บทที่ 5 ซ่อนผีในไม้
“ท่านผู้หญิง เื่จัดการเรียบร้อยแล้วครับ ทำให้มันดูสะอาดสะอ้าน ต่อให้ทางการมาตรวจสอบก็ไม่พบอะไร”
ในห้องมืดแห่งหนึ่ง มีแสงสลัว ๆ พอให้เห็นชายร่างใหญ่คนหนึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้น ก้มหัวลงเล็กน้อยด้วยท่าทีที่เคารพนอบน้อม
ห้องนั้นเงียบสงัดและน่าขนลุก
หน้าผากของชายร่างใหญ่มีเหงื่อซึมและตัวสั่นเล็กน้อย เขากล่าวต่อว่า “ท่านผู้หญิง การตายของช่างไม้จางนั้นแปลกประหลาดมาก ทำไมถึงเผาตัวเองจนตายอย่างไม่มีเหตุผลเลยหรือครับ?”
ครู่ใหญ่ต่อมา เสียงของหญิงสาวอีกคนก็ดังขึ้นในห้องว่า “น่าจะเป็เพราะวิชาเยี่ยนเซิ่งของเขาถูกทำลาย และเกิดผลกรรมขึ้น”
ชายร่างใหญ่รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “โอ้? จวนตระกู่ลู่ไม่เหลือคนแล้วนี่ครับ หรือว่ามีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถทำลายวิชานี้ได้หรือ?”
หญิงสาวกล่าวว่า “ก็ไม่จำเป็ต้องเป็ผู้เชี่ยวชาญนักหรอก ไม่กี่วันที่ผ่านมาฝนตกหนักต่อเนื่อง อาจเป็เพราะอิฐก้อนนั้นถูกพบเข้าและทำลายมันโดยบังเอิญ”
ชายร่างใหญ่กล่าวว่า “คนในครอบครัวของช่างไม้จางเพิ่งตาย ท่านผู้หญิงไม่้าไปเพื่อช่วยิญญาของพวกเขาให้ไปเกิดใหม่และใช้ิญญาที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อบำรุง…”
“กึงกัง!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นในห้อง ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างกระทบกับโถกระเบื้อง และมีลมหยินพัดผ่านไป
“หิว…”
มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในห้องเบา ๆ และลอยไปมา
ชายร่างใหญ่รู้สึกใจนพูดไม่จบประโยค
“ฮิฮิ”
หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “อ่าฮ่าวตื่นเต้นอีกแล้ว สิ่งที่เ้าดูดซับไปก่อนหน้านี้เ้ายังไม่ได้หลอมรวมเลยนะ แม่กลัวว่าเ้าจะท้องอืด”
เมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาว ห้องก็กลับมาเงียบอีกครั้ง
ชายร่างใหญ่ถอนหายใจโล่งอก
หญิงสาวกล่าวเบา ๆ ว่า “สำหรับิญญาของครอบครัวช่างไม้จางก็ปล่อยพวกเขาไปเถอะ ในเจ็ดวันิญญาจะกลับไปที่โลกนรกเอง ถ้าหากความเคียดแค้นหนักเกินไปและไม่สามารถเข้าไปในโลกนรกได้ ิญญาที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะกลายเป็ิญญาและไปตามหาคน ๆ นั้นเพื่อแก้แค้นเอง”
ชายร่างใหญ่ลังเลเล็กน้อยและกล่าวว่า “ท่านผู้หญิง ช่างไม้จางตายเพราะผลกรรม ส่วนคนอื่น ๆ อีกสองสามคนนั้นตายด้วยมือของข้าเอง ิญญาพวกนั้นจะมาหาข้าหรือไม่ครับ?”
“หึ!”
หญิงสาวหัวเราะเยาะและกล่าวว่า “ิญญาพวกนั้นไม่ได้โง่ขนาดนั้น พวกมันรู้ว่าใครที่สามารถยุ่งด้วยได้และใครที่ห้ามแตะต้อง เมื่อมีข้าอยู่ พวกมันก็ไม่กล้ามาหรอก”
“ขอบคุณครับท่านผู้หญิง”
...
