ต่งลี่ลี่เชื่อฟังมารดาของเธอทุกอย่าง ดังนั้นเธอจะะเิอารมณ์หน้าบ้านโจวไม่ได้ สิ่งที่มารดาเธอพูดดูมีเหตุผลมากกว่า
โจวเฉิงเป็ชายหนุ่ม ย่อมหลงเสน่ห์ปีศาจจิ้งจอกสาวรูปงามได้เป็ธรรมดา ทว่าคนตระกูลโจวเลือกภรรยาให้โจวเฉิงโดยไม่คำนึงถึงรูปลักษณ์! คนที่จะพบปีศาจจิ้งจอกนั่นไม่ควรมีเพียงกวนฮุ่ยเอ๋อและโจวกั๋วปิน ต่งลี่ลี่้าช่วยโจวเฉิงสร้างสถานการณ์ฉากนี้ให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม!
เธอขอให้โจวอวี๋ช่วยอีกครั้ง
โจวอวี๋ขึ้นเรือโจรสลัดแล้ว เมื่อมีครั้งแรก ก็ย่อมมีครั้งที่สอง... และโจวอวี๋เชื่อว่านี่ไม่มีทางเป็ครั้งสุดท้าย!
โจวอวี๋อยากเกลี้ยกล่อมต่งลี่ลี่ให้หยุดพยายาม ขนาดวันนี้อุตส่าห์รุกเยือนถึงบ้าน อาสะใภ้รองยังไม่รับคำด้วยซ้ำ ชัดเจนแล้วว่าไม่เห็นชอบเื่ของโจวเฉิงกับเซี่ยเสี่ยวหลาน และไม่โปรดปรานต่งลี่ลี่สักเท่าไร ฐานะเหมาะสมคือความได้เปรียบ แต่ตัวโจวเฉิงไม่ได้ใส่ใจในความได้เปรียบนี้ และถึงแม้กวนฮุ่ยเอ๋อจะใส่ใจ ทว่าก็มีตัวเลือกคนอื่นที่ฐานะเหมาะสมเหมือนกัน
ต่งลี่ลี่ดันทุรังมาก
“ตอนที่ฉันชอบโจวเฉิงน่ะ เธอก็ไม่บอกฉันว่าชอบไม่ได้นี่นา แถมยังบอกอีกว่าโจวเฉิงไม่มีแฟน ฉันมีโอกาส!”
โจวอวี๋สิ้นหนทางโต้แย้ง เธอเป็คนพูดแบบนี้เอง แต่เข้าใจไหมว่าตอนนั้นเธอยังเรียนแค่มัธยมต้นปีสองอยู่ คิดเพียงว่าต่งลี่ลี่ชอบโจวเฉิงจริงๆ ฐานะของทั้งสองครอบครัวก็เหมาะสมกันดี ในอนาคตย่อมลงเอยเป็คู่กันไม่ใช่หรือ? เพื่อนสนิทกลายเป็น้องสะใภ้ เธอกับต่งลี่ลี่จะได้เป็เพื่อนรักกันไปตลอดชั่วชีวิต!
ใครเล่าจะคาดเดาได้ว่าโลกมันแปรผันรวดเร็วขนาดนี้ โจวเฉิงผู้ไม่รู้จักการถนอมสตรีกลับมีคนรักเป็ของตนเองแล้ว และดูท่าทางจะใส่ใจรักใคร่เป็อย่างยิ่งเสียด้วย
มิตรภาพอันยาวนานหลายปีระหว่างโจวอวี๋และต่งลี่ลี่ไม่ใช่ของปลอม แม้ต่งลี่ลี่จะค่อนข้างไร้เหตุผลเวลาคลั่งไคล้โจวเฉิง แต่ในฐานะเพื่อนนั้นถือว่าเอื้อเฟื้อมากทีเดียว เมื่อเธอวิงวอนอย่างน่าสงสาร โจวอวี๋ทนไม่ได้จริงๆ
“เธอต้องคิดให้ดีก่อนนะ ต่อให้ฉันบอกคนบ้านโจวทุกคนได้ อาสะใภ้รองของฉันจะไม่รู้เชียวหรือว่าเธอกำลังทำอะไรเกี่ยวกับเื่นี้อยู่ ถ้าเขาเกิดความรู้สึกแย่ต่อเธอ...”
