15:30น.
ประเทศญี่ปุ่น
คฤหาสน์ ซานโต้...
ซาโนะ มิซาโนะ....
“นายครับ” เสียงอ่อนน้อมและเต็มไปด้วยความเคารพของลูกน้องคนสนิทฝั่งขวาของผมเอ่ยขึ้นทำให้ผมละสายตาจากชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังช่วยกันเลี้ยงทารกน้อยสองคนอยู่กันอย่างขมักเขม่นโดยที่ไอ้ริวมันกำลังใส่แพมเพิร์สให้ลูกมันอย่างเก้ๆ กังๆ สีหน้าที่เคร่งเครียดแต่เต็มไปด้วยสายตาที่สะท้อนไปถึงความสุข ภาพของครอบครัวนี้ทำให้ผมยิ้มกว้างขึ้นด้วยความตื้นตันใจที่อยู่ในเต็มอกเพราะน้องสาวผู้เป็ที่รักของผมได้มีผู้ชายที่รักเธอมากและคอยดูแลปรนนิบัติน้องสาวผมเป็อย่างดี คุณพ่อคุณแม่ผมเองก็ผลัดกันอุ้มหลานฝาแฝดชายหญิงกันด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูลูกเขยของพวกเขาทำให้ผมละสายตาจากความสุขเบื้องหน้านี้ไปไม่ได้จริงๆ
“มีอะไร?” ผมถามลูกน้องคนสนิทผมไปทั้งๆ ที่สายตาผมยังไม่ได้ละไปจากภาพตรงหน้า ผมไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้วันที่สองตระกูลใหญ่อย่างซานโต้และโกมะมารวมตัวและสร้างความชุลมุนวุ่ยวายกันได้มากขนาดนี้ จากที่ทั้งสองตระกูลตั้งตัวเป็ศัตรูกันมาตั้งนานจนถึงรุ่นผม
“ท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่กำลังจะขึ้นรับตำแหน่งในอีกสองวันข้างหน้าครับนาย” คิวะโค้งลำตัวให้ผมพลางเอามือข้างซ้ายไปทาบทับไว้ที่หน้าอกอย่างเคารพท่าทางที่เขาเป็แบบนี้คือเขาสื่อให้ผมรู้ว่าเขาเคารพผมเพราะต้นตระกูลของคิวะั้แ่รุ่นพ่อของเขาก็คอยดูแลความปลอดภัยให้พ่อผมมาตลอดการปกครองตระกูลของผม ด้วยความสื่อสัตย์และความจงรักภักดี
“อืม เขาเชิญเรารึเปล่า?” ผมถามไปพลางค่อยๆ ย่างขาเดินออกมาจากตรงนั้นมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของผม โดยมีคิวะเดินตามผมมาอย่างช้าๆ
“เชิญครับนาย นี่ครับ” คิวะตอบผมพลางยื่นซองเอกสารสีนำ้ตาลส่งมาให้ผมในขณะที่ผมทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ในห้องทำงานของผมแล้ว ผมหยิบซองเอกสารมาและเปิดอ่านข้อความในจดหมาย
“นั้นสิ ฉันลืมเื่นี้ไปได้อย่างไร?” ผมพูดขึ้นพลางถอนหายใจออกมาเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อปีก่อนที่พวกนายกรัฐมนตรีและตำรวจทหารต่างพากันทรยศต่อประเทศและจะโค่นตระกูลของผม
“ท่านนายกคนนี้ เป็คนดีครับนาย” คิวะตอบรายงานผมอย่างรู้ใจและรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่หลังจากที่อ่านข้อความของนายกรัฐมนตรีคนใหม่เสร็จแล้ว เขาจะขอให้ผมช่วยดูแลเขาและลูกสาวของเขาอย่างงั้นเหรอ? ทำไมกัน?
