หลี่ชิงหยุนนั่งไขว้ขาเพื่อเข้าสมาธิทันที เสิ่นชิงและนาหลันเสี่ยวฉีที่อยู่ใกล้ๆ ก็ััได้ถึงบางสิ่ง พวกนางทั้งสองถอยออกมาเพื่อให้ที่ว่างแก่เขา
หลี่ชิงหยุนหลับตาพร้อมกับนำทางฉีจากตันเถียนเข้าสู่เส้นลมปราณต่างๆตามส่วนของร่างกาย ตอนนี้ฉีในตันเถียนเริ่มสงบลง จากนั้นเส้นลมปราณขยายใหญ่ขึ้น!
"บูม!"
ออร่าทรงพลังถูกปล่อยออกมาจากร่างของหลี่ชิงหยุนอย่างโกลาหล ตอนนี้เขาเป็นักสู้ระดับลมปราณหยกขั้นเริ่มต้นแล้ว
'เหตุใดข้ารู้สึกว่าร่างกายข้าไม่มีคอขวดเลยแม้แต่น้อย?' หลังจากค่อยๆลืมตาหลี่ชิงหยุนเริ่มสงสัยหัวข้อนี้
ผู้ฝึกฝนทั่วไปต้องรวบรวมประสบการณ์การต่อสู้และจิติญญาเพื่อฝ่าฟันเข้าสู่ระดับถัดไป แต่เขาไม่เคยรู้สึกเช่นนั้นเลย อาจจะเป็เพราะทักษะบ่มเพาะิญญาจักรพรรดิ 9 ดารา พลังิญญาของเขาจึงสูงกว่าปกติ
และเมื่อได้ก็ตามที่ตันเถียนของเขาเต็มไปด้วยพลังฉี เขาสามารถทะลวงไปได้ง่ายๆราวกับปลอกกล้วย
หลี่ชิงหยุนออกจากสมาธิและเริ่มลืมตา เมื่อลืมตาเขามองเห็นสองสาวมองหน้าเขาด้วยลักษณะแปลกๆ เขาอดไม่ได้ที่จะถาม "มีอะไรติดอยู่บนหน้าข้าหรือไม่?"
"อาหยุน...เ้าทะลวงอีกแล้วเหรอ?" นาหลันเสี่ยวฉีไม่อยากถามคำถามงี่เง่านี่ แต่นางก็ระงับความอยากรู้อยากเห็นไม่ไหว
หลี่ชิงหยุนใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็สามารถทะลวงจากระดับการรวบรวมปราณเข้าสู่ระดับลมปราณหยกได้ แต่ที่น่าแปลกใจคือแม้ว่าการทะลวงผ่านเช่นนี้จะทำให้แข็งแกร่งขึ้น แต่มันจะส่งผลเสียต่อรากฐานอย่างแน่นอน
แต่พอมองดูการไหลเวียนฉีที่ปล่อยออกมาจากร่างของหลี่ชิงหยุนอีกครั้ง ก็เห็นได้ว่ารากฐานของเขานั้นมั่นคงเพียงใด แค่มีพลังงานฉีสววรค์และโลกที่เพียงพอ เขาสามารถเข้าสู่ระดับที่สูงกว่านี้ได้หรือไม่?
หลี่ชิงหยุนยิ้มให้กับนาหลันเสี่ยวฉี จู่ๆเขาก็สังเกตุเห็นบางอย่างผิดปกติ
ขณะนี้ระดับของนาหลันเสี่ยวฉีตอนนี้อยู่ในระดับลมปราณทองขั้นเริ่มต้นแล้ว
"ฉีฉี เ้าทะลวงผ่านั้แ่เมื่อใด? วันก่อนข้ายังเห็นเ้าอยู่ระดับลมปราณเงินอยู่แท้ๆ" หลี่ชิงหยุนถามคำถามแบบนี้เพราะเขาไม่เข้าใจจริงๆ นาหลันเสี่ยวฉีไม่มีสมบัติโกงอย่างเจดีย์ปฐมกาล และเม็ดยามากมายเหมือนเขา
แต่เหตุใดนางจึงผ่านหลายระดับได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้?
"ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน ข้าแค่นอนหลับ แต่เมื่อตื่นขึ้นมาข้าก็อยู่ในระดับลมปราณทองแล้ว" นาหลันเสี่ยวฉีกลอกตามองแปลกๆพร้อมพูดแปลกๆ
คำตอบที่นาหลันเสี่ยวฉีให้กับหลี่ชิงหยุนทำให้เขาตกตะลึง
"แค่ก! แค่ก!" หลี่ชิงหยุนสำลักน้ำลายโดยไม่ได้ตั้งใจทันที
[นี่มันเื่บ้าอะไร! แค่นอนหลับก็เพิ่มระดับได้ จะมีอะไรสะดวกสบายไปกว่านี้อีกไหม]
[โอ้์ ข้าอยากนอนหลับแล้วเพิ่มความแข็งแกร่งบ้างจัง]
"เสิ่นชิง เ้าก็ด้วยเ้าเข้าสู่ลมปราณทองขั้นสมบูรณ์แล้ว" หลี่ชิงหยุนมองไปที่เซินชิง แต่ไม่ค่อยประหลาดใจกับเสิ่นชิงสักเท่าไร นั่นเป็เพราะร่างกายฟีนิกซ์โบราณของนาง และการฝังเข็มสามารถทำให้ฉีไหลเวียนผ่านเส้นลมปราณได้ง่ายขึ้น
เสิ่นชิงแค่ยิ้มอย่างน่ารักและอ่อนโยน
จู่ๆนาหลันเสี่ยวฉีก็ถามคำถามที่ทำให้หลี่ชิงหยุนปวดขมับขึ้นมาทันใด "อาหยุน เ้าชอบเสิ่นชิงหรือไม่?"
"แค่ก แค่ก แค๊ก!" คราวนี้หลี่ชิงหยุนสำลักหนักกว่าเดิม
[ นี่มันคำถามบ้าบออะไร! ]
หลังจากสงบสติได้แล้ว เขาจึงพูดขึ้น "ฉีฉี อะไรทำให้เ้าถามเช่นนี้? ข้ามีเ้าเป็คู่หมั้นแล้ว ข้าจะมีใครอีกได้อย่างไร?"
"แม้ว่าข้าเป็คู่หมั้นของเ้า แต่ถ้าเ้าชอบเสิ่นชิง ข้าก็อนุญาต... อีกอย่างเราทั้งคู่ยังเข้ากันได้ดีอีกด้วย" นาหลันเสี่ยวฉียิ้มเบาๆ พร้อมกับมองไปเสิ่นชิงด้วยท่าทีที่ซุกซน
ด้วยความเขินอายเสิ่นชิงหน้าแดงและหันหน้าหนีทันที
ตอนนี้ใบหน้าของหลี่ชิงหยุนตลกเกินไป ใบหน้าของเขาเป็สีเขียวและสีดำสลับกัน เขาตามเื่นี้ไม่ทันจริงๆ เหตุใดเขารู้สึกเหมือนกับว่าสองสาวได้ตกลงเื่นี้กันเรียบร้อยแล้ว
หลี่ชิงหยุนปลี่ยนเื่พูดทันที "อะแฮ่มๆ ฉีฉี ใครเป็คนพาข้ามาที่นี่ แล้วข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?"
จากที่เขาจำเหตุการณ์ล่าสุดได้ เขาหมดสติไประหว่างทางและไม่สามารถจำอะไรได้อีกเลย
นาหลันเสี่ยวฉีครุ่นคิดครู่นึง นางก็จำชื่อของชายชราคนนั้นได้ "เขาเป็ชายชราที่มีเคราสีขาว และลุงหลี่เรียกเขาว่าผู้เฒ่าเทียนจิ"
"ผู้เฒ่าเทียนจิ?" หลี่ชิงหยุนพึมพำในใจ ชื่อนี้เขาค่อนข้างคุ้นเคยกับมัน เพราะนั่นคือชื่อของอาคารเทียนจิ
แน่นอนว่าหลังจากฟังจากคำอธิบายของนาง เขามั่นใจว่าผู้เฒ่าเทียนจิกับชายชราที่อาคารเทียนจิน่าจะเป็คนเดียวกัน
หลี่ชิงหยุนมีความประทับใจในตัวผู้เฒ่าเทียนจิอยู่แล้ว คนที่สามารถทำนายอนาคตได้ เขาจะไม่ใช่คนที่ยอดเยี่ยมได้อย่างไร
"เช่นนั้น ข้าจะไปหาท่านพ่อก่อน" หลี่ชิงหยุนพยายามจะลุกขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
"ครืด..."
