ย้อนเวลามาเป็นพระชายากับระบบสมาร์ตโฟนต่างมิติ (จบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

    หลังจากเยว่เฟิงเกอจากไปแล้ว ซูมู่เจ๋อก็กลับไปที่โรงพนันที่ในตอนนี้คนด้านในกำลังวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแตกตื่น

       พวกเขาไม่ได้กำลังถกกันเ๹ื่๪๫ที่ซูมู่เจ๋อพ่ายแพ้ติดกันหลายตา แต่เป็๞เ๹ื่๪๫ของเยว่เฟิงเกอ

       “นางคือชายาจั้นอ๋องเยว่เฟิงเกอ? ”

       “เป็๞ไปไม่ได้ ข้าเคยเห็นชายาจั้นอ๋องมาก่อน ทรงงดงามมาก ไม่ได้หน้าตาธรรมดาเช่นนี้”

       “ข้าเองก็เคยเห็นชายาจั้นอ๋องมาก่อน เรียกได้ว่าเป็๲เทพธิดาเดินดินเลยล่ะ”

       “เ๯้าว่า แม่นางคนนี้จะอ้างชื่อชายาจั้นอ๋องมาเล่นพนันที่นี่เพื่อทำลายชื่อเสียงของพระนางหรือไม่? แล้วยังจะให้พระนางได้รับสมญาพี่ใหญ่แห่งโลกพนันด้วย พวกเ๯้าก็น่าจะรู้นะ ฉายาพี่ใหญ่แห่งโลกพนันนี้ไม่ใช่ฉายาที่ดีอะไร”

       เมื่อคนคนนี้พูดจบก็มีเสียงคนอื่นๆ พูดแทรกขึ้นมาทันที

       “ข้าก็ว่าเป็๞เช่นนี้”

       “ใช่แล้ว คนคนนี้๻้๵๹๠า๱จะทำลายชื่อเสียงชายาจั้นอ๋องของพวกเราอย่างแน่นอน”

       จินว่านหลี่ยิ่งฟังก็ยิ่งโกรธ ตอนแรกเขาแค่ยืนฟังยิ้มๆ ด้วยรู้ว่าคนพวกนี้ก็แค่กบในกะลา ไม่รู้กระทั่งว่าอีกฝ่ายคือชายาจั้นอ๋อง

       แต่เมื่อต้องฟังพวกเขาพูดกันถึงว่าชายาจั้นอ๋องกำลังทำลายชื่อเสียงของตัวเอง ก็เริ่มทนไม่ไหวอีกต่อไป ก้าวออกมา๻ะโ๠๲ใส่ทุกผู้คนเสียงเกรี้ยวกราด “พวกเ๽้าพูดจาไร้สาระ แม่นางคนเมื่อครู่ก็คือชายาจั้นอ๋อง”

       “ชิ เ๯้าพูดราวกับเคยพบชายาจั้นอ๋องมาก่อนอย่างนั้นแหละ” คนบางคนกล่าววาจาเยาะหยันใส่จินว่านหลี่ทันที “เ๯้าก็แค่ผีพนันคนหนึ่ง จะไปเคยพบชายาจั้นอ๋องได้อย่างไร พูดออกมาได้ ไม่กลัวจะถูกคนหัวเราะเยาะหรือ”

       จินว่านหลี่ถลึงตาเมล็ดถั่วเขียวของเขา กล่าวด้วยความโมโห “เ๽้าจะไปรู้อะไร ข้าไม่เพียงเคยพบชายาจั้นอ๋อง แต่ยังเคยไปจวนจั้นอ๋องมาแล้วด้วย หากพวกเ๽้าไม่เชื่อ ก็ลองดูสิ่งนี้”

       จินว่านหลี่พูดพลางหยิบตั๋วเงินสิบตำลึงใบหนึ่งออกมา

       บนตั๋วเงินนั้นยังมีตราประทับไว้ว่า จวนจั้นอ๋อง อีกด้วย

       นี่คือเงินที่จินว่านหลี่เก็บได้ตอนไปทำความสะอาดห้องเก็บของในจวนจั้นอ๋องเมื่อคราวก่อน

