหม่ แต่ผู้ใดจะคาดคิดว่าเด็กชายจะเก็บหมากล้อมที่กระจัดกระจายมาเรียงรายไว้เหมือนเดิมทุกประการ ชายชราทึ่งในความสามารถ ยิ่งพอได้รู้ว่าเด็กคนนี้เป็ผู้ใด เขาก็ไม่ปล่อยให้เด็กชายออกไปลำบากอยู่ข้างนอกอีกเลย ทั้งยังส่งเสียเลี้ยงดูอย่างดี และอบรมสั่งสอนหลานคนนี้ด้วยตนเอง
พอิหยวนฟังเขาเล่าจบก็ออกความเห็น เมื่อเด็กคนนั้นมีคนคอยสนับสนุนก็คงจะมุ่งมั่นเพื่ออนาคตที่ก้าวหน้า ทว่าโหวอิงกลับบอกเขาว่าเด็กชายหมกมุ่นอยู่กับหมากล้อม ไม่สนใจเื่อื่น เรียกได้ว่าเป็คนมีใจรักลึกซึ้งโดยกำเนิด
ตอนนั้นิหยวนดูจากการเล่นในตาแรก ทั้งดูจากกลยุทธ์การวางหมากและอายุอานามก็พอเดาออกแล้วว่าคนผู้นี้จะต้องเป็คุณชายตระกูลจาง เมื่อพอจะรู้เื้ัของเขาแล้วก็ไม่จำเป็ต้องลุ้นผลการแข่งอีกสามรอบที่เหลือ
นอกจากจิ่วรั่งจะไม่คล้อยตามแล้วยังไม่ยอมลดละความพยายาม “คำพูดนี้เอาไว้หลอกคนอื่นก็คงจะได้ผล เ้าคิดว่าจะหลอกข้าได้หรือ? ต่อให้เ้าบอกว่าจำข้าได้เพราะดูจากการเล่นทั้งสามตาของข้า แล้วตาแรกเล่า? ข้าไม่เชื่อว่าเ้าจะเดาออก อย่างไรก็ต้องมีฝีมือพอตัว วันนี้เล่นกันสักตาเถอะ ถ้าเ้าไม่ยอมเล่นกับข้า ข้าก็จะยืนอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน”
ิหยวนเหนื่อยใจมาก อยากรีบออกไปข้างนอกใจจะขาดจึงพยักหน้าส่งๆ “ก็ได้ๆ แต่เชิญศิษย์พี่จิ่วรั่งกลับไปก่อน วันนี้ศิษย์น้องมีธุระ เสร็จธุระแล้วจะกลับมาเล่นกับท่าน”
“หนึ่งคำจากปากปัญญาชน”
“สี่ม้ายากตามกลับคืน”
จางจิ่วได้คำตอบเป็ที่พอใจแล้วก็เบี่ยงตัวหลบไปข้างๆ เพื่อหลีกทางให้ิหยวนออกไป ส่วนตัวเขาก็หันไปหยิบขวดน้ำเต้า และเดินไปอีกทาง
......
ด้านิหยวนนั้นก็มีธุระจริงๆ ไม่ใช่ข้ออ้าง
เหตุเพราะโหวอิงเขียนจดหมายมาบอกว่า หลังเข้าศึกษาแล้วให้เขาไปพบเผยซูเยี่ย ผู้ที่เป็ทั้งสหายร่วมชั้นของโหวอิงในยามนั้น และเป็อาจารย์ในสำนักศึกษาหลวงในยามนี้ ว่ากันว่าเผยซูเยี่ยในยามนั้นโด่งดังมากในเมืองหลวง แต่ไม่รู้เหตุใดถึงมาใช้ชีวิตไปวันๆ อยู่ที่สำนักศึกษาหลวง เื่นี้โหวอิงเองก็ไม่ได้เล่าให้ฟัง เพียงกำชับให้เขาไปคารวะคนผู้นั้นให้ได้
โหวอิงต้องนึกไม่ถึงแน่ๆ ว่าเผยซูเยี่ยจะเป็อาจารย์ที่ปรึกษาของิหยวน
ิหยวนเดินมุ่งหน้าไปที่สำนักศึกษา แต่กลับได้ความว่าอาจารย์เผยไม่อยู่ พอิหยวนถามว่าเขาพักอยู่ที่ใด จะได้ไปตาม เ้าหน้าที่ยอมบอกที่อยู่ แต่กลับแนะนำให้เขาหยุดความคิดนั้นพร้อมทำหน้าแปลกๆ “ข้าว่าเ้าอย่าไปดีกว่า”
ิหยวนถามต่อ “เพราะเหตุใดกันขอรับ?”
