ยามเช้าตรู่ แสงตะวันจากหน้าต่างลอดผ่านม่านโปร่งผืนบางเข้ามา ภายในห้องดังถูกฉาบด้วยแสงสีทอง
ภายใต้ม่านโปร่งสีเหลืองบางเบาลายร้อยผีเสื้อ เซวียเสี่ยวหรั่นขยี้ตาอย่างงัวเงียอยู่นานกว่าจะลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนเตียงไม้หวงฮวาหลีแกะสลักลายเมฆา ก่อนจะหาวหวอดพลางมองการตกแต่งแปลกตาภายในห้อง
่นี้พักโรงเตี๊ยมจนเคยชิน จู่ๆ มาเห็นเครื่องเรือนอันวิจิตรตระการตาภายในห้อง ชวนให้รู้สึกคล้ายยังไม่ตื่นจากฝัน
จริงสิ พวกเธอกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว และนี่ก็คือบ้านหลังใหม่ที่ย้ายเข้ามาอยู่
เซวียเสี่ยวหรั่นลุกขึ้น เลิกม่านออกผูกไว้กับตะขอ แล้วค่อยๆ เดินไปนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งเก้าช่องไม้หวงฮวาหลี
เครื่องเรือนชุดใหม่ล้วนทำมาจากไม้หวงฮวาหลีซึ่งมีแข็งแรงทนทานและมีลวดลายงดงาม แม้แต่เก้าอี้ไม้แกะสลักรูปบุปผาที่เธอนั่งอยู่นี่ก็ใช่ ปลายจมูกยังได้กลิ่นหอมเบาบางอันเป็เอกลักษณ์ของไม้หวงฮวาหลี
หน้าโต๊ะเครื่องแป้งตั้งคันฉ่องฝังมุกลายผกาอันประณีตงดงาม คนในคันฉ่องดวงหน้าเล็กจ้อยผมเผ้ายุ่งเหยิง ทำตาปรือด้วยอารมณ์เซ็งสุดขีด
เมื่อคืนเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังใหม่ มีข้าทาสบริวารมาเพิ่มอีกกลุ่มหนึ่ง จัดการกันจนถึงดึก เซวียเสี่ยวหรั่นถึงนอนไม่เต็มอิ่มสักเท่าไร
เธอดึงลิ้นชัก้าสุดออกมา ค้นหาหวีไม้เถาของตัวเองออกมา ก่อนที่จะหวีตกแต่งทรงผมด้วยตนเอง
"ก๊อกๆ" เสียงดังมาจากประตู
"คุณหนู ตื่นหรือยังเ้าคะ" น้ำเสียงใสกังวานแต่ไม่คุ้นหู ทำให้เซวียเสี่ยวหรั่นอึ้งไปสักพัก
หลังจากนั้นถึงนึกขึ้นได้ นี่คงจะเป็สาวใช้รุ่นใหญ่ชื่อชิงเยว่ที่เพิ่งมาใหม่
"อ้อ เข้ามาสิ" เซวียเสี่ยวหรั่นวางหวีไม้ในมือลง
ชิงเยว่ผลักประตูเข้าไป ด้านหลังมีสาวใช้รุ่นเยาว์อีกสองคนตามเข้ามาพร้อมกับอุปกรณ์ล้างหน้าบ้วนปาก ท่าทางจะอายุราวสิบสามสิบสี่ แต่กลับสงบเสงี่ยมมาก เซวียเสี่ยวหรั่นจำได้ ดูเหมือนพวกนางจะชื่อว่าหลิ่วอิงกับหลิ่วิกระมัง
"คุณหนู ให้บ่าวเกล้าผมให้นะเ้าคะ" ชิงเยว่พาคนเข้ามาคารวะ ใบหน้าอาบรอยยิ้มอย่างพินอบพิเทาแลดูเหมาะสม
บ่าวที่ได้รับคัดเลือกให้มาที่นี่อย่างพวกนางล้วนผ่านการฝึกอบรมเป็พิเศษ
เข้าจวนสกุลเซวีย ต่อไปย่อมเป็คนของสกุลเซวีย เป็ตายร้ายดีอย่างไรล้วนอยู่ในกำมือของนายใหม่
ชิงเยว่กับชิงหนิงทำงานในจวนองค์ชายเจ็ดมาหลายปีแล้ว เมื่อก่อนเป็เพียงสาวใช้ขั้นสอง เนื่องจากอุปนิสัยสุขุม สงบเสงี่ยม เจอสิ่งใดก็ไม่ลนลาน จึงได้รับเลือกให้ออกมา
องค์ชายเจ็ดทรงเ็าไม่หลงใหลอิสตรี ในจวนกว้างขวางมีเ้านายเพียงคนเดียว ซ้ำยังไม่ค่อยอยู่คฤหาสน์ ปรกติถึงแม้ว่าข้ารับใช้อย่างพวกนางนึกอยากประจบเอาใจ ก็ไม่มีใครอยู่ให้สอพลอแม้แต่คนเดียว
