“จากเทคนิคการแต่งหน้าของข้าในวันนี้ ได้เน้นเสริมดวงตาสองชั้นอันสวยงามคู่นี้ของนาง แล้วแต้มสีสดใสเข้าไปอีก จมูกเดิมทีดั้งต่ำไปหน่อย แต่ข้าได้ใช้เทคนิคการแต่งหน้าทำให้มันสูงขึ้น พูดไปแล้ว ดูจากโครงสร้าง เพียงแค่ร่างเส้นง่ายๆ ไม่กี่เส้นลงไปขอแค่ท่านทำมันดีแล้ว ก็สามารถทำให้สตรีที่งดงามปรากฏตัวออกมาได้”
จากการที่นางแต่งหน้าเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้ดูด้วยตนเอง ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างได้เห็นขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงกับตา ดังนั้นตอนนี้นางพูดอะไร ทุกคนก็ต่างเชื่อ
“ข้าเองก็อยากจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ ข้าเองก็ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ในความเคร่งครึมอีก”
“ข้าอยากจะเปลี่ยนมาดูภูมิฐานหน่อย สามีข้ามักจะพูดว่าข้าดูแล้วไม่ค่อยจริงจัง....”
ในตอนนั้น เพราะการเปลี่ยนไปอย่างมากของหลิวฟูเหริน เหล่าฟูเหรินทุกคนก็ต่างอยากจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตนเอง
“ได้ค่ะ ได้ ได้เ้าค่ะ พวกท่านรอสักครู่นะเ้าคะ ข้าจะทำเดี๋ยวนี้เดี๋ยวข้าจะไปทำให้นะเ้าคะ มาทีละคน อย่าเบียดกันนะเ้าคะ”
จะต้องแต่งหน้าให้คนมากมาย เฉินเนี้ยนหรานคนเดียวจัดการไม่อยู่ แต่ว่าก็ยังมีหนิงเซียง รวมถึงสาวใช้สี
ใน่นี้สาวใช้สียิ่งชอบทำงานกับเฉินเนี้ยนหรานแล้วว่ากันตามที่หนิงเซียงพูด ก็คือหมาป่าที่เลี้ยงมาจนโต แต่หลังจากที่มาเจอกับเฉินเนี้ยนหราน ก็เปลี่ยนมากลายเป็ป่าหมาตัวน้อย
แต่ว่า สาวใช้สีก็เริ่มมีจิติญญาขึ้นมาแล้วจริงๆ
ทางด้านความงามของนาง เหมือนจะเริ่มเข้าใจในธรรมชาติ อย่างเช่น การเข้าคู่เสื้อผ้า แล้วก็การแต่งหน้าท้ังหมดทั้งมวล ถึงแม้ถ้าเทียบกับเฉินเนี้ยนหรานนางยังทำได้ไม่ดีเท่าไร แต่ก็ดีกว่าหนิงเซียงที่เป็สตรีข้ามมิติเหมือนกันเยอะเลย
เพราะเหตุนี้ แม้หนิงเซียงเองก็ยังใ ไม่ใช่สตรีที่ข้ามมิติทุกคนจะสามารถมีชีวิตได้เป็ตัวเองอย่างเฉินเนี้ยนหราน และไม่ใช่สตรีข้ามมิติทุกคนจะสามารถมีชีวิตที่สวยงาม
บางครั้ง ทั้งๆที่เป็เื่เดียวกัน บางคนกลับประสบความสำเร็จ แต่บางคนหลังจากใช้กำลังสิบสองล้านกว่า แต่กลับได้ไม่ได้อะไรกลับมาเลย
โขคดีที่หนิงเซียงสามารถสอนคนเปลี่ยนเสื้อผ้าได้โดยดูจากรูปหน้าของสตรีทุกท่าน แล้วก็การแต่งหน้าที่จะแต่งนางถึงได้เลือกชุดที่เหมาะสมให้กับสตรีพวกนั้น ก่อนจะชี้แนะการเลือกเครื่องประดับต่อมาก็ให้เฉินเนี้ยนหรานและสาวใช้สีแต่งหน้าให้พวกนาง
เสื้อผ้าที่จ้างคนทำออกมาหลายแบบก็ถูกขายออกไปจนหมดภายในคืนเดียว ส่วนเฉินเนี้ยนหรานกับสาวใช้สีก็ยิ่งเหนื่อยจนมือไม้อ่อน
ตอนที่นั่งอยู่บนรถม้าโจวอ้าวเสวียนก็นั่งนวดข้อมือของนางด้วยหน้าถมึงทึง “ข้าบอกแล้วว่าเลี้ยงเ้าได้ยังจะออกมาทำงาน เ้าพูดสิ เช่นนี้เ้าจะไม่เหนื่อยตายได้อย่างไร”
เฉินเนี้ยนหรานยู่ปากน้อยใจ“สามี เ้าเป็ห่วงข้าหรือ?”
