เสวียนเทียนคลำไปที่หน้าอกของศพ ไม่นานก็พบตั๋วเงินปึกหนึ่งแล้วยังมีผลึกอสูรอีกถึงยี่สิบหกเม็ด แต่กลับไม่มียาพลังปราณคนผู้นี้คงอยู่ที่เทือกเขาเร้นลมมาสักพักแล้ว สังหารสัตว์อสูรไปไม่น้อยยาพลังปราณก็ใช้จนหมดแล้ว
เมื่อเก็บตั๋วเงินและผลึกอสูรเข้าไปในอกเสื้อแล้ว เสวียนเทียนก็เก็บกระบี่ในมือของคนผู้นั้นขึ้นมา
ตัวกระบี่เย็นเยียบ เรียบลื่นดั่งหิมะตรงด้ามกระบี่สลักอักษรไว้สองคำ...หิมะเหมันต์
“กระบี่ดี ตัวกระบี่ผสมวัตถุดิบพิเศษอย่างแร่เหล็กเหมันต์เข้าไปเป็กระบี่มีชื่อที่ดีกว่ากระบี่ชั้นทองขั้นสูงอีกหนึ่งขั้นถึงจำนวนเหล็กเหมันต์ที่ผสมเข้าไปจะไม่มาก แต่กระบี่นี่ก็มีค่าห้าหกหมื่นตำลึงกระบี่ดีก็ควรอยู่กับมือกระบี่ที่ดี กระบี่หิมะเหมันต์ จากวันนี้ไป เ้าไปกับข้าเถิด”
เสวียนเทียนเก็บกระบี่หิมะเหมันต์เข้าฝัก ถือไว้ในมือดูพออกพอใจมากในมือของเขามีเพียงกระบี่ชั้นทองขั้นสูงซึ่งเป็กระบี่ที่ได้มาจากตอนสังหารผู้ฝึกยุทธ์พรรคฝูเวยครั้งนั้นก่อนหน้านี้กระบี่ที่เขาใช้มาตลอดคือกระบี่ชั้นทองขั้นกลางที่สำนักแจกจ่ายให้เปล่า
หลังสังหารผู้ฝึกยุทธ์มีตาหามีแววไม่ผู้นั้นแล้วการเดินทางหลังจากนั้นของเสวียนเทียนก็ค่อนข้างราบรื่นมีถูกสกัดไว้หนึ่งครั้งแต่พออีกฝ่ายเห็นตรา ‘สำนักกระบี่์’ เข้าก็รีบขอโทษ กลับหลังแล้ววิ่งหนีไป
ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เสวียนเทียนก็กลับมาถึงหมู่บ้านชิงสุ่ยถามข่าวคราวดูก็พบว่าพรรคฝูเวยหายไปไร้ร่องรอยดังคาดหลังจ่ายเงินสองพันตำลังเสวียนเทียนก็ซื้อม้ากิเลนดำมาหนึ่งตัว เขาออกจากหมู่บ้านชิงสุ่ยคืนเดียวกันก็กลับมาถึงเมืองเจี้ยนหนาน
เมืองเจี้ยนหนานคือเมืองที่เสวียนเทียนแวะมาตอนออกมาจากสำนักกระบี่์เป็เมืองที่ใกล้สำนักกระบี่์ที่สุดเพราะอยู่ทางทิศใต้ของสำนักกระบี่์จึงได้ชื่อว่าเจี้ยนหนาน1
เมื่อถึงเมืองเจี้ยนหนานฟ้าก็มืดแล้ว เสวียนเทียนขายม้ากิเลนดำค้างอีกหนึ่งคืน เช้าวันต่อมาก็กลับไปยังสำนักกระบี่์
เสวียนเทียนตรงไปที่ตำหนักภารกิจลูกศิษย์ที่ออกไปเก็บประสบการณ์ข้างนอกจะนำผลึกอสูรหรือชิ้นส่วนของสัตว์อสูรมาแลกเปลี่ยนเป็แต้มภารกิจหรือเงินที่ตำหนักภารกิจนี้
แม้เวลาจะยังเช้าอยู่ แต่ตำหนักภารกิจก็คึกคักอย่างมาก
ศิษย์นอกของสำนักกระบี่์มีนับพันคนศิษย์ชั้นสูงชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดขึ้นไปก็มีอยู่ไม่น้อย เหยียบพันคนโดยประมาณ
ทุกวันล้วนมีศิษย์มายังตำหนักภารกิจเพื่อรับภารกิจของสำนักออกไปเก็บประสบการณ์ขอเพียงมีลูกศิษย์กลับสำนักหลังการฝึกประสบการณ์เพื่อนำผลึกอสูรมาแลกแต้มภารกิจหรือเงินเป็ต้องดึงดูดผู้คนมารุมล้อมเสมอ
เวลาเก็บเกี่ยวผล มักจะดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เสมอ
เสวียนเทียนเพิ่งเข้ามาถึงนอกตำหนักภารกิจก็ได้ยินเสียงแว่วมา “ศิษย์พี่หยาง” “ผลึกอสูรมากเหลือเกิน” ...ถ้อยคำทำนองนี้ดังออกมาจากในตำหนักภารกิจ
“ศิษย์พี่หยางโรคจิตนั่นอยู่ข้างใน? บังเอิญขนาดนี้เพิ่งไปสังหารสัตว์อสูรกลับมาเหมือนกันอย่างนั้นหรือ?”
