บทที่ 65 เซียนกลับชาติมาเกิด?
คนที่สามารถทำให้คุณชายใหญ่อย่างซูอี้อวิ๋นผู้ที่ทั้งอาทิตย์เข้าเรียนแค่ไม่กี่ครั้งจำได้ ต้องเป็สาวสวยระดับดาวมหาลัยแน่นอน
เย่จื่อเฉินหันไปมองตามเสียง ก่อนจะนิ่งไป
ซุนอี้เกอ
"เถ้าแก่ซุน จ่ายเงินมาได้แล้ว"
วัยรุ่นนักเลงหัวไม้หลายคน โดยมีคนนำหน้าเป็จิ๊กโก๋ย้อมผมแดงเจาะหูหลายรูยืนอยู่นอกร้านอาหาร ฟังจากน้ำเสียงนั้นดูเหมือนว่าจะมาเก็บค่าคุ้มครอง
"พี่หยาง อาทิตย์ที่แล้วพวกฉันเพิ่งจ่ายเงินไปไม่ใช่เหรอ?"
ข้างซุนอี้เกอเป็ชายวัยกลางคนที่สวมผ้ากันเปื้อน มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเป็คนซื่อ
"เฮ้ย คนมาเก็บเงินอาทิตย์ที่แล้วมันใช่ฉันหรือไง?"
เ้าคนผมแดงเลิกคิ้วขึ้น และพูดขึ้นด้วยดวงตาที่แฝงความหงุดหงิดเอาไว้
"รีบจ่ายเงินมา เก็บเงินร้านแกแล้ว ฉันยังต้องไปร้านอื่นอีก"
"อาทิตย์ก่อนร้านเราเพิ่งจะจ่ายไป แต่ตอนนี้พวกคุณจะมาเก็บอีก ทำเกินไปแล้วนะ"
ซุนอี้เกอที่อยู่ข้างๆ อดพูดขึ้นมาไม่ได้ จากนิสัยขี้ขลาดชอบเก็บตัวแบบเธอ การพูดแบบนี้ต่อหน้าคนอันธพาลพวกนี้ แสดงให้เห็นเลยว่าเธอมีความกล้าหาญในใจอยู่มากโข
"ก็เพราะว่าพี่เห็นใจเธอไง ไม่งั้นจะมาหาบ่อยๆ เหรอจ๊ะ เอาแบบนี้ดีไหม เธอกับพี่..."
ไอ้คนหัวแดงยื่นมือออกมาหวังจะเชยปลายคางของซุนอี้เกอด้วยดวงตากรุ้มกริ่ม
ผัวะ!
มือยังไม่ทันได้แตะโดนซุนอี้เกอ ท้องของไอ้คนหัวแดงก็โดนเท้าหนึ่งถีบจนลงไปนั่งกับพื้น
"ถ้าอยากเห็นใจใคร กลับไปเห็นใจแม่แกที่บ้านนู่น"
"เย่จื่อเฉิน นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง"
ความประหลาดใจปนดีใจปรากฏขึ้นในดวงตาของซุนอี้เกอ ลูกน้องไม่กี่คนที่อยู่ข้างหลังไอ้หัวแดงพอเห็นว่าหัวหน้ามันล้มลงไปก็กรูจะเข้ามารุม
"หยุดกันให้หมด"
ไอ้หัวแดงที่นั่งอยู่กับพื้นด่าลั่น กลุ่มลูกน้องหยุดนิ่งกันทันที
"คะ...คุณชายเย่"
ไอ้หัวแดงพยักหน้าเดินก้มหลังมา เย่จื่อเฉินเลิกคิ้วขึ้น สองมือสอดเข้ากระเป๋ากางเกงเหลือบมองเขาเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น
"นายรู้จักฉัน?"
"คุณชายเย่ วันนั้นตอนที่คุณสั่งสอนพี่โล้นที่ร้านบาร์บีคิว ผมก็อยู่ด้วยครับ"
ในขณะที่ไอ้หัวแดงพูด หน้าผากของเขาก็เริ่มมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาเต็มไปหมด
พูดได้เลยว่าพี่โล้นเป็บุคคลทรงอิทธิพลในแวดวงของพวกเขาแล้ว แต่สุดท้ายผลเป็ยังไงล่ะ โดนเย่จื่อเฉินหักแขนหักขาหมด
ตัวเขาเองก็เป็แค่ลูกน้องใต้สังกัดของพี่ใหญ่ เดิมทีก็ไม่ควรมาเจอคนระดับเย่จื่อเฉินเลยด้วยซ้ำ
เย่จื่อเฉินได้ฟังก็พยักหน้า ก่อนเหลือบมองไอ้หัวแดงเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น
"ถ้างั้นรู้หรือยังว่าต้องทำยังไง?"
