“มิน่าเ้าถึงกดดันหานิจนมีสภาพเช่นนั้นได้ ด้วยศักยภาพของเ้าคู่ควรที่จะเป็คู่ต่อสู้ของข้า!”
เฟิงชากล่าวขณะพยายามทำให้ตัวเองกลับมายืนได้อย่างมั่นคง หลังจากประมือหลายครั้ง เฟิงชาก็ไม่กล้าดูถูกเย่เฟิงอีก
“ปุด ๆ ๆ!” เสียงเืเดือดพล่านดังออกมาจากร่างกายของเฟิงชา
จู่ ๆ เืในกายเฟิงชาเริ่มไหลเวียนเร็วขึ้น ภายนอกของเฟิงชาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็สีดำม่วง ทั้งยังมีปราณมืดแผ่ออกมา ประหนึ่งาามารจากยุคโบราณก็ไม่ปาน
“กร๊อบ ๆ!” เสียงกระดูกในกายเฟิงชาดังลั่น ร่างกายของเขาราวกับขยายตัว กล้ามเนื้อทุกส่วนเปลี่ยนไปแข็งแกร่งขึ้น และอัดแน่นไปด้วยพละกำลังที่น่าหวาดกลัว
ขณะเดียวกันปราณมืดที่รายล้อมร่างเฟิงชาเปลี่ยนไปน่าสะพรึงกลัว จากนั้นเขาเหวี่ยงหมัดโจมตี พลันแยกออกมาเป็รังสีหมัดแห่งความมืดนับไม่ถ้วน และพุ่งเข้าหาเย่เฟิงอย่างบ้าคลั่ง
“พลังความมืดของคนผู้นี้ถึงขั้นกายาแล้ว หากถูกลอบโจมตีอาจจะฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ที่เพิ่งบรรลุขั้นยุทธ์แท้ได้เลย”
เย่เฟิงคิดในใจขณะมองรังสีหมัดแห่งความมืดที่กำลังพุ่งมาหาตัวเอง จากนั้นก็กระหน่ำแทงหอกัเงินประกายไม่หยุดยั้ง พลันรังสีหอกนับไม่ถ้วนพลันถักทอเป็กรงรังสีหอกที่กลางอากาศ และห่อหุ้มรังสีหมัดแห่งความมืดของเฟิงชาเอาไว้ในนั้น
“ตูม!!!”
เสียงปะทะดังสนั่นไม่หยุดหย่อน รังสีหอกและรังสีหมัดเข้าปะทะกันอย่างต่อเนื่องจนเสียงะเิดังกึกก้องไปทั่วบริเวณนั้น
หลังจากใช้พลังสายเื พลังต่อสู้ของเฟิงชาก็ยกระดับจนเปลี่ยนไปน่าสะพรึงกลัวขึ้น เขาหายตัวในพริบตาก่อนจะไปปรากฏตัวที่เบื้องหน้าของเย่เฟิงด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ จากนั้นกรงเล็บดำคว้าไปที่ลำคอเย่เฟิงหมายปลิดชีวิตในหนึ่งการโจมตี
ดวงตาของเย่เฟิงส่องประกายเย็นเยือก พลันแสงดาวอ่อน ๆ ปกคลุมร่าง พลังดาราทรงอานุภาพ ซึ่งย่างก้าวดาวตกผีเสื้อทำให้เย่เฟิงเคลื่อนไหวว่องไวจนหาคำอธิบายไม่ได้ ก่อนจะหลบหลีกกรงเล็บดำนั่นในพริบตา พร้อมเหวี่ยงหมัดเข้าโจมตี นี่ทำให้เฟิงชาตอบสนองไม่ทัน
“ปัง!” เฟิงชาถูกหมัดของเย่เฟิงโจมตีที่สีข้างเต็ม ๆ จนร่างโงนเงน และมีเสียงกระดูกดังลั่น สีหน้าของเขาก็ยังดูย่ำแย่
“ตาย!”