เสวียนเทียนได้ยินเสียง เท้าก็หยุดลงแต่เพียงครู่เดียวก็ก้าวออกไปข้างหน้าอีกครั้ง
ถ้าเป็ก่อนหน้านี้ หากเสวียนเทียนพบกับศิษย์พี่หยางย่อมต้องหลบแต่ว่าตอนนี้ไม่จำเป็อีกแล้ว
“497,498,499,500,501...”
“โห! ห้าร้อยเชียว ยังไม่ถึงสองเดือนศิษย์พี่หยางสังหารสัตว์อสูรไปห้าร้อยกว่าตัวแล้ว”
“ยังนับอยู่เลยนั่น ดูกองพะเนินนั่นสิ อาจจะมีอีกร้อยเม็ดจำนวนคงมากกว่าหกร้อยเป็แน่”
“ศิษย์พี่หยางเก่งกาจจริงๆการแข่งขันจัดดันดับใหญ่ครั้งนี้ต้องเอาชนะศิษย์พี่ไป๋ แล้วกลายเป็ที่หนึ่งของศิษย์สำนักนอกเป็แน่”
“ของมันแน่อยู่แล้ว เมื่อปีที่แล้วศิษย์พี่หยางมีพลังวัตรแค่ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเก้าเขาก็ได้เป็หนึ่งในสิบอันดับแรกของศิษย์สำนักนอกแล้วปีนี้พลังวัตรลุชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบ ย่อมต้องกำราบทั่วสำนักนอกต่ำกว่าชั้นเบิกนภาไม่มีใครเป็คู่มืออีกแล้ว”
“548,549,550,551...”
“ห้าร้อยห้าสิบเม็ดแล้ว ที่เหลืออยู่มากกว่าห้าสิบเม็ดแน่ เวลาสั้นๆไม่ถึงสองเดือน ศิษย์พี่หยางสังหารสัตว์อสูรมากกว่าหกร้อยตัวเป็สัตว์อสูรชั้นสองทั้งหมดด้วย น่ากลัวเหลือเกินทั้งปีข้ายังฆ่าไม่ได้มากขนาดนี้เลย”
....
....
