กูเฟยเยี่ยนทราบว่าตระกูลกูมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ดังนั้นผังสายลำดับวงศ์ตระกูลจะต้องยาวมากแน่ๆ เพียงแต่นางคิดไม่ถึงเลยว่าจะยาวขนาดนี้ แค่รายชื่อผังสายลำดับวงศ์ตระกูลก็ยาวเท่าหนังสือคัมภีร์โบราณสองม้วนแล้ว
นางดูรายชื่อคร่าวๆ แล้วพบว่าผังสายลำดับวงศ์ตระกูลกูไม่เพียงแค่ยาวเท่านั้น แต่เนื้อหายังสมบูรณ์และครบถ้วนอีกด้วย ภายในแบ่งเป็ที่มาที่ไปของสกุล ที่มาของการย้ายถิ่นฐาน เชื้อสาย คุณธรรม บรรทัดฐาน ตำราการสั่งสอน เกียรติประวัติของผู้ที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว หลุมฝังศพ กฎเกณฑ์ของตระกูล ลำดับศักดิ์หัวหน้าวงศ์ตระกูลในแต่ละยุคสมัย การสรรเสริญบุคคล แผนภาพศาลบรรพบุรุษ รวมไปถึงภาพวาดบุคคลและอื่นๆ
กูเฟยเยี่ยนให้คนไปหาเซี่ยเสี่ยวหม่านที่จิ้งหวางฝู่เพื่อขอลาหยุดเพิ่มสองถึงสามวันแล้วให้กูเอ้อร์เย่อยู่ช่วยเปิดหา ด้วยเหตุนี้นางจึงอยู่ที่ตระกูลมาเป็ระยะเวลาสามวันสามคืน
นางค้นพบสายครอบครัวแตกแขนงที่มีการสืบทอดทักษะทางการแพทย์สองสามคนในผังสายลำดับวงศ์ตระกูลและยังค้นพบแพทย์ยากับแพทย์รักษาหลายท่านที่มีอยู่ในข่าวลือ แต่น่าเสียดายที่ครอบครัวแตกแขนงเหล่านี้ล้วนไม่ใช่ตระกูลที่ซ่อนเร้น นอกจากในอดีตที่เคยมีบรรพบุรุษที่มีทักษะทางการแพทย์ยอดเยี่ยมกับทักษะยาสมุนไพรลึกล้ำแล้ว ลูกหลานที่สืบทอดต่อกันมาล้วนมีฝีมือธรรมดา บางครอบครัวไม่มีแม้แต่ผู้สืบทอดด้วยซ้ำ
ผ่านมาสามวันแล้วก็ยังคงเหลือหนังสือคัมภีร์โบราณอีกมากกว่ายี่สิบม้วนและครอบครัวแตกแขนงอีกสามครอบครัวที่ยังไม่ได้ทำการเปิดตรวจสอบ
กูเอ้อร์เย่ถอนหายใจ “เยี่ยนเอ๋อร์ เ้าหาอะไรกันแน่? นี่ก็สามวันแล้ว ข้าว่าช่างมันเถอะ? ”
กูเอ้อร์เย่คาดเดาได้คร่าวๆ ว่ากูเฟยเยี่ยน้าตามหาผู้สืบทอดทางการแพทย์ของตระกูลกู ทว่าเขาไม่รู้รายละเอียดที่แน่ชัดนัก
กูเฟยเยี่ยนไม่สนใจไยดีเขา แล้วนำหนังสือคัมภีร์โบราณม้วนถัดไปมาเปิดดูต่อ ใบหน้าของกูเฟยเยี่ยนปรากฏถึงความเหนื่อยล้าทว่าก็ยังคงดึงดัน
หนังสือคัมภีร์โบราณม้วนนี้บันทึกสถานการณ์ของตระกูลกูโยวสุ่ย
“โยวสุ่ย? แม่น้ำโยวสุ่ยบริเวณทะเลน้ำแข็งปิงไห่หรือ? ” กูเฟยเยี่ยนถามด้วยความสงสัย
“มันคือเมืองูเาโยวสุ่ยของต้นแม่น้ำโยวสุ่ย กลุ่มคนในตระกูลของพวกเรามีการโยกย้ายไปอาศัยอยู่ที่นั่นจริงๆ ” กูเอ้อร์เย่ตอบมาเพียงแค่นี้ แม้ว่าเขาจะเป็หัวหน้าตระกูลแต่ก็ไม่เคยเปิดผังสายลำดับวงศ์ตระกูลและไม่เคยทำการบูรณะมาก่อน เขาไม่ค่อยรับรู้เชื้อสายผู้สืบทอดของตระกูลกับครอบครัวที่แตกแขนงออกไปนัก
