น้ำแกงตับหมูชามโตวางอยู่ตรงหน้าสวี่เยว่ เธอกำลังทำตัวน่ารักเรียกสวี่ต้าซานกับพี่ชายมากินด้วยกัน
สวี่ต้าซานกับพี่ชายต่างบอกว่าไม่กิน ยังบอกให้เธอรีบกินตอนร้อน ๆ ด้วย
สวี่เยว่เห็นสวี่ฮุ่ยกลับมา ก็พูดเสียงอ่อนเสียงหวานว่า “น้ำแกงตับหมูนี้ให้พี่สาวกินเถอะค่ะ เธอเสียเืไปเยอะ”
สวี่ฮุ่ยเพิ่งรินน้ำเย็นใส่แก้วให้ตัวเอง ยังไม่ทันได้ดื่ม พอได้ยินคำพูดเสแสร้งของสวี่เยว่ก็โมโหขึ้นมาทันที
ยกมือขึ้นสาดน้ำใส่หน้าเธอ “เธอหวังดีขนาดนั้นเชียว! ถ้าหวังดีจริง คงไม่ยุยงให้สวี่รั่วเฉินเข้าใจฉันผิดทันทีที่เขากลับมาหรอก!”
“ถ้าจะร้ายก็ร้ายให้สุด อย่ามาทำเป็ดอกบัวขาวต่อหน้าฉัน!”
“เสแสร้งอยู่ได้ ชอบเป็นางร้ายนักรึไง!”
สวี่เยว่น้ำตาคลอด้วยความน้อยใจทันที
สวี่รั่วเฉินรู้สึกว่าที่สวี่เยว่าเ็จนหัวแตกเป็เพราะเขา เขาจึงรู้สึกผิดต่อสวี่เยว่มาก
พอเห็นสวี่ฮุ่ย ‘รังแก’ สวี่เยว่ เขาก็ทุบโต๊ะลุกขึ้นยืน “สวี่ฮุ่ย เธออยากโดนตบหรือไง!”
สวี่ฮุ่ยไม่กลัวแม้แต่น้อย “ตบฉันสิ ฉันรับรองว่านายจะต้องได้รับผลที่ตามมาแน่!”
สวี่เยว่รีบดึงแขนสวี่รั่วเฉิน “พี่ชาย อย่าไปยั่วโมโหพี่สาวเลย พี่ลู่เขาเป็ตำรวจนะ”
สวี่รั่วเฉินจึงจำใจนั่งลงอย่างแค้นเคือง
สวี่ต้าซานพูดไกล่เกลี่ย หันไปบอกสวี่ฮุ่ยว่า “รีบล้างมือแล้วมากินข้าวเถอะ เหลือน้ำแกงตับหมูไว้ให้ลูกในหม้อแล้ว”
ตอนนั้นเอง ป้าหลิวก็ยกน้ำแกงปลาช่อนชามโตเข้ามาพอดี
พูดทันทีที่เข้ามา “ฮุ่ยฮุ่ย วันนี้หยงจื่อลูกชายป้าโชคดีมาก จับปลาช่อนได้ตัวหนึ่ง”
“เอาน้ำแกงปลาช่อนไปดื่มตอนร้อน ๆ นะ อย่ารังเกียจฝีมือทำอาหารของป้าเลย”
ป้าหลิวพูดพลางเหลือบมองน้ำแกงตับหมูตรงหน้าสวี่เยว่ แล้วอุทานอย่างเว่อร์ว่า “โอ้โห! ผู้จัดการสวี่ ทำไมสวี่เยว่ถึงได้ดื่มน้ำแกงตับหมูล่ะ?”
“คุณไม่ได้บอกว่าซื้อตับหมูมาให้ฮุ่ยฮุ่ยเหรอ?”
สวี่ต้าซานรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
สวี่ฮุ่ยพูด “พ่อบอกว่าเหลือไว้ให้หนูชามหนึ่งแล้วค่ะ”
“ป้าหลิว อย่าเพิ่งรีบกลับนะคะ ช่วยเป็พยานให้หน่อยว่าน้ำแกงตับหมูที่พ่อเหลือไว้ให้หนูเป็ยังไง”
สวี่ต้าซานซื้อตับหมูมานิดเดียว สวี่เยว่ได้ไปชามโต สวี่ฮุ่ยไม่เชื่อหรอกว่าในหม้อจะมีตับหมูเหลืออยู่
ป้าหลิวยิ้มแย้มเดินเข้าครัวไปกับสวี่ฮุ่ย สวี่ฮุ่ยตักน้ำแกงตับหมูที่สวี่ต้าซานเหลือไว้ให้ใส่ชามแล้วถือออกมาที่ห้องนั่งเล่น
สวี่ฮุ่ยใช้ตะเกียบคนน้ำแกงตับหมูต่อหน้าพ่อลูกสกุลสวี่ “นี่คือน้ำแกงตับหมูที่พวกพ่อเหลือไว้ให้หนูเหรอคะ? ในชามมีตับหมูไม่ถึงห้าชิ้นด้วยซ้ำ!”
