“ไอ้บ้าถังจงเวยนั่นทะลวงระดับผู้ทรงยุทธ์ขั้นที่ห้าได้แล้ว!”
ณ ห้องลับแห่งหนึ่งของตระกูลตงฟาง ใบหน้าของตงฟางป้าเทียนยังคงเต็มไปด้วยความโมโห แขนซ้ายของเขาได้รับการห้ามเืและพันผ้าพันแผลไว้เรียบร้อย แต่คงรักษาให้เป็เหมือนเดิมไม่ได้
“ควรถอนคนตระกูลตงฟางกลับมาหรือไม่? จะบีบให้ตระกูลถังมอบคนยามนี้คงเป็ไปไม่ได้ มีเพียงแต่ต้องรอให้ใต้เท้าท่านนั้นมาถึง!”
ตงฟางป้าหยวนที่รับการโจมตีไปหนึ่งกระบวนท่าไม่ได้สาหัสมาก แค่ได้รับาเ็ภายในเล็กน้อย
“อืม มีแต่ต้องรอใต้เท้าท่านนั้น แล้วค่อยจัดการตระกูลถังกับถังจงเวย!”
ตงฟางป้าเทียนพยักหน้ากล่าวออกมา
เหมือนคนที่อยู่เื้ัเื่ทั้งหมดเมื่อสามปีก่อนจะเป็ใต้เท้าท่านนั้น แต่เพราะไม่อาจเปิดเผยตัวได้ จึงให้ตระกูลตงฟางออกหน้าฉากแทน
ส่วนต้นเหตุของเื่คงเป็ถังจงจื๋อที่อยากชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลถังจนตัวสั่น จึงเปิดเผยความลับของตระกูลออกไป
ยิ่งตอนนั้นตงฟางอวิ๋นชิงแห่งตระกูลตงฟางกราบใต้เท้าผู้นั้นเป็อาจารย์พอดี ตระกูลตงฟางจึงส่งต่อความลับนี้ให้กับอีกฝ่ายจนเป็ต้นเหตุให้กลุ่มการค้าของตระกูลถังถูกปล้น ถังจวินหาวหายตัว ถังจงเวยถูกพิษเล่นงานและเื่อื่นๆ ที่ตามมาอีกมากมาย
“อีกสิบกว่าวันจะถึงงานแข่งขันหวู่เต้าแล้ว ถ้าถึงตอนนั้น เราก็สังหารเ้าถังเหล่ยนั่นต่อหน้าตระกูลต่างๆ ได้อย่างชอบธรรม ต่อให้เป็ถังจงเวยก็ไม่กล้าละเมิดกฎของงานแข่งขันหวู่เต้า!” ตงฟางป้าหยวนกล่าว
“ถังเหล่ยไม่ใช่คนไร้ค่าอีกแล้ว เกรงว่าในบรรดาศิษย์รุ่นเยาว์ของตระกูลเราที่สามารถเอาชนะถังเหล่ยได้คงมีไม่มาก” ตงฟางป้าเทียนตอบกลับด้วยความกังวล
งานแข่งขันหวู่เต้าคืองานที่จัดขึ้นทั่วจักรวรรดิเทียนอวี่ เป้าหมายก็เพื่อคัดเลือกอัจฉริยะที่โดดเด่น
ผู้ที่ได้รับอันดับหนึ่งจะได้รับรางวัลต่างๆ อีกทั้งยังมีโอกาสได้เข้าเป็ศิษย์ในสำนักต่างๆ
ในงานแข่งขันหวู่เต้าเมื่อสามปีก่อนอันดับหนึ่งก็คือถังเหล่ย แต่น่าเสียดายที่ถังเหล่ยยังไม่ทันได้ดูดซับสมบัติชิ้นนั้น ก็ถูกตระกูลตงฟางดักทำลายิญญายุทธ์เสียก่อน
คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมงานแข่งขันหวู่เต้าถูกจำกัดอายุให้ต่ำกว่าสิบแปดปี
ปีนี้ถังเหล่ยอายุสิบหก ตอนงานแข่งครั้งที่แล้วเขาเพิ่งอายุสิบสามปี
“อวิ๋นชิงติดตามใต้เท้าท่านนั้นฝึกฝนมาเป็เวลานานขนาดนี้ ถ้าอวิ๋นชิงลงมือ โอกาสที่จะชนะต้องมีเก้าในสิบส่วนแน่!”
