ชายหนุ่มคนนั้นสวมชุดสีขาว รูปร่างสูง กายเหยียดตรง ยืนอยู่กลางลานกว้างรัศมีพันเมตร
รอบนอกมีทหารวังกว่าสามหมื่นคนล้อมเอาไว้ โดยด้านหน้ามีตี้หลิงเสวียนนั่งบัญชาการเหล่าผู้กล้าอยู่บนตำหนักิหุน ลมปราณของพวกเขาแ่ามากราวกับูเาลูกใหญ่ที่ตั้งตระหง่านไม่ยอมให้ชายหนุ่มคนนี้ข้ามผ่านไปได้
ถึงแม้จะต้องเผชิญหน้ากับอำนาจบารมีแบบนี้ แต่ท่าทางของชายหนุ่มคนดังกล่าวกลับไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เขามองไปยังกลุ่มิเฉินเหยียนที่คุกเข่าเรียงหน้ากระดานอยู่ ดูไม่ออกเลยว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไร
แต่ว่า ในสายตาลึกๆ ของเขามันเต็มไปด้วยความโกรธ! เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ดวงตากลมโตคู่นั้นจับจ้องไปยังตี้หลิงเสวียนที่อยู่บนบัลลังก์!
วินาทีที่ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาทุกคนก็ได้เห็นใบหน้าของเขาชัดๆ สีหน้าของทุกคนตะลึงเป็อันมาก จากนั้นก็ตามมาด้วยความประหลาดใจ!
“องค์ชายสิบเจ็ด ... ิอวี่!”
ไม่รู้ว่าใครที่ส่งเสียงตื่นเต้นนี้ออกมาทำลายบรรยากาศที่เงียบกริบ จากนั้นก็เกิดการพูดคุยกันอย่างอึกทึก!
ิอวี่หายตัวไปจากวังหลวงเมื่อครึ่งปีก่อน มีคนลือกันว่าเขากับิอ๋องทะเลาะกัน ก่อนที่จะหายตัวไป
แรกเริ่มเดิมทีทุกคนยังมีการพูดถึงเื่ของิอวี่กันอยู่มาก ต่อมาพอเื่ซาลงก็ไม่มีใครพูดถึงอีกเลย อีกทั้งพอครบครึ่งปีแล้ว เื่ของผลึกโลหิตเก้าโคจรก็กลายเป็ประเด็นร้อนขึ้นมาแทน เื่ิอวี่จึงค่อยๆ ถูกลืมไป
แต่ในตอนนี้ สถานการณ์ของต้าิเปลี่ยนแปลงไปอย่างพลิกฝ่ามือ!
ตี้หลิงเสวียนขึ้นมามีอำนาจแย่งชิงบัลลังก์จนทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัว และใน่เวลาที่พวกเขากำลังโศกเศร้านี้ิอวี่กลับปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของทุกคน
แล้วจะไม่ให้ตกตะลึงได้อย่างไร?
ิอวี่เงยหน้ามองตี้หลิงเสวียนที่มีผมเผ้าสีขาวและดวงตาสีแดง เขาััได้ถึงลมปราณอันน่ากลัวที่แผ่ออกมาจากตัวของคนบนบัลลังก์นั้น เขารู้ทันทีว่าอาณาจักรพลังของตี้หลิงเสวียนได้ไปถึงขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งแล้ว!
จากสภาพแวดล้อมและพื้นดินที่แตกร้าว ิอวี่ก็พอจะนึกออกว่าเมื่อครู่น่าจะเกิดการต่อสู้ขึ้นอย่างดุเดือด และการที่ตี้หลิงเสวียนนั่งอยู่บนบัลลังก์ของตำหนักิหุน ส่วนิเฉินเหยียนและคนอื่นๆ กลับคุกเข่าอยู่ที่พื้นทั้งยังได้รับาเ็สาหัสกันทั่ว ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าตี้หลิงเสวียนคงเล่นงานิอ๋องจนแตกพ่ายไปแล้ว!