“ไม่ใช่….” ชายหนุ่มหน้าหน้าไปมองด้วยความหงุดหงิดแต่น้ำหนักการนวดที่มือกลับลงแรงหนักขึ้น
“ฮี่ๆ ข้ารู้นะสามีเป็ห่วงข้า ฮ่าๆ แต่ว่า เ้าไม่คิดว่าข้าที่งานยุ่งเช่นนี้ยิ่งดึงดูดเ้าหรือ สามี…..”
นางลากเสียงยาวในน้ำเสียงมีความออดอ้อนอย่างชัดเจน
โจวอ้าวเสวียนสะอึกไปหนึ่งทีปิดปากนางเอาไว้ “อย่ามาใช้เสียงเช่นนี้พูดกับข้าอีก รับไม่ได้จริงๆ”
ร่างกายเครียดเกร็งสามารถรับรู้ได้ถึงความผิดปกติของเขา เฉินเนี้ยนหรานหัวเราะฮี่ๆ ออกมา สามีเอย มองใบหน้าที่เหมือนจะเคร่งขรึมในความจริงแล้วกลับถูกนางทำให้เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
“จริงสิ ต่อไปนี้อยู่ด้านนอกเรียกข้าว่าสามีตอนที่อยู่กันสองคนเ้าเรียกข้าว่าเสวียน”
เขาเชยคางนางขึ้น ก่อนจะจุมพิตลงไปที่ริมฝีปากแดงระเรื่อเหมือนตรงนี้จะนุ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เขายิ่งชอบกินมันขึ้นมาเรื่อยๆ เพียงแต่ทุกครั้งที่กินก็รู้สึกหิวขึ้นมาแล้ว แต่สตรีคนนี้กลับมีท่าทางง่วงงุน
เมื่อรู้สึกว่าถูกนางเมินโจวอ้าวเสวียนก็เริ่มไม่พอใจ เขากอดนางเข้ามาในอ้อมกอด
“แม่นาง เ้าจ้างคนมาเพิ่มอีกสักสองสามคนได้นะข้าไม่ได้รู้สึกไม่ดีที่เ้ามีธุรกิจเป็ของตนเอง แต่ว่าข้าไม่หวังให้เ้าทำทุกอย่างด้วยตัวเอง หากเ้าของร้านทั้งโลกนี้เป็เหมือนเ้าที่ทำงานด้วยตัวเองหมดข้าคิดว่าพวกเขาจะต้องเหนื่อยตายเป็แน่ เ้าของร้านที่ดีจะต้องรู้จักว่าจะใช้งานคนอย่างไร และจะต้องรู้จักการบริหารคนข้าไม่ชอบให้เ้าเหนื่อยเช่นนี้….”