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้ถามเพิ่มเติม นางเปิดไปเปิดมาก็พบเข้ากับความประหลาดใจ นางพบว่าสายเืตระกูลกูโยวสุ่ยมีการสืบทอดทักษะการฝังเข็มกับทักษะการแช่ยาสมุนไพรของตระกูล พวกเขามักจะซ่อนตัวอยู่ที่โยวสุ่ยและเป็ตระกูลที่ซ่อนเร้น
กูเฟยเยี่ยนดีอกดีใจแล้วรีบร้อนให้กูเอ้อร์เย่เปิดหาแผนที่ลำดับวงศ์ตระกูลของสายเืกูโยวสุ่ยออกมา แต่ใครจะไปทราบว่าแผนที่ลำดับวงศ์ตระกูลของสายเืกูโยวสุ่ยจะบันทึกถึงแค่เมื่อสี่ร้อยปีก่อนเพียงเท่านั้น
กูเฟยเยี่ยนรีบเอ่ยถาม “เป็ไปได้หรือไม่ว่าหลังจากที่ซ่อนตัวแล้วก็ไม่มีการติดต่อกับตระกูลหลัก? ”
“ไม่ถึงขนาดนั้น สาเหตุน่าจะเป็เพราะไม่มีทายาท ไม่ก็ผังสายลำดับวงศ์ตระกูลในตอนนั้นขาดแล้วต่อมาก็ไม่มีการซ่อมแซม”
กูเอ้อร์เย่กล่าวพลางพลิกหน้าหนังสือคัมภีร์โบราณ ไม่ช้าเขาก็พบข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องจึงยื่นให้กูเฟยเยี่ยนดู “ดูสิ มันถูกเขียนไว้ตรงนี้! ”
หลังจากที่กูเฟยเยี่ยนดูแล้วก็ตกตะลึงมาก
บนหนังสือคัมภีร์โบราณบันทึกเอาไว้ว่าเมื่อสี่ปีก่อนสายเืตระกูลโยวสุ่ยได้ข้ามผ่านทะเลน้ำแข็งและโยกย้ายไปที่ดินแดนอวิ๋นคงของปิงไห่ทางใต้ จากนั้นก็ไม่มีข่าวคราวอะไรอีกเลย
ก่อนหน้านั้นสามารถข้ามผ่านทะเลน้ำแข็งได้ แต่ปัจจุบันนี้ถือว่าเป็ทางตัน! ไม่ง่ายเลยที่จะพบเจอความหวังอันริบหรี่นี้ แต่ผลลัพธ์กลายเป็เช่นนี้เสียได้ กูเฟยเยี่ยนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งโดยที่ไม่รู้จะพูดอะไร
หากจะค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตระกูลกูโยวสุ่ยต่อไปจะเป็การเสียแรงไปโดยเปล่าประโยชน์ นางจึงทำได้เพียงหาเชื้อสายอื่น
ไม่รู้ว่าเป็เพราะนางจริงจังมากเกินไปหรือเหนื่อยล้ามากเกินไป นางไม่ได้สังเกตเห็นว่าหวางเป่าติงที่อยู่บนเอวเกิดความผิดปกติ ในตอนนี้หวางเป่าติงได้ลอยขึ้นมาอย่างเงียบๆ หลายครั้ง ราวกับ้าลอยไปทางภาพวาดรูปนั้น
่เวลาพลบค่ำกูเฟยเยี่ยนกับกูเอ้อร์เย่ก็เปิดดูหนังสือคัมภีร์โบราณครบหมดแล้วทว่าไม่ได้อะไรเลย
กูเอ้อร์เย่นั่งอยู่บนพื้นโดยไม่้าจะลุกขึ้น กูเฟยเยี่ยนอ่อนเพลียและผิดหวังเช่นกัน นางนึกถึงนายก้อนน้ำแข็งเหม็นอย่างไม่รู้ตัว ดูเหมือนว่าเส้นสายของหมอนั่นจะไม่แพ้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเลย เขาจะช่วยได้หรือไม่นะ? เพียงแต่เขาปรากฏตัวอย่างลึกลับมาโดยตลอด นางจะไปหาเขาได้จากที่ใด?
