คืนนี้ทั้งสองนอนด้วยกัน
ร่างกายของหรงซิวร้อนจัด กอดนางไว้ในอ้อมแขน อวิ๋นอี้รู้สึกราวกับอยู่ในหม้อต้ม
ไม่เพียงมือและเท้าของนางเท่านั้นที่ร้อน แม้แต่แก้มของนางก็เหมือนจะลุกเป็ไฟไปด้วย
แขนของบุรุษที่แข็งแรง โอบนางไว้แน่น หายใจแทบไม่ออก
“ฝ่าา…ฝ่าาเบาหน่อยเพคะ…” นางกระซิบเบาๆ
หน้าอกของคนข้างหลังสั่น ราวกับกำลังหัวเราะ น้ำเสียงของเขาเฉื่อยชา พูดอย่างชั่วร้ายว่า "หากข้าเบา เ้าจะสบายได้อย่างไร?"
"......"
สองคนใส่เสื้อผ้ารัดกุม มิได้ทำกระไรเลย เขากลับพูดโดยเจตนาให้นางคิดไปไกล
อวิ๋นอี้กลอกตาขาว ดึงแขนของเขาด้วยมือเล็กๆ พร้อมตำหนิเขาอย่างไร้เสียง ว่าทะลึ่ง
นางบิดตัว “ปล่อยเถิดเพคะ กอดแน่นเช่นนี้ ข้านอนมิหลับ”
“ย่อมได้” ยังคงเป็น้ำเสียงเฉื่อยชาเช่นเดิม จากนั้นมือใหญ่ก็ขยับจากเอวไปที่ก้นของนาง ทำให้อวิ๋นอี้ใจนแทบะโออก "ฝ่าา! อย่าขยับมั่วๆ นะเพคะ! ข้าจะนอนแล้ว!"
"เ้านอนเสียสิ ข้าเอามือวางไว้เช่นนี้ ทำให้เ้านอนไม่หลับหรือไร?"
"ใช่เพคะ" อวิ๋นอี้กัดฟัน "เอามือออกไป!"
"หากข้าไม่เอาออก เ้าจะทำอย่างไร?" หรงซิวพูดจบ เอาแก้มซุกคอนางอย่างยียวน ผิวของเขาเย็น แต่ลมหายใจกลับร้อนแรง “หืม?”
ดูเหมือนเขาจะจงใจลากหางเสียงเพื่อให้ฟังดูเย้ายวนขึ้น
อวิ๋นอี้ขนลุก เขม่นเขาก็ไม่ได้ผล หยิกเขาก็ไม่ได้ เหมือนว่าเขาจะตั้งใจหยอกเย้านาง ไม่ลดละเสียจริง
ทว่า... ช่างเย้ายวนนัก เขาไม่รู้เลย มีเพียงหัวใจที่เต้นเร็วของนางเท่านั้นที่เผยความรู้สึกของนาง
หรงซิวเห็นว่านางไม่ตอบ คิดว่านางเหนื่อยจะต่อต้าน จึงหันหน้าเข้าไปมองให้ใกล้ขึ้น พลันเห็นตาโตสวยกะพริบอยู่ มิรู้ว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่
อยู่บนเตียงกับเขา กล้าเหม่อลอยงั้นหรือ?
เขากดมือบีบเข้าไป ปลายนิ้วของเขาลูบไล้ไปทั่ว อุณหภูมิที่สูงแผ่ขยายไปทั่วร่างกายของนาง
“ฝ่าา ท่าน... คนทะลึ่ง!”
เขาระงับอารมณ์ผิดธรรมชาติ เผยรอยยิ้ม “เพลานี้คนทะลึ่ง้าให้เ้าเชื่อฟัง เขาให้เ้าทำกระไร เ้าก็ต้องทำตาม มิฉะนั้นอย่าคิดว่าจะได้นอน!”
นางโกรธมากจนเตะขาเขาใต้ผ้าห่ม กัดฟันและยอมรับชะตากรรม “พูดมา! ข้าจะฟัง!”
“พูดเพราะๆ กล่อมข้าสิ”
"......" อวิ๋นอี้สูดหายใจเข้าลึกๆ มีสีหน้าเสแสร้ง แต่น้ำเสียงกลับประจบสอพลอ "ท่านพี่ที่แสนดี สามีที่น่ารักของข้า ข้าชอบท่านที่สุด!"
