ไม่เคยคิดเลยว่าจางเจียอี้จะกล้าแสดงท่าทีเช่นนี้กับตัวเองสีหน้าของสวีย่าดูน่าเกลียดขึ้นมาทันที มือกุมโทรศัพท์และมองไปที่กู้หลานอันอย่างลำบากใจแล้วพูดว่า “หลานอันคะ คุณคิดว่า...”
“ไม่เป็ไร เธอบอกเขาไปว่าเธอสามารถหาตัวแสดงแทนได้” กู้หลานอันกล่าว
“ฉันหาตัวแสดงแทนเองได้ ไม่ทำให้การถ่ายทำล่าช้าแน่นอน” สวีย่ากล่าว
“งั้นก็ได้ อีกเดี๋ยวให้ตัวแสดงแทนที่เธอหาได้มาเจอฉันหน่อยอย่าให้แย่เกินไปนักนะ” จางเจียอี้สั่งจบก็วางสายไป
“ตอนนี้สบายใจแล้วสิ” สวีย่าวางสายแล้วมองกู้หลานอันอย่างงอนๆ
“สบายใจแล้ว สวีย่าเธอเยี่ยมมากฉันตัดสินใจที่จะชอบเธอั้แ่วันนี้เป็ต้นไป” กู้หลานอันกล่าวอย่างอารมณ์ดี
“จริงเหรอคะ? ถ้าอย่างนั้นคุณต้องรีบชอบฉันเร็วๆนะคะ” สวีย่าพูดด้วยรอยยิ้ม
“ต้องชอบแน่นอน”
เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว กู้หลานอันก็ี้เีจะคุยกับเธออีกยืดตัวขึ้นแล้วกล่าวลา “ฉันยังมีธุระต่อ ฉันขอตัวไปก่อนเื่ของตัวแสดงแทนฉันจะไปคุยกับจางเจียอี้เอง เธอก็ไม่ต้องกังวลนะ”
“ได้ค่ะ” สวีย่าพยักหน้าจับชายเสื้อไว้แน่นแล้วพูดว่า “หลานอันคะคืนนี้คุณว่างไหม? ไปกินข้าวด้วยกันนะ”
“ไม่ว่าง ค่อยนัดกันทีหลังนะ” กู้หลานอันยิ้มอย่างมีเสน่ห์หันหลังจากไปอย่างสง่างาม
เมื่อเห็นเขาเดินไปไกลแล้วสวีย่าก็หัวเราะอยู่ในลำคอล้วงโทรศัพท์ออกมาโทรหาผู้จัดการ “ฮัลโหล อาซาเมื่อครู่เธอถ่ายรูปฉันตอนคืนเสื้อให้กู้หลานอันได้รึเปล่า? ”
“ถ่ายได้” อาซากล่าว “ฉันซ่อนตัวอยู่และถ่ายได้หลายใบเลย”
“ทำได้ดีมาก ส่งให้ฉันหน่อย แล้วเดี๋ยวเอาไปโพสต์บนอินเทอร์เน็ต”
หลังจากเจอจางเจียอี้ก็พบว่าเขากำลังยุ่งมากๆ กู้หลานอันลูบหน้าเดินเข้าไปนั่งใกล้เขาบนเก้าอี้ด้วยท่าทางไม่สบายใจ แล้วพูดว่า “ผู้กำกับจาง สวีย่าให้ผมมาหาคุณ”
“หาผมทำไม? ” จางเจียอี้งุนงง
“เพื่อให้คุณตรวจสอบสินค้า” กู้หลานอันพูดพลางใช้มือปัดผมที่ปรกหน้าผากที่ไม่ได้ยาวนักขึ้น
“ตรวจสอบสินค้า? ตรวจสอบสินค้าอะไร? ” จางเจียอี้รู้สึกสับสนงุนงง
“ตัวแสดงแทนไง! ก็เนื่องจากแฟนของยัยสวีย่านั่น ไม่อยากให้เธอแสดงฉากจูบจึงต้องควานหาตัวแสดงแทนไปทั่วทุกสารทิศเลยไม่ใช่เหรอครับ? เธอเห็นว่าหุ่นของผมกับของเธอใกล้เคียงกันก็เลยมาขอร้องผม ผมเลยรับปากไป” กู้หลานอันพูดหน้าตายและไม่หวาดหวั่น
“อะไรนะ? ” จางเจียอี้ใจนเกือบล้มหงายหลังไป “เธอจะเป็ตัวแสดงแทนของสวีย่า?!!”
