“พรุ่งนี้ในพิธีการที่เกิดขึ้น นางกำนัลาุโจะเป็คนแนะนำทุกอย่าง คุณหนูไม่ต้องประหม่าใด ๆ หลังเสร็จพิธีแล้วข้าจะเป็คนไปรับใช้คุณหนูเอง นายท่านได้ขออนุญาตฮ่องเต้แล้วว่าให้ข้ามาดูแลคุณหนูหลังจากรับตำแหน่งกุ้ยเหริน” พูดจบรถม้าก็หยุดลง แล้วส่งต่อจ้าวอี้หนิงให้กับนางกำนัลาุโต่อไป
จ้าวอี้หนิงหันมองทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวด้วยความตื่นตาตื่นใจ เธอถูกคนของราชสำนักพาไปอาบน้ำ แต่งองค์ทรงเครื่องด้วยชุดผ้าไหมชั้นดีที่ปักลวดลายดอกไม้มงคล เครื่องประดับทำจากหยกและมุก ซึ่งทุกสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำให้คนโลภอย่างเยว่ไป๋ลู่ต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เพราะหากเธอนำสิ่งเหล่านี้กลับไปในยุคปัจจุบันได้ เธอคงกลายเป็มหาเศรษฐีในพริบตา เมื่อเตรียมตัวทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย นางกำนัลาุโจึงพาคุณหนูสกุลจ้าว มารับราชโองการต่อหน้าขุนนางนับพัน และเป็ครั้งแรกที่จ้าวอี้หนิงได้พบกับพระพักตร์ของจักรพรรดิจวิ้นเทียน
สายตาของจ้าวอี้หนิงทอดมองไปยังพระพักตร์ของฮ่องเต้ด้วยความตกตะลึง เดิมทีเธอคิดว่าเขามีหน้าตาสี่เหลี่ยม หนวดยาว เคราเฟิ้ม ตัวเหม็น และฟันผุ แต่ภาพตรงหน้ากลับกลายเป็ชายรุ่นราวคราวเดียวกัน ทั้งผิวพรรณและใบหน้าหล่อเหลาไม่ต่างจากดาราแถวหน้าของเมืองจีนในตอนนี้ เขามีเสน่ห์ที่ดึงดูดสายตาและออร่าของความยิ่งใหญ่ที่ล้อมรอบตัว ก่อนเสียงกระแอมของนางกำนัลาุโดังขึ้น ทำให้จ้าวอี้หนิงได้สติ เธอจึงย่อตัวลงคุกเข่าถวายบังคมอย่างนอบน้อม เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีต่อฮ่องเต้
ก่อนที่จักรพรรดิจวิ้นเทียนจะประกาศราชโองการแต่งตั้งจ้าวอี้หนิงเป็กุ้ยเหริน เขายื่นมือออกมาและมอบเครื่องยศเป็ป้ายหยกเพื่อใช้ระบุฐานะของนาง จ้าวอี้หนิงค่อย ๆ เอื้อมมือไปข้างหน้าเพื่อรับป้ายหยกด้วยมือสั่นเทา ทั้งประหม่าและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน ขณะที่เธอกำลังรับป้ายหยกด้วยความเคารพ สายตาของจ้าวอี้หนิงเหลือบไปเห็นหญิงสูงศักดิ์นั่งเคียงข้างฮ่องเต้ ผู้ซึ่งมีท่าทางสง่างามเยือกเย็นในเวลาเดียวกัน
“นั่นคือจือซินกุ้ยเฟย” เสียงกระซิบของนางกำนัลาุโทำให้จ้าวอี้หนิงขนลุกไปทั้งตัว ที่เคยคิดว่าพระนางงดงามนั้น ตัวจริงงดงามมากกว่า พระนางมีผิวพรรณขาวผุดผ่องเหมือนหยก ใบหน้ารูปไข่เรียบเนียน ริมฝีปากเล็ก ขนตาของยาวงอนเป็ระเบียบ สวยงามจนไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอางใด ๆ แต่สิ่งที่ทำให้จ้าวอี้หนิงรู้สึกแปลกใจที่สุดคงจะเป็แววตาของพระนาง ที่มองมายังตนด้วยความเมตตา
“ข้ามอบเป็ของกำนัลให้เ้า รับไว้สิ” สุรเสียงอ่อนโยนของจือซินกุ้ยเฟยทำให้จ้าวอี้หนิงค่อย ๆ เอื้อมไปรับของกำนัลด้วยกิริยาอ่อนน้อม เป็ปิ่นทองคำลายดอกไม้แสนงดงาม ทว่าเสี้ยวความคิดของจ้าวอี้หนิง
