ในทวีปัเพลิง ัคือสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย และสำหรับมารอสูรที่มีสายสัมพันธ์เกี่ยวดองกันกับัแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ถือว่ามีความแข็งแกร่งเช่นเดียวกัน
สไปโนซอรัสเป็สิ่งมีชีวิตที่เป็ญาติสายเืห่างๆ ของั แท้จริงแล้วมันคือักับสัตว์ชนิดใดผสมพันธุ์กันเกิดขึ้นมานั้นไม่มีใครทราบได้และไม่มีทางที่จะศึกษาค้นคว้าได้ แต่สไปโนซอรัสนั้นแข็งแกร่งจริงอย่างไม่ต้องสงสัย เป็ถึงมารอสูรระดับหกขั้นสูงสุดเกือบจะถึงระดับเจ็ด พลังการโจมตีของมันแต่ละครั้งเทียบได้กับผู้มีพลังฝีมือระดับขั้นสูงสุดของขอบเขตเยี่ยมยุทธ์ แถมยังมีหนามพิษขนาดใหญ่อีกสิบสองแท่งที่อยู่บนแผงหลังของมัน ต่อให้เป็ผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตนักรบเมื่อพบเจอก็ไม่อยากที่จะตอแยด้วย
ตอนนี้พลังฝีมือของเย่ชิงหานอยู่ที่ระดับแรกของขอบเขตยอดยุทธ์ ห่างจากระดับสองอีกพอสมควร ส่วนเสี่ยวเฮยแม้จะเทียบได้กับอสูรศักดิ์สิทธิ์ แต่ว่ายังอยู่ใน่ระยะอ่อนแอจึงทำอะไรไม่ได้มากนัก
“ลูกพี่จับให้ดีๆ ข้าจะเพิ่มระดับความเร็วขึ้น”
เสี่ยวเฮยส่งกระแสเสียงเสร็จก็เงียบไปไม่พูดสิ่งใดต่อ มันเพิ่มระดับความเร็ววิ่งลัดเลาะไปภายในป่า ส่วนสไปโนซอรัสที่ไล่ตามหลังมา ตามทางที่มันวิ่งผ่านต้นไม้น้อยใหญ่ล้วนล้มระเนระนาดลงกับพื้น เสียงแผดร้องคำรามของมันสั่นะเืจนใบไม้ลอยปลิวว่อน ฝูงนกกามากมายพากันแตกตื่นร้องกันเกรียวกราว
“เสี่ยวเฮยไปทางด้านขวา ทางนั้นต้นไม้ค่อนข้างหนาทึบ หากไปตามทางโล่งระดับความเร็วของเ้าสู้มันไม่ได้”
เย่ชิงหานกอดคอเสี่ยวเฮยแน่นร่างกายทั้งหมดแนบไปกับลำตัวของมัน ข้างหูแว่วเสียงลมหวีดหวิวและเสียงแผดร้องคำรามของสไปโนซอรัสที่ยิ่งใกล้เข้ามาทุกที เขากวาดตามองภูมิประเทศโดยรอบจากนั้นร้องะโบอกไปยังข้างหูของมัน
อสูรกลืนิญญาเสี่ยวเฮยขนาดตัวเท่าลูกวัวดวงตาทอประกายเยือกเย็น เมื่อได้ยินเสียงที่เย่ชิงหานร้องบอก มันลดหัวต่ำลงเล็กน้อยหันไปมองทางด้านซ้ายมือคราหนึ่งแล้วเลี้ยวไปอย่างเหมาะเจาะโดยที่ไม่มีอาการสะดุดหรือความเร็วลดลงแม้แต่น้อย จากนั้นจึงมุดหายเข้าไปในป่าทางด้านซ้าย
ฟิ้ว! ฟิ้ว!