คนที่ได้ยินอาสะใภ้รองคุยโทรศัพท์มีแค่ต่งลี่ลี่กับแม่ของเธอ ถ้าคนตระกูลโจวรู้ข่าวเื่โจวเฉิงจะพาเซี่ยเสี่ยวหลานเข้าบ้านโดยทั่วกัน กวนฮุ่ยเอ๋อจะไม่รู้ว่าใครเป็คนพูดหรือ?
โจวอวี๋เตือนด้วยความหวังดี อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าต่งลี่ลี่ตัดสินใจแน่วแน่ไว้ตั้งนานแล้ว
“ต้านศึกนอกก่อนบรรเทาศึกในทีหลัง!”
ต่งลี่ลี่สามารถทำดีชดเชยในภายหลังได้ ค่อยคิดหาวิธีเอาชนะใจกวนฮุ่ยเอ๋ออีกที
จะปล่อยให้ตระกูลโจวยอมรับเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้ ต้องสร้างสถานการณ์ใหญ่ให้เซี่ยเสี่ยวหลานเสียหน่อย ตระกูลโจวมีสมาชิกมากมายขนาดนั้น มากคนมากความ เซี่ยเสี่ยวหลานจะเป็ที่น่าพอใจสำหรับทุกคนได้หรือ?
โจวอวี๋ไม่มีทางเลือก หลังแม่บ้านทำของว่างเสร็จ เธอก็ถือไปเยี่ยมสองผู้เฒ่าตระกูลโจว
ตอนแรกเธอยังไม่บอกว่าโจวเฉิงจะพาคนรักเข้าบ้าน พูดแค่ว่าในที่สุดโจวเฉิงก็มีวันหยุดแล้ว ย่าโจวที่กำลังบ่นคิดถึงหลานชายคนโปรด พอได้ยินว่าโจวเฉิงจะกลับบ้าน ก็ตัดพ้อว่าโจวเฉิงไร้หัวใจ รีบมารีบไปเสียทุกครั้ง
โจวอวี๋หัวเราะคิกคัก
“กลับบ้านคราวนี้ต้องมาหาย่าแน่นอน เพราะโจวเฉิงจะพาแฟนเขากลับบ้านด้วย อย่างไรก็ต้องให้ย่าพิจารณาหน่อยใช่ไหมล่ะคะ?”
ไม่ต้องบรรยายเลยว่าย่าโจวใมากเพียงใด กระทั่งปู่โจวก็หูผึ่งเช่นกัน
โจวอวี๋เคยเปรยถึงแฟนสาวของโจวเฉิงครั้งหนึ่งตอนตรุษจีน แต่ไม่มีความเคลื่อนไหวมาตั้งนาน นึกว่าคนรักของโจวเฉิงเลิกราจากไปแล้วเสียอีก ไม่คาดคิดว่าโจวเฉิงจริงจังกับหญิงสาวคนนี้มาก ถึงขั้นจะพาเข้าบ้านเพื่อพบผู้ใหญ่ โจวอวี๋หลานคนนี้ก็เ้าเล่ห์ไม่ใช่น้อย พ่อเฒ่าโจวี้เีเกินกว่าจะแฉ เขาจึงหันมาบอกภรรยาตนเองแทน “นี่โจวเฉิงคงจะพาฝ่ายหญิงกลับบ้านไปกินข้าวกับพ่อแม่เขาก่อน ยังไม่ถึงเวลาพบปู่ย่าหรอกนะ เธอกังวลอะไร”
ย่าโจวโมโห “ถ้าไม่มีปู่ย่า จะมีพ่อเขาได้หรือไร?”
สองสามีภรรยาเฒ่าเริ่มทะเลาะกันแล้ว โจวอวี๋จึงรีบหนีเอาตัวรอดออกมา
ปู่โจวไม่เห็นด้วยที่ย่าโจวจะเข้าไปก้าวก่าย ย่าโจวเองก็โกรธจัดจนไม่รับประทานแม้แต่มื้อกลางวัน เธอรีบต่อสายหากวนฮุ่ยเอ๋อทันที
“คนแก่อย่างพวกฉันไร้ประโยชน์แล้วสินะ พวกเราไม่จำเป็ต้องสนใจเื่ของโจวเฉิงแล้วใช่ไหม?”