จวนตระกูลลู่
ลู่ไป๋เพิ่งกลับมาถึงบ้านและเห็นนางหวังกับท่านฝูไป๋กำลังจะออกจากบ้านอย่างเร่งรีบ
“คุณชายน้อย ในที่สุดคุณก็กลับมาเสียที ท่านผู้หญิงใแทบตาย กำลังจะออกไปตามหาท่านอยู่พอดี กลัวว่าคุณจะเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้น”
เมื่อเห็นลู่ไป๋ปลอดภัยดี ท่านฝูไป๋ก็ถอนหายใจโล่งอก
“ตื่นเช้า เลยออกไปซื้ออาหารเช้า”
ลู่ไป๋ชูอาหารที่เขาแวะซื้อระหว่างทางและถามว่า “ท่านแม่หลับสบายหรือไม่ครับเมื่อคืน?”
“สบายมากเลย”
นางหวังกล่าวว่า “ไม่รู้ว่าเป็เื่บังเอิญหรือเปล่า แต่หลังจากเผาอิฐก้อนนั้นทิ้งไป อาการปวดหัวของแม่ก็หายไปเลย และยังหลับสบายจนถึงเช้า”
ท่านฝูไป๋กล่าวอย่างน่าละอายว่า “ข้ารู้สึกละอายใจมากที่เผลอหลับไปหน้าโลงศพของท่านเ้าของจวน”
ลู่ไป๋ยื่นอาหารเช้าที่อยู่ในมือให้เขา และยิ้มว่า “ท่านฝูไป๋เหนื่อยแล้ว กินอะไรก่อนเถอะ จะได้ไม่ต้องไปทำอาหารในครัวอีก”
“ดีเลยครับ ดีเลย ขอบคุณคุณชายน้อย”
ท่านฝูไป๋พยักหน้าหลายครั้งและรับอาหารมาด้วยมือทั้งสองข้าง
“ใช่แล้ว”
ลู่ไป๋กล่าวว่า “เมื่อเช้าข้าออกไปเดินเล่นมา ได้ยินว่าครอบครัวช่างไม้ที่ชื่อจางเกิดไฟไหม้ และเขาถูกไฟคลอกตายเมื่อคืน”
“เฮ้อ เป็่เวลาที่วุ่นวายจริง ๆ”
นางหวังถอนหายใจ
“ช่างไม้จาง? ใช่คนที่อยู่มุมตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหรือเปล่า?”
ท่านฝูไป๋กัดขนมในมือไปคำหนึ่ง แต่ก็หยุดลงทันทีราวกับคิดอะไรบางอย่างออก
“น่าจะใช่”
ลู่ไป๋ตอบแบบคลุมเครือ
ท่านฝูไป๋มีสีหน้าประหลาดใจและสงสัยว่า “ในบรรดาช่างไม้ที่มาปรับปรุงจวนของท่านเ้าของจวน มีช่างไม้จางอยู่ด้วย! อิฐก้อนนั้นเพิ่งถูกพบเมื่อคืน ช่างไม้จางก็ตายแล้ว มันบังเอิญเกินไปหน่อยนะ”
นางหวังขมวดคิ้วและถามว่า “ท่านหมายความว่าอิฐก้อนนั้นเป็ฝีมือของคน ๆ นี้หรือ? ท่านเ้าของจวนเคยมีเื่บาดหมางกับเขาหรือ?”
