แม้ดาบใหญ่พวกนี้จะมิใช่อาวุธระดับิญญา แต่ก็ตีโดยช่างที่มากประสบการณ์ ทำให้มีความแข็งแกร่งมากกว่าอาวุธทั่วไป อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ดาบใหญ่พวกนั้นกลับถูกกระบี่โหยวหลงหักได้อย่างง่ายดาย
หานจิ้นยกคิ้วขึ้น ยื่นมือออกไปขวางนักยุทธ์หกคนที่กำลังจะลงมือ
“กระบี่เล่มนั้นหนักอย่างน้อยสามพันชั่ง ต้องใช้แรงของผู้ที่มีวงแหวนใหญ่ขั้นห้าสองคนจึงจะยกได้ แต่เขากลับใช้มือข้างเดียวยกมันขึ้นมา!”
“อีกอย่าง กระบี่โหยวหลงถูกสตรีชุดดำประมูลไปแล้ว มันตกไปอยู่ในมือของหยวนจุนได้อย่างไร?”
ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด หานจิ้นยังเปิดปากพูดต่อไปว่า “หยวนจุน ปล่อยเสี่ยวเมิ่งกับทิ้งกระบี่ แล้วรีบไสหัวไปเสีย ข้าจะได้ไว้ชีวิตเ้า!”
“หึ” หยวนจุนมองไปที่กระบี่หยวนจุน แสงสะท้อนจากคมกระบี่ทั้งสองข้างประกายออกมา ก่อนจะผสานกับพลังปราณที่บ้าคลั่ง “กระบี่หยวนจุนออกจากฝักไม่ง่าย แต่หากออกมาแล้วนั้นย่อมต้องเห็นเื!”
“ผู้ไม่รู้ย่อมไม่กลัว!” เมื่อเห็นพวกทหารรักษาเมืองไม่ยอมแพ้ หยวนจุนจึงกล่าวประโยคนั้นออกไปเพื่อทำให้พวกเขาขัดแย้งในใจ ก่อนจะอาศัยจังหวะพุ่งกระบี่ตรงไปยังหัวใจของทั้งหกคน
“เคร้ง เคร้ง”
“ชิ้ง”
ลายับนกระบี่หยวนจุนชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อปะทะกับมีดหักของทหารคนแรก มีดนั้นแตกเป็เสี่ยงๆ ลงบนพื้น ยังไม่ทันที่เขาจะได้โต้กลับ หยวนจุนก็เตะมีดออกไป ก่อนจะกระแทกไปยังซี่โครงส่วนที่อ่อนแอที่สุดของเขา
กระดูกซี่โครงทิ่มหัวใจ ทำให้เืพุ่งไปไกลกว่าสามเมตร
“เจอกระบี่หยวนจุนเท่ากับเจอขุมนรก!”
เขาสูดหายใจเข้าและหันคมกระบี่ออก ตัวกระบี่ที่เต็มไปด้วยปราณดาราก่อให้เกิดเปลวไฟปราณกระบี่ที่แข็งแกร่ง เปลวไฟพุ่งออกไป จากนั้นเสียงโหยหวนก็ดังอย่างต่อเนื่อง หยวนจุนไม่สนใจทหารรักษาเมืองห้าคนที่เหลืออีกต่อไป
ขณะที่พวกทหารรักษาเมืองที่อยู่ด้านหลังกำลังนอนหงายหายใจรวยรินอยู่บนพื้น เขาเก็บกระบี่ และสะบัดหยดเืที่อยู่บนตัวกระบี่สีขาวหยกออกไป
เมื่อมองขึ้นมา พวกเขาเห็นหยวนจุนกำลังจัดการฝุ่นละอองกับคราบเื ร่างกายมีปราณดาราปกคลุม และมีแสงส่องบางๆ อยู่รอบนอก
“เป็กระบี่ดีจริงๆ ด้วย!”
หานจิ้นสะบัดเสื้อคลุมยุทธ์ไปด้านหลัง ชูสองนิ้วรวบรวมพลังปราณ แสงทรงกลมที่เกิดจากปราณดาราถูกเขาควบคุม แสงนั้นเสียดสีกับอากาศจนเกิดเสียงดัง
เมื่อวานหยวนจุนถูกวิชายุทธ์ของหานจิ้นทำร้ายจนาเ็ที่แก้ม หากมิใช่เพราะประสบการณ์การต่อสู้ในชาติก่อน เขาคงเสียเปรียบให้แก่วิชายุทธ์ประเภทนี้แล้ว
“วันนี้ข้าจะมิให้เ้าโชคดีเหมือนเมื่อวานอีก!”
