ทิศเหนือเมืองเพียวเสว่ภายในเขตปกครองเทพามีูเาหิมะขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงลูกหนึ่งชื่อว่า...ชิงซาน ที่ตีนูเาลูกนี้มีเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งชื่อว่า...เมืองชิงซาน ห้าสิบปีก่อนเมืองชิงซานปรากฏชายอายุสิบแปดคนหนึ่งขึ้น ชายหนุ่มมีพลังฝีมือที่สูงล้ำเดินทางออกจากทิศเหนือเที่ยวท้าประลองกับยอดฝีมือหนุ่มสาวของตระกูลใหญ่ทั้งห้า เขาไม่เคยพานพบคำว่าพ่ายแพ้เลยสักครั้ง อีกทั้งยังปฏิเสธการเชื้อเชิญจากตระกูลทั้งห้า
ต่อมาได้เข้าร่วมงานประลองาระหว่างเขตปกครองแบบตะลุมบอนที่ไม่จำกัดพลังฝีมือซึ่งจัดขึ้นเมื่อสามสิบปีก่อน เขาอาศัยพลังฝีมือของตนเองเพียงคนเดียวบุกตะลุยสังหารเข้าไปท่ามกลางเหล่ายอดฝีมือระดับขอบเขตจักรพรรดิปีศาจและจักรพรรดิคนเถื่อนนับไม่ถ้วน สังหารศัตรูจนสนามรบเืนองไหลเป็ทาง จากนั้นได้รับคะแนนสูงสุดแลกของรางวัลล้ำค่าอันดับหนึ่งในตอนนั้นไป หลังจากนั้นได้หลีกเร้นกายหายไปอีกห้าปีแล้วปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งท้าประลองกับจ้าวแห่งเขตปกครองเทพาคนก่อน ต่อสู้กันหนึ่งวันหนึ่งคืนจนได้รับชัยชนะ อาศัยพลังฝีมือที่แข็งแกร่งอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ ขึ้นครองตำแหน่งจ้าวแห่งเขตปกครองเทพาอย่างสมเกียรติ เขาผู้นั้นก็คือจ้าวแห่งเขตปกครองเทพาคนปัจจุบัน ผู้มีพลังฝีมือที่ได้รับการยอมรับจากทั่วทั้งทวีปว่าแข็งแกร่งเป็อันดับหนึ่งในเขตปกครองเทพา...หลงผี่ฟู
เย่ชิงหานยืนอยู่ด้านหน้าจวนจ้าวเขตปกครองที่ดูราวกับพระราชวังแห่งนี้ ข้างหูมีเย่สือซานที่กำลังเล่าถึงชีวประวัติโดยย่อของท่านหลงจ้าวแห่งเขตปกครองให้ฟัง เย่ชิงหานไม่เพียงรู้สึกตื่นเต้นคึกคักขึ้นมาแต่ยังปรารถนาที่จะเห็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเขตปกครองเทพาที่เป็ตำนานเล่าขานผู้นี้มากยิ่งขึ้นไปอีก วันนี้เขาตื่นขึ้นมาั้แ่เช้าเนื่องจากว่าตามธรรมเนียมปฏิบัติทุกครั้งก่อนที่จะเข้าร่วมงานประลองาระหว่างเขตปกครอง กองกำลังระดับหัวกะทิจะต้องมายังเมืองั มายืนรอที่หน้าจวนเพื่อรอพบกับท่านจ้าวเขตปกครองเพื่อฟังคำกล่าวให้กำลังใจก่อนเข้าร่วมงานประลอง จากนั้นทำการตรวจสอบพลังฝีมือโดยคนของนครแห่งเทพแล้วรับเอาตราสัญลักษณ์
