เซียวจื่อเมิ่งยิ้มหวานพร้อมกล่าว “พี่สะใภ้ใหญ่เป็คนทำผมให้ข้าเสื้อผ้าพี่สะใภ้ใหญ่ก็เป็คนทำให้! พี่รอง ดูดีหรือไม่?”
นางเองยังคิดว่าดูดียิ่งนัก เงาตัวเองที่สะท้อนในกระจกทั้งดูดีทั้งสะอาด นางยังไม่เคยเห็นตัวเองที่ดูดีขนาดนี้มาก่อน
เซียวจื่อเซวียนเงยหน้าขึ้นมองเซี่ยยวี่หลัวที่กำลังยิ้มอย่างสุขใจขณะยืนพิงขอบประตูก่อนยิ้มพร้อมกล่าวกับน้องสาว “ดูดีจริงๆ!”
ไม่ว่าเซี่ยยวี่หลัวจะทำอะไร แต่อย่างน้อยตอนนี้เซี่ยยวี่หลัวก็ดีกับน้องสาวตนเซียวจื่อเซวียนรู้ว่าต้องสำนึกบุญคุณ
เซี่ยยวี่หลัวอาบน้ำให้เซียวจื่อเมิ่งเสร็จ ก็เป็่สายแล้วนางรีบไปห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารเที่ยง บอกไว้แล้วว่าตอนเที่ยงจะกินเกอต่าทัง [1] อีก
นางตอกไข่ไก่สองฟองลงไปในแป้ง หลังเตรียมแป้งเสร็จเห็นว่าไม่มีฟืนแล้ว จึงคิดจะไปหยิบฟืน เซียวจื่อเซวียนก็หอบฟืนเข้ามาพอดีหลังจากวางฟืนลง จึงนั่งบนเก้าอี้เล็กช่วยใส่ฟืน
เซี่ยยวี่หลัวเห็นก็ไม่ได้กล่าวอะไรหลังจากน้ำเดือดจึงใส่ก้อนแป้งลงไป เมื่อแป้งจับตัวแล้วจึงคนให้เข้าน้ำ ก้อนแป้งที่จับตัวเป็ก้อนลอยขึ้นเหนือน้ำรอจนน้ำเดือดอีกครั้ง เซี่ยยวี่หลัวจึงใส่ผักจี้ช่ายที่หั่นไว้แล้วครั้งนี้นางใส่ผักจี้ช่ายลงไปไม่น้อย เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการผักก็ต้องกินให้มาก เมื่อน้ำเดือดอีกครั้ง เซี่ยยวี่หลัวจึงบอกว่าไม่ต้องเติมฟืนแล้วพร้อมกับเหยาะน้ำมันหอมลงไปจำนวนหนึ่ง ก่อนใส่เกลือเล็กน้อยจากนั้นจึงนำขึ้นจากหม้อ
เพิ่งตักออกมา เพียงหันไปวางกระบวยลง หันกลับมาเกอต่าทังก็หายไปแล้ว
เห็นเพียงแผ่นหลังของเซียวจื่อเซวียน ที่กำลังยกเกอต่าทังออกไปอย่างระมัดระวังเซี่ยยวี่หลัวยกยิ้มขึ้นมา ใช้น้ำร้อนลวกชามกับตะเกียบ หันกลับไปไม่ทันไรเซียวจื่อเซวียนก็เข้ามาอีกครั้ง และยกชามกับตะเกียบไปจากไป
นี่เขากำลังช่วยอย่างนั้นหรือ?
เพียงแต่ไม่กล่าวอะไรกับตนเองแม้แต่คำเดียว เซี่ยยวี่หลัวยิ้มขมขื่นพร้อมส่ายหน้าระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์ใจคนสินะ!
เซี่ยยวี่หลัว หนทางยังยาวไกล เ้าเพิ่งเริ่มก้าวเดินเท่านั้น!
ภายในห้อง เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งยืนรอนาง เมื่อเห็นเซี่ยยวี่หลัวเดินเข้ามาก็ยังไม่กล้านั่ง รอจนเซี่ยยวี่หลัวตักแบ่งเสร็จแล้ว วางไว้ตรงหน้าพวกเขา ถึงกล้านั่งลงเด็กสองคนก็ไม่ได้หวาดกลัวเหมือนเคย เซี่ยยวี่หลัวบอกเพียงครั้งเดียวพวกเขาก็นั่งลงและเริ่มกินทันที
เมื่อเซี่ยยวี่หลัวกินเสร็จ เซียวจื่อเซวียนก็ไปล้างชามเซียวจื่อเมิ่งไปช่วยอีกแรง ส่วนเื่อื่นๆไม่จำเป็ต้องให้เซี่ยยวี่หลัวช่วยด้วยซ้ำ
กินอิ่มแล้ว เซี่ยยวี่หลัวไปพักผ่อนตามปกติ
หลังจากตื่นนอน เซี่ยยวี่หลัวนำเสื้อผ้าที่สวมไม่ได้มาเย็บแก้อยู่บนเตียงไม่ง่ายเลยกว่าจะแก้เสร็จสักตัว พอเหยียดกายบิดี้เี ก็ได้ยินเสียงประหลาดดังมาจากด้านนอกเซี่ยยวี่หลัวรีบลุกขึ้น เปิดประตูห้องมองออกไป ภายในลานบ้านไม่มีที่ให้หลบซ่อนแต่ไม่เห็นใครเลย!
