วันแห่งความโกลาหลสะท้านฟ้าะเืดินผ่านไปแล้ว หานรุ่ยได้ให้กำเนิดฝาแฝดซวงเอ๋อร์อย่างปลอดภัย สำหรับเด็กสองคนนี้ จุนห่าวทั้งรักและทะนุถนอม ถ้ามีเวลาเขาจะอุ้มลูกไว้ในอ้อมอกเสมอ ยามนี้จุนห่าวอุ้มลูก จนคุ้นชินขึ้นเรื่อย ๆ จากการฝึกอุ้มบ่อยครั้ง
หานรุ่ยนอนเอนกายบนเตียงพลางมองจุนห่าวที่อุ้มลูกอีกครั้ง อีกคนหนึ่งอุ้ม อีกคนหนึ่งโอบไว้ที่อ้อมแขน เด็กทั้งสองถูกจุนห่าวทำให้หัวเราะ หานรุ่ยเอ่ยขึ้นว่า “จุนห่าว เ้าให้พวกเขาอยู่ในเปลไกวเถอะ ไม่ต้องอุ้มพวกเขาตลอดเวลาหรอก พวกเขาจะถูกเ้าตามใจจนติดเป็นิสัยเอา ถ้าไม่อุ้ม เขาก็จะไม่ยอมนอนนะ” จุนห่าวทำเปลไกวคนละเปลให้ลูกทั้งสอง เริ่มแรกเด็ก ๆ ชอบเปลไกวมาก แค่แกว่งไปแกว่งมา ก็อารมณ์ดีแล้ว ทว่าเวลานี้ไม่แล้ว พอเห็นคนก็อยากให้อุ้ม ถ้าไม่อุ้มก็จะร้องงอแง พอร้องงอแงจุนห่าวก็ทำใจไม่ได้
“ไม่เป็ไร ถึงพวกเขาไม่หลับไม่นอน ข้าก็จะอุ้มพวกเขาจนหลับเอง อาศัย่ที่เขายังเด็ก ข้าต้องอุ้มให้มากหน่อย เพราะถ้าพวกเขาโตขึ้น ข้าอยากจะอุ้ม พวกเขาก็คงไม่ให้ข้าอุ้มแล้ว ไม่เหมือนยามนี้ที่ข้าอยากอุ้มเท่าไหร่ก็ได้อุ้ม” จุนห่าวกล่าวพลางมองพวกเขาอย่างรักใคร่เอ็นดู นี่คือลูกของเขา เขามองอย่างไรก็ไม่พอ และเป็สิ่งหายากยิ่ง
จุนห่าวเงยหน้าขึ้นมองหานรุ่ยและพูดว่า “เสี่ยวรุ่ย เ้าคงไม่หึงใช่ไหม เ้าวางใจได้เลย ข้ารักเ้าที่สุดอยู่แล้ว”
เมื่อได้ฟังจุนห่าว หานรุ่ยก็หมดคำพูด เขาหมายถึงอย่างนั้นหรือ? ต่อให้เขาหึง เขาก็คงไม่หึงลูก ๆ หรอก พวกเขาคือสิ่งที่เขาอุ้มท้องมา 10 เดือน และจุนห่าวก็รักพวกเขา ไม่มีสิ่งใด ที่จะมีความสุขไปกว่านี้แล้ว แม้ว่าจะเชื่อมโยงกับจุนห่าวทางสายเืก็จริง ทว่าตอนที่อุ้มท้องลูก ๆ กลับไม่ใช่จุนห่าวในตอนนี้ พอได้เห็นจุนห่าวรักพวกเขาขนาดนี้ หานรุ่ยเองก็วางใจ
“ข้าเกรงว่าเ้าจะตามใจจนเสียคน เกรงว่าจากนี้ไปลูกทั้งสองจะกลายเป็เด็กที่เอาแต่ใจ ถึงตอนนั้นคงทำเ้าปวดหัวเป็แน่ กล่าวกันว่ามารดาจะรักและปกป้องลูกจนเกินไป แต่กลับเป็พ่ออย่างเ้าที่รักและปกป้องลูกเกินไปเสียเอง” หานรุ่ยพูดกับจุนห่าว จุนห่าวคงไม่อาจเป็พ่อที่เข้มงวดได้ และคงมีแค่เขาที่จะกลายเป็คนดุในสายตาลูก พ่อแม่ต้องมีบทบาทต่างกัน คนหนึ่งเล่นบทไม้แข็ง อีกคนต้องเล่นบทไม้อ่อน มิฉะนั้นจะสั่งสอนลูกไม่ไหวเอา