ร่างกายของย่าโจวอ่อนแอกว่าปู่โจว แพทย์ประจำครอบครัวบอกว่าเธอไม่ควรโกรธ เพราะเมื่อมีอารมณ์ฉุนเฉียวจะทำให้หายใจลำบากได้ง่าย ปกติแค่ย่าโจวปวดหัวเป็ไข้ คนตระกูลโจวก็พากันกระวนกระวายแล้ว กวนฮุ่ยเอ๋อจะทนรับคำพูดเช่นนี้ได้อย่างไร “ดูแม่พูดเข้าสิคะ ถ้าแม่ไม่สนโจวเฉิง ใครจะเอ็นดูเ้าเด็กนั่นกัน? นี่ฉันกำลังจะโทร.หาแม่พอดี พอยุ่งขึ้นมาก็เกือบลืมไปเสียแล้ว โจวเฉิงบอกว่าเย็นนี้จะพาแฟนกลับมากินข้าว ผู้หญิงเขาเป็คนต่างถิ่น บ้านอยู่ชนบทด้วย นี่ฉันก็ใจตุ้มๆ ต่อมๆ ไม่สบายใจเลย อยากขอให้คุณแม่ช่วยพิจารณาและแนะนำหน่อยน่ะค่ะ”
สาเหตุที่ย่าโจวโกรธต้องเป็เพราะเื่นี้แน่
ข่าวแพร่ไปไวขนาดนี้ แม่ลูกบ้านต่งปากสว่างพอตัวจริงๆ
โจวอวี๋เองก็น่ารำคาญอีกคน เป็ตัวกลางคาบข่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้กวนฮุ่ยเอ๋อกลับเริ่มเข้าใจคำพูดของสามีบ้างแล้ว คนรักของโจวเฉิงเป็อย่างไรกันแน่ ต้องพิจารณาด้วยตาตัวเองเท่านั้น
คนเป็แม่อย่างเธอกังวลก็ถือว่าเป็เื่ปกติ ทว่าคนนอกตระกูลกับผู้ช่วยนกสองหัวอย่างโจวอวี๋จะกังวลด้วยในฐานะไหน?
กวนฮุ่ยเอ๋อไม่ได้โง่ เธอล่องเรือตามทิศทางลมทันที พูดจาไพเราะรื่นหู กล่อมย่าโจวจนเบิกบานสำราญใจ
บางครั้งคนแก่นั้นก็ไม่ต่างจากเด็กน้อย พอย่าโจวร่าเริงก็เริ่มใช้โทรศัพท์ เื่ที่โจวเฉิงจะพาคนรักกลับบ้านไปรับประทานอาหาร นอกจากบ้านโจวเฉิงแล้ว เธอยังมีลูกชายอีกหนึ่งและลูกสาวอีกสอง ทั้งสามบ้านรับทราบโดยทั่วกันในชั่วพริบตา!
พ่อเฒ่าโจวถามเธอด้วยท่าทีขุ่นเคืองว่า้าทำอะไร แต่ย่าโจวไม่สนใจเขา
“คุณจะไปรู้อะไร คนที่หลานชายฉันเลือกน่ะ ต้องยอดเยี่ยมที่สุดแน่นอน!”
ย่าโจวรักทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับหลานชายคนโปรด เธอมีความเชื่อมั่นอันงมงายต่อเซี่ยเสี่ยวหลานทั้งที่ยังไม่เคยพบหน้า
----------------------------------------
โจวเฉิงไม่รู้ว่ามื้ออาหารเล็กๆ ของครอบครัวที่เขาคาดหวังไว้ได้กลายเป็งานรวมญาติเสียแล้ว
เขาขอลางาน จากนั้นก็ขอยืมรถจี๊ป พาเซี่ยเสี่ยวหลานมุ่งหน้าเข้าเมือง
เซี่ยเสี่ยวหลานถามถึงความชื่นชอบของคนในครอบครัวเขา และลากโจวเฉิงไปซื้อของในห้างสรรพสินค้า ปักกิ่งยังมีข้อดีอยู่ ของที่ซื้อในซางตูไม่ได้ สามารถหาได้ในปักกิ่งแน่นอน ตราบใดที่มีเงินกับไว่ฮุ่ยเชวี่ยน การซื้อของดีไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เซี่ยเสี่ยวหลานคลำเงิน 5000 หยวนในกระเป๋าของตนด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม เธอปฏิเสธโจวเฉิงที่จะจ่ายเงินให้
“เธอแค่รับผิดชอบถือของก็พอ”
โชคดีที่โจวเฉิงมาด้วย เนื่องจากมือขวาของเซี่ยเสี่ยวหลานใช้แรงไม่ได้จริงๆ
“ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคำสั่งของเ้านายครับ!”