หานจิ้นจ้องไปที่กระบี่หยวนจุน ลมแรงพัดออกมาจากฝ่าเท้าเขา ก่อนจะมีความเร็วเทียบเท่ากับการยิงปืนใหญ่
การเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งเช่นนี้ หยวนจุนไม่รู้สึกประหม่าเหมือนเมื่อวานอีกแล้ว เมื่อเทียบกับวิชายุทธ์ เขามิใช่คู่ต่อสู้ของหานจิ้นก็จริง แต่การที่มีกระบี่หยวนจุนอยู่ในมือ ทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม
แม้กระบี่หยวนจุนในตอนนี้จะยังไม่เป็อาวุธระดับิญญาขั้นหนึ่งก็ตาม
“ประกายเร้นลับ!”
หานจิ้นะโออกมา แสงทรงกลมหลุดออกจากฝ่ามือของเขาทันที จากนั้นแสงก็ะเิออกขณะที่กำลังจะัักระบี่หยวนจุน!
“ตูม”
เกิดแสงประกายเหนือขอบฟ้า ป่าไผ่อันเขียวชอุ่มภายในรัศมีร้อยเมตรกระจุยกระจายกลายเป็เศษไผ่
“ฮาฮา ถูกประกายเร้นลับของข้าเหวี่ยงเข้าไปอย่างเต็มที่ เ้าไม่มีทางรอดแน่นอน ชาติหน้าเกิดใหม่ขอให้เ้าเป็คนฉลาด อย่าได้มีเื่กับผู้ที่ไม่ควรมีเื่อีก!”
หานจิ้นปรบมืออย่างพอใจให้กับผลงานที่ทำเมื่อครู่นี้ เขาเห็นกับตาว่าประกายเร้นลับะเิต่อหน้าหยวนจุนไม่ถึงหนึ่งศอก อยู่ใกล้ระยะการะเิถึงเพียงนั้น เขาไม่มีทางหลบพ้นแน่นอน!
เขาหันหน้าไปมองเสี่ยวเมิ่ง รอยยิ้มบนใบหน้านั้นทำให้นางรู้สึกขนลุก เมื่อมองไปรอบๆ และมั่นใจว่าไม่มีผู้ใดอยู่แล้ว เขาจึงคลายความระมัดระวังตัว
“แม่นางเสี่ยวเมิ่ง เ้านั่นมันมีอะไรดีหนักหนา? หน้าตาขี้เหร่น่ารังเกียจ พละกำลังก็มีอยู่น้อยนิด ข้ากำจัดเขาแล้ว ต่อไปจะได้ไม่มีก้างขวางคอระหว่างข้ากับเ้าอีก ฮาฮา”
หานจิ้นมองเสี่ยวเมิ่งด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา ครั้นเดินได้เพียงสองก้าว เขาก็รู้สึกว่าขาของตนเองไม่ฟังคำสั่ง เหมือนกำลังงอกรากอยู่บนพื้น
อย่าว่าแต่การก้าวไปข้างหน้า แม้แต่จะหยุดการเคลื่อนไหวของสิ่งที่กระทำก็ยังไร้เรี่ยวแรง ในที่สุดร่างกายส่วนบนของเขาก็ล้มลง ความเ็ปแผ่ซ่านไปทั่วโคนขา
หานจิ้นหันศีรษะเล็กน้อย จากนั้นจึงพบว่าขาทั้งสองของเขาถูกแยกออกจากลำตัวอย่างสมบูรณ์ รอยตัดโครงกระดูกเรียบเนียน เห็นได้ชัดว่ามันถูกตัดด้วยอาวุธที่แหลมคมในคราวเดียว
“ก่อนที่เ้าจะตาย ข้าขอแนะนำเ้าอย่างหนึ่ง ถ้าชาติหน้าได้เกิดเป็มนุษย์ เ้าอย่าได้คิดเหยียดหยามผู้ใดอีก!”
เมื่อหยวนจุนพูดจบก็ยกกระบี่ขึ้น แล้วแทงไปที่หน้าอกของหานจิ้น
ลงมือเด็ดขาด ไม่มีชักช้า
ปกติแล้วหยวนจุนไม่ค่อยฆ่าคน โดยเฉพาะคนบริสุทธิ์ แต่ถ้ามีผู้ใดมาหาเื่เขา เขาจะทำให้คนผู้นั้นหายไปจากโลกนี้!
