หันกลับไป ยิ้มกับครก
อย่างน้อยก็มีวัตถุดิบสำหรับโขลกพริกแกงละว้า
หั่นข่าตระไคร้เตรียมไว้ หยิบลูกมะกรูดมาปอกเอาเปลือกสีเขียวออกบางๆหั่นฝอยเตรียมไว้
คว้าพริกกับเครื่องเทศมาโขลกเสียงโขลกพริกแกงดังลั่นวังหลวง
หันกลับไปพลิกของทอดที่กำลังสุกเหลืองด้านหนึ่งให้อีกด้านหนึ่งลงไปทอดบ้าง หั่นตะไคร้ลงไปทอดที่หลังเพราะตะไคร้จะสุกก่อนหากใส่ไปพร้อมกันจะต้องไหม้แน่ๆ
โขลกพริกแกงจนละเอียด สีแดงสดยกไม่ตีพริกขึ้นมาสูดดมกลิ่นหอม
เสร็จแล้วก็ใช้กระชอนที่สานจากไม้ไผ่ช้อนเอาของทอดสีเหลืองทองที่กรอบนอกนุ่มในพร้อมกับตะไคร้ที่เหลืองสวยเช่นกันขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันรินน้ำมันออกจากกระทะ เหลือน้ำมันนิดหน่อย ใส่พริกแกงที่โขลกลงไปผัด เสียงซ่าาดั่งๆทำเอาอะดีนาลีนพุ่งปรี๊ด
คราวนี้เองที่ป้าตื้อมาชะโงกมองที่หน้าต่าง
“ฮัดชิ้ว หืมมม”
“เป็อย่างไรป้าหอมไหม”ศรีไพรถามยิ้มๆ
“สิ่งนี้เรียกอะไรที่เ้ากำลังผัดอยู่นั่น”
ป้าตื้อถามด้วยความอยากรู้
“อ่อ นี่คือพริกแกง”
“ไม่มีพิษแน่ใช่ไหมฝ่าา เกรงว่าจะต้องพิษจึงไม่ยอมเสวย”ศรีไพรขมวดคิ้ว
“อ้าวเหรอ นึกว่าอาหารไม่ถูกปาก”
“นั่นก็มีส่วนอย่างมากฝ่าาเกรงว่าจะมีคนวางยาพิษเลยยอมอด แต่รู้ไหม ว่าท่านหมอพูดว่านั้นเพราะไม่มีเครื่องเสวยที่ทำให้ฝ่าาอยากเสวยมากกว่า”
ป้าตื้อพูดไม่หยุด ตาก็มองสิ่งที่ศรีไพรกำลังลงมือปรุงน้ำตาลนิดเต้าเจี้ยวหน่อย ใส่เห็ดหอมหั่นลงไปจนเห็ดหอมสุกจึงนำของทอดสีเหลืองทองกับตะไคร้ทอดกรอบลงไปคลุกเคล้ายกกระทะออกจากเตา ใส่ใบกะเพราลงไปเป็อันเสร็จพิธี หอมไปทั่วห้องเครื่อง
เหล่านางในห้องเครื่องมาชะโงกมองว่ามันคือเครื่องเสวยที่มีชื่อว่ากระไร
ศรีไรตักผัดเผ็ดใส่จานเงินหาฝามาปิดครอบไว้
ยกวางในถาด ตักข้าวสาลีที่หุงร้อนๆ ในหม้อใส่ถ้วยสองใบวางข้างผัดเผ็ดในถาด
“เสิร์ฟร้อนๆ”
“เครื่องเสวยนี้มีชื่อว่าอย่างไร”
“ผัดเผ็ด”
ป้าตื้อพยักหน้ากับนางในห้องเครื่องที่รีบยกเครื่องเสวยไปถวายฮ่องเต้
“เดี๋ยวแน่ใจหรือว่าจะถวายเครื่องเสวยชนิดนี้”
“ตาแก่ อยู่เฉยๆ เสียข้าเห็นว่าเครื่องเสวยที่นางทำกลิ่นหอมชวนให้น้ำลายสอเื่อื่นค่อยว่ากันอีกที พวกเรากำลังเข้าตาจน”
ลุงซุนถอนหายใจ ศรีไพรเช็ดมือที่เพิ่งจะล้างกับผ้ากันเปื้อนที่มัดไว้ที่เอว
“ถ้ามีอะไรผิดพลาดฉันรับผิดชอบเพียงคนเดียวลุงก็บอกไปว่าฉันดื้อไม่ยอมเชื่อฟังลุง”ป้าตื้อส่ายหน้าไปมา
“เอาเหอะน่าตาแก่นางหวังดีน่า บางทีฝ่าาอาจเลือกเครื่องเสวยของนางก็ได้”
“แล้วเฟยฟางเล่านางปรุงเครื่องเสวยที่ชื่อว่าอะไร”
ลุงซุนเอ่ยปากถามนางในห้องเครื่องอีกคนนามว่าอี้เอ่อร์
“ป่านนี้นางยังยืนนิ่งไม่รู้ว่าจะปรุงสิ่งใดถวาย”
อี้เอ่อร์ตอบเบาๆ
