บัวชมพูตัดสินใจไม่ไปบอกเ้าของบ้าน เธอเก็บของแล้วหยิบหน้ากากผ้ามาปิดครึ่งใบหน้าใหเรียบร้อย สะพายถุงผ้าขึ้นคล้องไหล่ เดินออกมาอย่างเงียบๆ แล้วตรงไปที่จักรยานของตัวเอง ปั่นจักรยานคันเก่าที่น้ารุ่งรวีให้ยืมมาใช้ปั่นจากบ้านเช่าที่แม่พักอยู่มาทำงานที่บ้านคุณใหญ่ โดยไม่รู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งมองจากหน้าต่างชั้นสองของบ้าน เห็นหญิงสาวร่างเล็กกะทัดรัด รวบผมขึ้นเป็หางม้าปั่นจักรยานเก่าๆ ออกจากบ้านของเขาไปตามถนนเส้นเล็กๆ จนสุดสายตา
ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาที บัวชมพูก็ปั่นจักรยานมาถึงบ้านเช่าที่แม่อาศัยอยู่กับน้ารุ่งรวี แม่กับน้ารุ่งรวีอยู่ด้วยกันมาปีเศษแล้ว เธอเข้าใจความสัมพันธ์ของแม่กับน้ารุ่งรวีดี แม่เจ็บช้ำมามาก หากคนที่ทำให้แม่มีความสุข แม้จะเป็ผู้หญิงด้วยกัน เธอก็ยอมรับได้
หญิงสาวลงจากรถจักรยาน ไขกุญแจรั้วแล้วจูงจักรยานเข้าบ้านเช่า เธอเองก็คิดฝันเสมอว่าสักวันจะมีบ้านเป็ของตัวเอง เธอกับแม่จะได้ไม่ต้องเร่ร่อนเช่าห้องราคาถูกๆ อยู่ ยังไม่ทันไขกุญแจเปิดประตูบ้าน เสียงรถยนต์ก็แล่นมาหยุดที่รั้ว บัวชมพูหันไปมองแล้วรีบเดินเร็วๆ ไปเปิดประตูรั้วให้รถกะบะญี่ปุ่นสีขาวเข้ามาจอดด้านใน
“เพิ่งกลับมาเหรอหนูบัว” รุ่งรวีถามทันทีที่ลงจากรถ
“ค่ะ” บัวชมพูพยักหน้ารับแล้วเปิดประตูรถประคองแม่ลงมา แต่พอรุ่งรวีเข้ามาใกล้ บัวชมพูก็เบี่ยงตัวออกให้รุ่งรวีประคองแม่เข้าบ้าน ส่วนเธอเดินไปปิดประตูรั้วบ้าน ที่บ้านมีแต่ผู้หญิงอยู่กันสามคน เธอต้องคอยเตือนตัวเองไม่ให้หลงลืมเื่พวกนี้
“เป็ไงบ้าง เหนื่อยไหมลูก” สารภีถามลูกสาวด้วยความห่วงใยแล้วนั่งที่โซฟาอย่างเหนื่อยล้า
“หนูต้องถามแม่ต่างหาก” บัวชมพูหัวเราะเบาๆ เดินไปรินน้ำดื่มให้แม่กับน้ารุ่งรวี “แม่เป็ไงบ้างคะ”
“ก็เหมือนเดิมนั้นแหละ” แม่ยิ้ม “ทำให้คนอื่นต้องมาลำบากด้วยเลย”
“ลำบากที่ไหนเล่า” รุ่งรวีหัวเราะออกมา “ก็ถือว่าเป็วันหยุดพักผ่อนไป”
รุ่งรวีเป็แม่ค้าขายผัดไทตลาดโต้รุ่ง แต่่นี้รัฐบาลประกาศเคอร์ฟิวทำให้ต้องเปลี่ยนมาขาย่เที่ยงไปถึงเย็นแทน บัวชมพูเองก็คอยช่วยงานรุ่งรวีเสมอ ไม่ได้มาอยู่เปล่าๆ ส่วนแม่หลังจากกลับจากทำงาน ถ้าไม่เหนื่อยมากก็มาช่วยเช่นกัน ได้เห็นว่ารุ่งรวีดูแลแม่เป็อย่างดี บัวชมพูก็สบายใจ
“แล้วบัวละลูก”
“อ้อ! วันนี้หนูเจอคุณใหญ่แล้วค่ะ”
“แล้วคุณใหญ่ว่าอะไรหรือเปล่า”
บัวชมพูนิ่งไปนิด คิดว่าเื่ที่เจอไม่ควรเล่าให้แม่ฟังเพราะไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจ อีกอย่าง ท่าทางคุณใหญ่ก็ไม่ได้อยาก ‘กอด’ เธอนักหรอก
“ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่คะ” บัวชมพูยักไหล่แล้วรินน้ำดื่มให้ตัวเอง “ถ้าหนูทำงานมีปัญหา คุณใหญ่คงให้เปลี่ยนคนอื่นมาทำแทนแล้วค่ะ”
รุ่งรวีฟังแล้วก็ถอนหายใจออกมา “น้าไม่อยากให้ยุ่งกับคุณใหญ่เลย”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะน้ารวี คุณใหญ่ก็เป็คนดี ชื่อเสียงโเี้ไปสักหน่อยก็เป็ธรรมดาของคนทำธุรกิจ”
“ไม่ใช่แค่นั้นนะ เป็เสือผู้หญิงด้วย”