ในตำหนักภารกิจ ผู้คนมุงล้อมหน้าโต๊ะผู้ดูแล
ด้านในโต๊ะ ผู้ดูแลของตำหนักภารกิจคนหนึ่งกำลังนับกองผลึกสัตว์อสูร
ลูกศิษย์สำนักกระบี่์หลังอายุสามสิบปีถ้าพลังวัตรยังไม่บรรลุถึงชั้นเบิกนภาขั้นสี่แต่มีพลังวัตรเหนือกว่าชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งสามารถเปลี่ยนมาเป็ผู้ดูแลได้
พลังวัตรชั้นเบิกนภาขั้นสี่ขึ้นไปแต่ต่ำกว่าขั้นเจ็ดจะกลายเป็ผู้าุโของสำนักนอก
พลังวัตรชั้นเบิกนภาขั้นเจ็ดขึ้นไปจะกลายเป็ผู้าุโสำนักใน
ที่ด้านหน้าโต๊ะผู้ดูแลมีเด็กหนุ่มชุดแดงผู้หนึ่งยืนอยู่เขาอายุราวสิบหกสิบเจ็ดปี ผิวพรรณทั่วร่างของเขาก็เหมือนเสื้อผ้าที่เขาใส่เป็สีแดงเหมือนกับกองไฟกองหนึ่ง ด้านข้างมีศิษย์สำนักนอกเบียดเสียดกันเพื่อที่จะเห็นภาพผลึกอสูรหลังโต๊ะผู้ดูแลแต่กลับไม่มีสักคนที่กล้าเบียดเด็กหนุ่มชุดแดงผู้นั้น
ความสนใจของบรรดาศิษย์สำนักนอกรวมอยู่ที่หลังโต๊ะผู้ดูแลไม่มีใครสังเกตเสวียนเทียนที่เดินเข้ามา
“598,599,600,601,602,603...ทั้งหมดหกร้อยสามเม็ด” ผู้ดูแลคนนั้นนับอย่างรวดเร็วนับผลึกอสูรกองนั้นหมดได้เกินหกร้อยเม็ดมานิดหน่อย
ลูกศิษย์ด้านนอกที่ไม่เห็นสถานการณ์ข้างหลังพลันร้องขึ้นว่า “เกินหกร้อยเม็ดจริงด้วย ไม่ถึงสองเดือนดีสังหารสัตว์อสูรขั้นสองกว่าหกร้อยตัว ทั้งศิษย์สำนักนอกใครยังจะแข่งชนะศิษย์พี่หยางได้อีกเล่า?”
“ศิษย์พี่หยางที่หนึ่งสำนักนอก ไร้คู่ต่อกร”
“เงียบ!”
ผู้ดูแลคนนั้นะโขึ้นคำหนึ่ง กล่าวว่า “ผลึกอสูรขั้นสองชั้นล่าง 189 เม็ด ผลึกอสูรขั้นสองชั้นกลาง 201 เม็ดผลึกอสูรขั้นสองชั้นสูง 192 เม็ดผลึกอสูรขั้นสองระดับาา 21 เม็ด รวมทั้งสิ้น 8733 แต้มภารกิจ หรือเป็เงิน 87330 ตำลึงหยางติ่งจวิน เ้าจะแลกอะไร?”
เด็กหนุ่มชุดแดงดุจเพลิงคนนั้นคือหยางติ่งจวิน เขาตอบว่า “แต้มภารกิจ”
ผู้ดูแลตำหนักภารกิจหยิบสมุดออกมาเล่มหนึ่งบันทึกลงไปว่า “หยางติ่งจวิน แต้มภารกิจสำนักของเ้าเพิ่มอีก 8733 แต้ม รวมเป็ 103533 แต้มแต้มภารกิจแสนแต้มมีคุณสมบัติเรียนคัมภีร์ปราณของชั้นนิลได้หนึ่งชนิด”
“ยินดีกับศิษย์พี่หยางด้วย ยินดีกับศิษย์พี่หยางด้วยศิษย์พี่หยางเมื่อได้ฝึกวิชาปราณชั้นนิล ใช้เวลาไม่นานก็คงเข้าสู่ชั้นเบิกนภาก้าวเดียวขึ้นสู่ชั้นฟ้า กลายเป็ลูกศิษย์สำนักใน” ลูกศิษย์ด้านข้างพากันแสดงความยินดีกันขึ้นมา
ศิษย์พี่หยางมุมปากยกขึ้นนิดนึง ยกยิ้มบางขึ้นมา
ตอนที่ลูกศิษย์สำนักนอกทั้งหลายกำลังแสดงความยินดีกับหยางติ่งจวินสายตาของผู้ดูแลตำหนักภารกิจก็เห็นเสวียนเทียนอยู่ไกลๆ บนตัว ไม่สิ หากพูดให้ถูก บนหลังสะพายห่อหนังสัตว์อสูรอยู่มัดหนึ่ง
ผู้ดูแลตำหนักภารกิจจึงทักขึ้นว่า “ศิษย์คนนั้นเ้าก็ล่าสังหารสัตว์อสูรกลับมา จะแลกแต้มภารกิจใช่หรือไม่?”
