บทที่ 7 ความสัมพันธ์พี่น้อง
“ใช่แล้ว...พี่หญิง!”
หลังจากที่ฉู่อวิ๋นระงับิญญายุทธ์ในใจได้แล้ว เขาก็รีบหันกลับมาเพื่อตรวจดูอาการของฉู่ซินเหยา
ในตอนนี้ ฉู่ซินเหยาทรุดนั่งอยู่ข้างๆ อย่างอ่อนแรง แต่ดวงตากลับส่งสายตาแปลกๆ ั์ตาสวยของนางเหม่อลอย ดูคล้ายฟุ้งซ่าน ราวกับยังคงตกอยู่ใน่เวลาที่ฉู่อวิ๋นแสดงพลังกระบี่
เมื่อเห็นเช่นนี้ ฉู่อวิ๋นก็รีบกอดนางไว้
"อวิ๋นเอ๋อร์...พี่..."
ฉู่อวิ๋นสวมกอดฉู่ซินเหยาในขณะที่นางกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ความรู้สึกไม่สบายกายของนางก็พลุ่งพล่าน ครอบงำสติสัมปชัญญะจนหมดสติไป
“ท่านพี่? ท่านเป็อะไรไป? ท่านตื่นสิ!”
เมื่อเห็นฉู่ซินเหยาที่เปียกโชกไปด้วยฝนสลบไป ฉู่อวิ๋นก็รู้ทันทีว่าเมื่อครึ่งชั่วยามที่แล้ว นางพยายามอย่างยิ่งที่จะปกป้องเขาจากฝน เขาตระหนกมาก รีบอุ้มนางไปที่ห้องส่วนตัวทันที
ทั่วทั้งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของหญิงสาวที่ชวนให้หลงใหล
ฉู่อวิ๋นวางฉู่ซินเหยาเบาๆ บนเตียงแล้วเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของนาง
“ร้อนมาก! ดูเหมือนท่านพี่จะเป็ไข้”
ฉู่ซินเหยาร่างกายอ่อนแอและป่วยมาโดยตลอด ตอนนี้ นางถูกพายุฝนโหมใส่ไปครึ่งชั่วยาม แน่นอนว่านางย่อมจับไข้เป็แน่
หากปล่อยให้อาการแย่ลง ผลที่ตามมาอาจเลวร้ายนัก
“ยาเสริมิญญาน่าจะทำให้พี่หญิงฟื้นตัวได้”
เมื่อคิดได้ว่าฉู่ซินเหยาถูกความหนาวจู่โจมร่างกาย ฉู่อวิ๋นก็รีบไปที่ห้องยาในเรือน โดยหวังว่าจะพบยาเสริมิญญาที่นำไปรักษาได้
ฉู่อวิ๋นเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเขาก็จำอะไรบางอย่างได้ และก้าวของเขาก็หยุดนิ่ง
“ดูเหมือนว่า...ยาเสริมิญญาหมดแล้ว” เมื่อมองไปยังห้องที่ยังคงมีกลิ่นอายของยาบำรุงปราณ ดวงตาของฉู่อวิ๋นก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้า
ในห้องขนาดใหญ่ ประตูตู้เก็บยาทั้งหมดถูกเปิดออก ภายในห้องเละเทะ แม้แต่ยาฟื้นฟูเส้นลมปราณขั้นพื้นฐานที่สุดบางตัวก็ไม่มี
เมื่อคนในตระกูลย่อยที่เหลือออกจากลานตะวันออก พวกเขาก็เอายาเสริมิญญาและสมบัติทั้งหมดไปด้วย โดยไม่เหลือทรัพยากรใดๆ ให้ฉู่อวิ๋นได้ใช้สอยเลย หากกระบี่เหล็กในลานฝึกยุทธ์เมื่อครู่ไม่ได้อยู่ต่ำเกินไป ฉู่อวิ๋นก็อาจไม่มีแม้แต่กระบี่ให้ใช้
ตระกูลย่อยไม่ใช่คนกลุ่มใหญ่ หากสมาชิกตระกูลที่สนับสนุนฉู่อวิ๋นพ่ายแพ้ คนอื่นก็อาจไม่สนับสนุนเขาต่ออีก
ฉู่อวิ๋นรู้สึกหดหู่และเดินกลับไปที่ห้อง เขาเห็นฉู่ซินเหยานอนอยู่บนเตียง คิ้วของนางขมวดมุ่น ดูแล้วน่าสงสาร
“คงต้องไปซื้อยาเสริมิญญาที่ตลาด แต่ตอนนี้ท่านพี่เป็ไข้ หากปล่อยให้สวมเสื้อผ้าเปียกชื้น อาการก็จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ข้าควรทำอย่างไรดี...”