กูเฟยเยี่ยนกำลังครุ่นคิด ทันใดนั้นหวังฟูเหรินก็เข้ามา นางขึ้นบันไดพลางะโเรียก “เยี่ยนเอ๋อร์ คนของจิ้งหวางฝู่มาแล้วบอกว่ามีจดหมายเร่งด่วนถึงเ้าจึงนำมาให้ ในตอนนี้เขารออยู่ที่ห้องรับรอง”
หัวหน้าาุโตอบจดหมายแล้วหรือ?
กูเฟยเยี่ยนเรียกสติกลับมาทันที นางไม่มากความแล้ววิ่งลงไปด้วยความดีใจจนเกือบจะปะทะเข้ากับหวังฟูเหริน
อันที่จริงนอกจากความดีใจแล้วนางประหม่ามากยิ่งกว่า
ทางด้านของตระกูลกูไม่มีความหวังแล้ว ทางด้านของหัวหน้าาุโอย่าทำให้นางดีใจเก้อนะ
กูเฟยเยี่ยนมาถึงห้องรับรองด้วยความเร็วที่มีมากที่สุดแล้วพบกับขันทีคนหนึ่งที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของเซี่ยเสี่ยวหม่าน นางรับจดหมายมาซึ่งเมื่อเห็นว่าผู้ส่งคือถังจิ้งนางก็ประหม่ามากขึ้นไปอีก ภายในใจเกิดความคิดว่าเป็ไปได้หรือไม่ว่าหัวหน้าาุโไม่สนใจไยดีนางกันนะ?
แต่ทันทีที่นางเปิดออกก็ค้นพบว่าภายในจดหมายมีจดหมายอีกหนึ่งฉบับ ผู้ที่เขียนจดหมายฉบับนี้ก็คือหัวหน้าาุโ หัวหน้าาุโให้คำสัญญาว่าจะแนะนำนางต่อแพทย์รักษาที่ซ่อนเร้น โดยมีเงื่อนไขว่าจะไม่รับนางเป็ศิษย์แล้ว แต่้าให้นางยินยอมอยู่ในฐานะของว่าที่กรรมการบริหารหุบเขาเสินหนงแทน
ภายในหุบเขาเสินหนงนั้น หัวหน้าาุโเทียบเท่ากับหัวหน้าผู้ดูแลใหญ่ รองจากหัวหน้าผู้ดูแลใหญ่ก็คือกรรมการบริหารซึ่งมีอยู่สี่ถึงห้าคน คนพวกนี้ไม่เพียงแค่ต้องวางแผนยุทธการแล้วแต่ยังต้องดำเนินการตัดสินใจอีกด้วย ในส่วนของว่าที่กรรมการบริหารนั้นมีความหมายตรงตัวเลย ซึ่งนั่นก็คือมีโอกาสกลายมาเป็กรรมการบริหาร
กูเฟยเยี่ยนครุ่นคิดอย่างไรก็ยังไม่เข้าใจว่าหากหัวหน้าาุโมีใจที่จะปลูกฝังนาง การรับนางเป็ศิษย์เป็วิธีที่ตรงที่สุดไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงต้องถอยก้าวใหญ่เพียงนี้?