ลานใหญ่หน้าประตูจวนยืนเรียงรายไปด้วยกองกำลังระดับหัวกะทิขนาดเล็กอย่างมากมายนับไม่ถ้วน หน้าประตูจวนราวกับกลายเป็ฉากการตรวจนับกำลังพลของทหารนับหมื่นอย่างไรอย่างนั้น
“น้องชายชิงหานมาแต่เช้าเลย ทำเอาพวกข้าไปตามหาที่สวนที่พักของตระกูลเย่เจอแต่ห้องว่างเปล่า!” ในตอนนี้เองลานกว้างทางด้านซ้ายมือมีคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินมา สองคนที่เดินอยู่ข้างหน้าคือเฟิงจื่อและฮวาเฉ่า ส่วนด้านหลังคือกองกำลังขนาดเล็กสองกองที่เดินติดตามมาเงียบๆ อย่างเป็ระเบียบ คาดว่าคงจะเป็กองกำลังระดับหัวกะทิในตระกูลของพวกเขา
“อืม...วันนี้ตื่นเช้าหน่อยไม่มีอะไรทำก็เลยมาดูก่อน!” สำหรับการมาของเฟิงจื่อและฮวาเฉ่าเขาไม่ได้แปลกใจอะไรมากนัก แม้ทั้งสองคนจะเป็ผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูลคนต่อไป แต่ถ้าหากไม่ออกจากเกาะที่เป็ค่ายที่พักใหญ่ของเขตปกครองเทพาย่อมไม่มีอันตรายใดๆ อย่างแน่นอน
ถึงแม้จะออกจากเกาะที่เป็ค่ายที่พักใหญ่ของเขตปกครองเทพาและเข้าไปยังเกาะแห่งความมืดมิด หากไม่เข้าไปลึกจนเกินไปอันตรายย่อมมีไม่มาก ดังนั้นเมื่อเห็นนายน้อยที่ราคาค่าตัวแพงทั้งสองคนนี้ไปเข้าร่วมงานประลองด้วยจึงไม่ได้รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด
“มายืนรอด้วยกันเถอะ พวกเ้าทั้งหมดไปยืนเรียงแถวด้วยกันกับพี่น้องตระกูลเย่” เฟิงจื่อหันหน้าไปโบกมือส่งสัญญาณให้กองกำลังขนาดเล็กของตนเองไปยืนรวมกันกับกองกำลังเทพแห่งความตายของเย่ชิงหาน ฮวาเฉ่าก็พยักหน้าเช่นเดียวกันส่งสัญญาณบอกกองกำลังของตนเอง กองกำลังขนาดเล็กทั้งสองเคลื่อนย้ายไปยืมรวมกับกองกำลังเทพแห่งความตายอยู่เงียบๆ
“ฮือ!”
ทันใดนั้นกลุ่มคนที่อยู่ข้างๆ พลันร้องขึ้นด้วยเสียงแ่เบา จากนั้นผู้คนล้วนทะลักมุงกันเข้ามาดู พวกเย่ชิงหานก็ถูกดึงดูดความสนใจด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อหันกลับไปมองเห็นผู้คนกำลังแยกออกเป็สองข้างเหลือเป็ทางเดินตรงกลางโดยอัตโนมัติ หญิงสาวกลุ่มหนึ่งในชุดสีม่วงรูปร่างอ่อนช้อยเย้ายวนกำลังเดินตรงมาทางนี้ ในขณะที่คนยังมาไม่ถึงแต่กลิ่นหอมจรุงใจกลับลอยโชยมาแต่ไกล