อสูรกลืนิญญาเสี่ยวเฮยพุ่งทะยานไปดุจดั่งสายลม ลัดเลาะไปในหมู่แมกไม้อย่างไม่หยุดยั้ง ระดับความเร็วบรรลุถึงระดับที่น่ากลัว
สไปโนซอรัสที่ไล่ตามอยู่ข้างหลังยิ่งโกรธเกรี้ยวมากขึ้นกว่าเก่า หากเปรียบเทียบด้านความเร็วเสี่ยวเฮยช้ากว่านิดหน่อย แต่เสี่ยวเฮยร่างกายคล่องแคล่ว ดังนั้นการะโ การเลี้ยวล้วนทำได้อย่างสวยงามไม่ติดขัดความเร็วจึงไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด ต่างกับสไปโนซอรัสที่ร่างกายใหญ่โตแถมยังวิ่งอยู่ในป่าไม้ที่หนาทึบทำให้มันแสดงศักยภาพออกมาได้ไม่เต็มที่ ด้วยเหตุนี้ระดับความเร็วของทั้งสองฝ่ายจึงตกมาอยู่ในระดับเดียวกัน ระยะห่างจึงยังคงอยู่ในระหว่างหนึ่งกิโลเมตรไม่เปลี่ยนแปลง
“บิดาเ้าเถอะ! ไอ้สไปโนซอรัสตัวนี้ทำไมมันถึงไล่ตามพวกเราไม่ปล่อยเลย? เนื้อข้ามันไม่ได้อร่อยขนาดนั้นสักหน่อย” วิ่งหนีอย่างสุดชีวิตมาเกือบจะห้านาทีแล้ว แต่เ้าสไปโนซอรัสตัวนั้นกลับยังไล่ตามอย่างไม่ลดละ ราวกับว่าถ้าไม่ฆ่าพวกเขาให้ตายจะไม่ยอมเลิกรา ในใจเย่ชิงหานรู้สึกร้อนรนและอับจนปัญญาจึงด่าออกมาอย่างมีโทสะ
“เนื้อของข้าอร่อย! ความทรงจำที่ได้รับมาจากพลังทางเผ่าพันธุ์กล่าวไว้ว่า เผ่าพันธุ์ของข้ากับัเป็ศัตรูคู่อาฆาตกัน เมื่อพบเจอต้องฆ่าให้ตายกันไปข้างหนึ่ง” อสูรกลืนิญญาเสี่ยวเฮยที่วิ่งอย่างเงียบๆ อยู่นานในที่สุดก็ส่งกระแสเสียงพูดขึ้นมา
ไม่ตายไม่ยอมเลิกรา!
อสูรกลืนิญญา เผ่าพันธุ์อสูรที่แปลกประหลาดที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนกลับเป็ศัตรูคู่อาฆาตกับั คาดว่าคงต้องแข็งแกร่งไม่แพ้ัอย่างแน่นอน
ต้องหาทางสลัดมันให้หลุด ไม่งั้นได้จบเห่จริงๆ แน่ ระยะเวลากลายร่างของเสี่ยวเฮยคงอยู่ได้แค่สองชั่วโมง บวกกับก่อนหน้าที่ฆ่าแรดนอเดียวจนถึงตอนนี้ใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงกับอีกยี่สิบนาทีแล้ว
สี่สิบนาที ถ้าหากหลังจากสี่สิบนาทีแล้วยังสลัดมันไม่หลุดสิ่งที่รอคอยเขากับเสี่ยวเฮยอยู่ก็คือความตาย เย่ชิงหานคิดคำนวณเงียบๆ ภายในใจ ทันใดนั้นดวงตาของเขาพลันเปล่งประกายแห่งความหวังขึ้น
“เสี่ยวเฮย เลี้ยวไปทางขวา พวกเราไปถิ่นของฝูงหมาป่าเพลิงกัน”
.................................