ในความเป็จริงก็คือเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้หัวหน้าาุโได้เขียนจดหมายไปขอคนกับเทียนอู่ฮ่องเต้แล้ว แต่เทียนอู่ฮ่องเต้กังวลว่าความลับของตนจะรั่วไหลและกังวลว่าในวันข้างหน้าจะไม่ได้รับเม็ดยาอีก ดังนั้นจึงปฏิเสธหัวหน้าาุโไป เมื่อหัวหน้าาุโเห็นจดหมายของกูเฟยเยี่ยน เขาก็กังวลว่านางจะฝ่าฝืนเทียนอู่ฮ่องเต้ ดังนั้นเขาจึงใช้วิธีการนี้แทน
แม้ว่ากูเฟยเยี่ยนจะไม่เข้าใจแต่ก็ไม่มีเวลามาสืบความนัก นางไม่อยากชักช้าแม้แต่วินาทีเดียวจึงรีบกลับไปที่จิ้งหวางฝู่เพื่อทำการตอบจดหมายหัวหน้าาุโก่อนจะตอบรับเงื่อนไขของเขา
แม้ว่านางจะเป็คนของห้องยาสำนักหมอหลวงและอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของจิ้งหวางฝู่ชั่วคราว ทว่าเื่นี้นางไม่จำเป็ต้องแจ้งใครทั้งนั้น ว่าที่กรรมการบริหารเป็เพียงแค่ชื่อตำแหน่งและไม่ได้มีตัวตนที่แน่ชัด อย่างน้อยก่อนที่จะกลายมาเป็กรรมการบริหารนางก็ยังไม่นับว่าเป็คนของหุบเขาเสินหนง
จดหมายถูกส่งกลับไปแล้ว ในที่สุดจิตใจที่มีความกังวลมาหลายวันของกูเฟยเยี่ยนก็ผ่อนคลายลง หญิงสาวรีบให้คนไปรายงานข่าวดีที่ตระกูลเฉิง
วันต่อมากูเฟยเยี่ยนรีบช่วยเทียนอู่ฮ่องเต้กลั่นเม็ดยาและรอจดหมายตอบกลับของหัวหน้าาุโด้วยความร้อนรน
สำหรับสถานการณ์ของเฉิงอี้เฟยนั้นหลินฟูเหรินผู้เฒ่าได้ส่งคนมาแจ้งให้นางทราบแล้วว่าหลังจากที่เฉิงอี้เฟยฟื้นขึ้นมาอารมณ์ค่อนข้างมั่นคงและ้าพบนาง เขาเพียงแค่บอกว่าจะรอนาง
กลางดึกของสามวันต่อมากูเฟยเยี่ยนก็ได้รับจดหมายเร่งด่วนจากถังจิ้งอีกครั้ง จดหมายฉบับนี้มีจดหมายอีกฉบับอย่างเคย นอกจากจดหมายที่หัวหน้าาุโตอบมายังมีจดหมายแนะนำอีกหนึ่งฉบับแนบมาด้วย หัวหน้าาุโให้นางนำจดหมายแนะนำฉบับนี้ไปสถานที่ๆ หนึ่งที่มีชื่อว่าเยนอวิ๋นเจี้ยน จากนั้นให้ไปหาโรงเตี้ยมที่มีชื่อว่าหนานซาน แล้วนำจดหมายแนะนำฉบับนี้ให้เถ้าแก่โรงเตี้ยม เถ้าแก่จะเป็ผู้พานางไปหาแพทย์รักษาที่ซ่อนเร้นเอง ซึ่งแน่นอนว่าจดหมายแนะนำหนึ่งฉบับขอร้องแพทย์ได้เพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น
กูเฟยเยี่ยนไม่รับรู้เลยว่าแพทย์รักษาที่ซ่อนเร้นมีนามว่าอะไรและอยู่สันโดษคนเดียวหรือขึ้นตรงต่อตระกูลซ่อนเร้นแห่งไหน? จดหมายของหัวหน้าาุโก็ไม่ได้ระบุไว้เช่นกัน
กูเฟยเยี่ยนค่อนข้างมั่นใจในตัวของหัวหน้าาุโ นางไม่มีเวลาคิดมากนักจึงรีบให้เซี่ยเสี่ยวหม่านไปสืบข่าวสถานที่ๆ มีนามว่าเยนอวิ๋นเจี้ยนทันที
อย่างไรก็ตามนางออกจากิเย่วจวีมาได้ไม่นานก็เห็นร่างที่คุ้นเคยเดินไปทางห้องบรรทมด้วยความรวดเร็ว
ในที่สุดจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยก็เสด็จกลับมาที่จวนแล้ว!
เื่ของเฉิงอี้เฟยถูกคนแพร่กระจายไปทั่วเมืองมานานแล้ว แม้กระทั่งแม่ทัพใหญ่ฉีก็ได้พูดถึงเื่นี้ในราชสำนัก ดังนั้นเป็ไปไม่ได้ที่จิ้งหวางเตี้ยจะไม่รับรู้
กูเฟยเยี่ยนรีบสาวเท้าพรวดพราดเข้าไปอย่างไม่ลังเล “จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย ช้าก่อน นู๋ปี้มีเื่จะรายงาน! ”