“ไม่เคยได้ยินเลยครับ”
ท่านฝูไป๋ส่ายหัว
เมื่อคิดอยู่ครู่หนึ่ง ท่านฝูไป๋ก็วางอาหารลงและกล่าวว่า “ท่านผู้หญิง คุณชายน้อย พวกท่านรออยู่ที่บ้านนะ ข้าจะออกไปสืบเื่นี้หน่อย”
หลังจากที่ท่านฝูไป๋ออกไป ลู่ไป๋ก็บอกกับนางหวังว่า “ท่านฝูไป๋อายุมากแล้ว ข้าจะตามไปดูหน่อย”
“อ่าไป๋ เ้าต้องระวังด้วยนะ”
นางหวังได้แต่กำชับด้วยความเป็ห่วง
ลู่ไป๋ออกจากจวนช้ากว่า และเดินตามท่านฝูไป๋ไปจากระยะไกล
เมื่อครู่นี้ที่เขาพูดเพื่อทดสอบ ได้เห็นปฏิกิริยาของท่านฝูไป๋แล้ว ทำให้ความสงสัยของเขาลดลงไปมาก
ลู่ไป๋ตั้งใจปกปิดข้อมูลบางอย่าง ทั้งเื่จริงและเื่เท็จ
ท่านฝูไป๋ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ต่อผลกรรมของวิชาเยี่ยนเซิ่ง การสังหารหมู่ครอบครัวช่างไม้จาง รวมถึงเวลาการตายของช่างไม้จาง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาไม่รู้อะไรเลย
หลังจากที่ท่านฝูไป๋ออกจากจวนตระกูลลู่ เขาก็ตรงไปยังบ้านของช่างไม้จางทันที
ไม่นานนัก เขาก็ได้เห็นบ้านของช่างไม้จางที่ถูกเผาจนกลายเป็ซากปรักหักพัง
ท่านฝูไป๋สอบถามข้อมูลจากผู้คนที่อยู่รอบ ๆ อีกครั้ง แล้วก็หันหลังกลับไป
เมื่อเดินไปได้ไม่ไกล เขาก็เห็นลู่ไป๋เดินสวนทางมา
“คุณชายน้อย ท่านมาได้อย่างไร?”
ท่านฝูไป๋รู้สึกใเล็กน้อย
ลู่ไป๋ไม่ได้ตอบคำถาม แต่ถามกลับว่า “ท่านฝูไป๋ มีอะไรบ้างไหม?”
ท่านฝูไป๋ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “เมื่อกี้ข้าได้ยินว่าช่างไม้จางเสียชีวิต ข้าเลยอยากมาถามครอบครัวของเขา แต่ไม่คิดเลยว่าข้าจะมาช้าไปหนึ่งก้าว พวกเขาถูกไฟคลอกตายทั้งครอบครัว”
ลู่ไป๋กล่าวว่า “ถ้าเป็เขาที่ฝังอิฐนั้น ก็ถือว่าเป็กรรมตามสนองแล้ว”
ท่านฝูไป๋มองลู่ไป๋และถอนหายใจในใจ พูดอะไรไม่ออก
คุณชายน้อยยังคงไร้เดียงสาเกินไป
การสังหารหมู่ครอบครัวช่างไม้จางนั้นเป็เื่ที่ซับซ้อนมาก
“เป็อะไรหรือครับ?”
ลู่ไป๋แกล้งทำเป็ไม่รู้
ท่านฝูไป๋กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “คุณชายน้อย หากอิฐก้อนนั้นเป็ฝีมือของช่างไม้จาง เราสามารถถามเขาได้ว่าทำไมถึงโหดร้ายขนาดนี้”
“แต่ตอนนี้ ครอบครัวของช่างไม้จางตายหมดแล้ว นั่นหมายความว่าอะไรหรือครับ?”
ท่านฝูไป๋อดทนและค่อย ๆ ชี้แนะ
ตระกูลลู่เหลือเพียงลู่ไป๋ที่เป็ผู้ชาย ท่านฝูไป๋ก็อายุมากแล้ว ในอนาคตตระกูลลู่ก็ต้องพึ่งพาลู่ไป๋อยู่ดี
ให้เด็กคนนี้ได้รู้จักโลกที่โหดร้ายนี้แต่เนิ่น ๆ ก็ดีเหมือนกัน
“หมายความว่าอะไรครับ?”
ลู่ไป๋ถาม
ท่านฝูไป๋กล่าวว่า “นั่นหมายความว่าช่างไม้จางอาจถูกคนอื่นใช้ประโยชน์ ตอนนี้ครอบครัวของเขาถูกไฟคลอกตายแล้ว ส่วนใหญ่แล้วคงถูกฆ่าปิดปาก!