จู่ๆเสียงเปิดประตูดังขึ้น คนที่เข้ามาในห้องไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือหลี่หยุนเฟิงที่เข้ามาอย่างกะทันหัน
"หยุนเอ๋อร์ เ้าสบายดีหรือไม่? อาการาเ็เป็อย่างไร?" หลี่หยุนเฟิงถามคำถามหลี่ชิงหยุนอย่างต่อเนื่องด้วยความกังวล
"ท่านพ่อ ข้าสบายดี ตอนนี้ข้าเข้าสู่ระดับลมปราณหยกแล้ว" หลี่ชิงหยุนตอบกลับและยิ้มจางๆ
"เยี่ยมมาก ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เ้าช่างเป็สัตว์ประหลาดตัวน้อยจริงๆ" เมื่อหลี่หยุนเฟิงเห็นว่าหลี่ชิงหยุนหายดีแล้วอีกทั้งยังสามารถเข้าสู่ระดับลมปราณหยก เขาพึงพอใจเป็อย่างมาก
จากนั้นสองพ่อลูกและสองสาวเริ่มคุยกัน เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตระกูลหยาน
"เฮ้อ~ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆว่าตระกูลหยานจะเป็ขยะได้ขนาดนี้! อีกอย่างมันยังเกี่ยวข้องกับตระกูลเล่ยอีกด้วย" หลี่หยุนเฟิงพูดไม่ออกจริงๆ เมื่อได้ยินเกี่ยวกับความชั่วร้ายของตระกูลหยานและตระกูลเล่ย
"หยุนเอ๋อร์ ข้าแนะนำให้เ้าออกจากเมืองอาทิตย์สีชาด เกรงว่าตอนนี้ตระกูลเล่ยจะเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว พวกเขาจะไม่หยุดนิ่งในการตามหาหลักฐานอย่างแน่นอน" หลี่หยุนเฟิงแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปในการเคลื่อนไหวหลังจากผ่านการตัดสินใจ
"ท่านพ่อ ข้ามีแผนที่จะไปที่เมืองหลวงอยู่แล้ว เพื่อหาประสบการณ์และตามหาสมุนไพรบางชนิดเช่นกัน" ความจริงหลี่ชิงหยุนอยากจะออกไปหาสมุนไพรเพื่อรักษาหลี่หยุนเฟิง แต่เขาก็เป็ห่วงที่บ้านของเขาเช่นกัน ตระกูลเล่ยรู้ดีว่าตระกูลหยานเป็ศัตรูกับตระกูลหลี่ ถ้าพวกเขาจะเคลื่อนไหว พวกเขาจะเคลื่อนไหวโดยเริ่มต้นจากตระกูลหลี่อย่างแน่นอน ถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นซ้ำสอง เขาคงจะเป็บ้าแน่ๆ
เมื่อเห็นใบหน้าที่กังวลของลูกชาย หลี่หยุนเฟิงก็เข้าใจทันทีว่าหลี่ชิงหยุนคิดอะไรอยู่ "หยุนเอ๋อร์ เ้าไม่จำเป็ต้องกังวลเื่ที่บ้าน ท่านผู้เฒ่าเทียนจิได้วางข้อจำกัดภาพลวงตาไว้แล้ว เ้าสามารถเดินทางได้อย่างสบายใจ ต่อให้ตระกูลเล่ยระดับลมปราณฟ้าเข้ามาที่เขตของตระกูลหลี่ พวกเขาจะติดอยู่ในภาพลวงตาอย่างแน่นอน"
หลี่ชิงหยุนที่ได้ยินเช่นนั้น เขารู้สึกประหลาดใจอีกครั้ง ท่านผู้เฒ่าเทียนจิสามารถวางข้อจำกัดระดับสูงเช่นนี้ได้ อีกทั้งยังเป็ข้อจำกัดภาพลวงตา เกรงว่ามีเพียงผู้ที่อยู่ระดับลมปราณฟ้าขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถปลดมันออกได้
"ท่านพ่อ เหตุใดผู้เฒ่าเทียนจิถึงช่วยข้าไว้?" นี่เป็คำถามที่หลี่ชิงหยุนไม่เข้าใจจริงๆ
"เขาแค่ผ่านไปและเผลอเห็นเ้าเท่านั้น" หลี่หยุนเฟิงตอบสั้นๆ เขาไม่ได้พูดอะไรมากเกี่ยวกับเื่นี้