เมื่อเห็นพ่อของตัวเอง พี่น้องของตัวเองเืท่วมตัว ลมปราณอ่อนแรง ิอวี่ก็นิ่งไป ถึงแม้เขาจะยังคงท่าทางไร้อารมณ์เช่นเดิม แต่ว่าภายในร่างกายของเขามีเปลวเพลิงแห่งความพิโรธพลุ่งพล่านจนแทบจะะเิออกมา
หลังจากที่เขาออกมาจากดินแดนอสูรว่านโซ่วก็ใช้เส้นทางเดิมในการเดินทางกลับ เขาพยายามเร่งเดินทางเพื่อให้มาทันก่อนที่ตี้หลิงเสวียนจะลงมือ เพื่อขัดขวางทุกอย่างก่อนที่มันจะเกิดเื่ขึ้น
หากเขามาช้ากว่านี้อีกแค่ก้าวเดียว พวกิเฉินเหยียนก็จะต้องหัวหลุดออกจากบ่า เพียงแค่เสี้ยวนาทีเท่านั้น ญาติพี่น้องคนสนิทของเขาทั้งหมดก็จะต้องตาย!
ในบรรดาคนที่คุกเข่าอยู่นั้น มีหญิงคนหนึ่งผมเผ้ายุ่งเหยิง หลังจากที่ได้เห็นหน้าของิอวี่แล้วสายตาของนางก็ดูตื่นเต้นมาก!
หญิงคนนั้นก็คือหยางเสวี่ยหรงนั่นเอง ใน่ครึ่งปีที่ผ่านมา นางคิดถึงิอวี่ตลอดเวลาแต่ไม่อาจรู้เลยว่าเขาไปไหน ตอนนี้เมื่อนางได้เห็นหน้าิอวี่อีกครั้งจึงรู้สึกดีใจตื่นเต้นอย่างมาก!
นางพบว่าิอวี่เหมือนจะสูงและร่างกายดูกำยำขึ้น ถึงแม้ใบหน้าของเขาจะยังดูใส แต่ดวงตาของเขานั้นดำทมิฬ ดูลึกซึ้ง มันทำให้หยางเสวี่ยหรงนั้นมองไม่ออกเลย
อวี่เอ๋อร์ เขาโตขึ้นอีกแล้ว แต่ว่า ...
ถึงแม้จะมองออกว่าิอวี่โตขึ้นเพราะร่างกายของเขาดูเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แต่หยางเสวี่ยหรงกลับเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ ทำให้อารมณ์ของนางเศร้าหมองลงและเต็มไปด้วยความกังวล
และสิ่งที่นางกังวลก็เป็ความกังวลเดียวกับิเฉินเหยียนด้วยเช่นกัน!
“ิอวี่ รีบหนีไป! ตอนนี้คนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์นั่นไม่ใช่ลูกชายข้า เขาไม่ได้แซ่ิ แต่แซ่ตี้หลิง! เขามีอาณาจักรขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งแล้วด้วย!”
ิเฉินเหยียนััได้ว่าลมปราณของิอวี่นั้นแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่ามาก แต่ก็ยังไม่ได้มีอาณาจักรพลังขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่ง
ขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งกับขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นเก้าดูเหมือนห่างกันแค่ขั้นเดียว แต่มันแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน ต่อให้ิอวี่จะไปถึงระดับผนึกขั้วสูงสุดแล้วอย่างไรก็ยังสู้ตี้หลิงเสวียนไม่ได้อยู่ดี
พูดได้เลยว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ิอวี่สามารถทำได้ ตราบเท่าที่ยังมีชีวิตย่อมยังมีความหวัง ิอวี่ชอบทำอะไรตามอารมณ์ การมาที่นี่ในเวลานี้มันเป็การหาที่ตายแท้ๆ
เห็นิอวี่ไม่ได้มีท่าทีว่าจะหนีไปิเฉินเหยียนก็รู้สึกร้อนใจจึงพูดว่า “ไม่ต้องสนใจเรา เ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป รับปากข้า รีบไปซะ ได้ไหม!”
ิเฉินเหยียนดวงตาแดงก่ำ น้ำเสียงของเขาดูอ้อนวอน เขารู้ว่าิอวี่ไม่ยอมรับเขาเป็พ่อ และเขาก็รู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรเป็พ่อของิอวี่
แต่เืย่อมข้นกว่าน้ำ เขาขอแค่ิอวี่อยู่รอดปลอดภัยก็พอ
“ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น” ิอวี่ส่ายหน้า สายตาเขาหนักแน่นมาก
ิเฉินเหยียนตะคอกกลับไปด้วยความร้อนรน “ิอวี่ ... เ้าฟังคำข้าสักครั้งได้ไหม? ทำไมในเวลาคับขันขนาดนี้เ้ายังดื้อรั้นแบบนี้อีก!”