พูดอีกอย่างคือ คนร้ายที่อยู่เื้ัความวุ่นวายของตระกูลลู่ยังคงซ่อนตัวอยู่ในเงามืดและกำลังหาโอกาสที่จะลงมือ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลู่ไป๋ก็ไม่มีข้อสงสัยในตัวท่านฝูไป๋อีกต่อไป และถามว่า “ท่านฝูไป๋คิดว่าใครเป็คนเื้ั?”
ท่านฝูไป๋ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับมีความกังวล
ลู่ไป๋ยิ้มและกล่าวว่า “เราแค่คุยกันส่วนตัวเท่านั้น ข้าจะไม่พูดเื่นี้กับใคร”
ท่านฝูไป๋กล่าวอย่างอ้ำอึ้งว่า “ผู้ต้องสงสัยรายใหญ่ที่สุดก็คือ… ครอบครัวของท่านลู่ใหญ่ครับ”
“อืม”
ลู่ไป๋พยักหน้าและกล่าวว่า “เมื่อพ่อและพี่ชายตายไปแล้ว หากข้าตกลงไปในหน้าผาและตาย ครอบครัวของท่านลุงก็จะไล่แม่ของข้าออกจากบ้านและได้ประโยชน์สูงสุดอย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเขาจึงเป็ผู้ต้องสงสัยรายใหญ่ที่สุด”
ดวงตาของท่านฝูไป๋สว่างขึ้นและเขาก็รู้สึกสบายใจ
คุณชายน้อยดูเหมือนจะฉลาดขึ้นแล้วและในที่สุดก็คิดออกถึงจุดสำคัญของเื่นี้
“นอกจากท่านลุงแล้ว ยังมีความเป็ไปได้อื่นอีกหรือไม่ครับ?”
ลู่ไป๋ถามอีกครั้ง
“นี่…”
ท่านฝูไป๋ถูกถามจนพูดไม่ออก
ลู่ไป๋กล่าวต่อว่า “ครอบครัวโจวเป็ผู้ต้องสงสัยด้วยหรือไม่?”
“ครอบครัวโจว?”
ท่านฝูไป๋ใเล็กน้อยและยังไม่ทันได้ตอบสนอง
ลู่ไป๋กล่าวว่า “สามีของลูกพี่ลูกน้องของข้าเป็คนจากครอบครัวโจว หากท่านลุงได้ธุรกิจของพ่อไป ครอบครัวโจวก็จะได้รับผลประโยชน์บางอย่างเช่นกัน”
แน่นอนว่าเหตุผลที่ลู่ไป๋สงสัยครอบครัวโจวก็เพราะยันต์ท้อที่ลู่เหยาเป็คนให้
ท่านฝูไป๋ไม่คิดว่าลู่ไป๋จะคิดได้ลึกซึ้งขนาดนี้ หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็กล่าวว่า “เป็ไปได้เหมือนกันครับ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวโจวกับตระกูลลู่ก็ค่อนข้างดี ไม่มีความบาดหมางกันเลยครับ”
“คุณนายโจวถือศีลกินเจมาหลายปีแล้ว และมีชื่อเสียงที่ดีมาก เมื่อตระกูลลู่เกิดเื่ คุณนายโจวก็มาช่วยทำพิธีให้กับท่านเ้าของจวนและคุณชายใหญ่ด้วยครับ”
ลู่ไป๋เลิกคิ้วและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
ครู่ต่อมา ลู่ไป๋ก็ถามอีกครั้งว่า “ครอบครัวลั่วเป็ผู้ต้องสงสัยด้วยหรือไม่ครับ?”
ท่านฝูไป๋ใและส่ายหัวอย่างรวดเร็วว่า “จะเป็ไปได้อย่างไร คุณหนูลั่วเป็คนที่มีน้ำใจ ตรงไปตรงมา และมีอิสระ ตอนนั้นเธอไม่สนใจการขัดขวางของครอบครัวและยืนกรานที่จะอยู่กับคุณชายใหญ่ เธอจะทำสิ่งที่ชั่วร้ายและมืดมนแบบนี้ได้อย่างไร”
ลู่ไป๋ส่ายหัวและกล่าวว่า “ข้าไม่ได้หมายถึงคุณหนูลั่ว แต่หมายถึงครอบครัวลั่ว”
“อ๋า?”