ตงฟางป้าหยวนกล่าวเบาๆ ตงฟางอวิ๋นชิงคือคนทำลายิญญายุทธ์ของถังเหล่ยเมื่อสามปีก่อน เขาอายุมากกว่าถังเหล่ยหนึ่งปี
“นี่...จะให้เรียกอวิ๋นชิงกลับมาเพราะเื่แค่นี้ จะไม่ทำให้ใต้เท้าท่านนั้นไม่ชอบใจหรือ?”
ถึงแม้ตงฟางอวิ๋นชิงจะเป็หลานของตงฟางป้าเทียน แต่ยามนี้ตงฟางอวิ๋นชิงคือศิษย์ของใต้เท้าท่านนั้น พวกเขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเรียกเขากลับมาได้
“เ้าเขียนจดหมายไปแจ้งเื่ราวทั้งหมดฉบับหนึ่ง อวิ๋นชิงจะมาหรือไม่ ให้เขาเป็คนเลือกเอง” ตงฟางป้าหยวนกล่าว
หลังจากนั้นองครักษ์ตระกูลตงฟางล้วนถอนตัวกลับไป สถานการณ์ที่ยังตึงเครียดถึงเมื่อครู่นี้ก็กลับมาเป็เหมือนเดิม
ตระกูลต่างๆ ในเมืองอวิ๋นหลิวต่างสนทนากัน พวกเขาล้วนคาดเดาต่างๆ นานาว่าทำไมตระกูลตงฟางถึงยอมอ่อนข้อกะทันหัน
การคาดเดาที่ดูจะเป็ไปได้มากที่สุดก็คือพลังของถังจงเวยฟื้นคืนมาแล้ว
ในจวนตระกูลถัง เื่ที่ตระกูลตงฟางถอยทัพทำให้ศิษย์ตระกูลถังผ่อนคลายลง แต่สำหรับผู้าุโตระกูลถังนั้น พวกเขารู้ว่าอันตรายของตระกูลยังไม่จบ
ในห้องโถงตระกูลถังล้วนเป็ผู้ดูแลในตระกูล ถังจงเวยนั่งตรงกลาง ด้านข้างคือถังจงชิง
เด็กรุ่นเยาว์คนเดียวที่อยู่ที่นี่คือถังเหล่ย ตามหลักแล้วถังเหล่ยไม่มีคุณสมบัติพอที่จะนั่งที่นี่ แต่ถังจงเวยเป็คนสั่ง ใครจะกล้าคัดค้าน?
“จงจื๋อทรยศตระกูล เื่นี้ข้าก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาไล่เรียงความผิด อันตรายของตระกูลยังไม่ถูกกำจัด ศัตรูของเรายังซ่อนตัวอยู่ในเงามืด มันยังไม่เผยตัวออกมา!”
หลังจากพลังของถังจงเวยฟื้นคืนมาแล้ว เสียงของเขาก็มีน้ำหนักมาก ในตอนนั้นเขาพูดอะไรล้วนไม่มีใครคัดค้าน ตอนนี้จึงกลับมาเป็เสาหลักของตระกูลถังอีกครั้ง
“ท่านผู้นำ สามปีมานี้การค้าขายของตระกูลถังเสียหายไปมากกว่าครึ่ง ใช้โอกาสตอนที่พลังของท่านฟื้นฟูกลับมารีบฟื้นฟูการค้าดีกว่า ทำเช่นนี้จึงจะทำให้ตระกูลถังกลับมามั่นคงได้”
ผู้ดูแลในตระกูลคนหนึ่งกล่าวเสนอแนะ
“การค้าหรือ? จวินอัน สายตาของเ้ายังตื้นเขินนัก ในเมืองอวิ๋นหลิวมีคลื่นใต้น้ำอยู่ ตระกูลที่สามารถอยู่รอดได้จะได้เป็ผู้นำของเมืองอวิ๋นหลิว ถึงเวลานั้นการค้าของตระกูลถังจะเอาเท่าไรก็ได้ทั้งนั้น แต่ตอนนี้กระจายกำลังคนออกไปก่อน ข้าต้องรู้ทุกการเคลื่อนไหวในเมืองอวิ๋นหลิว!”