เธอกระแทกชามน้ำแกงตับหมูลงบนโต๊ะอาหาร แล้วพูดด้วยใบหน้าเ็าว่า “พวกพ่อกินเองแล้วกัน!”
สวี่ต้าซานมองป้าหลิวที่กำลังดูละครอยู่ด้วยความลำบากใจ อธิบายอย่างอ่อนแรง “เยว่เยว่หัวแตก เสียเื ต้องบำรุงเยอะ ๆ”
สวี่ฮุ่ยสวนกลับทันที “แล้วหัวหนูไม่แตกเหรอ? หนูไม่เสียเืเหรอ? หนูไม่ต้องบำรุงบ้างเหรอคะ?”
“จะเอาน้ำแกงตับหมูแค่นี้มาตบตาหนูเนี่ยนะ?”
สวี่ต้าซานพูดไม่ออกทันที
สวี่รั่วเฉินหน้าดำคล้ำ มองเธอด้วยหางตา “ร่างกายเธอแข็งแรงขนาดนี้ เสียเืนิดหน่อยทำเป็เื่ใหญ่โต? เยว่เยว่ไม่เหมือนเธอ เธอเป็โรคหัวใจ!”
ป้าหลิวพูดเกลี้ยกล่อม “ฮุ่ยฮุ่ย อย่าทะเลาะกันเลย น้ำแกงปลาช่อนบำรุงดีกว่าน้ำแกงตับหมูอีกนะ”
สวี่ฮุ่ยยิ้มกว้าง “นั่นสิคะ หนูมีน้ำแกงปลาช่อนของป้าหลิวแล้ว จะไปแย่งน้ำแกงตับหมูทำไม? ตับหมูที่ซื้อมาตอนบ่ายก็ไม่สดสักนิด”
เธอเทน้ำแกงปลาช่อนของป้าหลิวใส่ชามใบใหญ่ของบ้านตัวเอง
ตอนที่คืนชามให้ป้าหลิว เธอก็พูดว่า “ป้าหลิว เมื่อกี้หนูสาดน้ำใส่หน้าสวี่เยว่ แต่น้ำไม่โดนผ้าพันแผลบนหัวเธอนะคะ”
“รบกวนป้าเป็พยานให้ด้วย หนูกลัวว่าพรุ่งนี้แผลเธอติดเชื้อแล้วจะมาโทษหนูน่ะค่ะ”
“ป้าก็รู้นี่คะว่าสวี่เยว่ชอบใส่ร้ายคนอื่น”
สวี่เยว่เกลียดสวี่ฮุ่ยเข้ากระดูกดำ
ยัยงั่งนี่ฉลาดขึ้นทุกวัน แม้แต่สิ่งที่เธอคิดยังเดาถูก
ป้าหลิวมองผ้าพันแผลสีขาวบนหัวสวี่เยว่อย่างละเอียด แล้วค่อยถือชามตัวเองกลับไป
แม้ป้าหลิวจะไม่ได้พูดอะไร แต่สวี่เยว่ก็รู้ว่าตัวเองไม่สามารถเอาเื่ที่สวี่ฮุ่ยสาดน้ำใส่หน้ามาปรักปรำเธอได้แล้ว
ถึงหัวจะแตก แต่หลังจากสวี่ฮุ่ยดื่มน้ำแกงปลาช่อนที่ป้าหลิวเอามาให้แล้ว เธอก็ยังคงออกไปตกปลาไหลตามเดิม และตกได้เยอะด้วย
แต่จับปลาช่อน เต่าหรือตะพาบน้ำไม่ได้เลยสักตัว
เมื่ออาบน้ำเสร็จ สวี่ฮุ่ยก็แกะผ้าพันแผลบนหัวออก ใช้ทิงเจอร์ไอโอดีนฆ่าเชื้อ แล้วพันผ้าพันแผลสะอาดผืนใหม่
เธอทำหัตถการขั้นพื้นฐานพวกนี้เป็
หลังจากจัดการแผลเสร็จ สวี่ฮุ่ยก็เข้านอน