เขตแดนรอบนอกของเทือกเขา
ชายชุดดำจำนวนหกคนกำลังเดินทางอย่างเร่งรีบ ทั้งหกคล้ายกำลังเสาะหาบางสิ่งอยู่ พวกเขาไม่ได้สนใจต่อมารอสูรหรือผู้ล่าที่พบเจอตามเส้นทางที่ผ่านมาเลยแม้แต่น้อย ทั้งหกโคจรพลังปราณรบเตรียมพร้อมอยู่ตลอด ไม่ว่ามารอสูรหรือผู้ล่าเมื่อััได้ถึงการมาของพวกเขาต่างพาหนีตายกันอย่างกระเซอะกระเซิง
ทันใดนั้นชายชุดดำที่อยู่ด้านหน้าหยุดชะงักลง อีกห้าคนที่อยู่ด้านหลังก็พลอยหยุดชะงักลงตามไปด้วย เขาหันกลับมาพูดกับชายชุดดำอ้วนเตี้ยด้วยเสียงต่ำว่า “รีบเร่งเดินทางมาก็นานแล้ว คิดว่าน่าจะเข้าใกล้เป้าหมายแล้วล่ะ หนิวจินเ้าตรวจสอบดูหน่อยว่าเป้าหมายอยู่ทิศทางใด”
“ได้ขอรับนายท่านเสว่อี”
ชายร่างอ้วนเตี้ยที่มีชื่อว่าหนิวจินก้มหัวลงตอบรับอย่างนอบน้อม พูดจบจึงรีบนั่งลงในท่าสมาธิอย่างรวดเร็ว
อย่างไม่ต้องสงสัย คนชุดดำทั้งห้าก็คือหน่วยองครักษ์มืดของเสว่อู๋เหินที่ถูกส่งมาให้จับกุมตัวเย่ชิงหาน ห้าคนบวกกับลูกสมุนของพ่อบ้านหลิว หนิวจิน ทั้งหกเข้ามายังเทือกเขาได้เป็เวลาหลายวันแล้ว
ก่อนหน้านี้หนึ่งเดือนหนิวจินได้รับคำสั่งจากพ่อบ้านหลิวให้ฝังแมลงอำพรางที่ใช้ในการติดตามไว้บนตัวเย่ชิงหาน แมลงชนิดนี้มีขนาดตัวพอๆ กับตัวหมัด เวลาปกติจะเกาะอยู่ตามเส้นผมบนศีรษะของคน นอกเสียจากว่าเย่ชิงหานจะโกนหัวหรือตัดผมทั้งหมดทิ้งไป หาไม่แล้วแมลงชนิดนี้จะไม่ร่วงหล่นเพราะถูกลมพัดหรือการสระผมอย่างแน่นอน นี่คือเคล็ดวิชาลับที่มีเฉพาะในตระกูลเสว่
“เรียนนายท่านเสว่อี ข้าััได้ว่าตำแหน่งปัจจุบันของเป้าหมายอยู่เขตแดนรอบนอกของเทือกเขาและกำลังมุ่งหน้าตรงเข้ามาหาพวกเรา คาดคะเนจากระดับความเร็วของพวกเราในตอนนี้ ไม่น่าจะเกินครึ่งชั่วโมงคงได้พบกันพอดี”
หลังจากหนิวจินนั่งโคจรวิชาผ่านไปชั่วครู่ก็ลืมตาขึ้นแล้วพูดออกมาอย่างยินดี
เสว่อีกวาดตามองครั้งหนึ่ง สายตาปรากฏแววเ็าพูดขึ้น “อ้อ? นรกไม่มีประตูกลับยังจะฝ่าเข้ามา เสว่เอ้อเ้าฝีมือสูงกว่าเขารับผิดชอบพาหนิวจินนำทางไป วันนี้จับเป้าหมายกลับไปให้ได้ ยิ่งกลับไปเร็วยิ่งดี ข้าไม่อยากจะอยู่ในสถานที่บ้านี้อีกแม้แต่วินาทีเดียว”
“รับทราบ พี่ใหญ่!” ชายชุดดำที่อยู่ข้างๆ พูดตอบรับเตรียมที่จะพาหนิวจินนำทางไป แต่ไม่คาดคิดว่าหนิวจินกลับโบกมือพูดขึ้น “นายท่านเสว่อี แน่นอนว่าหากพวกเรามุ่งหน้าตรงไปยังเส้นทางนี้จะได้พบกับเป้าหมาย แต่ว่าด้านหน้าคือถิ่นที่อยู่อาศัยของฝูงหมาป่าเพลิง ข้าเกรงว่าพวกเราจะเจอกับเื่ยุ่งยากเข้า”
“หมาป่าเพลิง? มารอสูรระดับสี่!” เสว่อีคิ้วขมวดแน่นแสดงสีหน้าไม่พอใจ “มีประมาณกี่ตัว?”