ครานี้ได้รับเลือกให้ออกจากจวน ชิงเยว่ย่อมจะดีใจมาก เพราะที่นั่นโดดเดี่ยวเดียวดายเกินไป
เซวียเสี่ยวหรั่นเป็ญาติกับคุณชายผูหยาง ได้รับความสำคัญจากองค์ชายเจ็ด ชิงเยว่คะเนว่านางอาจกลายมาเป็นายหญิงสักตำแหน่งของจวนองค์ชายเจ็ดในภายภาคหน้า
ยิ่งนึกถึงจุดนี้สีหน้าของชิงเยว่ก็ยิ่งแสดงความนอบน้อมมากขึ้น
"รบกวนเ้าแล้ว" เซวียเสี่ยวหรั่นไม่มากความ ส่งหวีไม้ให้แก่นาง
หนังสือขายตัวของคนเหล่านี้ เหลียนเซวียนสั่งให้หงกูนำมามอบให้ั้แ่เมื่อคืน
ส่วนค่าตัวของพวกเขา เซวียเสี่ยวหรั่นให้หงกูคำนวณเรียบร้อย รอให้ค่าเครื่องเรือนออกมาก่อน ค่อยจ่ายคืนให้เหลียนเซวียนทีเดียว
"คุณหนูอยากเกล้าผมทรงไหนเ้าคะ" ชิงเยว่ถามอย่างระมัดระวัง
"ทรงอะไรก็ได้" เธอทำเป็แค่ทรงห่วงคู่กับซาลาเปาคู่ ทรงอื่นยังไม่เคยลองมาก่อน
"เช่นนั้นบ่าวจะเกล้ามวยร้อยบุปผาให้แล้วกันเ้าค่ะ" ชิงเยว่เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว หลังจากสางผมแล้ว ก็ใช้ปลายนิ้วหมุนบิดเรือนผมอย่างช่ำชองสองสามรอบ ทรงผมอันประณีตงดงามก็เป็อันเสร็จเรียบร้อย
"รูปหน้าของคุณหนูเล็กจ้อยน่ารัก เกล้าเรือนผมทั้งหมดขึ้นข้างบน แล้วแบ่งออกมาเป็สองห่วงย้อยลงมา ปักปิ่นมุกเรียบๆ สักชิ้น แม้เรียบง่ายแต่ไม่ขาดความสง่างาม"
ขั้นตอนสุดท้ายมัดปลายผมแล้วห้อยไว้ข้างไหล่
เซวียเสี่ยวหรั่นเข้าไปใกล้คันฉ่องฝังมุกลายบุปผาแล้วมองอย่างพินิจ ผมทรงนี้ค่อนข้างพิถีพิถันและสง่างามมากกว่าทรงเดิมของเธอ
มวยห่วงคู่หรือซาลาเปาคู่ให้ความรู้สึกเหมือนเด็ก เช่นเดียวกับการมัดผมแกละสองข้างทำให้เซวียเสี่ยวหรั่นรู้สึกกระดาก เหมือนแกล้งทำตัวแอ๊บแบ๊วทำนองนั้น
แต่ผมทรงนี้ดูดีกว่ามาก เซวียเสี่ยวหรั่นพึงพอใจ
ขณะที่อูหลันฮวาวิ่งเข้ามา เหงื่อไหลไคลย้อยทั้งตัว "คุณหนูเ้าคะ ข้ามาสายแล้ว"
"เ้าไปฝึกกระบองมารึ" เซวียเสี่ยวหรั่นเอี้ยวศีรษะมองนาง ใบหน้ารูปไข่แดงระเรื่อ ผมเปียทั้งสองเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ
"เ้าค่ะ วันนี้องครักษ์เหลยให้คนส่งข้าวสาร เนื้อสัตว์และผักมาให้แต่เช้าตรู่ แล้วก็ถือโอกาสทดสอบความก้าวหน้าด้านการต่อสู้ของข้ากับนายน้อย โอย... เหนื่อยแทบตายแน่ะเ้าค่ะ องครักษ์เหลยช่างเก่งกาจนัก พวกเราสองคนช่วยกันยังสู้ไม่ชนะเขาเลย" อูหลันฮวายกมือขึ้นปากเหงื่อบนหน้าผาก
"ฮ่าๆ ผู้อื่นฝึกยุทธ์มากี่ปีแล้ว พวกเ้าเอาไปเปรียบได้ที่ไหน เอาล่ะ ไปอาบหน้าก่อนเถอะ ดูเ้าสิ เหงื่อโชกไปทั้งตัว มีพวกชิงเยว่อยู่ ที่นี่ไม่เหลืองานอะไรให้เ้าทำหรอก" เซวียเสี่ยวหรั่นมองนางด้วยรอยยิ้ม
อูหลันฮวาหัวเราะแหะๆ "คุณหนู ผมทรงนี้ของท่านงดงามยิ่ง แต่ต้องปักปิ่นบุปผาถึงจะดี ปล่อยโล่งไว้แบบนี้ดูเรียบเกินไป"