ทว่า เมื่อครู่นางได้ยินจริงๆ ว่ามีคนอยู่
ความรู้สึกประหลาดเช่นนี้...
เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกประหลาดใจนัก จู่ๆ ก็รู้สึกว่าตนกำลังถูกจับตามอง
หนที่สองแล้ว!
นางกลับห้องไปด้วยความรู้สึกฉงนพับเสื้อผ้าที่แก้แล้วอย่างเป็ระเบียบ เก็บข้าวของเสร็จ พระอาทิตย์ก็ตกแล้วท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เซี่ยยวี่หลัวเริ่มเตรียมอาหารเย็น เหลือไข่สองฟองสุดท้ายเซี่ยยวี่หลัวไม่คิดประหยัด ใช้ทั้งสองฟองที่เหลือ
นางหุงข้าวหม้อใบเล็ก ทำแผ่นแป้งไข่ไก่ใส่ผักจี้ช่ายทั้งยังต้มแกงผักจี้ช่าย
นางใช้ผักจี้ช่ายเต็มที่ถึงอย่างไรสองพี่น้องก็ไปเก็บผักป่าทุกวัน ยิ่งไปกว่านั้น กินผักจี้ช่ายมากหน่อยก็ดีต่อร่างกายช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหาร
หลังทำอาหารเสร็จ สองพี่น้องก็กลับมานำผักป่ากลับมาอีกหนึ่งตะกร้า
เซี่ยยวี่หลัวเดินไปหาพวกเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เซียวจื่อเมิ่งไม่คิดจะหลบเลี่ยงหรือถอยหลังเซี่ยยวี่หลัวยื่นมือรับตะกร้ามา เซียวจื่อเซวียนก็ยื่นให้นางแต่โดยดี
เซี่ยยวี่หลัวรับตะกร้ามา ดูผักจี้ช่ายสดใหม่ที่เพิ่งเก็บมาหมาดๆประคองก้นตะกร้า นำไปแขวนไว้บนตะขอเหล็กบนคานห้อง จากนั้นจึงตักน้ำมาครึ่งอ่างไม้ก่อนเติมน้ำร้อนสองกระบวย แล้วจึงเรียกเด็กสองคน “มาล้างมือเร็ว”
น้ำในอ่างไม้อุ่นกำลังดี เซียวจื่อเมิ่งยื่นมือเข้าไปในอ่างยิ้มพร้อมกล่าวอย่างมีความสุข “อุ่นเหลือเกิน!”
เซี่ยยวี่หลัวก้มลงมองนาง แย้มยิ้มงามดุจบุปผา “เ้าแมวน้อย เช็ดหน้าแล้วเรามากินข้าวกัน!”
เ้าแมวน้อย?
ครั้งก่อนพี่สะใภ้ใหญ่ก็บอกว่าตัวเองเป็ลูกแมวตัวเปื้อน
เซียวจื่อเมิ่งยิ้มกว้าง ไม่นานก็ล้างมือเสร็จก่อนะโโลดเต้นไปช่วยเซี่ยยวี่หลัว
จิตใจของเด็กบริสุทธิ์ที่สุด และซื้อใจได้ง่ายที่สุดนางในอดีตเคยทำเื่ไม่ดีมากมาย แต่หลังจากทำเื่ดีๆเด็กคนนี้ก็จะลืมความรู้สึกไม่ดีในอดีตไป
แต่เด็กที่โตกว่าเล็กน้อยนั้น...
เซี่ยยวี่หลัวหันมองเด็กชาย ที่ยังเงียบขรึมไม่พูดจา ออกไปเทน้ำสกปรกด้านนอกด้วยสีหน้าบึ้งตึง
คิดจะซื้อใจเขา ต้องพยายามให้มากขึ้นอีก
หลังกินมื้อเย็นเสร็จ เซียวจื่อเซวียนไปล้างชามที่ห้องครัวเซี่ยยวี่หลัวจูงมือเซียวจื่อเมิ่งเข้าไปในห้องของนางนำเสื้อนวมสีเหลืองที่ตัวเองใช้เวลาตลอด่บ่ายในการเย็บแก้มาเทียบขนาดร่างกายเซียวจื่อเมิ่ง
ฝีมือการเย็บของนางไม่เลวเลย แก้ขนาดเสื้อนวมได้พอดีตัวใหญ่กว่าตัวเล็กน้อย ขณะขยับร่างกาย ยังมีที่เหลือ ตำแหน่งที่ตัดออกมีการเย็บเก็บอย่างละเอียด เย็บเหมือนกับเพิ่งซื้อมาใหม่อย่างไรอย่างนั้น
เซียวจื่อเมิ่งไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีเสื้อนวมอีกหนึ่งตัวเอ่ยถามเซี่ยยวี่หลัวด้วยท่าทางหวั่นเกรง "ตัวนี้ก็ให้ข้าอย่างนั้นหรือ?"