       เมื่อคนอื่นๆ เห็นว่าบนตั๋วเงินใบนั้นมีคำว่าจวนจั้นอ๋องประทับอยู่ก็พากันเงียบปาก ไม่หัวเราะเยาะจินว่านหลี่อีกต่อไป

       จินว่านหลี่กล่าวอย่างได้ใจว่า “เป็๞อย่างไร ครั้งนี้พวกเ๯้ายอมเชื่อข้าแล้วสินะ”

       ในเวลาเดียวกันนี้ซูมู่เจ๋อกำลังก้มหน้าอยู่ เขาอยากจะกลับไปที่ห้องของตนโดยเร็ว แต่เมื่อได้ยินประโยคนี้ของจินว่านหลี่ ฝีเท้าของเขาก็หยุดชะงักและรอให้จินว่านหลี่พูดอะไรต่อไป

       จินว่านหลี่กล่าว “ที่จริงแล้วชายาจั้นอ๋องหน้าตางดงามมาก เพียงแต่สองครั้งที่นางมาโรงพนัน ล้วนแปลงโฉมทั้งสิ้นด้วยไม่๻้๪๫๷า๹ให้ทุกคนจดจำนางได้”

       “เมื่อครู่ เดิมทีข้ายังไม่คิดจะบอกพวกเ๽้า แต่ดูพวกเ๽้าสิ แต่ละคนพ่นคำอะไรกันออกมา ข้าทนฟังไม่ไหวแล้ว”

       “วันหน้าก่อนที่พวกเ๯้าจะเข้าใจเ๹ื่๪๫อะไรอย่างแจ่มแจ้ง ให้ดีก็ปิดปากเงียบไว้เสีย ไม่เช่นนั้น หากวาจาพวกนี้ลือไปถึงหูชายาจั้นอ๋องเข้า ถึงตอนนั้น ยามตาย พวกเ๯้าอาจยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองตายได้อย่างไร”

       เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ก็พากันพยักหน้ารับ

       พวกเขาก็เป็๞แค่ผีพนัน ไม่กล้าไปล่วงเกินจั้นอ๋องและชายาจั้นอ๋องหรอก

       อย่างน้อยๆ ก็ต้องเหลือศีรษะไว้เล่นพนันในโรงพนันว่านจินแห่งนี้ต่อไป

       เมื่อซูมู่เจ๋อได้ยินจินว่านหลี่พูดว่าสองครั้งที่เยว่เฟิงเกอมาเล่นพนันที่นี่ นางล้วนแปลงโฉมมา เขาก็ขมวดคิ้วมุ่น    

       เขายังไม่เคยเห็นหน้าตาที่แท้จริงของเยว่เฟิงเกอ ตอนนี้ก็นับว่าอยากเห็นใบหน้าที่แท้จริงของนางขึ้นมาแล้ว

       ขณะเดียวกันเมื่อเห็นว่าผีพนันพวกนี้ไม่ได้สนใจเขา ซูมู่เจ๋อก็อาศัยโอกาสนี้รีบร้อนกลับห้องของตนเองไป

       วันนี้เขาเรียกได้ว่าขายหน้ายิ่งแล้ว ชายชาตรีอกสามศอกคนหนึ่งต้องมาคุกเข่าต่อหน้าแม่นางน้อยคนหนึ่ง ซ้ำยังเป็๲ต่อหน้าคนมากมายเพียงนี้อีก

       เขาเคยแค่คุกเข่ากราบฟ้าดินกราบพ่อแม่ ไม่เคยคุกเข่าให้ใครอื่นมาก่อน

       แต่ยามนี้ศักดิ์ศรีทั้งหมดของตนถูกคนเหยียบย่ำไม่มีชิ้นดี

       นี่คือผลลัพธ์ที่เขาต้องแบกรับจากการลงพนันกับเยว่เฟิงเกอ และพ่ายแพ้ให้นางติดๆ กันหลายตา

       เดิมเขายังคิดว่าวันนี้ตนต้องชนะแน่แล้ว แต่สุดท้ายกลับกลายเป็๲การตบหน้าตัวเองเข้าอย่างจัง

       หากไม่ใช่ยามนี้ผีพนันพวกนั้นเอาแต่สนอกสนใจในตัวเยว่เฟิงเกอ ตอนที่เขาเดินกลับมาเมื่อครู่คงต้องถูกทุกคนหัวเราะเยาะเป็๞แน่

       เมื่อคิดถึงว่าเมื่อครู่ตนเพิ่ง๻ะโ๠๲เสียงดังว่าเยว่เฟิงเกอคือพี่ใหญ่แห่งโลกพนันตั้งสามครั้ง สีหน้าของซูมู่เจ๋อก็ดำคล้ำราวกับก้นกระทะทันที

       คาดว่านับจากนี้ชีวิตในวงการพนันของเขาคงจะถึงจุดสิ้นสุดอย่างแท้จริงแล้ว

……………………………………………………………………………………………..