ท่านฝูไป๋ใและยังไม่เข้าใจดีนัก
ลู่ไป๋กล่าวว่า “ท่านก็เพิ่งพูดว่าตอนแรกครอบครัวลั่วไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของพี่ใหญ่กับคุณหนูลั่ว แต่คุณหนูลั่วก็ยืนกรานที่จะแต่งงาน ครอบครัวลั่วถึงได้ยอม
ถ้าอย่างนั้น เป็ไปได้หรือไม่ที่ครอบครัวลั่วจะแอบใช้วิธีอื่นเพื่อทำลายการแต่งงานของทั้งคู่โดยที่ไม่ได้บอกคุณหนูลั่ว?”
ท่านฝูไป๋ฟังแล้วตกตะลึงไปเลย
เมื่อกี้เขายังคิดว่าคุณชายน้อยนั้นไร้เดียงสาอยู่เลย ทำไมในชั่วพริบตาเดียวถึงได้คิดเื่ที่มืดมนขนาดนี้ได้?
ถึงขั้นคิดไปถึงครอบครัวลั่วที่อยู่ไกลถึงเมืองชิงสือ
แต่เมื่อเขาคิดอีกครั้ง สิ่งที่ลู่ไป๋พูดก็ดูเหมือนจะมีเหตุผล…
หากคาดเดาแบบนี้ ครอบครัวลั่วก็เป็ผู้ต้องสงสัยจริง ๆ
“นี่… ข้า… เ้า…”
ความคิดของท่านฝูไป๋สับสนจนเขาไม่สามารถพูดประโยคที่สมบูรณ์ได้
เดิมทีความคิดของเขาก็ชัดเจนดีอยู่แล้ว เมื่อครอบครัวของท่านเ้าของจวนเกิดเื่ ลู่จื่อหยวนก็มาเพื่อแย่งชิงสมบัติ เขาจึงเป็ผู้ต้องสงสัยรายใหญ่ที่สุด
แต่เมื่อลู่ไป๋วิเคราะห์แบบนี้ เขาก็รู้สึกงงไปหมด
ครู่ใหญ่ต่อมา ท่านฝูไป๋ก็ยิ้มอย่างขมขื่นและกล่าวว่า “คุณชายน้อย ถ้าครอบครัวลั่วเป็คนทำจริง ๆ ด้วยอำนาจของพวกเขา เราก็คงไม่สามารถแก้แค้นได้หรอกครับ”
“แค่ปรมาจารย์ภายในของครอบครัวลั่วก็มีมากกว่าในเมืองหลิ่วซีแล้ว ไม่ต้องพูดถึงปรมาจารย์ฟ้าประทานที่ดูแลอยู่เลย!”
ลู่ไป๋ถามอีกครั้งว่า “แล้วครอบครัวโจวล่ะ มีปรมาจารย์ภายในไหม?”
“มีอยู่หนึ่งคนครับ”
ท่านฝูไป๋ตอบ แล้วก็ถอนหายใจว่า “และอีกอย่าง การที่ครอบครัวของช่างไม้จางตายหมดแล้ว เบาะแสก็ขาดสะบั้นไปหมดแล้ว ไม่มีทางสืบหาได้เลยครับ”
“ไม่ต้องคิดมากหรอก แค่คุยเล่น ๆ เท่านั้นเอง กลับบ้านกันเถอะ”
ลู่ไป๋ยิ้มและปลอบใจ ทั้งสองคนจึงเดินกลับไปที่จวนตระกูลลู่
เบาะแสขาดสะบั้น?