"คุณชายเย่ครับ ผมอยู่กับพี่ใหญ่ พี่ช่วยเห็นแก่หน้าผมด้วยได้ไหมครับ" ไอ้หัวแดงกลืนน้ำลายลงคอ เย่จื่อเฉินขมวดคิ้วมุ่นหลังจากที่ได้ยิน "ไม่ต้องมาอ้างถึงคนอื่น สำหรับฉันไม่มีใครดีทั้งนั้น นายจะลงมือเอง หรือจะให้ฉันลงมือ"
"ผมทำเองครับ คุณชายเย่ ผมทำเองก็พอแล้ว"
ไอ้หัวแดงกัดปากแล้ววางแขนลงกับพื้น ก่อนหันไปะโสั่งลูกน้อง
"ตี!"
"พี่ใหญ่!"
"ฉันบอกให้แกตี"
ไอ้หัวแดงแววตาดุดัน ลูกน้องที่อยู่ข้างๆ จึงยกไม้เบสบอลขึ้นแล้วฟาดลงไปที่แขนของเขาเต็มแรง
กึก
เสียงอู้อี้ดังออกมาจากปากของไอ้หัวแดง ผ่านไปสักพัก ไอ้หัวแดงถึงได้ลุกขึ้นยืนแล้วพูดด้วยรอยยิ้มฝืน
"คุณชายเย่ คุณชายพอใจหรือเปล่าครับ?"
"ไสหัวไปซะ ต่อไปห้ามมาเก็บค่าคุ้มครองที่ร้านนี้อีก"
หลังจากที่ไอ้หัวแดงได้ยินก็รีบพาลูกน้องที่อยู่ข้างๆ หนีไปราวกับได้รับการปลดปล่อย
พ่อลูกตระกูลซุนที่อยู่ด้านข้างตะลึงไปทั้งคู่ จากนั้นเย่จื่อเฉินจึงเดินไปหาทั้งคู่แล้วยิ้มให้เล็กน้อย ก่อนจะกลับไปที่โต๊ะของซูอี้อวิ๋นอีกครั้ง
"เย่จื่อ มาทำตัวเป็ฮีโร่ช่วยหญิงต่อหน้าฉันแบบนี้ ไม่ค่อยดีเลยนะ"
เพิ่งกลับมาถึงโต๊ะ ซูอี้อวิ๋นก็เอ่ยแซวอย่างคลุมเครือ เย่จื่อเฉินยิ้มอ่อนใจให้เขาแล้วพูดขึ้น
"นั่นซุนอี้เกอ หัวหน้าห้องพวกฉัน ฉันก็แค่ยื่นมือไปช่วย ฮีโร่ช่วยหญิงอะไรล่ะ"
"ซุนอี้เกอ หนึ่งในสี่ของดาวมหาลัยเหมือนน้องสาวฉันน่ะเหรอ?"
เย่จื่อเฉินพยักหน้าไม่ตอบ ซูอี้อวิ๋นถึงได้ยิ้มเข้าใจ
"มิน่าล่ะ ทำไมฉันถึงได้คุ้นตานัก"
"บ้าบอ"
เย่จื่อเฉินด่าอย่างขำๆ แล้วจู่ๆ ซุนอี้เกอก็เดินมาทางโต๊ะของพวกเขา แล้วก็ยังมาเสิร์ฟให้พวกเขาอีกจานหนึ่งด้วย
"นี่เป็อาหารที่พ่อฉันทำให้พวกนาย"
คิดไม่ถึงเลยว่าร้านอาหารนี้จะเป็ร้านของหัวหน้าซุน
เย่จื่อเฉินเลิกคิ้ว
ในเว็บไซต์มหาลัยพูดกันมานานแล้วว่าหัวหน้าซุนเป็ดอกไม้ธรรมดาเพียงหนึ่งเดียวในบรรดาดาวมหาลัยทั้งสี่คน
คิดไม่ถึงว่าจะเป็เื่จริง
พอเห็นว่าซุนอี้เกอมา ซูอี้อวิ๋นก็ยักคิ้วหลิ่วตา เย่จื่อเฉินค้อนใส่เขาอย่างไม่พอใจ ก่อนจะลุกขึ้นรับอาหารมา
"ขอบคุณนะ หัวหน้าซุน"
"ไม่เป็ไร" ซุนอี้เกอแก้มแดง และตอบกลับไปด้วยเสียงอ้อมแอ้ม "ฉันต้องขอบคุณนายสิถึงจะถูก ขอบคุณนะที่เมื่อกี้ช่วยไล่คนพวกนั้นให้พวกฉัน"
"หึ คนแบบนั้นก็แค่แกล้งข่มขวัญคนอื่นเท่านั้นแหละ ถ้าเมื่อกี้เธอเอาขวดฟาดหัวเขาหน่อย เธอลองดูเลยว่าครั้งต่อไปเขาจะกล้ามาเก็บค่าคุ้มครองอีกหรือเปล่า"
เย่จื่อเฉินเบ้ปาก ซุนอี้เกอส่ายหน้าทันทีหลังจากที่ได้ยิน
"ทำแบบนั้นไม่ดีนะ ทำร้ายคนต้องเสียค่าปรับด้วย"
ซุนอี้เกอตอบไปแบบนี้ ซึ่งก็ไม่ได้เกินความคาดหมายของเย่จื่อเฉินเลยสักนิด ด้วยนิสัยขลาดกลัวของเธอก็ต้องมีความคิดแบบนี้อยู่แล้ว
คิดไปคิดมา เย่จื่อเฉินก็ไม่ได้ปลูกฝังความคิดร้ายๆ ให้เธอ แล้วไหวไหล่พูด
"งั้นก็ได้"
"อื้ม" ซุนอี้เกอหน้าแดง สองมือเล็กถูชายเสื้อไปมาไม่หยุดแล้วพูดขึ้น "จริงสิ ่นี้ไม่เห็นนายที่ห้องเรียนเลย ทำไม..."