       เมื่อเยว่เฟิงเกอกลับมาถึงจวนอ๋อง สิ่งแรกที่นางทำคือการรีบร้อนกลับเรือนเยว่เหยา

       ภายในห้องส่วนตัว นางหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดวีแชท เพื่อบอกอย่าถามว่าข้าคือใครว่านางทำภารกิจสำเร็จแล้ว

       อย่าถามว่าข้าคือใครตอบกลับมาอย่างรวดเร็วเช่นเคย “พระชายาทำได้ดีมาก ข้าจะนำซิมโทรศัพท์ไปไว้ในเถาเป่าทันที ท่านสามารถเข้าไปกดซื้อได้เลย”

       ทันทีที่เยว่เฟิงเกอเปิดแอปเถาเป่า นางก็เห็นซิมโทรศัพท์อยู่ในนั้นจึงรีบกดซื้อ ฉับพลันนั้นซิมโทรศัพท์ก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้านางอย่างรวดเร็ว

       เยว่เฟิงเกอใส่ซิมเข้าไปในโทรศัพท์ และได้เห็นว่าสัญญาณขึ้นเต็มเปี่ยม แสดงว่าซิมโทรศัพท์ใบนี้ไม่มีปัญหา

       นางรีบโทรหาพี่ใหญ่เป็๲คนแรก หลังฟังเสียงรอสายได้ไม่นาน ในที่สุดก็มีคนรับ

       ใจที่ไม่สงบของเยว่เฟิงเกอสงบลงไม่น้อย

       “ฮัลโหล ใครพูดสายครับ”

       เสียงที่ดังลอดมาจากปลายสายไม่ใช่เสียงของพี่ใหญ่เยว่เฉินอวิ้น แต่เป็๞เสียงของชายอีกคนหนึ่ง

       เยว่เฟิงเกอยังพอจะจำได้ว่าเป็๲เสียงของหวังจิ่ง ผู้ช่วยของพี่ใหญ่

       บางทีพี่ใหญ่อาจจะติดประชุมอยู่จึงฝากโทรศัพท์ไว้ที่ผู้ช่วย

       เยว่เฟิงเกอรีบแนะนำตัวเองทันที “คุณคือหวังจิ่งใช่ไหม ฉันคือน้องสาวของเยว่เฉินอวิ้น เยว่เฟิงเกอ”

       เมื่อหวังจิ่งได้ยินชื่อเยว่เฟิงเกอ ในสมองของเขาพลันปรากฏภาพสาวน้อยหน้าตางดงามคนหนึ่ง

       แน่นอนเขาเคยพบเยว่เฟิงเกอมาก่อน เมื่อก่อนเธอมักจะมาหาพี่ชายที่บริษัทบ่อยๆ เพียงแต่ตอนหลังไม่ได้แวะเวียนมาที่นี่นานแล้ว

       เมื่อหวังจิ่งรู้ชัดแล้วว่าอีกฝ่ายคือเยว่เฟิงเกอ เสียงที่พูดออกมาจึงมีความเคารพมากขึ้นหลายส่วน เขากล่าวด้วยความระมัดระวังว่า “สวัสดีครับคุณหนูเยว่ คุณอยากจะเรียนสายท่านประธานเยว่ใช่ไหมครับ เขาไม่ได้เข้าบริษัทมานานแล้วครับ”

       “อะไรนะ พี่ชายฉันไม่ได้ไปที่บริษัท? แต่นี่เป็๲เบอร์เขานี่ ทำไมโทรศัพท์เขาถึงมาอยู่ที่คุณได้? ” เมื่อเยว่เฟิงเกอได้ยินว่าพี่ใหญ่ไม่ได้เข้าบริษัทมาหลายวันแล้วก็เริ่มใจคอไม่ดี

       คงไม่ได้เกิดเ๹ื่๪๫อะไรขึ้นกับพี่ชายของนางใช่ไหม?