ถังจงเวยกล่าวด้วยเสียงเย็นเยียบ มีเพียงตระกูลที่อยู่รอดเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์พูดเื่ทรัพยากรและการค้า
หลังจากนั้นถังจงเวยก็ออกคำสั่งหลายอย่าง ต้องฟื้นฟูอำนาจในการควบคุมเมืองอวิ๋นหลิวและเครือข่ายข้อมูลของตระกูลถังกลับมาให้เร็วที่สุด
“เอาล่ะ พวกเ้าไปจัดการตามนี้ เหล่ยเอ๋อร์อยู่ก่อน”
ทุกคนทยอยจากไป ไม่นานก็เหลือเพียงถังเหล่ยกับถังจงเวยสองคน
ถังเหล่ยใช้เท้าคิดก็รู้ได้ว่าสาเหตุที่ถังจงเวยให้เขาอยู่ต่อเพราะอะไร
“ท่านปู่ ท่านอยากถามข้าเื่ยาถอนพิษหรือ?”
ในเมื่อหนีไม่พ้น ถังเหล่ยจึงเปิดประเด็นทันที
“เื่นี้ปู่ก็สงสัย แต่เ้าไม่อยากบอกปู่ใช่ไหม?”
ถังจงเวยมีชีวิตมาหลายสิบปี จะมองความคิดของถังเหล่ยไม่ออกได้อย่างไร
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ถังจงเวยไม่รู้คือถังเหล่ยที่อยู่ตรงนี้หาใช่ชายหนุ่มอายุสิบกว่าปี แต่เป็สัตว์ประหลาดเฒ่าที่มีชีวิตมาเกือบร้อยปี
“ถ้าท่านปู่อยากรู้ เหล่ยเอ๋อร์ก็ไม่ลำบากใจที่จะแต่งนิทานสักเื่!”
ถังเหล่ยโบกมือ เทียบกับการโกหกเด็กสามขวบว่าตัวเองบังเอิญเก็บยาได้จากในถ้ำูเา สู้บอกไปตรงๆ เสียจะดีกว่า
ถึงอย่างไรสถานะของเขาตอนนี้ก็คือหลานของถังจงเวย ต่อให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ว่าตัวเองปิดบังก็คงไม่ทำอะไร
“ฮ่าๆๆ เ้าเด็กดื้อ! ไม่อยากโกหกก็ไม่ต้องพูดแล้ว ปู่จะไม่บังคับเ้า ครั้งนี้ที่ให้เ้าอยู่ต่อไม่ใช่เพราะจะล้วงความลับ แต่ปู่จะบอกความลับอย่างหนึ่งกับเ้าต่างหาก”
ถังจงเวยแย้มรอยยิ้ม
“โอ้? พวกเราตระกูลถังมีความลับอะไรหรือ?”
ถังเหล่ยคิ้วกระตุก เขาอยากรู้ความลับของตระกูลถังอยู่บ้าง
เขาคิดว่าความลับที่ถังจงเวยกำลังจะบอกเขาน่าจะเป็สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ศัตรูลึกลับเื้ัตระกูลตงฟางผู้นั้นเพ่งเล็งตระกูลถัง
“มีคนในตระกูลเราน้อยนักที่จะรู้ความลับนี้ แต่ปู่สี่ของเ้าก็รู้ความลับนี้ และเขาอาจเปิดเผยเื่นี้ไปแล้วก็ได้”
ถังจงเวยส่ายหัว เขาเสียใจที่บอกความลับกับถังจงจื๋อตอนนั้นไป
จากนั้นถังเหล่ยก็ถูกพาไปในเรือนชั้นในของตระกูลถัง ในห้องของถังจงเวยมีห้องลับอยู่
ห้องลับนี้อยู่ใต้เตียง ขนาดของพื้นที่นั้นไม่ใหญ่นัก บนกำแพงติดไข่มุกราตรีไว้ทำหน้าที่ส่องแสงหลายสิบก้อน ในห้องจึงดูสว่างมาก
ในถ้ำมีเพียงฟูกแผ่นหนึ่ง ด้านข้างมีกล่องไม้ใบหนึ่งวางอยู่
เพราะแสงสว่างนี้จึงทำให้ถังเหล่ยเห็นลักษณะของกล่องไม้ มันทำจากไม้เหล็กหมื่นปีที่หายากมาก การที่เอามาสร้างกล่องไม้นับว่าหรูหราเกินไป มันไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลเล็กๆ อย่างตระกูลถังจะมีได้
“ความรุ่งโรจน์ของตระกูลถังขึ้นอยู่กับสิ่งนี้!”
ถังจงเวยถอนหายใจ จากนั้นเปิดกล่องไม้ออก แสงสว่างสีทองอ่อนๆ ส่องประกายออกมาจากในกล่อง
‘ตะเกียงแก้วเลี้ยงิญญา!’
ถังเหล่ยเกือบหลุดปากเรียกชื่อของสมบัติชิ้นนี้ออกมา เื่นี้น่าใยิ่งนัก!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้