“ผู้ใดเขาก็รู้กันว่าอาจารย์เผยผู้นั้นค่อนข้างมีชื่อเสียง ทว่านิสัยประหลาดนัก ต่อให้เ้าไปพบเขาถึงหน้าบ้าน เขาก็ไม่มีทางออกมาพบเ้า”
“อย่างนั้นเองหรือ? ท่านช่วยเล่าให้ข้าฟังจะได้หรือไม่ว่าเหตุใดอาจารย์เผยถึงเป็เช่นนั้น”
เ้าหน้าส่ายหัวพร้อมทำท่าจะปิดประตู “ผู้ใดจะไปรู้ พวกนักปราชญ์มากความรู้ก็มักมีนิสัยแปลกๆ กันทั้งนั้น อย่างไรเสีย หากเ้ามาเพื่อขอคำปรึกษาจากเขาล่ะก็...รอถามยามที่เขามาสอนเถอะ นอกเวลาเรียนต่อให้เป็เง็กเซียนเขาก็ไม่ให้พบ”
ิหยวนถูกดันหลังออกมา ยืนงงอยู่เพียงลำพังสักพักก็ส่ายหัวน้อยๆ ได้ที่อยู่มาแล้วก็ต้องไปให้ถึง
เดินพ้นจากเขตสำนักศึกษาหลวง ฝั่งตะวันตกกับฝั่งทิศเหนือเป็ที่พักของเหล่าอาจารย์และบัณฑิตในสำนักศึกษา ิหยวนตัดสินใจเดินไปตามถนนฝั่งเหนือก่อน เขาพบเจอผู้คนมากมายระหว่างทางก็แวะทักทาย เดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งบ้านเรือนเริ่มเบาบาง ผ่านไปอีกสองตรอกก็ถึงจุดหมาย บริเวณนี้เป็ที่อยู่ของชาวบ้านธรรมดาเสียส่วนใหญ่ แต่ก็มีเหล่านักปราชญ์ปัญญาชนอาศัยอยู่ประปราย ิหยวนแค่ถามคนแถวนั้นนิดหน่อยก็ได้ความแล้ว ตอนนี้เขาจึงกำลังยืนเคาะประตู เคาะแล้วเคาะอีก
คนข้างในได้ยินเสียงเคาะก็ะโถามอย่างไม่สบอารมณ์ “ผู้ใด!”
“อาจารย์เผย ศิษย์ิหยวนมาขอเข้าพบขอรับ”
“อยากถามอันใดเก็บไว้ถามในห้องเรียน นอกเวลาเรียนหรือนอกสำนักศึกษาข้าไม่ตอบ” เสียงตอบกลับสุดแสนจะเ็า “เ้ากลับไปเถิด”
ิหยวนเคาะประตูอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง ทว่ากลับไม่มีเสียงตอบรับจากคนข้างใน
ิหยวนก้มมองของที่ตนหอบหิ้วมาด้วยก็ต้องกระทืบเท้าด้วยความขัดใจ เคาะประตูอีกสองสามครั้งผลก็ยังเหมือนเดิม เขาจึงตัดสินใจทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นถนนหน้าบ้านพร้ะโกนเสียงดังลั่น “อาจารย์เผย! ช่วยด้วยขอรับ! ช่วยศิษย์ด้วยขอรับ ช่วยด้วย...ขอรับ อาจารย์เผย...”