เสวียนเทียนพยักหน้ารับ ตอบว่า “ครับ!”
หวืด...
หลังเสียงของเสวียนเทียนดังขึ้น สายตาของศิษย์สำนักนอกชั้นสูงหลายสิบคนก็ตวัดฉับมามองเสวียนเทียนทันที
“เป็เ้า...หวงเทียน?”
“ใช่ นั่นเขา เขามีนัดสามเดือนกับจางหลงที่การแข่งขันจัดอันดับใหญ่การแข่งขันจัดอันดับใหญ่จะเริ่มขึ้นในอีกประมาณสิบวัน”
“เขาปฏิเสธคำเชิญของศิษย์พี่หยาง ช่างไม่เกรงกฎไม่กลัวฟ้าเขาต้องถูกจางหลงอัดเละร่างแยกเป็ชิ้น กระดูกป่นเป็ผงแน่”
......
พอเห็นเสวียนเทียน ลูกศิษย์ที่รู้จักเขาไม่น้อยก็พากันพูดขึ้นมาเสียงดังลูกศิษย์ที่ไม่รู้จักเขาได้ยินคนอื่นพูดขึ้นก็รู้ว่าเสวียนเทียนเป็ใครไปด้วย
นัดสามเดือนของเสวียนเทียนกับจางหลง ลือสนั่นสำนักชั้นนอกมาตั้งนานแล้วลูกศิษย์ที่ไม่รู้จักเขาก็ได้ยินชื่อของเขามาก่อน สายตาของทุกคนจับจ้องมาที่เขาเสวียนเทียนรู้สึกว่ามีสายตาคู่หนึ่งร้อนแรงประดุจเพลิงร้อนเผาผลาญนั่นเป็สายตาของหยางติ่งจวิน
ทว่าเสวียนเทียนหน้าไม่เปลี่ยนสี สายตา เสียงของคนทั้งหมดไม่มีอิทธิพลกับเขาเลยแม้แต่น้อย
เสวียนเทียนเดินผ่านไปข้างหน้าสายตาหยุดอยู่ที่ร่างของผู้ดูแลตำหนักภารกิจ กล่าวว่า “ข้าศิษย์หวงเทียนมีผลึกอสูรเล็กน้อย้าแลกเปลี่ยน”
“เขาจะมีผลึกอสูรอะไรมาแลก ข้าว่าอย่างมากก็แค่ยี่สิบสามสิบเม็ดอย่างไรก็ไม่เกินห้าสิบเม็ด”
“ได้ยินว่าเขาหายไปเกือบสองเดือน คงออกไปเก็บประสบการณ์มาสองเดือนล่าสังหารสัตว์อสูรก็คงได้สักสามสี่สิบตัว”
“ล่าสังหารสัตว์อสูรจะง่ายดายปานนั้นได้อย่างไรเขาออกเก็บประสบการณ์เป็ครั้งแรก ข้าว่าอย่างมากก็เจ็ดแปดเม็ด อย่างไรก็ไม่เกินสิบเม็ดแน่นอน”
“เอ๋! พลังวัตรของเขาสูงขึ้นอีกแล้วถึงชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดแล้ว!”
“ตอนที่ออกไปเก็บประสบการณ์ได้ยินว่าพลังวัตรของเขาเพิ่งลุชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดนี่เพิ่งผ่านไปได้ไม่ถึงสองเดือน เร็วขนาดนี้ก็ขึ้นสู่ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดแล้ว เป็ไปได้อย่างไร?”
“โกหกน่า ไม่มีทางเร็วขนาดนั้นหรอก เขาคงจะฝึกปราณอะไรบางอย่างที่ทำให้เกิดภาพหลอกตาแน่”
.....
.....