อาจจะไม่แน่
ลู่ไป๋นำยันต์ท้อออกมาจากอกเสื้อและถือไว้ในมือเล่น ๆ
การจะตามหาคนเื้ันั้นก็ง่ายมาก
แต่ตอนนี้เขายังไม่มีพลังพอที่จะลงมืออย่างเร่งรีบได้ กลัวว่าจะทำให้เื่ยุ่งยากขึ้น
แต่ก็ยังดีที่มีเวลาอีกสี่สิบกว่าวัน เื่นี้จึงไม่ต้องรีบร้อน
เมื่อไม่มีิญญาชั่วร้ายแล้ว ลู่ไป๋ก็พิจารณายันต์ท้ออย่างละเอียด
เมื่อพิจารณาดูแล้ว เขาก็พบสิ่งผิดปกติ
คำว่า ‘เสินถู’ และ ‘อวี้เหล่ย’ บนยันต์ท้อ ว่ากันว่าเป็หนึ่งในห้าจักรพรรดิผีในโลกนรก ที่สามารถปราบผีร้ายได้ ซึ่งถือเป็ต้นกำเนิดของเทพเ้าประตู
แต่บนยันต์ท้อที่ลู่ไป๋ถืออยู่นี้ มีตัวอักษรผิดอยู่ในสองชื่อนี้
ตัวอักษร ‘ถู’ ในคำว่า ‘เสินถู’ ขาดไปหนึ่งขีด กลายเป็ตัวอักษร ‘ฉา’
ตัวอักษร ‘เหล่ย’ ในคำว่า ‘อวี้เหล่ย’ มีดินด้านล่างเพิ่มมาหนึ่งขีด กลายเป็ตัวอักษร ‘หวัง’
เ้าของร่างเดิมออกนอกเมืองอย่างเร่งรีบและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว จึงไม่มีเวลามาตรวจสอบความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้
แต่เมื่อตัวอักษรผิด ยันต์ท้อก็สูญเสียพลังในการขับไล่ผีและิญญาชั่วร้ายไปโดยธรรมชาติ
ลู่ไป๋ถือยันต์ท้อในมือและมีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว
ในเมื่อกระจกโบราณสามารถแสดงระดับวรยุทธ์ได้ มันจะสามารถแสดงข้อมูลของสิ่งของได้หรือไม่?
ลู่ไป๋ลองวางยันต์ท้อไว้บนหน้าอก และกระตุ้นกระจกโบราณด้วยเืลมเล็กน้อย
แสงวาบหนึ่งปรากฏขึ้นบนกระจก และมีตัวอักษรสามตัวปรากฏขึ้น — ยันต์ไม้ไหว
ไม่น่าแปลกใจเลย!
ลู่ไป๋เข้าใจในทันที
ก่อนหน้านี้เขารู้สึกสงสัยเล็กน้อย
ว่ากันว่าไม้ท้อเป็ไม้ที่มีพลังหยางสูงที่สุดและสามารถปราบิญญาชั่วร้ายได้
ทั้งสองสิ่งเป็ศัตรูกัน แล้วิญญาชั่วร้ายจะมาสิงอยู่ในยันต์ท้อได้อย่างไร?
ความสงสัยนี้คลี่คลายเมื่อกระจกโบราณแสดงข้อมูลของสิ่งนี้
ว่ากันว่ามีไม้ยินห้าชนิด และไม้ไหวเป็ไม้ยินที่รุนแรงที่สุดในบรรดาไม้ยินทั้งห้าชนิด มันสามารถรวบรวมพลังงานหยินและให้ิญญาสิงสถิตได้
ซ่อนผีในไม้ ก็คือไม้ไหว
“ฮึ!”
ลู่ไป๋หัวเราะเยาะ
เป็วิธีที่ดี เป็วิธีที่ดี!
วิชาอาคมเยี่ยนเซิ่ง ‘อิฐไว้ทุกข์’
ยันต์ท้อที่มีตัวอักษรผิด แถมยังใช้ไม้ไหวแทนไม้ท้อและให้ิญญาชั่วร้ายสิงอยู่ ทั้งหมดนี้เป็วิธีที่ร้ายกาจที่จะฆ่าคนโดยไม่ทิ้งร่องรอย
นี่คือการสังหารหมู่ตระกูลลู่ให้สิ้นซาก!