‘หากเอากลับไปยังยุคปัจจุบันได้ ฉันต้องซื้อบ้านได้เป็หลัง ๆ’ เธอรับมาพร้อมหัวใจเต้นรัว หลังจากเสร็จสิ้นพิธีสำคัญ หัวหน้านางกำนัลก็พานางไปยังตำหนักฉิงกง ซึ่งเป็ที่ประทับของพระสนมตำแหน่งกุ้ยเหริน ตำหนักแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตวังหลวงที่กว้างขวาง สถาปัตยกรรมที่งดงามและหรูหรา ทุกอย่างดูสง่างามและเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่ และเมื่อเดินเข้าไปในตำหนักแห่งนี้ นางก็รู้สึกถึงบรรยากาศที่เคร่งขรึมและเต็มไปด้วยกฎระเบียบ
อี้หนิงกุ้ยเหริน คือชื่อนามที่ทุกคนต้องเรียก เวลานี้หญิงสาวแต่งตัวด้วยชุดผ้าไหมสีชมพูปักด้วยลายดอกไม้ สายตาของนางทอดมองไปรอบ ๆ เพื่อเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ข้าวของโบราณพวกนี้มีความหมาย จนทุกครั้งที่นางเดินผ่านต้องเอามือไปลูบคลำด้วยความพิสมัย
“พระสนมเพคะ” เสียงของซูหนิงเอ่ยเรียกพลางส่ายศีรษะเบา ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายเก็บอาการ ก่อนอี้หนิงจะหันมองไปรอบ ๆ แล้วชักมือกลับ ทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ภายในตำหนักฉิงกง เป็ตำหนักขนาดกลาง มีนางกำนัลรับใช้หลายคนคอยดูแลใกล้ชิด เยว่ไป๋ลู่ที่เคยปากกัดตีนถีบในยุคปัจจุบัน ตอนนี้กลายเป็กุ้ยเหรินอยู่อย่างสุขสบายท่ามกลางของโบราณมากมายที่ชื่นชอบ มือบางเอื้อมไปหยิบผลไม้แล้วเคี้ยวหมุบหมับอย่างมีความสุข ก่อนจะนึกบางอย่างได้จึงวางผลไม้ แล้วเดินกลับไปยังเตียงนอน เปิดกล่องไม้ที่ว่าขึ้นมองแล้วขบคิด
‘อยู่ที่นี่สุขสบายก็จริง แต่ฉันต้องหาทางกลับยุคปัจจุบันให้ได้ ผ้าปักลายัที่ตามหา ต้องอยู่ที่จือซินกุ้ยเฟยแน่นอน’ ก่อนเสียงเปิดประตูห้อง จะทำให้อี้หนิงกุ้ยเหรินรีบเก็บผ้าปักผืนนั้นเข้ากล่องไม้ไป
“พระสนมเพคะ ฮ่องเต้เสด็จแล้วเพคะ” เมื่อได้ยินดังนั้น หญิงสาวเบิกตากว้างด้วยความใ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงที่ตะกุกตะกัก
“สะ...เสด็จไปไหน?” ยังไม่ทันที่คำพูดจะจบลง ร่างของชายสูงศักดิ์หล่อเหลา ราวกับรูปปั้นก็เดินเข้ามาในห้อง ด้วยท่วงท่าสงบนิ่ง สายตาทั้งสองสบกัน ทว่าเป็พระสนมอี้หนิงเองที่รู้สึกประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างรีบร้อนและน้อมกายเคารพด้วยกิริยาอ่อนน้อม
“นั่งเถอะ” สุรเสียงนุ่มลึกเอ่ยขึ้น ก่อนนางกำนัลจะรีบก้าวออกจากห้องไป พร้อมปิดประตูอย่างแ่า หลังจากนั้น ความเงียบสงัดก็เข้าครอบงำห้อง ทำให้อี้หนิงกุ้ยเหรินได้สติขบคิดในใจ
‘จริงด้วยสิ วันนี้เป็วันแต่งตั้งกุ้ยเหริน แต่งงานกันก็ต้องเข้าหอ เข้าหอก็ต้องหลับนอนด้วยกัน ฉันลืมขั้นตอนนี้ไปได้ยังไงกัน?’ อี้หนิงขบคิดพลางทำตัวแข็งทื่อ ไม่รู้จะทำอย่างไร ก่อนที่สายตาของจักรพรรดิจวิ้นเทียนจะทอดมองมาที่นาง ทำให้ทุกสิ่งรอบตัวหยุดนิ่ง สองเท้าของเขาค่อย ๆ ก้าวเข้ามาหานางช้า ๆ ‘ถึงจะหล่อ หุ่นดี ร่ำรวยล้นฟ้า แต่มาจู่โจมกันแบบนี้ ฉันไม่ยอมง่าย ๆ หรอก’ หญิงสาวเตรียมตั้งท่ารับมือ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้