เย่เฟิงไม่คิดปล่อยให้เฟิงชามีโอกาสใด ๆ เขาเดินออกมาทันที ก่อนจะเคลื่อนไหวคล้ายลำแสงดาวไปเยือนเบื้องหน้าเฟิงชาประหนึ่งฟ้าแลบ พร้อมปรากฏรังสีหอกที่อัดแน่นไปด้วยพลังทำลายล้างพุ่งออกไป เฟิงชานั้นรับมือไม่ทันจึงทำได้เพียงยกมือขึ้นป้องกัน แต่หอกนี้ของเย่เฟิงทะลุทุกอย่าง จึงทะลุมือของเฟิงชา
“อ้าก!” เฟิงชาส่งเสียงร้องอย่างโหยหวน เขาอยากชักมือกลับ ทว่าเห็นปลายหอกัเงินประกายปลดปล่อยลำแสงออกมา ก่อนจะทำลายแขนข้างนั้นของเขา จนเืสาดกระเซ็น!
เฟิงชากระเด็นไปข้างหลัง และมองเย่เฟิงด้วยสายตาหวาดผวา
“ไอ้หนู ไม่คิดว่าเ้าจะทำลายแขนข้าได้ ข้าจะฆ่าเ้า!” เฟิงชาแผดเสียงะโด้วยโทสะ พลันมีดยาวสีดำม่วงเล่มหนึ่งปรากฏในมือเขา พร้อมปราณมืดรายล้อมกาย ก่อนจะกลายเป็ลำแสงดำและไปปรากฏตัวที่เบื้องหน้าของเย่เฟิงในพริบตา จากนั้นตวัดมีดยาวไปที่ลำคอของเย่เฟิงหมายปลิดชีวิต
“หอกปลิดชีวี!”
ในขณะที่เฟิงชาตวัดมีดยาว เย่เฟิงก็เคลื่อนไหวเช่นกัน พลังแห่งอำนาจพวยพุ่งออกจากร่างเขาและรายล้อมตัวหอกัเงินประกาย ก่อนจะแทงหอกโจมตี ทุกที่ที่รังสีหอกหุ้มด้วยพลังแห่งอำนาจพาดผ่าน ทุกสิ่งจักต้องถูกทำลาย
“วี้ด!” เสียงแหลมคมพลันดังขึ้น ก่อนรังสีหอกและรังสีมีดยาวของเฟิงชาจะเข้าปะทะกัน พลังแห่งอำนาจทรงอานุภาพและไร้เทียมทาน จึงกลืนกินรังสีมีดยาวแห่งความมืดนั่นในพริบตา ส่วนรังสีหอกกลับพุ่งเข้าหาเฟิงชาต่อ
ในที่สุดเฟิงชาก็หน้าเปลี่ยนสีไปเป็ตื่นตระหนก จากการปะทะเมื่อครู่นี้ มีดยาวแห่งความมืดของเขาถึงกับหลุดออกจากมือเขาไป แต่รังสีหอกของเย่เฟิงกลับไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ เห็นชัดว่าห่างชั้นกันมากเพียงใด
ไอมรณะแผ่ปกคลุมร่างเฟิงชาทันที ทำให้เฟิงชารู้สึกหนาวเย็น เขาอยากหนี แต่กลับพบว่าหอกของเย่เฟิงมีอยู่ทุกหนแห่ง ไม่ว่าเขาหนีไปทางไหนก็มักจะมีรังสีหอกพุ่งมาทางเขาหมายแทงคอ เขาจึงไร้หนทางหนีทีไล่
“อำนาจหอกขั้นกายา่ปลาย เป็ไปได้ยังไง?”