“ไม่มีทาง ข้ารู้อยู่แก่ใจ ลูกของเราจะเติบโตมาเป็เด็กดีแน่ เ้าวางใจเถอะ พวกเขาจะไม่ถูกตามใจจนหยิ่งผยองหรอก” จุนห่าวกล่าว แม้เขาจะเอ็นดูลูก แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่แยกไม่ได้ว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ เขารู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว เขาจะสอนให้ลูกเป็เด็กที่ดีและซื่อสัตย์
เมื่อมองดูความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมของจุนห่าว หานรุ่ยรู้ว่าไม่ดีแน่ หากยังยืนหยัดที่จะสู้กับเขา จากนี้ก็มีเขาที่คอยดูแลแล้ว จึงกล่าวขึ้นว่า “พรุ่งนี้ พวกเขาจะครบหนึ่งเดือนแล้ว เ้ายังไม่ได้ตั้งชื่อให้พวกเขาเลย พวกเราได้แต่เรียกว่าลูกใหญ่กับลูกรอง เ้ารีบตั้งชื่อให้พวกเขาเถอะ”
จุนห่าวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและเอ่ยขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้นเรียกว่า ‘จุนตง’ กับ ‘จุนหนาน’ ละกัน จำง่ายดี หากมีลูกอีก ก็ตั้งชื่อว่า จุนซีกับจุนเป่ย แค่ฟังก็รู้เลยว่าพวกเขาคือพี่น้องกัน”
หานรุ่ย: ได้ ถ้าอย่างนั้นเรียกว่า จุนตงกับจุนหนาน ชื่อก็แค่รหัสอย่างหนึ่ง ขอแค่จุนห่าวชอบก็พอแล้ว
“เ้าจุน อยู่หรือไม่” มีเสียงเรียกที่ดังมาจากหน้าประตู
เมื่อจุนห่าวได้ยินเสียงนั้น ไม่ต้องดูก็รู้ว่าใครมา “เดี๋ยวข้าจะไปเปิดประตู ต้องเป็ท่านลุงโจวแน่ ท่านลุงโจว คือ คนนำทางที่ข้าเคยเล่าให้เ้าฟัง ่นี้เขาช่วยข้าไว้เยอะเลย เขาต้องรู้ว่าเ้าคลอดลูกแล้วเป็แน่ คงมาดูเด็ก ๆ เป็คนที่อัธยาศัยดีคนหนึ่งนะ”
“ถ้าอย่างนั้นเ้ารีบไปเถอะ อย่าให้ท่านลุงรออย่างใจจดใจจ่อเลย” หานรุ่ยกล่าว
หลังจากที่หานรุ่ยพูดจบ จุนห่าวจึงเดินไปทางประตูใหญ่ พลางเดินไปพูดไปว่า “ข้าอยู่ ท่านลุงรอสักประเดี๋ยว เดี๋ยวข้าจะรีบเปิดประตูให้”
จุนห่าวเปิดประตู เขาเห็นท่านลุงโจวถือตระกร้าใส่ไข่หนึ่งใบอยู่หน้าประตู จึงเอ่ยขึ้นว่า “ท่านลุง ท่านอุตส่าห์มา ยังถือของอะไรมาอีก รีบเข้ามาเถอะ” เมื่อกล่าวจบ ก็พลางปิดประตู และต้อนรับท่านลุงเข้ามา