ฉู่อวิ๋นนั่งอยู่บนเตียง ทำอะไรไม่ถูก
หรือต้องช่วยพี่หญิงเปลี่ยนเสื้อผ้าจริงๆ?
ฉู่อวิ๋นยื่นมือขวาไปที่กระโปรงของฉู่ซินเหยาอย่างลังเล จากนั้นก็ใช้มือซ้ายตีที่มือขวา "เ้ากำลังทำอะไรอยู่!"
ความทรมาน ความทรมานที่ไม่ธรรมดา
“งั้นก็ปิดตาเสีย ก็จะไม่เห็นเรือนร่างของท่านพี่แล้ว”
“ไม่ได้สิ...ถ้าปิดตา แล้วข้าจะรู้ตำแหน่งที่แน่ชัดได้หรือ?”
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ใบหน้าฉู่อวิ๋นก็เปลี่ยนเป็สีแดง
“เช่นนั้นก็คิดแบบนี้ ข้าก็แค่ช่วยท่านพี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไม่ให้นางหนาว ไม่ได้คิดอื่นใดทั้งสิ้น”
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ฉู่อวิ๋นก็ตัดสินใจยื่นมือออกไปเพื่อปลดเสื้อผ้าของฉู่ซินเหยา เขาระมัดระวังและมีความคาดหวังราวกับกำลังเปิดของขวัญ
จากนั้นไม่นาน ฉู่ซินเหยาก็ถูกปลดเสื้อผ้าออกจนหมด
ด้วยความงามที่ไม่มีใครเทียบ รวมกับใบหน้าอันหมดจดที่อาจทำให้คนทั้งแคว้นหลงใหลได้ ฉู่ซินเหยาจึงเปรียบเสมือนเทพธิดาในภาพวาดที่ควรจะอยู่บนสรวง์
แม้ว่าฉู่อวิ๋นและฉู่ซินเหยาจะอยู่ด้วยกันมาสิบปีแล้ว ทว่าตอนที่พวกเขายังเป็เด็ก ก็ไม่เคยอาบน้ำด้วยกันเลย
อย่างไรเสีย ทั้งสองคนก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันทางสายเื เป็เพียงคู่รักในวัยเด็กที่ทำตัวเหมือนพี่น้องกันเท่านั้น
“ไม่ได้...ดูต่อไม่ได้แล้ว!” ฉู่อวิ๋นตบหน้าเรียกสติแล้วรีบนำผ้าเช็ดตัวมาเช็ดคราบน้ำที่หลงเหลืออยู่บนร่างกายของฉู่ซินเหยา
จากนั้นไม่นาน ฉู่อวิ๋นก็เช็ดคราบน้ำบนร่างกายของฉู่ซินเหยาด้วยอารมณ์ที่ยังคงว้าวุ่น
“พี่หญิงเป็เทพธิดาจริงๆ ด้วย…ช่างมีเสน่ห์จริงๆ”
ฉู่อวิ๋นพยายามสงบสติอารมณ์ให้ได้มากที่สุด เขาหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่จากตู้เสื้อผ้าแล้วสวมให้กับฉู่ซินเหยา
ทว่า ใครจะคาดคิดว่าฉู่ซินเหยากลับตื่นขึ้นมาในเวลานี้
“อืม…”
ฉู่ซินเหยาค่อยๆ ลืมตาที่หนักอึ้งขึ้นทีละนิด และสิ่งที่มองเห็นได้จากนั้นคือสถานการณ์ที่น่าอับอาย
ทั้งคู่สบตากัน ไร้การขยับเขยื้อน
ทันใดนั้น ใบหน้าสวยของฉู่ซินเหยาก็กลายเป็สีแดงอย่างรวดเร็ว ทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ
อวิ๋นเอ๋อร์คนนี้...ยังคิดว่านางเป็พี่สาวของเขาอยู่หรือเปล่า?
เขา้าทำอะไร?
หรือเขา้า...