นางในห้องเครื่องยกถาดผัดเผ็ดและข้าวร้อนๆ สาวเท้ายังห้องบรรทมของฮ่องเต้หรวนหนิงหลง宁龙 (หนิงหลง) = ัแห่งความสงบเสงี่ยม
“กลิ่นอะไร”
หรวนหนิงหลง ลุกขึ้นจากแท่นบรรทมในท่านอนหงายหยียดยาวยกมือก่ายหน้าผากหลับตานิ่งกับท้องที่เลิกร้องไปนานแล้ว
ขันทีชราเป่ยกงกงรีบประสานมือท่าทีนอบน้อม
“ฝ่าานางในห้องเครื่องนำเครื่องเสวยชุดใหม่มาแล้วคาดว่าจะเป็ของสิ่งนี้ที่ส่งกลิ่นข้าน้อยเห็นว่าฝ่าาทรงบรรทมจึงไม่ได้ปลุก”หนิงหลงถอนหายใจ
“ยกเข้ามา ทดสอบพิษ”
เป่ยกงกงโบกมือให้นางในห้องเครื่องที่ยกถาดเข้ามาวาง
แล้วเอื้อมมือเปิดฝาครอบผัดเผ็ดออกช้าๆ
กลิ่นหอมเผ็ดร้อนขจรขจายไปทั่วห้องบรรทม หนิงหลงจ้องมองสิ่งที่อยู่ในจานเงิน ไม่อาจบอกได้ว่าคือสิ่งใดกันในเมื่อถูกบั้งและทอดจนเป็สีเหลืองทอง
เป่ยกงกงคีบเอาผัดเผ็ดเข้าปาก ดวงตากลับเบิกโพลงด้วยรสแปลกลิ้น รสััเผ็ดร้อนทว่าลงตัวทั้งกลมกล่อมหอมหวน จนทำให้น้ำลายไหลได้เลยทีเดียว เคี้ยวช้าๆ แล้วกลืน รสดีเสียจนสึกเสียดายที่คีบชิ้นเล็กไปอยากจะลิ้มรสอีกสักคำ ความเผ็ดร้อนในปากบวกกับกลิ่นหอมของเครื่องเทศในพริกแกงกับกลิ่นฉุนของใบกะเพราช่างพอเหมาะพอเจาะส่งผลให้ความกรอบนุ่มของทอดสีเหลือง ชูรสได้ดี รสเผ็ดทำให้เจริญอาหาร แต่ไม่วายสงสัยว่าของสิ่งนี้ทำจากวัตถุดิบใดกันแน่ ถึงจะใกล้เคียงกับเนื้อหมูแต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว
“ไม่มีพิษพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าาจะเสวยเลยหรือไม่”
“เลื่อนถาดมาตรงหน้าข้า”
สูดดมกลิ่นหอมจนน้ำลายสอแต่ไม่อาจแสดงกิริยาว่าหิวจนตาลายออกมาด้วยเป้นคนที่มักจะสะกดกลั้นความรู้สึกได้ดีตามประสานักรบนั่นเอง
หนิงหลงทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ เป่ยกงกงเลื่อนถาดอาหารตรงหน้าส่งตะเกียบเงินให้อย่างนอบน้อม หนิงหลงคีบผัดเผ็ดชิ้นหนึ่งใส่ปาก
รู้สึกถึงความเผ็ดที่ปลายลิ้น พอเคี้ยวจึงััรสกลมกล่อมความกรอบนอกนุ่มในยิ่งทำให้รสััมีความน่าพิศวง ความเผ็ดในตอนท้ายบวกกับกลิ่นหอมแทรกซึมไปทั่วปากพริกแกงไม่ได้เผ็ดจี๊ดจ๊าดแต่ก็เผ็ด พอรู้สึกเผ็ดก็พุ้ยข้าวร้อนๆ ใส่ปากแก้เผ็ดยิ่งอร่อย จนแทบลืมเคี้ยว
เป่ยกงกงยิ้มแก้มปริ
เดินมากระซิบกระซาบกับนางในห้องเครื่อง
แล้วโบกมือให้นางกลับไป
“รสดี จริงๆ เครื่องเสวยนี่มีชื่อว่าอะไร”
หนิงหลง มองหาถ้วยข้าวอยากจะเพิ่มข้าวอีก เป่ยกงกงรู้ทันรีบยกถ้วยข้าวร้อนๆ มาวางตรงหน้า นึกชื่นชมคนจัดถาดอาหารที่เพิ่มข้าวมาราวกับจะรู้ว่ามื้อนี้ฝ่าาจะเสวยข้าวถึงสองถ้วย
“อ่า นางในห้องเครื่องที่ยกถาดอาหารมานางเรียกมันว่า…ผัดเผ็ด”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้