“ท่านได้รับเลือกจากความรักของประชาชนขึ้นโดยมิได้ใช้เงินซื้อใจประชาชนเลยครับ” คิวะตอบผมพลางยื่นเอกสารอีกซองมาให้ผม ผมจึงหยิบซองเอกสารมาจากมือของคิวะมาและเปิดออกดูทันที และก็ปรากฏรูปถ่ายของผู้ชายวัยกลางคนกำลังยืนยิ้มไปด้วยความสุขอยู่ตรงกลางระหว่างกลุ่มผู้คนมากมายที่ไปให้กำลังใจเขา
“เขาชื่ออะไร?” ผมถามคิวะไปพลางหยิบรูปอื่นๆ ดูไปด้วย
“ท่านมิซาน มิยาชิตะครับ” คิวะตอบผมมา ผมก็พยักหน้าเข้าใจและสายตาของผมก็ไปสะดุดเข้ากับรูปภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดและเซ็กซี่แต่ใบหน้าของเธอกลับเต็มไปด้วยความทุกข์ ทำไมเธอถึงมีความทุกข์ขนาดนี้มองจากเสื้อผ้าที่เธอใส่เธอคงจะเรียนอยู่ชั้นมหาวิทยาลัยแล้วหน้าตาก็สวยเข้าขั้นสวยมากปากกระจับเรียวเล็กจมูกโด่งเป็สันเชิดลั้นอย่างคนถือดีดวงตากลมโตเหมือนตุ๊กตาแววตาเป็ประกายช่างน่าจับจ้อง
“ลูกสาวของท่านนายกครับนาย”
“คุณหนู โยโกะ ซาโยโกะ มิยาชิตะครับอายุ20ปี เธอเพิ่งเดินทางมาจากเมืองไทยเมื่อวานนี้ครับ” คิวะรายงายผมทุกเื่ที่ผมสงสัยและอยากรู้ ทำให้ผมเงยหน้าจากรูปถ่ายของผู้หญิงที่ชื่อโยโกะไปมองหน้าเขาและยิ้มให้
“ขอบใจ นายเป็ทั้งเพื่อนทั้งพี่และทั้งลูกน้องของฉันจริงๆ”
“ผมเต็มใจครับนาย ชีวิตของผมถูกกำหนดมาให้มารับใช้นาย” คิวะตอบผมแต่เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม ผมยิ้มอย่างซาบซึ้งที่เขาให้ความรักและความเคารพต่อตระกูลของผมได้มากขนาดนี้
“ขอบใจนะคิวะ^_^” ผมเอ่ยขอบใจคิวะไปพลางยิ้มให้เขาเหมือนตอนที่เราทั้งคู่ยังเป็เด็ก คิวะก็ยิ้มให้ผมและโค้งตัวให้ผมอย่างเคารพอีกครั้ง
“ครับ แล้วนายจะไปตามนัดไหมครับ?”
“ผมจะได้ไปเคลียร์ทางให้นาย” คิวะเอ่ยถามผมด้วยนำ้เสียงเป็ห่วง เพราะตอนนี้ตระกูลของผมได้กลับไปยิ่งใหญ่กว่าเดิมทั้งธุรกิจในและนอกประเทศ ทำให้ผมมีศัตรูเยอะขึ้นอีกเท่าตัว
“ฉันไม่ค่อยอยากไป รู้สึกไม่ค่อยดี” ผมบอกไปตามความรู้สึก ถ้าจะมีลางร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ผมจะรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี และตอนนี้งานทุกอย่างของไอ้ริวก็ตกเป็ของผมเพราะผมให้มันเลือกระหว่างเมียผู้เป็ที่รักของมันกับงานที่เป็ทุกอย่างในชีวิตมันว่ามันจะเอาอะไร และคำตอบของไอ้ริวก็เป็ไปอย่างที่ผมหวัง เพราะมันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อไปดูแลปลายฟ้า ที่ผมทำเเบบนี้เพราะผมอยากให้มันและปลายฟ้าอยู่อย่างมีความสุขไม่ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงทุกวันผมไม่อยากเห็นน้องสาวของผมต้องร้องไห้ทุกๆ วันในตอนที่สามีออกไปทำงานข้างนอก ผมต้องเลือกทุกอย่างให้น้องผมได้อยู่อย่างสบายและไอ้ริวมันก็ยอมทุกอย่างเพื่อปลายฟ้า
“ครับนาย งั้นผมจะโทรไปเรียนท่านนายกให้นะครับ”
“ขอบใจมาก ฝากด้วยนะ”
“ครับ ผมขอตัว” คิวะตอบผมและเขาก็ก้มห้วให้ผมอย่างเคารพและเดินออกไปจากห้องทำงานของผม ผมเมื่อคิวะออกไปแล้ว ก็เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่พร้อมหลับตาลง และทุกครั้งที่ผมหลับตาลงแบบนี้ใบหน้าของผู้หญิงที่ผมรักหมดหัวใจก็ลอยเข้ามาในความคิดผม ภาพความทรงจำเก่าๆ ประมวลให้ผมเห็นในวันเวลาที่ผมได้ใช้ชีวิตอยู่กับเธออย่างมีความสุขแต่แล้วผมก็ต้องตื่นจากความฝัน เพราะเธอคนนั้นทิ้งผมไปแล้ว และไม่มีวันที่เธอจะกลับมาหาผม ไม่สิ เธอเคยบอกผมหนิว่าถ้าผมโด่งดังมีชื่อเสียงและร่ำรวยเธอจะกลับมาหาผม และตอนนี้ผมก็มีทุกอย่างไม่ว่าจะชื่อเสียงเงินทองและไม่มีสิ่งไหนที่ผมอยากได้และไม่ได้มัน! ผมรีบหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของผมกดโทรหาซาต้าอย่างไวทันทีที่คิดได้
ติ๊ดดดด
(ฮะฮัลโหลครับนายน้อย) เสียงทุ้มและสั่นเครือของลูกน้องคนสนิทฝั่งซ้ายของผมเอ่ยตอบกลับมาหลังจากที่ผมรอสายมันอยู่พักหนึ่ง มัวทำอะไรอยู่กว่าจะรับได้
(ใครกันเหรอคะ?) เสียงหวานของผู้หญิงไทยเอ่ยสวนขึ้นมาทำให้ผมถึงกับส่ายหัวไปมาอย่างนึกรำคาญใจ
(เอ่อ...คือเสียงผมนะครับนาย) มันโกหกผมเหมือนผมโง่!