น้ำเสียงของนางแ่เบาและอ่อนหวาน นางจงใจใช้น้ำเสียงมัดใจเขาได้ หรงซิวแทบจะอดกลั้นไว้ไม่ไหว อยากจะหยอกเย้านางต่อไป แต่บางสิ่งของเขาผงาดขึ้นแล้ว จึงทำได้เพียงหยุดไว้
เขาเอามือใหญ่ๆ ลูบหัวนาง ปล่อยนางให้เป็อิสระ ลมเย็นๆ ข้างนอกผ้าห่มพัดเข้ามา เสียงของเขาดังขึ้น "นอนเถิด พรุ่งนี้เ้าต้องตื่นแต่เช้า"
อวิ๋นอี้สงสัย นางหันหน้าเหลือบมองเขาหลายครา สัญชาตญาณบอกว่าเขาไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ แต่หรงซิวกลับหลับตาลง นางไม่เข้าใจว่าเหตุใด เพียงตอบอื้ม ไม่นานก็หลับไป
ภายใต้เสียงการหายใจที่บางเบาและช้า หรงซิวจ้องไปที่เพดานด้วยท่าทีนิ่งสงบ
เขาตระหนักได้ว่าการเผชิญหน้ากับอวิ๋นอี้นั้น ทำให้เขาค่อยๆ สูญเสียการควบคุม
ควบคุมร่างกายไม่ได้ ความรู้สึกที่มีต่อนางเช่นกัน
การแสดงเ่าั้ บางคราแม้แต่เขาเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็ของจริงหรือของปลอม
มันมิควรจะเป็เช่นนี้
หรงซิวกุมขมับ มองดูใบหน้าของนางที่กำลังหลับใหลอยู่ ในที่สุดก็ลุกขึ้นนั่ง อยู่เช่นนั้นทั้งคืน
เมื่อใกล้รุ่งสาง เขาก็เดินหายไปในความมืด หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วยาม เขากลับมา ะโเข้าหน้าต่าง วางขวดโหลเครื่องลายครามไว้บนโต๊ะ แล้วจากไปอีกครา
อวิ๋นอี้ตื่นมาพลันเห็นขวดเครื่องลายครามนั่นวางอยู่
หลังจากที่ล้างหน้าแต่งตัวเสร็จ นางเปิดขวดโหลดูแล้วห่อมันด้วยผ้าเช็ดหน้าอย่างระมัดระวังและยัดเข้าไปในแขนเสื้อของนาง
ชีวิตประจำวันจะมีเรียนช้าและตอนกลางวัน หลังจากเื่วุ่นวายเมื่อวาน ทุกคนพากันจริงจังกันมากขึ้น
ทุกคนยังคงใกับความไร้ยางอายของอวิ๋นอี้ เมื่อพระสนมเห็นนาง ก็เดินอ้อมไปอย่างไม่กล้าสู้หน้า
กู่ซือฝานมีความสุขมากกับการเปลี่ยนแปลงนี้ ระหว่างมื้อเที่ยง นางถามต่อว่าเกิดกระไรขึ้น
อวิ๋นอี้พูดมั่วๆ "มันต้องเป็เพราะเสน่ห์ราศีของข้าอยู่แล้วสิ ที่ทำให้พวกนั้นยอม!"
กู่ซือฝานหัวอ่อน พยักหน้าเห็นด้วย “ข้าบอกแล้วเพคะ ท่านพี่สะใภ้สุดยอดที่สุดเลย”
"ยัยบื้อ" นางพึมพำในใจ ยิ้มพลางคีบซี่โครงชิ้นหนึ่งให้นาง
การเรียนตอนบ่ายเป็วิชาเย็บปักถักร้อย งานฝีมือนี้ถือได้ว่าเป็ทักษะที่จำเป็สำหรับสตรี แม้ว่าพวกนางจะมีเกียรติ ปกติมิจำเป็ต้องปะผ้าหรือเย็บกระไร ทว่าวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิม้าให้สตรีทำเป็
อวิ๋นอี้ทำไม่เป็
พระชายาองค์อื่นๆ ที่ถูกส่งมาเรียน มิต้องพูดเื่ทักษะว่ายอดเยี่ยมหรือด้อย แต่สิ่งสำคัญคือพวกนางทำเป็กันหมด
อวิ๋นอี้จึงกลายเป็จุดสนใจอีกครา
ก่อนเริ่มเรียนอย่างเป็ทางการ ซูเมี่ยวเออร์พูดเสียดสีนางอีกอย่างอดไม่ได้
นางถอนหายใจว่าอวิ๋นอี้เป็สตรีจริงหรือไม่ ครู่หนึ่งก็พูดว่าหรงซิวตาไม่ถึง นางบ่นนู่นนี่อยู่กว่าครึ่งวัน น่าจะพูดจนเหนื่อยแล้วถึงได้โบกมือเรียกให้แม่นมมาช่วยสอน
แม่นมหน้าตาใจดีมีเมตตา พยายามพูดเบาๆ ช้าๆ ในการสอน ลงรายละเอียด เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการไม่ผ่านเกณฑ์ซึ่งจะทำให้มีเื่วุ่นวายอีก อวิ๋นอี้ฟังการสอนอย่างตั้งใจ
นอกจากการนับเงิน ครานี้นับได้ว่านางจริงจังมากแล้ว
นางมิใช่คนโง่ นางเรียนรู้ได้เร็วพอ
ก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน ก็ทำรูปแบบพื้นฐานที่สุดสองแบบได้แล้ว ทั้งยังทำงานที่ได้รับมอบหมายจากแม่นมในชั้นเรียนเสร็จแล้วด้วย
เมื่อแม่นมเห็นว่านางก้าวหน้าขึ้นมาก พลันกล่าวคำชมนาง จากนั้นจึงจบบทเรียน
กลุ่มคนวุ่นกันเก็บข้าวของ กู่ซือฝานเก็บของอย่างรวดเร็วแล้วมาหานาง “ท่านพี่เพคะ พวกเราไปแช่น้ำพุร้อนกันเถิดเพคะ!”