“เช่นนี้จะเป็เื่ใหญ่หรือไม่? หานจิ้นเป็ถึงหัวหน้าของทหารรักษาเมือง เป็คนของตระกูลหลิว ทำเช่นนี้ข้าว่าคงไม่ดีแน่”
หยวนจุนเก็บกระบี่หยวนจุนใส่แหวนมิติ ก่อปราณดาราในมือให้กลายเป็เปลวไฟความร้อนสูงทั้งหมดเจ็ดส่วน แต่ละส่วนถูกส่งไปยังร่างหานจิ้นและทหารรักษาเมืองอีกหกคน
หลังจากปล่อยเปลวไฟออกไป ร่างทั้งเจ็ดก็สลายกลายเป็ไอ
เมื่อจัดการเสร็จ หยวนจุนจึงพยักหน้าอย่างไร้กังวล แล้วกล่าวว่า “แม้หานจิ้นจะเป็ถึงหัวหน้าทหารรักษาเมือง แต่ก็มิใช่คนสำคัญของตระกูลหลิว เื่ที่เขาตายคงไม่มีใครมาสืบสวน”
“อย่างมากก็แค่เปลี่ยนหัวหน้าทหารรักษาเมืองคนใหม่”
เสี่ยวเมิ่งเม้มปากแล้วพยักหน้า ในใจรู้สึกว่าที่หยวนจุนพูดนั้นมีเหตุผล ตระกูลหลิวมีอำนาจมาก ย่อมไม่นำเื่การตายของนักยุทธ์วงแหวนใหญ่ขั้นสี่แค่คนเดียวมาใส่ใจ
อีกทั้งหยวนจุนยังจัดการศพหานจิ้นกับทหารพวกนั้นไปแล้ว ความลับนี้คงจะไม่ถูกเปิดเผย
ผู้คนส่วนใหญ่คงไม่คิดว่าหยวนจุนที่มีวงแหวนเล็กขั้นสามจะสามารถฆ่าคนที่มีวงแหวนใหญ่ขั้นสี่ได้ ดังนั้นการตายของหานจิ้น ย่อมไม่มีใครสงสัยในตัวเขาแน่นอน
เมื่อทั้งสองกลับมาถึงลานบ้านในป่าลึก ท้องฟ้าก็เริ่มมืด เป็สัญญาณว่ากำลังเข้าสู่เวลากลางคืนแล้ว ครั้นปู่ของเสี่ยวเมิ่งเห็นหยวนจุนก็เอามือไพล่หลัง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งถือถังไม้ และมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ
“เสี่ยวเมิ่ง นี่คือเสื้อผ้าใหม่ที่เ้าซื้อให้เขาหรือ? เหตุใดข้าถึงรู้สึกคุ้นๆ ล่ะ เหมือนเคยเห็นที่ใดมาก่อน?”
หลังจากได้ยินปู่ของเสี่ยวเมิ่งพูดพรรณนา หยวนจุนไม่เข้าใจจึงถามด้วยความสงสัยว่า “แม่นางเสี่ยวเมิ่งซื้อเสื้อผ้าให้ข้าหรือ?”
เมื่อเห็นหยวนจุนจ้องมองด้วยความสงสัย แก้มของเสี่ยวเมิ่งก็เปลี่ยนเป็สีแดง ตวัดสายตาให้ชายชราแล้วกล่าวว่า “ท่านปู่ เื่ที่ท่านเป็ห่วงนั้นออกจะมากเกินไปหน่อยนะว่าไหม?”
“หึ มากเกินไปอย่างนั้นหรือ เ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าชุดที่เขาใส่เป็เสื้อยุทธ์ของตระกูลหลิวน่ะ! เ้าหนุ่มนี่ปฏิเสธความหวังดีของเ้าใช่หรือไม่?”
เพื่อไม่ให้เข้าใจผิดไปมากกว่านี้ เสี่ยวเมิ่งรีบนำเสื้อคลุมยุทธ์สีดำออกมาจากแหวนมิติแล้วมอบใส่มือหยวนจุน นางกระซิบว่า “เสื้อคลุมนี้ก็ให้เ้าด้วย”
เมื่อเขารับชุดคลุมยุทธ์สีดำตัวนั้นแล้ว เสี่ยวเมิ่งจึงดึงมือออกอย่างรวดเร็วแล้วรีบวิ่งเข้าไปในบ้านไม้
“ขอบคุณมากแม่นางเสี่ยวเมิ่ง”
หยวนจุนยิ้มแล้วพึมพำเบาๆ ก่อนจะะโขึ้นไปบนก้อนหินที่อยู่ตรงลานบ้าน สองมือตั้งขึ้น แล้วดูดซับพลังโอสถของยาต้าฮ่วน เพื่อเสริมความแกร่งให้แก่อวัยวะภายใน
ขณะเดียวกัน พลังจิตของเขาก็ถูกยาต้าฮ่วนสร้างพละกำลังอย่างต่อเนื่อง ในจุดตันเถียนตอนบน[1]ส่งเสียงก้องออกมาไม่ขาดสาย
[1] จุดตันเถียนตอนบน สัมพันธ์กับระบบสมอง หรือจิตนึกคิดของนักยุทธ์
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้