“จะเสียงใครก็ช่าง งานที่ฉันสั่งแกให้ทำไปถึงไหนแล้ว?” ผมกดเสียงต่ำทำเป็เข้มและดุดันใส่ไอ้ซาต้าไป เสียงมันลอกแลกๆ เหมือนกลัวว่าผมจะดุด่ามันและตามด้วยเสียงกุกๆ กักๆ เหมือนซาต้ามันกำลังเดินไปที่ไหนสักแห่ง
“ใกล้ได้เื่แล้วครับนาย ตอนนี้ผมกำลังหาข้อมูลอยู่ครับ” เสียงกุกๆ กักๆ หายไปพร้อมกับเสียงของซาต้าตอบผมกลับมา ทำให้ผมรู้ว่ามันคงออกมาจากผู้หญิงคนนั้นเพื่อมาคุยโทรศัพท์กับผม มันจะเดินออกมาเพื่อ? ทั้งๆ ที่การสนทนาของเราเป็ภาษาญี่ปุ่น
“หาข้อมูลอะไร?” ผมถามไอ้ซาต้าไปอย่างทันควัน
“ก็หาข้อมูลผู้หญิงของนายยังไงละครับ” ไอ้ซาต้าตอบผมกลับมาด้วยนำ้เสียงภาคภูมิใจ ผมกรอกตามองบนด้วยความเวอร์ของมัน
“แล้วไปหากับผู้หญิงกลางคืน?” ผมถามมันไปอย่างสงสัยและรู้ทันมันไปในตัว
“เปล่าครับนาย ที่ผมต้องลงทุนเปลืองเนื้อเปลืองตัวก็เพื่อข้อมูลใหม่ของนายหญิงเลยนะครับ” ไอ้ซาต้าเอ่ยกลับมา ทำให้ผมยิ่งขมวดคิ้วงุนงงเข้าไปอีก มันพูดเื่อะไรของมัน? มิินตราไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับผู้หญิงกลางคืน?
“ฉันไม่เข้าใจ”
“งั้นเอาเป็ว่าอีกสองวัน ผมจะติดต่อกลับไปหานายนะครับนายรอฟังข่าวดีได้เลย สวัสดีครับนาย” ไอ้ซาต้าเอ่ยเสร็จมันก็วางสายใส่ผมอย่างไว
“ไอ้ห่านี่!” ผมโวยขึ้นอย่างนึกขัดใจและสายตาของผมก็เหลือบไปมองกรอบรูปที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของผม ในรูปนั้นมีผู้หญิงผมยาวตัวเล็กผมยาวกำลังยืนส่งยิ้มให้ผมอยู่
พรึบ
“อีกไม่นาน ผมจะทำให้คุณกลับมาอยู่กับผมอีกครั้งมินตรา” ผมหยิบรูปของมินตรามาพลางเอ่ยบอกคนในรูปถ่าย เธอคือผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่ผมรักและเป็คนเดียวที่ทำให้ผมคิดถึงได้มากมายขนาดนี้ เื่ของเรามันเกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อน ตอนที่ผมไปเรียนที่มหาลัยในที่ประเทศไทยเพื่อจะคอยดูแลน้องสาวคนเดียวของผมได้ถนัดมอบความรักความอบอุ่นให้เธอ และผมก็ได้เจอกับผู้หญิงไทยที่แสนดีอ่อนหวานน่ารักอย่างมินตรา เธอทำให้ผมอยากจะขอเธอแต่งงานและชวนมาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยกัน แต่ในตอนนั้นผมต้องปิดบังสถานะของตัวเองเพื่อศึกษาเรียนให้จบหลักศูนย์ของมหาลัยตามคำสั่งของพ่อผม
“และในครั้งนี้ ผมไม่ใช่เด็กแว่นอ่อนแอคนนั้นอีกแล้ว แล้วพบกันว่าที่นายหญิงของซานโต้^_^” ผมพูดขึ้นและกอดรูปถ่ายเมื่อสิบปีก่อนของมินตรามาไว้ในอ้อมกอดของผมด้วยควา
มคิดถึง นานแล้วที่เราห่างกัน นานแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน
“ผมคิดถึงคุณ มินตรา...”