“ใช่ ทำไมเหรอครับ? ” กู้หลานอันถามกลับอย่างไม่เข้าใจแล้วก็พูดขึ้นอีกว่า “อันที่จริงแล้วผมก็ไม่ได้เต็มใจขนาดนั้นแต่สวีย่ากับผมก็อยู่บริษัทเดียวกัน ผมก็สนิทกับเธอค่อนข้างมากอีกอย่างเธอก็เป็สาวงาม เธอมาขอให้ผมช่วยทั้งที ผมก็ยากที่จะปฏิเสธจริงๆ ”
“ประเด็นไม่ใช่ตรงนี้” จางเจียอี้มองดูเขา “ในเวลาแบบนี้นายจะเต็มใจหรือไม่ก็ไม่สำคัญแล้วยังไงก็หาคนอื่นมาไม่ทันสำคัญที่ว่า ไม่ว่ายังไงเธอก็จะเป็ตัวแสดงแทนของสวีย่าใช่ไหม? แม้ว่าจะเป็เื่ปกติที่ผู้ชายจะเป็ตัวแสดงแทนผู้หญิงนอกจากเธอจะตัวสูงผอมบางใกล้เคียงกับพอๆ กับสวีย่าแล้วเธอยังมีทักษะการแสดงอีกด้วย แต่ว่าฉากที่เธอต้องแสดงแทนคือฉากจูบนะเธอคิดดีแล้วใช่ไหม? ”
“จูบก็จูบสิมีอะไรให้ต้องคิด ผู้ชายจูบกับผู้ชายก็เป็เื่ปกติจะตายแค่ปากประกบปาก คงไม่มีคนคิดไม่ดีหรอก” กู้หลานอันยักไหล่ไม่สนใจมองจางเจียอี้อยู่สักครู่ เข้าไปใกล้เขาแล้วพูดหยอกเขาว่า “ผู้กำกับจางคุณคุณพูดถึงเื่ฉากจูบขึ้นมาเป็พิเศษแบบนี้คุณกำลังคิดไม่ดีอยู่ใช่รึเปล่า? ”
“ไม่ ฉันไม่ได้คิดอะไรเลย” จางเจียอี้รีบปฏิเสธ “ฉันแค่กังวลว่าถ้าแม่เธอรู้เข้าจะได้ตำหนิลับหลังฉันน่ะสิว่าปล่อยให้ลูกชายของเธอมารับบทแสดงแทนแถมยังจูบกับผู้ชายอีกด้วย”
“ไม่เป็ไรครับ ผมไม่ให้เธอรู้แน่นอน คุณวางใจได้ แต่ถึงเธอจะรู้ผมก็จะไม่ปล่อยให้เธอตำหนิคุณหรอก” กู้หลานอันพูดรับประกัน
“งั้นก็ได้ เข้าห้องไปแต่งหน้าเถอะ แสดงให้ดีๆ ก็แล้วกัน”
“น้อมรับคำสั่ง”
การถ่ายทำเริ่มั้แ่เวลาเก้านาฬิกาเนื่องจากเกี่ยวกับเวลาในสถานที่ถ่ายทำดังนั้นฉากแรกที่ควรจะถ่ายทำก่อนอย่างฉากเซวียฉีซานขึ้นไปเก็บผักบนเขาแล้วเหยียบถูกขุนศึกซูหวนสิ่งที่นอนหมดสติาเ็สาหัสในพุ่มหญ้าและเธอก็ลากเขากลับบ้านถูกย้ายไปถ่ายทำทีหลังฉากหลังจากเซวียฉีซานลากซูหวนสิ่งกลับมาที่บ้านแล้ว เลื่อนมาถ่ายทำก่อน
ั้แ่เจาเยี่ยมาถึงจนกระทั่งเริ่มถ่ายทำก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของกู้หลานอันกับหวังเว่ยพลางคิดว่าเขาคงประสบอุปสรรคบ่อยจนยอมแพ้ไป เขายิ้มอ่อนในทันใดนอนลงบนเตียงไม้ที่ใช้ถ่ายทำ จนเสียงแอคชั่นของจางเจียอี้ดังขึ้นเขาก็เข้าสู่บทบาท
มีควันพวยพุ่งอยู่หน้าบ้านไม้หลังเก่าที่ดูทรุดโทรมเล็กน้อยแต่เป็ระเบียบเซวียฉีซานที่สวมเสื้อผ้าสามัญชนกำลังถือพัดแตกๆ หนึ่งเล่มพลางพัดไฟไปพลางเปิดดูโถยาไป เมื่อสียาดูใช้ได้แล้วเธอปาดเหงื่อแล้ววิ่งเข้าบ้านที่มีห้องอยู่เพียงห้องเดียวเป็บ้านที่ยืนมองจากนอกประตูก็เห็นเตียงได้เธอหยิบเศษผ้าจากบนโต๊ะแล้วยกโถยาเข้าบ้านไป จากนั้นก็เปิดฝาแล้วเทยาออกมาครึ่งถ้วยยกไปวางลงบนโต๊ะเล็กข้างเตียง หญิงสาวโน้มตัวไปบิดผ้าเช็ดหน้าจากอ่างด้านข้างเช็ดทำความสะอาดใบหน้าของซูหวนสิ่ง “ช่างหล่อเหลาและมีสง่าสมกับที่เป็เทพของชายองอาจ” เซวียฉีซานมองใบหน้าที่ขาวสะอาดของเขานิ้วมือข้างที่ว่างอยู่นั้นวาดไปบนใบหน้าทั้งห้าจุดของเขาที่เหมือนถูกแกะสลักออกมาจากมีดอย่างไรอย่างนั้นเมื่อเลื่อนมาถึงตรงมุมปากเธอก็อดใจที่จะชมออกมาไม่ได้