นางยังไม่รีบไปล้างหน้าอาบน้ำ ดึงลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งออก แล้วหยิบปิ่นดอกไม้ออกมาจากหีบไม้แดงแกะสลักลายบุปผา
ชิงเยว่ซึ่งอยู่ด้านข้างเห็นอูหลันฮวาเดินเข้ามาหยิบปิ่นดอกไม้ขึ้นมาทาบบนมวยผมของคุณหนูตามอำเภอใจ โดยที่คนถูกเอาดอกไม้มาทาบไม่ชักสีหน้าแม้แต่น้อย นางก็คาดเดาได้ว่าสาวใช้นามอูหลันฮวาผู้นี้จะต้องมีตำแหน่งพิเศษในดวงใจของคุณหนูเป็แน่
"อันนี้ดีกว่า ดอกซานฉาสีชมพู ด้านในฝังอัญมณีทอประกายวาววับ" อูหลันฮวาปักปิ่นดอกซานฉาบนมวยผมของเซวียเสี่ยวหรั่น
เซวียเสี่ยวหรั่นมองดอกไม้สีชมพูอ่อนเกสรสีขาวบนมวยผมก็รู้สึกอับจนถ้อยคำ เหลือบมองอูหลันฮวาปราดหนึ่ง แม่นางผู้นี้กลับนิยมชมชอบ เอียงคอมองผลงานของตนเองมิวางตา
"แฮ่ม ดอกนี้ใหญ่เกินไป" เซวียเสี่ยวหรั่นไม่อยากประดับดอกไม้ดอกใหญ่ไว้บนศีรษะ จึงเอ่ยปฏิเสธ
"ต้องใหญ่สิถึงจะสวย เมื่อวานระหว่างที่พวกเราเดินทาง ข้าเห็นหญิงสาวจำนวนไม่น้อยล้วนประดับมวยผมด้วยบุปผาดอกใหญ่กันทั้งนั้น เป็ที่นิยมอย่างมากของที่นี่เ้าค่ะ" อูหลันฮวามองแล้วชอบมาก
"เ้าชอบ ก็เอาไปสิ ข้าไม่ชอบประดับดอกไม้ดอกใหญ่" เซวียเสี่ยวหรั่นถอดออกแล้วยัดใส่มืออูหลันฮวา
"ได้อย่างไรเล่า นี่เป็ของที่จวิ้นจู่มอบให้ท่านนะเ้าคะ" อูหลันฮวาไม่กล้ารับ นี่เป็ของล้ำค่าจากในวังเชียวนะ
"ตอนที่นางมอบให้ข้าก็บอกว่าถ้าข้าไม่ชอบก็ใช้เป็ของรางวัลได้ เช่นนั้น อันนี้มอบให้เ้าแล้วกัน" เซวียเสี่ยวหรั่นไม่นำพานาง รื้อเครื่องประดับจากในหีบออกมา คิดหาเครื่องประดับที่เหมาะสม
อูหลันฮวาหน้าบาน "งั้นข้าเอาไปนะเ้าคะ"
"เอาไปเถอะ หยิบไปได้เลย แค่เปลี่ยนทรงผมก็ประดับขึ้นไปได้แล้ว" เซวียเสี่ยวหรั่นโบกมือไล่ ทำท่ารังเกียจที่นางเหงื่อเต็มตัว "รีบไปอาบน้ำเสีย"
"เ้าค่ะ แต่ข้าเกล้าผมทรงอื่นไม่เป็เลย" อูหลันฮวาหยิบปิ่นดอกไม้เดินออกไปข้างนอกพลางบ่นพึมพำ
"ให้หงกูสอนเ้าสิ"
หงกูยังคงอยู่กับพวกนางชั่วคราว เหลียนเซวียนให้นางอยู่ช่วยจัดการภายในจวนสกุลเซวียให้เรียบร้อยก่อน
อูหลันฮวาวิ่งออกไปอย่างเบิกบานใจ
"คุณหนู ผิวของท่านขาวกระจ่าง เข้ากับปิ่นหูเตี๋ยหลัน [1] นี้มากกว่า" ชิงเยว่ชี้ไปที่ปิ่นหูเตี๋ยหลันซึ่งทำมาจากอัญมณีสีแดงและสีม่วงในหีบ
จวิ้นจู่ที่พวกนางเอ่ยถึง น่าจะเป็ท่านหญิงหย่งเจียกระมัง ไม่น่าเชื่อว่าคุณหนูเซวียจะสนิทสนมกับท่านหญิงหย่งเจียมากเพียงนี้
ชิงเยว่มองดวงหน้าพริ้มเพราหน้ายิ่งมั่นใจในการคาดคะเนของตนเอง บางทีเรือนหลังขององค์เจ็ดอาจมีนายหญิงมาเพิ่มในไม่ช้า
...
[1] หูเตี๋ยหลันเป็ชื่อดอกไม้ตระกูลกล้วยไม้ ดอกเล็กสีสันสดใส ลักษณะคล้ายผีเสื้อ มีสีแดง สีชมพู สีม่วง