“น้ำพุร้อนจากที่ใด?” อวิ๋นอี้อยากรู้ "สำนักซืออี๋มีหรือ?"
"ใช่เพคะ! พวกนางล้วนไปกัน!" กู่ซือฝานชี้ไปที่คนที่เดินผ่านนางไป รวมทั้งพระชายาเอกกับซูเมี่ยวเออร์และกลุ่มคนของนางด้วย
อวิ๋นอี้ตาเป็ประกาย นางกำลังกังวลอยู่เลย โอกาสกลับมาหานางแล้ว
พระเ้าทรงเมตตา
“ไปสิ!” นางข่มความตื่นเต้นในใจไว้ พยักหน้า “เหตุใดจะไม่ไปเล่า? ที่นี่มิใช่บ้านของพวกนางเสียหน่อย! ไปกัน!”
บอกว่าไปก็ไปทันที
ทั้งสองเดินตามกัน ออกจากห้องเย็บปักถักร้อย เดินผ่านศาลาและห้องต่างๆ ไปถึงสวนด้านหลัง จากนั้นเดินตามเส้นทางหินในสวนไป ภาพที่เห็นพลันเปลี่ยนไปราวกับไม่ใช่สำนักเรียนรู้
น้ำพุร้อนเป็แบบเปิดโล่ง มีสระน้ำพุน้อยใหญ่ ที่คั่นด้วยกระถางต้นไม้และฉากกั้น
ฝั่งตะวันออกและตะวันตกใกล้กับกำแพง มีเสียงหยอกล้อพูดคุยกัน สระตรงกลางที่ไม่มีผู้ใดใช้
กู่ซือฝานกำลังคิดว่าจะเลือกสระใดดี อวิ๋นอี้มิสนใจเื่พวกนั้น นางเห็นเสื้อผ้าที่พวกนางที่ผลัดไว้บนม้านั่งหลังฉากกั้น จึงคิดได้ขึ้นมาทันใด
นางบอกกู่ซือฝาน "ข้าจะทำการใดเสียหน่อย เ้าอย่าส่งเสียงนะ กลับมาข้าจะอธิบายให้ฟัง ได้ยินหรือไม่?"
กู่ซือฝานชะงัก ไม่ทันที่ที่นางจะทันได้ตอบโต้ อวิ๋นอี้ก็ย่องไปที่ข้างม้านั่ง
ในสระทางทิศตะวันออกมีซูเมี่ยวเออร์และคนอื่นๆ อยู่
นางยกริมฝีปากขึ้นยิ้ม หยิบขวดโหลเครื่องลายครามขึ้นมา เปิดฝาเบาๆ แล้วเทผงยาลงบนเสื้อผ้าเท่าๆ กัน
จากนั้นก็ทำแบบเดียวกันเสื้อผ้าของพระชายาเอกและผู้อื่น
เสร็จแล้วจึงพากู่ซือฝานจากไปอย่างเงียบๆ
ห่างจากสระน้ำพุร้อนไปเกือบหนึ่งร้อยเมตร กู่ซือฝานอดใจไม่ไหว จึงถาม “ท่านพี่เพคะ พวกเรามิแช่น้ำร้อนกันแล้วหรือเพคะ?”
“เราค่อยไปกันตอนกลางคืนเถิด” อวิ๋นอี้พูด "ข้าไม่อยากเจอพวกนาง"
“โอ้ แล้วเมื่อครู่ท่านพี่ไปเทกระไรใส่เสื้อผ้าหรือเพคะ!" กู่ซือฝานถามอีกครา
อวิ๋นอี้ขยิบตาอย่างลึกลับ “อาวุธลับ คืนนี้พวกนางโดนแน่”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้