ในที่สุดเฟิงชาก็รู้ว่าเหตุใดเขาจึงหนีจากหอกของเย่เฟิงไม่พ้น อำนาจขั้นกายา่ปลายทรงอานุภาพมาก ทั้งยังเป็สิ่งที่เขาเอื้อมไปไม่ถึง ดังนั้นเขาจึงไร้กำลังต่อต้านเมื่อเผชิญหน้ากับพลังเช่นนี้
“วูบ!” ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งดังขึ้น หอกทะลุลำคอของเฟิงชา ทำเฟิงชาตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น ดวงตาเบิกโพลงแฝงด้วยความไม่ยอม เขาคือนักฆ่ามือดีของพันธมิตรชาเซวี่ย อยู่ขั้นยุทธ์แท้สูงสุด มีอำนาจแห่งความมืดขั้นกายา่ต้น แม้แต่พลังแห่งอำนาจของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นยุทธ์เทวะหลาย ๆ คนก็เทียบเคียงกับเขาไม่ได้
เขาเคยมีชื่อเสียงโด่งดังทั่วแดนชิงอวิ๋น ไม่มีผู้ใดกล้ายั่วยุ ทว่าบัดนี้เขากลับตกตายในน้ำมือของชายหนุ่มขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 โดยถูกอีกฝ่ายปลิดชีวิตด้วยหอกเดียว อีกอย่างเฟิงชาไม่คิดว่าตนเองจะต้องมาตายเช่นนี้ เพียงเพราะ้าเหล็กนิลหยกจากหานิ จึงยอมรับเงื่อนไขของหานิโดยการฆ่าเย่เฟิง แต่กลับนำหายนะมาสู่ชีวิตของเขาเอง
“ตุบ!” ร่างเฟิงชาล้มลงไป โดยไร้สัญญาณชีพจรใด ๆ
เมื่อเสียงตุบดังขึ้น หานิและวิไลคู่ไฟน้ำแข็งต่างก็หันมามองทางด้านนี้ ทันทีที่พวกเขาเห็นร่างเฟิงชานอนจมกองเืก็ต้องหน้าแข็งทื่อ กระทั่งหยุดการต่อสู้ วิไลคู่ไฟน้ำแข็งอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นสะท้าน แต่หัวใจของพวกนางก็เต้นแรงขณะมองชายหนุ่มที่กำลังยืนตระหง่านอยู่ตรงนั้น
ในฐานะนักฆ่าของพันธมิตรชาเซวี่ย พวกนางย่อมรู้ศักยภาพของเฟิงชาดี นักฆ่ามือดีทุกคนของพันธมิตรชาเซวี่ยล้วนมีฝีมือร้ายกาจ ส่วนเฟิงชาคือนักฆ่ามือดีที่โดดเด่นคนหนึ่ง ครั้งหนึ่งเคยฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นยุทธ์เทวะ แต่บัดนี้กลับตกตายในน้ำมือของชายหนุ่มขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 มันช่างน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก
หานิตัวสั่นสะท้านและรู้สึกหนาวเย็น ก่อนจะกล่าวกับเย่เฟิงว่า “เ้าทำได้ยังไงกัน? ไม่คิดว่าเฟิงชาจะถูกเ้าฆ่าตาย!”
ก่อนหน้านี้หานิประมือกับเย่เฟิง เขาจึงรู้ว่าเย่เฟิงแข็งแกร่งเพียงใด อย่างน้อยก็แกร่งกว่าเขา แต่หานิกลับไม่คาดคิดว่าเย่เฟิงจะฆ่าเฟิงชาได้ ในความคิดของเขา เฟิงชาต้องฆ่าเย่เฟิงได้ภายในสิบกระบวนท่า ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ยุยงให้เฟิงชาลงมือกำจัดเย่เฟิง ทว่าตอนนี้เฟิงชากลับตกตายในน้ำมือของเย่เฟิงจนเขาไม่รู้จะทำอย่างไรดี
“เ้ายุยงให้เขาฆ่าข้า บัดนี้เขาตายแล้ว เช่นนั้นก็ถึงตาเ้าแล้วสินะ?” เย่เฟิงแสยะยิ้มขณะมองหานิ
“เ้าคิดจะทำอะไร?”