“น้องหานภรรยาเ้าเดินมาโน่นแล้ว!” เฟิงจื่อหัวเราะแหะๆ ยืดกายที่กำยำนั้นขึ้นตรง กะพริบตาปริบๆ มองมายังเย่ชิงหานแล้วพูดขึ้น
“เป็พี่น้องกันต่อไปก็อย่าเอามาล้อข้าเล่นเช่นนี้ พวกเ้าก็รู้ดีว่าเื่การแต่งงานข้าเคยปฏิเสธมาก่อนแต่ไม่สำเร็จ” เย่ชิงหานพูดออกมาอย่างอับจนปัญญา
“โถๆ พ่อคนหล่อเลือกได้ ทำเป็มาพูดได้ใจไปเถอะ!” ฮวาเฉ่าและเฟิงจื่อต่างยกนิ้วกลางขึ้นมาพร้อมกันพร้อมกับด่าออกมาเบาๆ
“ทุกท่านกำลังสนทนาเื่อะไรกันอยู่?” ในตอนนี้เยว่ชิงเฉิงเดินเข้ามา กะพริบดวงตาที่สดใสของนางแล้วเอ่ยถามขึ้น สีหน้าดูเป็ธรรมชาติราวกับว่าคุณชายทั้งหลายที่อยู่ตรงหน้าคือเพื่อนที่คบกันมานานหลายปี ไม่ได้มีความรู้สึกเขินอายเลยแม้แต่น้อย
“ไม่มีอะไร พวกข้ากำลังพูดว่าน่าจะถึงเวลาที่ท่านหลงจ้าวแห่งเขตปกครองจะออกมาแล้ว” เฟิงจื่อหัวเราะฮ่าๆ ออกมา เปลี่ยนหัวข้อการพูดคุยไป
“อืม! นั่นไม่ใช่ออกมาแล้วรึ?” เยว่ชิงเฉิงพูดออกมาด้วยรอยยิ้มไม่ได้สนใจต่อคำโกหกของเฟิงจื่อแต่อย่างใด แต่หันหน้าไปทางจวนจ้าวแห่งเขตปกครอง
ทุกคนที่ได้ยินต่างหันหน้าไปมองโดยอัตโนมัติ พอดีกับที่ประตูใหญ่ของจวนกำลังถูกเปิดออกอย่างช้าๆ ลานกว้างที่เดิมทีอึกทึกครึกโครมพลันเงียบลงในทันที ทุกคนต่างส่งสายตาที่ร้อนผ่าวมองไปยังเงาร่างเตี้ยเล็กที่เดินออกมาจากประตูจวนจ้าวเมือง
“เขาก็คือหลงผี่ฟู?” เย่ชิงหานมองดูเงาร่างเตี้ยเล็กที่อยู่ตรงหน้า แล้วลอบอุทานออกมาในใจ ชื่อเสียงของหลงผี่ฟูเขาได้ยินมาั้แ่เด็ก จินตนาการมาตลอดว่าเขาต้องหล่อเหลาองอาจผ่าเผย ไม่ต้องพูดว่าสูงเจ็ดฟุตมีสามเศียรหกกรอะไรแบบนั้น แต่อย่างน้อยก็ต้องรูปร่างสูงใหญ่องอาจผ่าเผยบุคลิกลักษณะน่าเกรงขามอะไรทำนองนั้น แต่บุคคลที่อยู่ตรงหน้าที่ดูเหมือนกับตาแก่ทำความสะอาดข้างถนนผู้นี้ มันยากที่จะผสมรวมเข้ากันกับจินตนาการที่เคยคาดคิดเอาไว้ในหัว
ท่านจ้าวเขตปกครองหลง! ท่านจ้าวเขตปกครองหลง!