เซี่ยยวี่หลัวพยักหน้า "แน่นอน ล้วนแต่เป็เสื้อที่พี่สะใภ้ใส่ไม่ได้แล้ว รอให้พี่สะใภ้มีเงินจะซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้เ้าใส่!"
ซื้อเสื้อผ้าใหม่มาใส่?
เซียวจื่อเมิ่งตกตะลึงจนมองเซี่ยยวี่หลัวด้วยอาการอ้าปากค้างอย่าว่าแต่ซื้อเสื้อผ้าเลย แค่เซี่ยยวี่หลัวเย็บแก้เสื้อให้นางสองตัวก็ทำให้นางรู้สึกเหลือเชื่อแล้ว ั้แ่นางจำความได้ นางยังไม่เคยได้สวมใส่เสื้อผ้าดีขนาดนี้มาก่อน
เมื่อเห็นเซียวจื่อเมิ่งไม่รับไป เซี่ยยวี่หลัวจึงรู้สึกร้อนใจ “เป็อะไรไป? ไม่ชอบสีนี้หรือ? ไม่ชอบก็ไม่เป็อะไร ครั้งหน้าพี่สะใภ้จะทำสีอื่นให้เ้า!”
เซียวจื่อเมิ่งรีบกอดเสื้อไว้แน่นหยาดน้ำตาเม็ดโตพลันไหลรินลงข้างแก้ม “ชอบ ข้าชอบมาก!”
เซี่ยยวี่หลัวกล่าว “ชอบแล้วจะร้องไห้ไปไย อย่าร้องไห้ เ้าน่ารักขนาดนี้ ร้องไห้จะดูไม่งามไม่ต้องร้องแล้ว!”
นางเป็คนชอบยิ้มแย้ม ในแต่ละวันมีเื่เบิกบานใจมากมายดังนั้น นางจึงไม่ชอบความเศร้าโศก และนางก็เป็คนใจอ่อนเสียยิ่งกว่าอะไรทนเห็นคนอื่นร้องไห้ไม่ได้
เซียวจื่อเมิ่งกัดริมฝีปากขณะฝืนกลั้นน้ำตา มองดูเซี่ยยวี่หลัวเบื้องลึกแววตาไม่มีความหวาดกลัวเหมือนก่อนหน้า นางกอดเสื้อไว้ ก้าวเข้าไปคล้ายอยากเชื่อมความสัมพันธ์หยุดอยู่ในตำแหน่งที่ห่างจากเซี่ยยวี่หลัวสองก้าวดวงตาคู่โตจ้องมองเซี่ยยวี่หลัวด้วยหยาดน้ำตาคลอเบ้าเหมือนอยากกล่าวอะไรแต่ก็ไม่กล้า
“เป็อันใดไปเล่า?” เซี่ยยวี่หลัวพบว่านางผิดปกติจึงรีบเอ่ยถามด้วยความเป็ห่วง “ไม่สบายที่ใดหรือไม่?”
เซียวจื่อเมิ่งส่ายหน้า สูดลมหายใจก่อนกล่าวด้วยท่าทางน่าสงสาร “พี่สะใภ้ใหญ่ ข้า… ข้าขอกอดท่านได้หรือไม่?”
เซี่ยยวี่หลัวย่อตัวลงช้าๆ จากนั้นจึงกางแขน ยิ้มพร้อมกล่าว “จื่อเมิ่ง...”
เซียวจื่อเมิ่งโผเข้าอ้อมอกเซี่ยยวี่หลัวเซี่ยยวี่หลัวโอบกอดร่างซูบผอมนั้นไว้แน่น
พอคิดถึงอนาคตอันน่าเวทนาของเด็กคนนี้ที่เขียนไว้ในนิยาย เซี่ยยวี่หลัวก็รู้สึกแสบจมูกขึ้นมาในเสี้ยววินาทีนี้ นางไม่เสียใจเลยที่ทะลุมิติเข้ามาในร่างนางร้ายผู้นี้ กลับกันนางรู้สึกดีใจยิ่งนัก
ยังดีที่ตนเองไม่ได้มาช้าเกินไป!
เื่ร้ายทั้งหมดยังไม่ได้เกิดขึ้นเด็กน้อยผู้นี้ยังมีชีวิตและยืนอยู่ตรงหน้านาง!
เซี่ยยวี่หลัวดีใจยิ่งนัก คืนวันต่อจากนี้นางจะคอยเลี้ยงดูเด็กคนนี้ให้เติบใหญ่ ไม่ให้นางเผชิญกับชะตากรรมน่าอนาถตามที่เขียนไว้ในนิยาย
เชิงอรรถ
[1]เกอต่าทัง เป็ซุปน้ำข้นที่ใส่ก้อนแป้งกลมๆ