เพื่อนบ้านต่างเปิดประตูออกมาสอดส่อง
ในเมื่ออาจารย์ไม่สนใจจะรักษาภาพลักษณ์หน้าตา แล้วิหยวนจะต้องกลัวอันใด ะโเสียงดังอย่างไม่อายฟ้าดินไปเลย
ในที่สุดประตูบานคู่ก็เปิดออกอย่างแรง ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงผอมยืนประจันหน้า เอ่ยเสียงเ็าราวกับูเาน้ำแข็ง “ทำอันใดของเ้า?”
ิหยวนกลับนั่งเอามือเท้าไปข้างหลัง ไม่ยอมลุกจากพื้น เงยหน้ามองอีกฝ่าย “ก็เรียกให้คนช่วยเปิดประตูน่ะสิขอรับ”
“นี่เ้าอยากตายหรือ?”
“เปล่าขอรับ”
“แล้วเ้าจะเรียกหาพระแสงอันใด!”
ิหยวนรีบยกตะกร้าสานในมือขึ้น “เพื่อส่งของกำนัลให้ท่านให้ได้ แม้ตายก็ต้องยอม”
“ข้าไม่รับของกำนัล” ผ้าที่คลุมตะกร้าไว้ขยับยุกยิก เรียกความสนใจจากสายตาของอาจารย์ก้อนน้ำแข็งได้ทันที “นี่มันสิ่งใดกัน”
ทันทีที่ิหยวนดึงผ้าคลุมออก ก็พบว่าเป็ลูกแมวขนฟูตัวกลมตัวใหญ่เท่าฝ่ามือนอนเบียดกันอยู่ในตะกร้า “แมวที่เลี้ยงไว้ไปทำให้แมวตัวอื่นท้องป่องก็เลยต้องรับผิดชอบขอรับ”
“มันไม่ใช่ธุระกงการอันใดของข้า” ก้อนน้ำแข็งขมวดคิ้ว
“ไม่ใช่ธุระกงการของท่าน แต่ข้าเป็เพียงบัณฑิตฐานะยากจน ไม่อาจเลี้ยงดูพวกมันได้ หากท่านไม่ยอมรับพวกมันไว้ ข้าคงต้องทิ้งพวกมันไว้ข้างทางแล้วแหละขอรับ” ิหยวนแสดงละครฉากใหญ่
ก้อนน้ำแข็งสูดหายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ อีกครั้งและอีกครั้ง สายตาจับจ้องอยู่ที่พวกเ้าก้อนขนฟูจนอาจละสายตาได้ ในที่สุดก็กัดฟันตอบรับ “เข้ามา”
ิหยวนลุกพรวดพราด ปัดเศษฝุ่นเศษดินแล้วเข้าไปข้างในพร้ะกร้าลูกแมวในอ้อมแขน
ทั้งสองเดินเข้ามาถึงลานกลางบ้าน คนเฝ้าประตูก็ไม่มีสักคน ทั้งภายในและภายนอกเรือนก็ไม่มีผู้คน ดูเหมือนว่าเผยซูเยี่ยจะอาศัยอยู่ที่นี่เพียงลำพัง ิหยวนเดินตามเข้าไปในห้องนั่งเล่น อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะเชิญให้นั่งหรือดื่มน้ำ เผยซูเยี่ยเพียงคว้าตะกร้าสานจากมือเขาไปถือเอง “มีอันใดหรือ?”
หมาป่าเดียวดายสุดๆ ิหยวนแอบนินทาในใจ ก่อนจะหยิบจดหมายของโหวอิงออกมาจากชายแขนเสื้อแล้วยื่นให้อีกคนด้วยสองมือ “ศิษย์นามว่าิหยวน มาจากเจียงโจว ศิษย์มาคารวะท่านตามคำสั่งของท่านอาจารย์โหวตงเลี่ยงขอรับ”
“เ้าพูดว่าผู้ใดนะ???”
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------