เย่ชิงหานคิดเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นต้องคิดเช่นเดียวกัน ในขณะที่หลงผี่ฟูเดินออกมา ภายในกลุ่มคนที่อยู่ในลานร้องคำรามออกมาราวกับฟ้าจะถล่มดินจะทลาย ทั้งคนที่เคยเห็นและไม่เคยเห็นต่างร้องออกมาจากใจที่รู้สึกเคารพนับถือต่อยอดฝีมือผู้แข็งแกร่ง ต่างพากันชูมือขึ้นร้องต้อนรับผู้ที่แข็งแกร่งอันดับหนึ่งของเขตปกครองเทพา
หลงผี่ฟูใบหน้ายิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา เขาทำเพียงยืนนิ่งๆ อยู่หน้าประตูจวน ด้านหลังไม่ได้มีผู้ติดตามหรือบ่าวรับใช้แต่อย่างใด มีเพียงเขาคนเดียวที่ยืนอยู่ตรงนั้น ทุกคนที่มองดูเริ่มรู้สึกว่าเงาร่างของเขายิ่งมองยิ่งสูงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ราวกับขุนเขาลูกใหญ่ที่ไม่อาจแหงนมองขึ้นไปดูให้ถึงยอดได้ฉันนั้น
หลังจากที่ทุกคนร้องะโออกมาหลายครั้งติดต่อกัน เขายกแขนขึ้นร่างกายเริ่มค่อยๆ ลอยขึ้นไปบนอากาศอย่างช้าๆ ราวกับว่าใต้เท้าของเขามีพลังงานลึกลับบางอย่างพยุงให้เขาลอยสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ชั่วพริบตาเดียวทั่งทั้งลานพลันเงียบสงัดลงในทันใด
ทุกคนต่างรู้ดีว่าผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิและระดับขอบเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ล้วนสามารถเหาะลอยไปมาบนอากาศได้ เพียงแต่ว่าท่านจ้าวเขตปกครองหลงที่เตี้ยเล็กผู้นี้ เหมือนว่าจะไม่ได้ใช้พลังปราณรบภายในกายแม้แต่น้อย แต่กลับสามารถลอยขึ้นไปบนอากาศได้ ในที่นี้มีผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบอยู่ไม่น้อย แต่พวกเขากลับไม่ได้ััถึงกลิ่นไอของพลังปราณรบที่ปล่อยออกมาภายนอกแม้แต่น้อย แต่หลงผี่ฟูกลับสามารถลอยขึ้นไปบนอากาศได้...
ท่านจ้าวเขตปกครองหลง! ท่านจ้าวเขตปกครองหลง!
ภายในลานคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง ทุกคนต่างแหงนหน้ามองหลงผี่ฟูที่ลอยเด่นอยู่บนอากาศพร้อมกับร้องะโออกมา...ท่านจ้าวเขตปกครองหลงพยักหน้าแล้วชูมือขึ้นส่งสัญญาณให้ทุกคนอยู่ในอาการสงบ จากนั้นจึงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดังเท่าใดนักแต่ชัดเจนและมีพลังดึงดูด เสียงดังขึ้นที่ข้างหูของทุกคน “สวัสดีทุกคน ข้าคือหลงผี่ฟู! พรุ่งนี้ก็คืองานประลองาระหว่างเขตปกครองของผู้มีพลังฝีมือระดับหัวกะทิที่หกสิบปีจะเวียนมาครั้งหนึ่ง ข้าไม่มีอะไรจะพูดมาก แค่อยากจะถามพวกเ้าเพียงประโยคเดียวว่า พวกเ้าเตรียมตัวกันพร้อมหรือยัง?”
“เตรียมพร้อมแล้ว!” เสียงที่ราวกับสายน้ำไหลบ่าชั่วพริบตาเดียวปกคลุมท่วมท้นไปทั้งลานกว้าง เย่ชิงหานลอบแปลกประหลาดใจ ดูท่าชื่อเสียงและบารมีของท่านหลงผี่ฟูผู้นี้ที่มีต่อผู้คนในเขตปกครองเทพาจะอยู่ในระดับที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว
“ดีมาก! พวกปีศาจที่อยู่ทางตะวันตกและพวกคนเถื่อนที่อยู่ทางใต้พวกมันก็บอกว่าพร้อมแล้วเช่นกัน ถ้าอย่างนั้นเด็กน้อยทั้งหลายเอ๋ย...ลับคมอาวุธในมือของพวกเ้าให้ดี สามสิบปีก่อนข้าและเหล่านักรบมากมายใช้อาวุธที่อยู่ในมือกำราบพวกปีศาจและคนเถื่อนทั้งหลายจนลงไปนอนหมอบกับพื้นมาแล้ว ตอนนี้ถึงคราวของพวกเ้าแล้ว เกียรติยศ ชื่อเสียง บารมี และความน่าเกรงขามของเขตปกครองเทพาฝากไว้ในมือของพวกเ้าให้ช่วยปกป้องแล้ว! เมื่อสิ้นสุดงานประลองข้าจะยืนรอพวกเ้าอยู่ตรงนี้ที่เดิมรอคอยการกลับมาของพวกเ้า!”