สิ่งที่ไม่อาจอธิบายได้ผุดขึ้นมาในความคิด ดวงตาของฉู่ซินเหยาเหม่อลอย สีหน้านิ่งสงบ นางทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย ทว่ากลับไม่ได้ปฏิเสธออกไป
เมื่อเห็นว่าฉู่ซินเหยาตื่นแล้ว ฉู่อวิ๋นก็ดึงมือกลับแล้วรีบอธิบาย "ท่านพี่ซินเหยา...ข้า...ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าแค่จะช่วยท่านเปลี่ยนเสื้อผ้า ข้า...ข้าไม่ได้กำลัง…”
ยิ่งอธิบายยิ่งน่าอาย
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉู่ซินเหยาก็สงบลงครู่หนึ่ง เมื่อนางก้มหน้ามอง ก็นึกขึ้นได้ว่าเสื้อผ้าของตนถูกเปลี่ยนแล้ว นางรีบจัดเสื้อผ้าที่ยังไม่เรียบร้อยทันที กัดริมฝีปากเบาๆ แล้วพูดอย่างเขินอาย "อวิ๋นเอ๋อร์...เ้า...เ้าช่วยพี่เช็ดตัวแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าหรือ?”
เช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้า...
งั้นก็เห็นทุกอย่างแล้วสิ?
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ใบหน้าของฉู่ซินเหยาก็ร้อนผ่าวราวกับไฟ หัวใจของนางเต้นเร็วระรัว
ฉู่อวิ๋นรู้ว่าเขาผิด จึงได้แต่หัวเราะแห้งๆ และพูดว่า "ท่านพี่ซินเหยา ไม่ต้องกังวล ข้า...ข้าไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้น แล้ว...แล้วก็..."
เมื่อเห็นท่าทางที่ลังเลของฉู่อวิ๋น ฉู่ซินเหยาก็ยิ้มและพูดเบาๆ ว่า "พี่ยังไม่ได้ตำหนิเ้าเลย ไม่ต้องใหรอก พี่...พี่ไม่ถือสา"
"เช่นนั้นก็ดี" หลังจากได้ยินดังนั้น ฉู่อวิ๋นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วพูดว่า "ท่านพี่ซินเหยา ท่านรีบแต่งตัวเร็วเข้า เดี๋ยวเราจะไปซื้อยาที่ตลาดกัน"
ที่บ้านไม่มียาเสริมิญญา ฉู่อวิ๋นจึงวางแผนจะไปซื้อยาที่ตลาดเพื่อมารักษาฉู่ซินเหยา
หลังจากฉู่เฮ่ามาสร้างปัญหาเอาไว้ ลานตะวันออกของตระกูลฉู่ก็ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป หากเขาพาใครมาเพื่อแก้แค้นแล้วทิ้งฉู่ซินเหยาไว้คนเดียว ผลที่ตามมาเกินจะคาดคิด นั่นคือเหตุผลที่ฉู่อวิ๋น้าพาฉู่ซินเหยาไปด้วย..
“ซื้อยา? ไม่ต้องหรอก ยาแพงขนาดนั้น พี่พักสักประเดี๋ยวก็ไม่เป็อะไรแล้ว” ทันทีที่พูดจบ ฉู่ซินเหยาก็รู้สึกเวียนหัวทันที
“ไม่ได้ ท่านต้องไป” ฉู่อวิ๋นพูดอย่างหนักแน่น
เมื่อเห็นท่าทางจริงจังของฉู่อวิ๋น ฉู่ซินเหยาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ทว่าเมื่อนางลูบคลำเสื้อผ้าก็ราวกับว่านึกอะไรบางอย่างออก ใบหน้างดงามของนางก็เปลี่ยนเป็สีแดง
“แต่ อวิ๋นเอ๋อร์ เ้า...ดูเหมือนว่าเ้าจะช่วยพี่ใส่แค่เสื้อคลุมชั้นนอกเท่านั้น แล้ว...เสื้อชั้นในเล่า?”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉุ่อวิ๋นก็ตัวสั่นทันที
“ข้า...ข้าลืมสวมให้น่ะ” เพราะกำลังตื่นตระหนก ฉู่อวิ๋นจึงค่อยๆ อธิบายแล้วรีบไปหาเสื้อชั้นในให้นางทันที แต่ถูกฉู่ซินเหยาผู้ขี้อายหยุดไว้
“เ้า… เ้าบื้อ! เ้าไม่ต้องไปเอาแล้ว”
หลังจากพูดจบ ฉู่ซินเหยาก็ก้าวเท้าที่อ่อนแรง เปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อค้นหาเสื้อชั้นใน นางถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกแล้วสวมใหม่อีกครั้ง
เมื่อได้ยินเสียงสวบสาบของการแต่งตัวอยู่ข้างหลัง ฉู่อวิ๋นจึงทำได้แค่จ้องมองปลายจมูกตัวเอง แสร้งทำเป็ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากนั้นไม่นาน ฉู่ซินเหยาก็แต่งตัวเสร็จและพูดเบาๆ ว่า "เรียบร้อยแล้ว..."