“แปดสิบถึงร้อยตัว” หนิวจินตอบตามความเป็จริง
“ออกเดินทาง” เสว่อีพอได้ยินสายตาปรากฏแววไม่ยี่หระ หมาป่าเพลิงร้อยตัวแม้จะยุ่งยากสักหน่อย แต่ถ้าตนเองอยากจะลงมือฆ่าจริงๆ ละก็ เพียงห้าคนก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการทั้งฝูง ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลโบกมือทำสัญญาณให้ทุกคนออกเดินทางต่อไป
.................................
“เสี่ยวเฮยเ้ายังทนได้อีกนานเท่าไร?”
เย่ชิงหานที่อยู่บนหลังของเสี่ยวเฮยสีหน้าในตอนนี้ดูไม่ดีเป็อย่างมาก แต่ไม่ว่าใครก็ตามหากถูกสไปโนซอรัสที่น่ากลัวเช่นนี้ไล่ล่าเป็เวลานานกว่าชั่วโมง สีหน้าและอารมณ์ก็คงจะไม่ต่างจากเย่ชิงหานในตอนนี้อย่างแน่นอน
"มากสุดสิบนาที จากนั้นก็ขึ้นอยู่กับท่านแล้วล่ะ" อสูรกลืนิญญาเสี่ยวเฮยแม้จะเริ่มหายใจหอบออกมาแต่ก็ยังวิ่งในระดับความเร็วเช่นเดิม เพราะมันรู้ดีว่าหากเย่ชิงหานตายไปมันก็จะต้องตายไปด้วยเนื่องจากทั้งสองมีพันธแห่งิญญาด้วยกัน ด้วยเหตุนี้ถึงแม้ตัวมันจะถึงขีดจำกัดแล้วก็ตามแต่ก็ยังฝืนวิ่งต่อไปอีกสิบนาที
“สิบนาที? เพียงพอแล้ว” มองเห็นภูมิประเทศและูเาที่อยู่ห่างไกลออกไปที่คุ้นตา เย่ชิงหานรู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อยหนึ่ง เหล่านักเสี่ยงภัยเรียกูเาลูกนั้นว่าูเาหมาป่าเพลิง ภายในเป็ที่อยู่อาศัยของฝูงหมาป่าเพลิงกว่าร้อยตัว หมาป่าเพลิงมารอสูรระดับสี่ เนื่องจากว่าพวกมันสามารถพ่นลูกไฟออกมาได้จึงถูกเรียกว่าหมาป่าเพลิง
หมาป่าเพลิงเพียงตัวเดียวอาจจะยังไม่น่ากลัว แต่ถ้าเป็หมาป่าเพลิงทั้งฝูงละก็เรียกได้ว่าน่ากลัวเป็อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมาป่าเพลิงสามัคคีกันมาก ขอเพียงตัวใดตัวหนึ่งถูกโจมตีตัวที่เหลือก็จะกรูกันเข้ามาช่วยโดยการพ่นลูกไฟจำนวนนับไม่ถ้วนโจมตีใส่ศัตรู หากผู้ฝึกยุทธ์คนใดที่พลังฝีมือไม่ถึงระดับขอบเขตเยี่ยมยุทธ์ ไม่สามารถแผ่พลังปราณรบให้ล้นออกมาภายนอกเพื่อสร้างเป็เกราะป้องกันได้ เมื่อถูกฝูงหมาป่าเพลิงรุมโจมตีใส่ จุดจบก็คงมีแค่ความตายเท่านั้นที่รออยู่