ิอวี่จ้องไปยังิเฉินเหยียนด้วยอารมณ์ที่แปลกไป เขาชะงักไปหลายนาทีก่อนจะค่อยๆ พูดขึ้นมาว่า “เพราะท่านคือท่านพ่อของข้า ... ไม่ใช่หรือ?”
คนที่ตัดความสัมพันธ์พ่อลูกก่อนคือิอวี่ แต่พอถึงเวลาอันตรายคับขัน เขากลับเลือกที่จะปกป้องผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้!
เขาไม่ได้พูดอะไรมากมาย ไม่ได้เน้นย้ำ ใช้เพียงคำพูดและน้ำเสียงเรียบง่าย แต่มันกลับทำให้ิเฉินเหยียนตื้นตันใจอย่างมาก เหมือนััได้ถึงอะไรบางอย่างที่อยู่ในห้วงลึกของจิตใจเขา ...
“เ้า ... ”
ิเฉินเหยียนดวงตาแดงก่ำ พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “เ้า ... ”
ิเฉินเหยียนเหมือนอยากจะพูดอะไรเพื่อเป็การแสดงความตื้นตันและดีใจของเขา แต่มันเหมือนติดอยู่ที่คอ เขาพูดอะไรไม่ออกเลย ได้แต่น้ำตาคลอแล้วมองไปที่ิอวี่ด้วยอารมณ์ที่สับสนอย่างมาก
เป็ิอ๋องมาตั้งนาน เขาอยู่ในจุดที่สูงที่สุด มีแต่คนเคารพนบนอบ ทุกคนยิ้มให้เขาตลอดเวลา ให้เกียรติยศสูงสุดแก่เขา และทำตามที่เขาสั่งทุกอย่าง
เขาคิดว่าตัวเองได้รับทุกอย่างบนโลกใบนี้ไปแล้ว แต่ตอนนี้เขากลับพบว่า ความยำเกรงและการสรรเสริญที่เขาเคยได้รับนั้น ไม่ได้ทำให้มีความสุขมากเท่ากับคำง่ายๆ ของิอวี่เพียงไม่กี่คำเลย!
เพราะท่านเป็พ่อของข้า!
เพราะท่านเป็พ่อของข้า ไม่ว่าท่านจะปฏิบัติกับข้าอย่างไร ไม่ให้ความเป็ธรรมกับข้าอย่างไร กล่าวโทษข้าอย่างไร แต่เมื่อท่านตกอยู่ในอันตราย ข้าก็จะไม่ลังเลใจเลยที่มายืนอยู่ตรงหน้าท่านและปกป้องท่าน!
ิเฉินเหยียนรู้ดี เขาผิดต่อิอวี่ แต่ิอวี่เลือกที่จะให้อภัยเขา ...
ความใจกว้างของิอวี่ทำให้ิเฉินเหยียนตื้นตันมาก เขาตื้นตันจนใจอ่อนยวบและความรู้สึกผิดในใจของเขานั้นก็เพิ่มมากขึ้น
“อวี่เอ๋อร์ ข้าผิดต่อเ้า!”
ิเฉินเหยียนขอโทษออกมาจากใจจริง น้ำไหลออกมาจากดวงตาของเขา!
ิอวี่ส่ายหน้า ผ่านความลำบากมามากมายขนาดนี้ เขาปล่อยวางมันได้แล้ว เขาส่ายหน้าแล้วยิ้ม “มันผ่านไปแล้ว ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการปกป้องต้าิของเรา”
“ ... อือ”
ิเฉินเหยียนตอบรับ หลังจากนั้นก็พบว่าเขาไม่มีสิทธิที่จะกล่อมให้ิอวี่ที่คิดถึงแต่ต้าิหนีเอาตัวรอดไปเลย
แต่หากิอวี่ต้องตายไปต่อหน้าต่อตา เขาจะไม่ปวดใจได้อย่างไร?
ในใจของิเฉินเหยียนในเวลานี้รู้สึกย้อนแย้งเป็อย่างมาก!
“คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเ้าจะรอดมาได้ถึงตอนนี้”
ตี้หลิงเสวียนมองลงมาที่ิอวี่ ในใจของเขาเองก็ตะลึงมากเช่นกัน ในดินแดนอสูรว่านโซ่ว เขาเห็นิอวี่ถูกอสูรตาเดียวจับกินลงท้องไปต่อหน้าต่อตา แต่ใครจะไปคิดว่าิอวี่จะยังมีชีวิตแล้วมายืนอยู่ตรงหน้าเขาแบบนี้
อีกทั้งลมปราณของิอวี่ยังแข็งแกร่งกว่าเมื่อสามเดือนที่แล้วอย่างมากด้วย แสดงว่าเขาน่าจะมีวาสนาได้รับอะไรที่ดีมาถึงทำให้ก้าวะโไปไกลมากขนาดนี้
แต่ถึงจะอย่างนั้น สายตาของตี้หลิงเสวียนก็ยังมีความโอหังอย่างมาก พลังที่แข็งแกร่งมันทำให้เขามีความมั่นใจ!
วันนั้นิอวี่ชิงเอาหัวใจสิงโตเพลิงจินเหยียนไปต่อหน้าต่อตาทุกคน มันล้ำเส้นของตี้หลิงเสวียนเกินไป ตอนนี้ิอวี่กลับมายืนอยู่ตรงนี้ เขาจะต้องให้ิอวี่ชดใช้อย่างสาสมแน่นอน!
“แต่ว่าในเมื่อมาแล้วก็บอกลากับครอบครัวเ้าซะสิ ข้าเห็นพวกเ้าสองพ่อลูกมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งใช้ได้เลย ตอนที่เ้าเห็นเขาหัวหลุดออกจากบ่า เ้าจะต้องประหลาดใจแน่นอน”
“เ้าก็ลองดู” ิอวี่สีหน้าเ็าอย่างมาก
ตี้หลิงเสวียนยิ้มอย่างเยาะเย้ย และหลังจากนั้นเขาก็ออกคำสั่ง “ปะา!”
ฟางเซียและทหารที่ถือดาบในมือ เมื่อได้รับคำสั่งจากตี้หลิงเสวียนก็ยกดาบขึ้นพร้อมลงมือในทันที
ดาบสีทองฟันลงมาอย่างรวดเร็ว ต่อให้ิอวี่จะมีความเร็วมากแค่ไหนก็ตามย่อมไม่มีทางขวางปลายคมดาบทั้งหมดได้
นั่นก็หมายความว่า ไม่ว่าิอวี่จะเลือกช่วยใครอย่างไรก็จะต้องมีคนตายอยู่ดี!
สีหน้าของเหล่าองค์ชายองค์หญิงต่างสิ้นหวัง ต่อให้ิอวี่จะเข้ามาขวางก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ พวกเขากำลังจะตายและไม่มีความเป็ไปได้เลยที่จะมีชีวิตรอด!
เมื่อััได้ถึงความเย็นะเืที่ถูกส่งผ่านมาที่หลังคอ พวกเขาก็หลับตาลงและรอรับความตาย
แต่ทันใดนั้นเอง ิอวี่ก็ปล่อยแสงสีเขียวอ่อนออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ลมพายุที่บ้าคลั่งซัดเข้าบนตัวของฟางเซียและเหล่าทหารวังทั้งหมด ท่ามกลางลมพายุนี้มันยังแฝงไปด้วยอานุภาพความตายที่น่ากลัวและกดทับลงบนตัวของพวกเขาในแทบจะทันที!
พวกฟางเซียรู้สึกว่าร่างกายของพวกเขาไม่สามารถขยับได้เลยแม้แต่น้อย พวกเขายังคงท่าฟันดาบลงมาเหมือนเดิม แต่กลับยากที่จะขยับดาบให้ลงมาถึงคอ
ตอนนี้พวกเขาไม่มีความคิดที่จะฟันดาบลงมาอีกแล้ว เพราะอานุภาพความตายที่น่ากลัวมันพลุ่งพล่านเข้าสู่สมองของพวกเขา ทำให้พวกเขาเกิดความหวาดกลัวจากก้นบึ้งของจิตใจ!
เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?
ฟางเซียรู้สึกว่าอานุภาพแห่งความตายมันรบกวนเขาในระดับที่หนักมาก ทำให้เขาต้องหันไปมองิอวี่ในทันทีและก็สบเข้ากับแสงสีเขียวอ่อนที่ถูกปล่อยออกมาจากดวงตาของเขาพอดี
นั่นทำให้เขาเหงื่อไหลออกมาแทบจะทุกรูขุมขนในทันที มันเป็ความรู้สึกกลัวจนขนลุกขนพอง
ฟางเซียเป็ถึงผู้กล้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้าระดับผนึกขั้วสูงสุดยังรู้สึกหวาดกลัวมากขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นทหารวังหลวงที่เป็ผู้กล้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่สี่ที่ห้า เมื่อสบตากับแสงสีเขียวอ่อนนั่นก็ไม่ต่างอะไรกับการสบตาเทพมรณะ อานุภาพความน่ากลัวที่แหลมคมราวกับกระบี่พุ่งแทงเข้าไปในดวงตาของพวกเขาทันที!