เมื่อหันกลับมา ฉู่อวิ๋นมองดูใบหน้างดงามของฉู่ซินเหยาที่ยังแดงอยู่เล็กน้อย เขาเดินเข้ามาแล้วย่อตัวลงนั่งยองๆ แล้วพูดว่า "ท่านพี่ซินเหยา ท่านยังดูอ่อนแรงนัก ให้ข้าแบกท่านไปดีกว่า"
ฉู่ซินเหยาพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมยกยิ้มหวานบนริมฝีปาก เ้าอวิ๋นเอ๋อร์ผู้นี้ มีน้ำใจจริงๆ
เมื่อขี่หลังของฉู่อวิ๋นแล้ว นางได้ยินเสียงหัวใจเต้นดังเล็กน้อย ฉู่ซินเหยารู้สึกภูมิใจหน่อยๆ นางเอนศีรษะลงบนไหล่ของฉู่อวิ๋นและพูดข้างหูของเขาว่า "ฮิฮิ เหตุใดหัวใจเ้าถึงเต้นเร็วเพียงนี้? อ๋า แบกพี่สาวขึ้นหลังต้องตื่นเต้นถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
“ไม่...ไม่ตื่นเต้น”
“เ้าโกหก~”
“เปล่า...เปล่าสักหน่อย...”
ฉู่อวิ๋นถอนหายใจ ทว่าหลังจากคิดสิ่งหนึ่งได้ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็เ็า เขาตัดสินใจสวมผ้าคลุมหน้าให้ตัวเองและฉู่ซินเหยา พร้อมทั้งนำกระบี่เหล็กไปด้วย
ตอนนี้ ผู้คนทั้งเมืองไป๋หยางคิดว่าฉู่อวิ๋นเป็ดาวแห่งหายนะ เป็ลางไม่ดี เขาไม่อยากให้เกิดปัญหาเพิ่มระหว่างแก้ปัญหา[1]
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าฉู่อวิ๋นจะไม่สนใจว่าใครจะคิดกับเขายังไง แต่พี่สาวญาติที่สนิทที่สุดที่เขาแบกไว้ เขาไม่อยากให้นางถูกใครดูิ่
เมื่อหันหน้าไปมองที่ฉู่ซินเหยา ก็พบว่านางหลับอยู่บนไหล่ของเขาแล้ว ดวงตางามของนางหรี่ลงเล็กน้อย ขนตายาวงอนหรุบลง และคิ้วของนางก็ขมวดแน่นบ้างเป็ครั้งคราว ราวกับกำลังระงับความรู้สึกไม่สบายตัวอยู่
เมื่อเห็นเช่นนี้ ฉู่อวิ๋นก็รู้สึกเ็ปในใจ จึงรีบเดินออกจากห้องไป
เมื่อเดินผ่านลานฝึกยุทธ์ มีกระบี่สีทองตกอยู่บนพื้น เป็กระบี่ที่ฉู่เฮ่าทิ้งไว้
“ที่นี่เหลือเงินไม่มากแล้ว เอาไปขายเลยก็ดี ถือเสียว่าเป็รางวัล”
ฉู่อวิ๋นโน้มตัวไปหยิบกระบี่ในขณะที่แบกฉู่ซินเหยาไว้บนหลัง ก่อนจะเดินออกจากลานตะวันออก แล้วมุ่งหน้าไปยังตลาด
--------------------
[1] เกิดปัญหาเพิ่มเติมระหว่างที่กำลังแก้อีกปัญหาหนึ่งอยู่ หากเป็สำนวนไทย เทียบได้กับ พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก หรือ ความวัวไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้