มือที่นวดของเขาก็ยิ่งอ่อนโยนขึ้นเรื่อยๆตามร่องรอยจากการนวด ก็ยังมีความอบอุ่นอ่อนๆ ที่ส่งมาให้ นางรู้เขากำลังใช้พลังภายในมาทำให้นางคลายง่วง
“ฮี่ๆ สามี อ๊ะ เสวียนทฤษฎีของเ้า เหมือนกับวิชาการบริหารของพวกข้าที่นั่นเลย แต่ว่าข้าจะฟังคำแนะนำของเ้า ต่อไปข้าจะต้องอยู่กับเ้า สอนลูก แล้วก็ต้องยิ่งหาเวลาให้กับเขาดังนั้นข้าจะไม่ทำแค่งานแล้วเมินพวกเ้า เสวียน ให้เวลาข้าสักหน่อยข้าทำทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางและเชื่อว่าที่นี่จะสามารถให้คนอื่นบริหารได้ส่วนเื่พนักงาน ข้าจะเลือกคนที่นี่มาบ่มเพาะ”
“เช่นนั้นก็ดี…”เขาพูดจบริมฝีปากก็ประทับจูบนางที่ยังคิดอยากจะพูดเื่ความคิดในอนาคต
จนกระทั่งรถแล่นมาถึงที่พักเฉินเนี้ยนหรานถึงได้ถูกปล่อยอก
เมื่อมองดวงตาเลื่อนลอยของนางแล้วยังมีริมฝีปากที่บวมเป่ง โจวอ้าวเสวียนก็ยิ้มอย่างพอใจ
“เ้าที่เป็เช่นนี้น่ารักมาก”
เฉินเนี้ยนหรานโกรธเขา
“เ้าข่มเหงข้า”
“ข่มเหงภรรยาตนเองผิดหรือ?” ชายหนุ่มถามกลับด้วยเหตุผล ทำเอาเฉินเนี้ยนหรานที่ฟังอยู่ถึงกับหมดคำพูด
เอาเถิด ความจริงแล้วนางเองก็ชอบการข่มเหงที่แสนหวานนี่เหมือนกัน
ก็คือถูกความหวานของบุรุษคนนี้ห้อมล้อมเอาไว้ นางกลัวจริงๆ ว่าหากวันหนึ่ง บุรุษคนนี้ไปมองสตรีอื่นมากขึ้นมานางก็คงจะไม่สบายใจ…
หากมีสตรีอื่นอีก….
นางจะเป็เช่นไร?
ในตอนนั้น ภายในใจของนางก็เ็ปแสนสาหัสกลับเป็โจวอ้าวเสวียนที่กุมมือของนางเอาไว้ แล้วเงยหน้ามองดวงดาราบนฟ้า
“พรุ่งนี้ข้าก็ไปกับเ้าด้วย อย่างไรตอนนี้ก็ว่างแล้วว่างอีก จู่ๆ ข้าก็พบว่าได้ฟังคำพูดโศกเศร้าของสตรีพวกนั้นมากขึ้นก็ยิ่งสามารถเข้าใจหัวใจของสตรีเช่นพวกเ้า แม่นาง ถึงแม้เ้าจะหน้าตาน่าเกลียดหน่อยและไม่ได้อ่อนโยนมากมายขนาดนั้น แต่ว่าข้าอยู่กับเ้าแล้วดังนั้นจะไม่ไปมองสตรีอื่นอีก ยิ่งไม่มีทางเป็เหมือนบุรุษของสตรีผู้โศกเศร้าพวกนั้นที่หาอนุเอย สาวใช้ข้างห้องเอย”
“อ๊ะทำไมเ้าถึงรู้ว่าข้ากำลังกังวลปัญหานี้อยู่?”
บุรุษคนนี้มาอยู่ในใจของนางแล้วหรือ?