คำพูดของท่านจ้าวเขตปกครองหลงยังคงสุขุมและเป็กันเอง แต่ความองอาจและเชื่อมั่นที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงนั้นเด่นชัดเป็พิเศษ
“สู้! สู้! สู้!”
หลังจากคำพูดของหลงผี่ฟูจบลงบรรยากาศภายในงานถูกจุดให้ติดขึ้นมาอีกครั้ง ผู้คนจำนวนมากจับอาวุธชูขึ้นพร้อมกับร้องะโออกมาอย่างฮึกเหิม หลงผี่ฟูยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนอีกครั้งก่อนที่จะโบกมือขึ้นแล้วหมุนตัวกลับไป จากนั้นเงาร่างของเขากลายเป็เงาเลือนรางสายหนึ่งเลือนหายไปท่ามกลางอากาศ
จากนั้นมีผู้ที่สวมชุดคลุมสีขาวเดินเรียงแถวกันออกมาจากจวนท่านจ้าวเขตปกครอง มาหยุดยืนที่ด้านหน้าลานกว้างในมือถือแท่งผลึกสีขาวชนิดหนึ่ง
ในเวลานี้เองบนท้องฟ้าเหนือจวนของท่านจ้าวเขตปกครองปรากฏยอดฝีมือในชุดคลุมสีขาวสามคนลอยอยู่้า หนึ่งในนั้นลอยมายังด้านหน้าพร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เริ่มการทดสอบพลังฝีมือได้ อ้างอิงตามพลังฝีมือที่มีแจกจ่ายตราสัญลักษณ์ ตรงหน้าของพวกเ้าที่เห็นอยู่นี้มีแท่งผลึกวัดระดับพลังฝีมืออยู่ร้อยแท่ง พวกเ้าเพียงแค่กระตุ้นพลังปราณรบที่อยู่ภายในร่างให้มาัักับแท่งผลึกวัดระดับพลังฝีมือมันก็จะสามารถวัดระดับพลังฝีมือของพวกเ้าออกมาได้ จากนั้นรับตราสัญลักษณ์แล้วหยดเืเพื่อเริ่มใช้งานก็เป็อันเสร็จพิธี ตอนนี้ผู้ที่จะเข้าร่วมงานประลองในครั้งนี้ให้เข้าแถวเพื่อเริ่มการทดสอบได้”
เฟิงจื่อพยักหน้าแล้วเดินออกไปยังแท่งผลึกก่อนใคร จากนั้นยื่นมือข้างที่มีพลังปราณรบอยู่ใจกลางฝ่ามือออกไปทาบลงไปยังแท่งผลึก แท่งผลึกสีขาวพลันเปลี่ยนสีขึ้นในทันใด เปลี่ยนกลายเป็สีเหลืองแก่
“ระดับขั้นที่สามขอบเขตเยี่ยมยุทธ์ ตราสัญลักษณ์สีเหลืองแก่ หยดเืลงเพื่อเริ่มใช้งาน!” ผู้ที่อยู่ในชุดเสื้อคลุมสีขาวที่ยืนอยู่ข้างๆ แท่งผลึกพูดออกมาอย่างเ็า หยิบเอาแหวนสีเหลืองแก่วงหนึ่งส่งมาให้
เฟิงจื่อหลังจากที่รับแหวนมาสวมใส่ก็บีบเืจากนิ้วมืออีกข้างมาหยดลงบนตัวแหวน แหวนพลันส่องแสงสว่างขึ้น จากนั้นบนตัวแหวนปรากฏตัวอักษร “า” เด่นชัดขึ้นมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้