ไม่เพียงแค่นั้น ตามที่เล่าลือกันหัวหน้าฝูงหมาป่าเพลิงคือมารอสูรระดับห้าขั้นสูงสุด ลูกไฟที่พ่นออกมาสามารถละลายพลังปราณรบที่สร้างเป็เกราะป้องกันได้ และยังสามารถสังหารผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตเยี่ยมยุทธ์ให้ตายได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นูเาหมาป่าเพลิงสำหรับผู้ฝึกยุทธ์ระดับต่ำที่อยู่ภายในเทือกเขารกร้างถือว่าเป็สถานที่ต้องห้ามที่ไม่ควรเหยียบย่างเข้าไป
เย่ชิงหานตอนนี้อยู่ในระดับขอบเขตยอดยุทธ์ ระยะเวลาที่เสี่ยวเฮยกลายร่างก็ใกล้จะหมดลงไปทุกที ดังนั้นูเาหมาป่าเพลิงสำหรับเขาก็ถือว่าเป็สถานที่ต้องห้ามเช่นเดียวกัน แต่ทว่าตอนนี้เขากลับอดใจรอแทบไม่ไหวที่จะเข้าไปภายในูเาหมาป่าเพลิงให้เร็วที่สุด อยากจะรีบเข้าไปกล่าวทักทายพวกลูกสัตว์หมาป่าที่พ่นไฟได้พวกนั้นว่า...เฮ้! เด็กๆ ที่น่ารัก ข้ามาแล้ว
เพราะว่าไอ้ั์ด้านหลังที่วิ่งไล่กวดมานั่นยังน่ากลัวกว่าหมาป่าเพลิงเป็สิบๆ เท่า มันก็จริงที่หมาป่าเพลิงจะค่อยๆ ย่างสดตนเองจนไหม้เกรียม แต่ก็ยังดีกว่าไอ้ั์นั่นที่จะบดขยี้ให้ตายในคราเดียวเสียอีก
“ลูกพี่ที่เหลือขึ้นอยู่กับท่าน ข้าต้องกลับไปพักแล้ว” มองดููเาหมาป่าเพลิงที่อยู่ใกล้แค่ปลายจมูก เย่งชิงหานพยักหน้าตอบรับอย่างหนักหน่วงแล้วะโลงจากหลังเสี่ยวเฮย ทำการโคจรพลังปราณรบจนถึงขีดสุด จังหวะก้าวเท้าหนักแน่นมีพลังรุดหน้าตรงไปยังูเาหมาป่าเพลิง เสี่ยวเฮยหอบหายใจยาวออกมาหลายครั้งก่อนจะกลายเป็ควันสีเขียวมุดหายเข้าไปยังมิติสัตว์อสูรภายในร่างของเย่ชิงหานเพื่อพักผ่อน
หลังจากที่เข้ามาภายในเขตูเาหมาป่าเพลิง เย่ชิงหานก็ลดระดับความเร็วของฝีเท้าลงจนเกือบจะเรียกได้ว่าคล้ายกับโจรย่องเบาที่กำลังขึ้นบ้านเหยื่อเพื่อขโมยสิ่งของ เขาะโจากต้นไม้นี้ไปยังต้นไม้อีกต้นอย่างแ่เบาราวกับแมวดาวที่ออกล่าในยามค่ำคืน
“โฮก!”
“บรู๊ว! บรู๊ว!”
สไปโนซอรัสที่ตามมาด้านหลังกระโจนเข้ามาภายในูเาหมาป่าเพลิงอย่างไม่ลังเล กลิ่นอายของความดุร้ายป่าเถื่อนพลันกระตุ้นความไม่พอใจของผู้เป็เ้าของูเาอย่างหมาป่าเพลิงขึ้น ภายในหุบเขาดังระงมไปด้วยเสียงเห่าหอนของหมาป่าที่ไม่ยินยอมต่อผู้ที่บุกรุกเข้ามา