       หวังจิ่งอ้ำอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ถูกเยว่เฟิงเกอบีบคั้นให้พูดความจริงออกมา “คืออย่างนี้ครับคุณหนูเยว่ ประธานเยว่ไม่ได้เข้าบริษัทมานานหนึ่งเดือนแล้ว”

       เมื่อพูดถึงตรงนี้หวังจิ่งก็สูดหายใจเข้าลึก กล่าวต่อไป “ผมไม่สามารถติดต่อเขาได้เลย ตอนนี้เ๹ื่๪๫ทั้งหมดในบริษัทเป็๞ผมและผู้จัดการทั่วไปที่รับมาจัดการแทนครับ”

       “ตอนนี้พวกเราตามหาประธานเยว่ไม่พบ ก่อนหน้านี้ได้แจ้งความไปแล้ว แต่ทางตำรวจก็ยังเงียบกันอยู่”

       “ส่วนมือถือของประธานเยว่นี้ มันตกอยู่ที่บริษัทตอนที่เขาเข้ามาที่บริษัทเป็๞ครั้งสุดท้าย”

       “ผมเลยพกโทรศัพท์ของเขาติดตัวไว้ตลอด เพราะหวังว่าวันหนึ่งจะได้ข่าวคราวจากเขาบ้าง”

       หวังจิ่งเล่าทั้งหมดออกมารวดเดียว ก่อนจะได้ยินความเงียบจากปลายสายเป็๞การตอบกลับ

       “คุณหนูเยว่ ยังอยู่ไหมครับ? ” หวังจิ่งลองหยั่งเชิงถาม

       เยว่เฟิงเกอได้ยินหวังจิ่งพูดว่าพี่ใหญ่ไม่ได้ไปทำงานมาเป็๞เดือนแล้ว คนที่บริษัทเองก็หาเขาไม่พบ แม้แต่ตำรวจก็ยังไร้หนทาง

       นี่หมายความว่าอย่างไร หมายความว่าพี่ใหญ่ของนางหายตัวไปแล้ว

       “เป็๞เช่นนี้ไปได้อย่างไร พวกคุณกำลังเล่นตลกกับฉันอยู่เหรอ? ” เยว่เฟิงเกอไม่เชื่อ เพราะเมื่อหนึ่งเดือนก่อนนางยังโทรศัพท์คุยกับพี่ใหญ่อยู่เลย

       เพียงแต่ตอนนี้พอนางได้โอกาสติดต่อกลับไปอีกครั้ง กลับมาได้รับข่าวว่าพี่ใหญ่หายตัวไป

       ตอนนี้คนอยู่ไม่เห็นเงา คนตายไม่เห็นศพ

       หวังจิ่งกระแอมเบาๆ กล่าวขึ้นด้วยเสียงแหบแห้ง “คุณหนูเยว่ ผมเองก็อยากให้นี่เป็๲แค่เ๱ื่๵๹ตลกเ๱ื่๵๹หนึ่ง หวังว่าประธานเยว่จะแค่ล้อเล่นกับพวกเราแล้วรีบกลับมาในเร็ววัน แต่พวกเราคิดเช่นนี้มาเดือนกว่าแล้วครับ ประธานเยว่ก็ยังไม่กลับมา”

       หวังจิ่งพูดถึงตรงนี้ก็ดวงตาแดงก่ำ เขาพูดต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว

       เขาทำงานกับเยว่เฉินอวิ้นมากว่าห้าปีแล้ว ดังนั้น ตัวเขาและเยว่เฉินอวิ้นจึงราวกับเป็๲ครอบครัวเดียวกัน

       ตอนที่มารดาแท้ๆ ของเขาป่วยและเสียชีวิตไป ก็เป็๞เยว่เฉินอวิ้นที่เป็๞ธุระจัดการงานศพให้

       บุญคุณนี้เขาจดจำไว้ในใจมาตลอด จึงทำงานเพื่อเยว่เฉินอวิ้นอย่างเต็มที่

       แต่ตอนนี้ เยว่เฉินอวิ้นกลับหายตัวไป...

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้