"อ๋อ สองวันมานี้ฉันมีธุระน่ะ พรุ่งนี้ฉันกลับไปเรียนแน่นอน"
"โอเค งั้นพวกนายคุยกันไปเถอะ ฉันไปแล้ว"
"หัวหน้าซุนเดินดีๆ นะ"
เมื่อโบกมือให้ซุนอี้เกอแล้ว เย่จื่อเฉินก็นั่งลงบนเก้าอี้ เพิ่งจะนั่งลง ซูอี้อวิ๋นก็หันมาผิวปากใส่เขาแล้วพูดขึ้น
"ดาวมหาลัยซุนนี่ไม่เลวเลยนะ"
"อย่ามาคิดอะไรไม่ดีกับเธอ เธอไม่ใช่คนในโลกเดียวกับนาย"
เย่จื่อเฉินวางอาหารลงบนโต๊ะ แล้วพูด
"รีบกินเลย หลายวันมานี้ฉันเหนื่อยอย่างกับหมา อยากรีบกลับไปนอน"
จากการเร่งเร้าของเย่จื่อเฉิน ทั้งสองคนจึงทานอาหารกันอยู่สิบกว่านาทีก็พากันออกจากร้านไป
ซุนอี้เกอที่คอยช่วยงานอยู่ภายในร้านมองตามแผ่นหลังของคนทั้งคู่ที่เดินจากไป ยิ้มมุมปากแล้วหยิบเอาปากกาแท่งหนึ่งออกมาจากกระเป๋าผ้ากันเปื้อน แล้วจึงเขียนชื่อของเย่จื่อเฉินลงไปในสมุด
การวิ่งเต้นในสองวันมานี้ทำเอาเย่จื่อเฉินเหนื่อยมากจริงๆ พอกลับมาถึงบ้าน คุยกับเย่หรงสองสามประโยคเขาก็เข้าห้องนอนหัวถึงหมอนได้ก็หลับเป็ตาย
หนึ่งคืนที่ไร้ซึ่งคำพูด
"เย่จื่อเฉิน นายรีบตื่นเดี๋ยวนี้นะ"
ท่ามกลางอาการสะลึมสะลือ เย่จื่อเฉินได้ยินเสียงคนะโอยู่ข้างหู น้ำเสียงสำเนียงที่คุ้นเคยทำให้เขาหมดคำจะพูด
หลิวฉิง
ยัยแม่นมคนนี้นี่ พอเช้ามาก็เริ่มสร้างความรำคาญให้เขาอีกแล้ว
ในขณะที่กำลังจะเจรจากับเธอว่าขอนอนอีกครึ่งชั่วโมง เย่จื่อเฉินก็ผุดลุกขึ้นจากเตียงทันที
เดี๋ยวนะ เนตรอัคคีโดนเรียกคืนแล้วไม่ใช่เหรอ?
พอลืมตาขึ้นมา เย่จื่อเฉินก็เห็นหลิวฉิงลอยอยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าโกรธเคือง สองมือเท้าเอวด่าลั่น
"ก็ยังลุกขึ้นมาได้นี่ รู้ไหมว่าตอนนี้มันกี่โมงแล้ว"
ออกแรงขยี้ตาเล็กน้อย...
ยังเห็นอยู่
ขยี้ตาอีกที
ยังเห็นอยู่จริงๆ
กึก
เย่จื่อเฉินเริ่มตื่นตระหนก เขา...
จู่ๆ ก็นึกถึงคำพูดที่ไท่ไป๋จินซิงพูดกับเขาในตอนนั้นขึ้นมา
เื่ราวของเ้าดูท่าเ้าก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าใดนัก แต่ไม่เป็ไร ต่อไปเ้าก็จะค่อยๆ เข้าใจเอง
หรือว่า เขาจะเป็เซียนกลับชาติมาเกิดจริงๆ!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้