หลังจากชื่นชมอยู่นานเธอก็เอามือออก ประคองเขาให้ลุกขึ้นนั่งพิงกระดานเตียงแล้วหันกลับไปเทน้ำออกในขณะที่เธอหันหลังไปนั้น นิ้วมือของซูหวนสิ่งเริ่มขยับ ฉับพลันนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นจ้องไปยังด้านหลังของเธอ ดวงตาเต็มไปด้วยความระแวดระวัง ในระหว่างที่เธอหันกลับมาเขาก็ค่อยๆ ปิดตาลง
เมื่อเธอกลับเข้ามาและวางอ่างลงเรียบร้อย พลางแตะยาดูอุ่นกำลังพอดีเซวียฉีซานยกยามาแล้วตักขึ้นมาหนึ่งช้อนป้อนซูหวนสิ่ง แต่พอป้อนเข้าไปยาก็ไหลออกมา เธอกระวีกระวาดหาผ้ามาเช็ดเสื้อให้เขา แล้วก็ลองป้อนใหม่แต่ไม่ว่าจะพยายามกี่ครั้งเธอก็ล้มเหลวหมด เซวียฉีซานยอมแพ้แล้ว ลังเลอยู่ชั่วครู่จ้องมุมปากของซูหวนสิ่งแล้วพูดออกมาว่า “ที่ข้าทำนี่ก็เพื่อช่วยชีวิตท่านนะไม่ได้จะคิดจะเอาเปรียบท่านเลย” เธอยกถ้วยขึ้นมาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วป้อนยาทั้งหมดเข้าปากตัวเอง
“คัท! ”
เมื่อเสียงของจางเจียอี้ดังขึ้น หัวคิ้วของสวีย่าขมวดขึ้นมาทันทีมือปิดปากวิ่งออกจากห้องไป หาสถานที่ที่โล่งๆ แล้วคายยาทั้งหมดออกมา
“สวีย่า ไม่เป็ไรใช่ไหม? ” อาซาถามหลังจากหยิบน้ำมาจากผู้ช่วยฯ แล้วเปิดให้เธอ พลางตบหลังเธอด้วยความห่วงใย
“ยาขมขนาดนั้นเธอคิดว่าฉันจะเป็อะไรไหมล่ะ? ” สวีย่ารับขวดน้ำแร่มาบ้วนปากแล้วโยนแก้วน้ำลงพื้นลุกขึ้นมาพูดอย่างโกรธเคืองว่า “เมื่อกี้ฉันไม่ได้บอกให้พวกเธอไปกำชับกับฝ่ายอุปกรณ์เหรอว่าให้ใส่น้ำตาลให้ใส่น้ำตาลลงไป ทำไมมันยังขมขนาดนี้? พวกเธออยากให้ฉันทรมานตายใช่ไหม? ”
“ไม่ใช่นะ ฉันให้เสี่ยววาน (ผู้ช่วยฯ ของสวีย่า) ไปบอกแล้ว แต่เขาบอกว่าอันที่จริงแล้วมันเป็ยาก็ควรมีลักษณะของยาไว้ เลยไม่ได้เปลี่ยนให้”
“เขาพูดแบบนั้นเธอก็เลยไม่เปลี่ยนเหรองั้นถ้าเขาบอกให้เธอไปตายก็จะไปตายใช่รึเปล่า? ” สวีย่าถามกลับจ้องอาซาเขม็งแล้วพูดว่า “ไร้ประโยชน์จริงๆ ”
“ฉัน...” อาซาอึดอัดจนไม่กล้าพูด
ได้ยินจางเจียอี้ะโว่า “คัท” เจาเยี่ยพักอยู่สักครู่แล้วก็ลุกขึ้นนั่งอย่างสุภาพแล้วปล่อยให้ช่างแต่งหน้าเติมหน้า
“กู้หลานอันล่ะ? ถึงฉากของเขาแล้วทำไมยังไม่เห็นแม้แต่เงา? เขาคงไม่กลับคำขึ้นมาหรอกใช่ไหม? ” เจาเยี่ยเติมหน้าเสร็จแล้วก็ยังไม่เห็นกู้หลานอันแม้แต่เงาจางเจียอี้เลยเอียงศีรษะถามผู้ช่วยฯ เมื่อเจาเยี่ยได้ยินเขาก็หันสายตามาทางด้านนี้
“ไม่ครับเนื่องจากก่อนหน้าไม่มีการบอกว่าจะใช้ตัวแสดงแทนจึงไม่ได้เตรียมช่างแต่งหน้าเผื่อไว้กู้หลานอันจะแต่งหน้าต้องรอหลังสวีย่าแต่งเสร็จก่อนดังนั้นจึงทำให้การแต่งหน้าช้าไปบ้าง ตอนนี้เขาน่าจะอยู่ที่ห้องเปลี่ยนชุด” ผู้ช่วยฯ อธิบาย