หานิได้ยินเช่นนั้นก็หน้าถอดสี เขารู้ว่าตอนนี้ตนอยู่ในสถานการณ์ไหน จึงรีบคิดหนทางหนีทันที
“ผู้ที่้าฆ่าข้า ข้าย่อมสนองคืนทุกอย่างให้คนผู้นั้น!” เย่เฟิงกล่าวเสียงกร้าว จู่ ๆ ร่างกายเขารายล้อมไปด้วยปราณที่น่าหวาดกลัว พร้อมกับเดินเข้าหาหานิทีละก้าว ๆ
“ส่งเหล็กนิลหยกที่เฟิงชาพูดถึงมาให้ข้า!”
ในขณะที่เย่เฟิงก้าวเดินไปนั้น เขาก็กล่าวเช่นนั้นกับหานิ ซึ่งเขาเองก็เคยได้ยินชื่อวัตถุดิบอย่างเหล็กนิลหยกมาก่อน มันเป็วัตถุดิบหลอมอาวุธอันล้ำค่าที่เกิดจากการกลั่นของหยกบริสุทธิ์ด้วยอุณหภูมิสูงเป็เวลาหมื่นปี
อาวุธที่หลอมขึ้นจากเหล็กนิลหยกมักจะแข็งทนทานและมีคุณภาพที่สูง หากหลอมรวมกับพลังธาตุต่าง ๆ จะทำให้อาวุธที่หลอมออกมามีพลังเพิ่มขึ้นหลายส่วน
เย่เฟิงหอกัเงินประกาย แต่พลังของมันค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามตบะของเขา และยังเปลี่ยนแปลงอย่างช้า ๆ เมื่อเขาเผชิญหน้ากับศัตรู แต่ถึงอย่างนั้นระดับของหอกัเงินประกายก็ต่ำเกินไป
หากอำนาจหอกของเย่เฟิงยังไม่บรรลุขั้นกายา่ปลาย เกรงว่าอีกไม่นานข้อบกพร่องของหอกัเงินประกายจะปรากฏเด่นชัดในการต่อสู้กับคนอื่น ดังนั้นเย่เฟิงจึง้าสร้างหอกัเงินประกายที่แหลมคมกว่านี้ และเหล็กนิลหยกที่หานิกับเฟิงชาพูดถึงก็ดูเหมือนจะเหมาะสมพอดี
“เหล็กนิลหยก? มันคืออะไร?”
หานิได้ยินคำพูดของเย่เฟิงก็กล่าวเช่นนั้นโดยแกล้งทำเป็โง่เขลา
“อย่ามาตีหน้าซื่อ ข้าถามเ้า จะส่งมาหรือไม่?” เย่เฟิงกล่าวเสียงเย็น แน่นอนว่าเขาอ่านความคิดของหานิได้หมด
“ข้าซ่อนเหล็กนิลหยกไว้ในที่ลับ แต่ข้าไม่มีทางส่งให้เ้าเด็ดขาด”
เมื่อหานิเห็นท่าทีแข็งกร้าวของเย่เฟิงก็ใจสั่นขึ้นมา บัดนี้ชะตากรรมของเขาอาจตกอยู่ในกำมือของเย่เฟิง ดังนั้นน้ำเสียงของหานิจึงเปลี่ยนไป
“เหล็กนิลหยกอยู่ที่ตัวเ้า เช่นนั้นหากข้าฆ่าเ้า ข้าก็จะได้มันมา!”
เย่เฟิงแทงหอกไปที่ลำคอของหานิโดยไม่รอให้หานิกล่าวสิ่งใด นี่ทำให้หานิตัวสั่นเทา และรู้สึกหวาดกลัวจากก้นบึ้งของจิติญญา
“ข้า... ข้าส่งให้แล้ว!”
หานิตัวสั่นระริก ในดวงตายังเต็มไปด้วยความหวาดกลัว จากนั้นเห็นแสงสว่างวาบที่ด้านหน้าเขา พร้อมกับปรากฏของสิ่งหนึ่งในมือ