โจวอ้าวเสวียนจับนางให้เข้ามาใกล้อีกหน่อยสายตาขยับน้อยๆ ก่อนจะมองไปทางก้อนหินที่อยู่ไม่ไกลตรงหน้า เขาก็ดีใจขึ้นมา ก่อนจะอุ้มนางไปทางก้อนหินก้อนนั้น
“มาข้าจะพาเ้าไปดูดาว”
“ฮ่าๆ…”
เฉินเนี้ยนหรานหัวเราะออกมานางมีชีวิตอยู่จนโตมาขนาดนี้แล้ว ไม่เคยไปดูดาวกับใครเลยจริงๆ รู้สึกว่า เื่ดูดาวดูเดือนพวกนี้ถึงแม้จะโรแมนติก แต่ก็เด็กเกินไปหน่อย
โดยเฉพสะสตรีที่มีลูกสองอย่างนางยิ่งสำหรับเื่ดูดาวดูเดือน นางจึงมีความปฏิเสธโดยธรรมชาติ มักจะรู้สึกว่าตนเองไม่เหมาะที่จะมานั่งดูดาวเดือน
“แม่นางท่านพ่อของข้าเป็คนเช่นไร เ้าก็คงจะรู้ดี ตอนที่ท่านแม่ของข้ายังมีชีวิตอยู่นางจะแอบไปร้องไห้ทุกครั้ง ข้ารู้ดียิ่งกว่าใคร เห็นนางเสียใจเช่นนั้น ข้าก็คิดว่าหากข้าโตแล้ว จะไม่มีทางทำให้สตรีข้างกายข้าเ็ปเช่นนี้อีก ความจริงแล้ว สตรีมากมายของท่านพี่มีกี่คนที่จริงใจกับเขา แต่ละคนที่อยากจะอยู่กับเขาก็เพื่อที่จะได้ผลประโยชน์เพราะมองสาเหตุการแย่งความรักทั้งหมดนี่ออก สำหรับข้าแล้วความคิดที่จะหาสตรีมาเพิ่ม มันยิ่งจืดจางลงไปมาก การคบกับเ้า ในตอนแรกเริ่ม….”
เขาไม่ได้พูดต่อแต่เฉินเนี้ยนหรานเองก็รู้ดีว่าเขาอยากจะสื่ออะไร
“ตอนนั้น เ้าคิดแค่ว่าเพราะว่าข้าจะไม่ได้เจอสตรีอย่างเ้าอีก อีกอย่าง เป็เ้าเองที่ส่งตัวเองมาให้ข้าส่วนในอนาคต ข้าจะดีกับภรรยาของข้าก็พอ ใช่หรือไม่?”
เฉินเนี้ยนหรานถามกลับไปอย่างซุกซนแสงสว่างบางๆ ที่สะท้อนบนใบหน้าของนาง รอยยิ้มนั้น ยิ่งมองก็ยิ่งอบอุ่นน่าหลงใหล
***
จนเขาก้มตัวลงไปจุมพิตที่ใบหน้าที่มียิ้มร้ายของนางอย่างควบคุมไม่ได้ซึ่งการกระทำนี้ทำให้โจวอ้าวเสวียนใมาก
“อืมเ้าในตอนนั้นทำให้ข้ารู้สึกเกลียดมาก รู้สึกแค่ว่า จะมองอย่างไรก็เกะกะสายตา”
ดวงตาของเฉินเนี้ยนหรานหรี่ลงนิ้วมือค่อยๆ เลื้อยเข้าไปในสาบเสื้อของเขา
“อืม ใช่สิตอนนั้นข้ามองเ้าออกจะถูกชะตานะ เ้าในตอนนั้นในสายตาของข้าเป็ทองหนึ่งก้อนอย่างไม่ต้องสงสัย ขอแค่กอดเ้าไว้ทั้งชีวิตของข้าก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว”
โจวอ้าวเสวียนเหงื่อตกสตรีคนนี้
“เ้าพูดสิเ้าไม่ได้รู้สึกอะไรกับข้าเลย ทำไมคืนนั้นกลับทำไม่หยุดล่ะ หืม?”