“ข้าได้ยินว่าภรรยาซวงเอ๋อร์ของเ้าคลอดบุตรแล้ว จึงมาเยี่ยม ไข่ไก่เหล่านี้เป็ของจากบ้านข้า ไม่ได้มากมายอะไรหรอก” ลุงโจวกล่าวพร้อมนำตระกร้ามอบให้จุนห่าว เมื่อมีเด็กถือกำเนิดในหมู่บ้าน เพื่อนบ้านก็จะนำไข่มามอบให้
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะรับไว้ ขอบคุณท่านลุงโจวมาก ่นี้ท่านลุงช่วยข้าไม่น้อยทีเดียว แต่ข้ายังไม่มีอะไรตอบแทนท่านเลย” จุนห่าวพูดขึ้น
“ยามนี้พวกเราเป็คนบ้านเดียวกัน เพื่อนบ้านก็ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันสิ ไม่ต้องอะไรมากมายหรอก” ลุงโจวกล่าวพลางยิ้ม
“ท่านลุงโจวมาเยี่ยม แล่วยังนำของมาให้อีกหรือ” หานรุ่ยได้ยินเสียงพูดคุย จึงอุ้มเด็กทั้งสองออกมาจากห้องนอน เห็นไข่ในตระกร้าก็รู้เลยว่าลุงนำมาให้
“เ้าคือภรรยาของเ้าจุนใช่ไหม นี่เป็ครั้งแรกที่ข้าได้พบเ้าเลย” ลุงโจวมองหานรุ่ย และแอบคิดในใจว่า คิดไม่ถึงเลยว่าเ้าจุน เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเยี่ยงนี้ จะแต่งงานกับภรรยาที่ขี้เหร่ถึงเพียงนี้ ขี้เหร่กว่าคนในหมู่บ้านพวกเขาเสียอีก
“ข้ามาใน่ที่ใกล้คลอดแล้ว จึงไม่ได้ออกไปไหน หลังคลอดจุนห่าวก็บังคับให้ข้าอยู่แต่ในห้อง เพื่อพักร่างกายอยู่เดือนหนึ่ง เขาบอกว่า ทำแบบนี้ถึงจะดีต่อร่างกาย” หานรุ่ยเอ่ยขึ้น จุนห่าวกล่าวว่าผู้คนในบ้านเกิดของเขา หลังคลอดบุตรต้องอยู่ไฟให้ครบเดือน หานรุ่ยไม่เข้าใจว่าอะไรคือการอยู่ไฟ บนแผ่นดินชางหลานหลังคลอดบุตรแล้ว จะทำอะไรก็ได้ เพราะจุนห่าวหวังดีต่อเขา เขาจึงทำตามคำขอของจุนห่าว และอยู่แต่ในห้องมาหนึ่งเดือน พรุ่งนี้ก็จะครบหนึ่งเดือนแล้ว เขาจะสามารถออกจากห้องได้แล้ว แต่ในหนึ่งเดือนมานี้ เขาได้บำเพ็ญเพียรจนพลังปราณของเขาได้ทะลวงจากขั้นที่หนึ่งเข้าสู่ขั้นที่สอง และอยู่ระดับเดียวกับจุนห่าวแล้ว
“แบบนี้นี่เอง นี่คือลูกของพวกเ้าใช่ไหม? น่ารักน่าชังยิ่งนัก หน้าพิมพ์เดียวกันเลย หน้าตาเหมือนเ้าจุนมาก” ลุงโจวเอ่ยขึ้น ในใจคิด เด็กสองคนนี้ มีรูปโฉมงดงามกว่าแม่ของเขามากนัก
ลุงโจวอยู่เพียงครู่หนึ่ง ก็ลากลับ จุนห่าวเดินไปส่งเขาที่ประตู พลางบอกกับลุงโจวว่า ถ้าว่างก็มาหาบ่อย ๆ