บรรดาลูกศิษย์จากที่ตอนแรกดูถูก ไม่นานก็เปลี่ยนมาเป็ไม่อยากเชื่อ
ลูกศิษย์เ่าั้เสวียนเทียนมองเห็นแต่ก็ทำเป็ไม่เห็นแม้กระทั่งหยางติ่งจวินก็ไม่เว้น เขาเดินตรงไปที่ผู้ดูแลตำหนักภารกิจศิษย์นอกด้านหน้าพากันถอยหลีกทาง ไม่นานเสวียนเทียนก็มาถึงหน้าโต๊ะ
เขาปลดห่อหนังสัตว์อสูรบนหลังลงมา เปิดปากห่อออก หยิบถุงใหญ่ใบหนึ่งออกมาจากข้างในวางไว้บนโต๊ะของผู้ดูแล ขนาดใหญ่กว่าถุงผลึกสัตว์อสูรของหยางติ่งจวินใบนั้นเสียอีก
เสวียนเทียนพูดขึ้นว่า “ข้างในเป็ผลึกสัตว์อสูรขั้นสองทั้งหมดในนั้นมีผลึกสัตว์อสูรขั้นสองชั้นล่าง 136 เม็ดผลึกสัตว์อสูรขั้นสองชั้นกลาง 479 เม็ดผลึกสัตว์อสูรขั้นสองชั้นสูง 196 เม็ด รวมทั้งหมด 811 เม็ด”
“อะไรนะ? นี่เป็ไปได้อย่างไร? นี่เป็ไปได้อย่างไร?”
“ผลึกอสูร 811 เม็ดขนาดศิษย์พี่หยางยังได้ผลึกอสูรมาเพียง 603 เม็ดเองเขาจะได้มามากขนาดนั้นได้อย่างไร?
“ได้มากกว่า 800 เม็ดเวลาไม่ถึงสองเดือนเท่าๆ กัน กลับมากกว่าศิษย์พี่หยางถึง 200 เม็ด นี่เป็ไปไม่ได้แน่นอน”
“ก้อนหิน เขาต้องเอาผลึกหินมาเพิ่มจำนวนแน่”
.....
.....
พริบตานั้น ทั้งตำหนักภารกิจเหมือนกับหม้อะเิ เสียงอุทานตกตะลึงเสียงแสดงความสงสัยจากตรงนั้นตรงนี้ดังขึ้นไม่ขาดสายผู้ดูแลตำหนักภารกิจเปิดถุงออก แล้วเทของข้างในออกมา พรืด...เม็ดผลึกอสูรขนาดเท่าหัวแม่มือแผ่กระจายอยู่บนโต๊ะผู้ดูแล
แต่ละเม็ดใสกระจ่างแวววาว อัดแน่นด้วยกลิ่นอายของสัตว์อสูร
“ทั้งหมดเป็ผลึกอสูรขั้นสอง ของแท้ไม่มีปลอม” ผู้ดูแลตำหนักภารกิจประเมินออกมาทันที แล้วเริ่มนับจำนวน
“อะไรนะ? ของจริง? มากกว่าศิษย์พี่หยางจริงหรือ?” ลูกศิษย์ทั้งหลายพากันเบิกตาโพลงอ้าปากค้าง ไม่อยากจะเชื่อ
เพี้ยะ...ใบหน้าของหยางติ่งจวินรู้สึกปวดแสบปวดร้อนขึ้นมาเป็แถบเหมือนโดนใครตบหน้าต่อหน้าผู้คนสายตาที่มองเสวียนเทียนพลันเปลี่ยนเป็สายตาทิ่มแทง
หากเมื่อครู่สายตาของหยางติ่งจวินเหมือนกับกองไฟร้อนแรง เช่นนั้นตอนนี้มันก็เหมือนกับปลายดาบที่แหลมคม
เสวียนเทียนรู้สึกถึงสายตาที่เปลี่ยนไปของหยางติ่งจวินได้ทันทีสายตาพลันหันไปมองทางหยางติ่งจวิน สายตาดุจกระบี่คมกริบชักออกจากฝักเข้าประสานฟาดฟันจนแรงกดดันจากสายตาของหยางติ้งจวินสลายไปไม่เหลือร่องรอย
เสียงของผู้ดูแลตำหนักภารกิจดังขึ้น “ถูกต้องผลึกสัตว์อสูรขั้นสองชั้นล่าง 136 เม็ดผลึกสัตว์อสูรขั้นสองชั้นกลาง 479 เม็ดผลึกสัตว์อสูรขั้นสองชั้นสูง 196 เม็ด รวมทั้งหมด 811 เม็ด ”
----------
1. 剑南: 剑 (เจี้ยน) แปลว่ากระบี่ 南 (หนาน) แปลว่าทิศใต้