"โอ้? มีอีกอย่าง... ข้ามีข้อมูลบางอย่างที่น่าสนใจจะบอกเ้า" หลี่หยุนเฟิงเริ่มให้รายละเอียดเกี่ยวกับมิติที่เป็ซากปรักหักพังโบราณ มีข่าวลือว่าที่นั่นเป็สถานที่ที่ผู้ฝึกฝนระดับสูงหลายคนต่อสู้กันและเสียชีวิต อีกทั้งยังมีโชคลาภมากมาย เช่น เม็ดยา สิ่งประดิษฐ์ และทักษะได้ที่ระดับสูงได้ นี่เป็โอกาสที่ดีอย่างแน่นอน
"ข้าเข้าใจ ยังมีเวลาอีกเกือบเดือน ข้าจะเตรียมตัวอีกสองสามวัน ข้าจะเดินทางไปที่เมืองหลวงก่อน" หลี่ชิงหยุนตอบกลับ จู่ๆเขานึกบางอย่างขึ้นได้ เขาหยิบแหวนเก็บของ 5 วงออกมา นี่คือแหวนที่เขาได้รับตระกูลเล่ยและตระกูลหยาน เขาส่งต่อแหวนเก็บของให้กับหลี่หยุนเฟิง และแบ่งทรัพยากรบางส่วนให้กับนาหลันเสี่ยวฉีและเสิ่นชิง
"ฉีฉี ข้ามีทักษะบ่มเพาะให้เ้า เส้นลมปราณของเ้าเป็เส้นลมปราณพิเศษ มันมีคุณลักษณะหยินสุดขั้ว แต่ยิ่งระดับบ่มเพาะสูงเท่าไหร่ หยินในร่างกายของเ้าจะเริ่มควบคุมไม่ได้ และอาจทำให้เ้าผล็อยหลับไปบ่อยครั้งจนเข้าสู่สภาวะแช่แข็ง นั่นอาจเป็สาเหตุที่เมื่อเ้านอนหลับระดับพลังของเ้าจะเพิ่มเองโดยอัตโนมัติ" หลี่ชิงหยุนมองไปที่ฉีฉีโดยผ่านดวงตาปฐมกาล เขาเข้าใจวิธีการที่ร่างกายของนาหลันเสี่ยวฉีเป็เช่นนี้แล้ว พลังหยินในร่างกายของนางสูงเกินไป ยิ่งปล่อยนานไป อารมณ์เ็าจะเริ่มครอบงำนางและบุคลิกของนางอาจจะไม่สามารถกลับมาเป็สาวน้อยที่สดใสได้อีกแล้ว
หลี่ชิงหยุนจึงเลือก 'ทักษะบ่มเพาะราชินีเยือกแข็งสุดขีด' ให้กับนาหลันเสี่ยวฉี ทักษะนี้จะช่วยนาหลันเสี่ยวฉีระบายหยินส่วนเกินออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอาการาเ็ภายในและผลกระทบของเส้นลมปราณหยินสุดขั้วอีกต่อไป
ทักษะนี้เขาได้รับมาจากคนรู้จักในอาณาจักรนภา และสตรีผู้นั้นเป็ผู้สร้างทักษะนี้ขึ้นมาด้วยตัวเอง
นาหลันเสี่ยวฉีหยิบหนังสือบ่มเพาะที่ได้รับมาอ่าน เมื่อนางอ่านได้ครู่นึงก็รู้สึกใกับวิธีการของหนังสือเล่มนี้อย่างมาก ราวกับว่าหนังสือเล่มนี้สร้างมาเพื่อนางโดยเฉพาะ และตรงกับจุดประสงค์ของ 'ร่างกายเส้นลมปราณหยินสุดขั้ว' ได้อย่างลงตัว
"อาหยุน ทักษะนี้อยู่ในระดับใด?" นาหลันเสี่ยวฉียิ้มหวาน ถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
เมื่อเห็นดวงตาที่สวยงามของนาหลันเสี่ยวฉีจ้องมาที่เขา เขาอดไม่ได้ที่จะหลงทางอยู่ในภาพที่สวยงามเช่นนี้
"ข้าไม่ทราบระดับที่แน่ชัดของมัน แต่จากความเข้าใจของฉัน มันอยู่ในระดับสูงของอาณาจักรนภาอย่างแน่นอน" หลี่ชิงหยุนเลือกที่จะบอกนางเกี่ยวกับอาณาจักรนภา เพราะด้วยร่างกายพิเศษของนาหลันเสี่ยวฉีรวมเข้ากับทักษะบ่มเพาะนี้ ไม่น่าจะใช้เวลานานเกินไปสำหรับนางที่จะเข้าสู่ระดับลมปราณลึกซึ้ง เมื่อถึงเวลานั้นนางอาจจะกลายเป็อัจฉริยะที่เป็ที่้าจากนิกายหลักของอาณาจักรนภาอย่างแน่นอน