ถึงแม้บนใบหน้าจะยังมีรอยยิ้มแต่โจวอ้าวเสวียนกลับรู้สึกหนาวถึงกระดูก
“คืนนั้น ฮ่าๆ…พวกเรา…ไม่ใช่เพราะถูกวางโอสถหรือ ภรรยารักพวกเรากลับไปดูถวนถวนเถิด เ้าบอกว่าเป็ห่วงเขามิใช่หรือ ก็ไม่รู้ว่าเ้าลูกคนนี้กินเป็อย่างไรบ้างจะท้องเสียอีกไหม”
โจวอ้าวเสวียนอุ้มนางเตรียมจะกลับกระโจม ทว่า มีหรือสตรีตัวน้อยของเขาจะยอมนางยกมือขึ้นมาบิดเนื้อของเขา บิด…หนึ่งรอบ…
“อูย….”
บุรุษที่กำลังจะลุกขึ้นถูกบิดจนขมวดคิ้วด้วยความเ็ป
“อาฮ่า…”
ทั้งสองคนล้มลงไปนอนกับพื้นหญ้า ยังดีก็คือ ตอนที่ล้มลงไปโจวอ้าวเสวียนที่อยู่บนพื้น เฉินเนี้ยนหรานอยู่บนตัวเขา เมื่อเห็นบุรุษที่ล้มลงไปจนหน้าบิดเบี้ยวเฉินเนี้ยนหรานก็ใจนกรี๊ดออกมา
“โจวอ้าวเสวียน เ้าเป็อย่างไรบ้าง เป็อย่างไรบ้าง?รีบลุกขึ้นมาให้ข้าดู”
เมื่อเห็นนางใ โจวอ้าวเสวียนก็รู้สึกผิดไม่อยากทำให้นางใแล้วยกมือขึ้นมาจับมือของนางไว้“แม่นาง ชาตินี้ พวกเราจะต้องอยู่ร่วมกันดีๆ นะ เฮ้อ บิดก็บิดไปเถิดขอแค่ต่อไปเ้าใส่ใจข้ามากๆ แล้วก็ คลอดลูกให้ข้าหลายๆ คน ให้พวกเขาสืบทอดความงดงามของพวกเราไปข้าเองก็ไม่รังเกียจ”
เมื่อรู้ตัวว่าตนเองถูกเ้าหมอนี่หลอก เฉินเนี้ยนหรานก็ทุบลงไปด้วยความโกรธ
“อ๊ากกก เ้าหลอกข้า ดูสิว่าข้าจะไม่ลงโทษเ้า เ้ามันคนเลว”
“ปั่กๆ…”
“อ๊ากก ภรรยารัก ไว้ชีวิตข้า ไว้ชีวิตข้าด้วย….”
ปีศาจเองก็ส่งเสียงร้องขอชีวิตด้วยความใ ยิ่งเขาร้องขอชีวิตได้เกินจริงไปเฉินเนี้ยนหรานก็ยกชกแรงขึ้น
รอจนกระทั่งทุบเหนื่อยแล้ว ตอนที่เงยหน้ามาอีกครั้งก็เห็นรอบตัวมีสายตาของกลุ่มบุรุษสตรีมายืนล้อม
หนิงเซียงเห็นนางเงยหน้าขึ้นมาแล้ว มือเรียวยาวถึงได้สะบัดไปมา
“อา ท่านทุก กลับกระโจมของตัวเองไปเถิด ชุนเทียนก็ใกล้จะถึงแล้วแมวตัวผู้ตัวเมียร้องนี่มันดังไปสักหน่อย ไม่เป็ไร ฟังไปเดี๋ยวก็ชินแล้ว”
เฉินเนี้ยนหรานกับโจวอ้าวเสวียนมองตากัน ก่อนจะคิดเหมือนกันว่าหนิงเซียงตัวแสบ