แค่ไม่กี่อึดใจ สายตาของทหารวังพวกนั้นก็ะเิกลายเป็ควันสีแดงและล้มหมดแรงลงไปกับพื้น
สติและจิตของพวกเขาแหลกสลายและตายลงโดยที่ไม่มีแม้แต่เสียงร้อง!
พวกองค์ชายและองค์หญิงที่ยังคงรอความตายอยู่ พอได้ยินเสียงบางอย่างล้มลงจากด้านหลังพวกเขาก็หันหน้าไปมอง แล้วก็พบว่าทหารวังดวงตาะเิจนตายกันไปหมดแล้ว เืไหลนองโดยตัวไม่ขยับเลยอยู่บนพื้น หมดลมหายใจไปอย่างสิ้นเชิง!
จากนั้นพวกเขาก็หันกลับมามองิอวี่ แต่ละคนพูดอะไรไม่ออกเลย เพราะตอนนี้พวกเขาอยู่ในอาการตกตะลึงขั้นรุนแรง
ิอวี่ใช้แค่สายตาก็สามารถสังหารทหารวังที่อยู่ด้านหลังทั้งหมดได้แล้ว มันตลกเกินไปไหม!
แต่เื่จริงก็ปรากฏตรงหน้าของพวกเขาแล้ว ิอวี่ทำทุกอย่างนี้จริงๆ พวกเขาจะไม่เชื่อก็ไม่ได้!
เมื่อครู่ิอวี่ได้ใช้กระบวนท่าที่เจ็ดของเคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูงคือ ดวงตาเทพมรณะ มันแข็งแกร่งขึ้นตามความสามารถของเขา อานุภาพของดวงตาเทพมรณะจึงน่ากลัวมากขึ้นกว่าเดิม
ในสายตาของคนปกติ ทหารวังแต่ละคนล้วนแต่มีความสามารถที่แข็งแกร่งดุดัน รับมือได้ยากมาก แต่เมื่อมาอยู่ตรงหน้าของิอวี่แล้วพวกเขาก็ไม่ต่างอะไรกับฝูงมด ิอวี่ใช้แค่สายตา ก็สามารถสังหารพวกเขาได้ทั้งหมดแล้ว!
แต่ฟางเซียยังไม่ตาย ในฐานะผู้กล้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้าระดับผนึกขั้วสูงสุด พลังจิตและร่างกายของเขามันหลอมรวมกันเป็หนึ่งแล้ว ต่อให้ดวงตาเทพมรณะของิอวี่จะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม ก็ทำให้เขาาเ็ทางจิตนิดหน่อยเท่านั้น แต่ไม่ถึงตาย
“เ้าตัวประหลาด เ้ากล้าใช้วิชามารทำร้ายข้าหรือ แต่ว่าอย่างไรเ้าก็ไม่มีทางรักษาชีวิตของิเฉินเหยียนไว้ได้หรอก ข้าจะตัดหัวของเขาตอนนี้เลย!”
ฟางเซียได้สติกลับมา เขาเสียเกียรติและศักดิ์ศรีั้แ่ตอนที่คุกเข่าให้กับตี้หลิงเสวียนไปแล้ว ตอนนี้ิอวี่เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนหนึ่งยังทำร้ายเขาอีก มันมากเกินไปแล้ว!
ความชั่วร้ายในจิตใจของฟางเซียเพิ่มพูนขึ้น เขาพยายามคุมความรู้สึกเ็ปในหัวของตัวเองเอาไว้ แล้วพยายามจะฟันดาบลงบนต้นคอของิเฉินเหยียน
ใน่เวลาคับขันแบบนี้ มีแสงสีขาวเส้นหนึ่งพุ่งไปที่มือขวาของฟางเซีย มันทำให้เขารู้สึกเ็ปอย่างมากจนดาบหลุดออกจากมือ จากนั้นเขาก็รู้สึกทันทีว่ากำลังมีอันตรายพุ่งมาเอาชีวิตเขา เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าบนอากาศมีแสงอีกแปดเส้นกำลังพุ่งตรงมาที่เขา!