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นมั้ง” คราวนี้แม่สารภีพูดขึ้น “ถึงจะมีผู้หญิงเยอะ แต่เป็ผู้หญิงอย่างว่า ไม่ได้ไปหลอกผู้หญิงมาฟันเสียหน่อย”
รุ่งรวีขึงตาใส่สารภี “ยังไงก็ต้องระวัง หนูบัวเป็ผู้หญิงด้วยต้องยิ่งระวังไว้ก่อน”
“บัวระวังอยู่แล้วค่ะ ไม่งั้นจะอยู่กรุงเทพฯ คนเดียวได้เหรอ” หญิงสาวหัวเราะออกมา “วันนี้แม่อยากกินอะไร บัวเข้าครัวทำกับข้าวเองค่ะ”
“คนเป็ไรคไตอยู่คนเดียวทำคนอื่นลำบากเื่อาหารการกินไปด้วยเลย” แม่อดบ่นไม่ได้
“ก็ไม่เป็อะไรนี่คะ หนูกับน้ารวีก็ได้ถือโอกาสกินรสอ่อนๆ รักษสุขภาพไปด้วย” บัวชมพูให้กำลังใจแม่ “งั้นเดี๋ยวหนูเข้าครัวทำกับข้าวเลยแล้วกัน วันนี้น้ารวีกับแม่พักผ่อนสบายๆ ให้หนูจัดการเองค่ะ”
รุ่งรวีมองลูกสาวของคนรักเดินออกไปก็ถอนหายใจอีกหน สารภีเป็ฝ่ายยื่นมือมาตบหลังมือของรุ่งรวีเบาๆ แล้วส่งยิ้มบางๆ
“ขอบใจที่เป็ห่วงหนูบัวมากขนาดนี้ แต่แกก็โตแล้ว คิดอะไรเองได้แล้ว”
“ก็อดเป็ห่วงไม่ได้ รู้ว่าไฟยังเข้าไปใกล้อีก”
“อันตรายมีอยู่รอบตัว ไม่ประมาทและเรียนรู้อย่างมีสติก็พอ”
รุ่งรวีส่ายหน้าไปมา “เธอนี่เป็แม่ยังไงนะ”
สารภีหัวเราะออกมา “ก็เป็แม่ไม่ได้ความปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียว แถมต้องทำงานพิเศษอีกด้วย”
“ไม่ได้หมายความแบบนั้น” รุ่งรวีบ่นอุบอิบ
“มันก็เหมือนฉันมองตัวเองนั้นแหละ แต่ตอนนั้นฉันมันรั้น พ่อแม่เตือนอะไรไม่ฟัง ฉันก็ไม่อยากบังคับลูกจนลูกเตลิดไป ก็เลยได้แต่คอยบอก คอยดูแล และให้ลูกรู้ว่ายังมีแม่อยู่เคียงข้างเสมอ”
รุ่งรวีพยักหน้ารับอย่างจนใจ เธอคงทำได้แต่แค่เป็ห่วงสินะ เฮ้อ!
บัวชมพูยังคงมาทำงานบ้านแทนมารดาที่บ้านคุณอลังการตามปกติ เขาไม่ร้องเรียนกับบริษัทของแม่ นั้นแสดงว่ายอมรับให้เธอมาทำงานแทนแม่ได้ เธอได้กุญแจสำรองจากรปภ.ไขเข้าบ้านของอลังการเพื่อทำความสะอาดบ้าน หญิงสาวผงะไปเล็กน้อย ในห้องรับแขกอย่างกับมีาเกิดขึ้น ขวดเบียร์เกลือนพื้นห้อง แก้วที่ล้มคว่ำน้ำเจิ่งนอง ข้าวของกระจัดกระจาย หรือว่า
“ขโมยขึ้นบ้าน...”
บัวชมพูพึมพำพอได้สติก็หันซ้ายหันขวาหาอาวุธ จะหยิบมีดก็กลัวเลยคว้าไม้กวาดขึ้นมาชูไว้ เสียงกุกกักดังจากชั้นสองของบ้าน เธอคิดจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แต่เสียงเคลื่อนไหวเข้ามาใกล้ทำให้ไม่กล้าส่งเสียง ได้แต่กำไม้กวาดแน่น จนกระทั้งร่างสูงใหญ่เดินลงบันไดผ่านหน้าเธอ ชายหนุ่มถึงกับชะงัก ดวงตาคมจ้องมองไม้กวาดในมือหญิงสาวที่ชูขึ้นเหนือศีรษะทำท่าจะฟาดลง เขารีบยกมือกำด้ามไม้กวาดไว้ก่อน
“เฮ้ย! จะทำอะไร! จะฆาตกรรมเ้าของบ้านเรอะ!”
“คุณใหญ่!”
บัวชมพูใ ไม่คิดว่าเขาจะอยู่ในบ้านเวลานี้ อลังการไม่วางใจ กระชากไม้กวาดออกจากมือของหญิงสาว แต่เพราะเธอไม่ทันตั้งตัวยังไม่ได้ปล่อยมือจากด้ามไม้กวาดร่างบางจึงเซถลาเข้าไปปะทะกับแผ่นอกกำยำของอลังการ ร่างนุ่มนิ่มเข้ามาแนบชิด เขาสวมเพียงกางเกงขายาว ท่อนบนเปลือยเปล่ายังมีหยดน้ำเกาะอยู่ พอได้อยู่ใกล้จึงเห็นว่าเส้นผมของเขาก็ยังเปียกชื้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้