โจวเฉิงบอกความชอบของบิดามารดาแล้ว บิดาของเขาไม่ชอบบุหรี่หรือสุรา ทว่าชื่นชอบการดื่มชา
เมื่อก่อนกวนฮุ่ยเอ๋อเป็หมอ ภายหลังเธอทำงานในกระทรวงสาธารณสุข โจวเฉิงไม่รู้จริงๆ ว่ามารดาของเขามีความสนใจอะไรเป็พิเศษ
เซี่ยเสี่ยวหลานซื้อชาคุณภาพดีสองกล่อง และเลือกเข็มกลัดหยกให้กวนฮุ่ยเอ๋อหนึ่งชิ้น เครื่องหยกในปัจจุบันไม่ได้ราคาแพงมากนัก เข็มกลัดหยกชิ้นนี้คือแมลงปอหนึ่งตัวที่เสมือนของจริง ยาวไม่เกินห้าถึงหกเิเ ราคาอยู่ในขอบเขตกำลังซื้อของเซี่ยเสี่ยวหลาน
เมื่อทราบว่าปู่ย่าของโจวเฉิงยังคงมีชีวิตและสุขภาพดีอยู่ เซี่ยเสี่ยวหลานจึงซื้อของฝากเล็กๆ น้อยๆ ไปพร้อมกัน
ตอนนี้เป็ฤดูร้อน มีผลไม้ขายมากมาย เซี่ยเสี่ยวหลานเลือกแตงโมผลโตสองลูก ซื้อองุ่นซินเจียงอีกนิดหน่อย โดยให้โจวเฉิงรับหน้าที่เป็คนถือทั้งหมด
“พอแล้วน่า แค่กินข้าว ทำใหญ่โตขนาดนี้ไปทำไม เสี่ยวหลาน เธอคงไม่ได้กำลังประหม่านะ?”
เซี่ยเสี่ยวหลานมองค้อนเขา “ฉันจะประหม่าอะไรล่ะ ว่าแต่พ่อแม่เธอจะไม่ทำให้ฉันลำบากใช่ไหม?”
โจวเฉิงได้รับการอบรมสั่งสอนมาเป็อย่างดี พ่อแม่ของเขาไม่น่าเหมือนในละคร ที่ไม่ทันไรก็ปากร้ายกับ ‘ซินเดอเรลล่า’ ใช้เงินหยามเกียรติ ข่มขู่ทั้งสองให้เลิกกันสินะ? เซี่ยเสี่ยวหลานเล่าภาพจินตนาการของตนเองให้โจวเฉิงฟัง โจวเฉิงหัวเราะจนเกือบทำแตงโมที่อยู่ในมือร่วง
“เธอไปฟังมาจากที่ไหนน่ะ พ่อแม่ฉันจะเป็แบบนั้นได้อย่างไร!”
โจวเฉิงรับประกันอย่างหนักแน่นก่อนจะขับรถกลับบ้าน เซี่ยเสี่ยวหลานรับรู้ภูมิหลังครอบครัวของเขาตั้งนานแล้ว จึงไม่ใที่รถมุ่งหน้าไปทางไหน
โจวเฉิงจอดรถไว้ด้านล่าง บ้านโจวเป็อาคารสองชั้นเดี่ยว พอโจวเฉิงกดกริ่งประตู เซี่ยเสี่ยวหลานก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
“มาแล้วค่ะมาแล้ว โจวเฉิงกลับมาแล้วหรือคะ?”
มีสุภาพสตรีวัยกลางคนเปิดประตูออกมา เธอแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีเทาทั้งตัว ที่เอวยังผูกผ้ากันเปื้อนไว้อีกด้วย—นี่คงเป็ ‘ป้าเจิง’ ตามที่โจวเฉิงเรียก และเป็แม่บ้านของบ้านโจวนั่นเอง ไม่ใช่มารดาของโจวเฉิง
ป้าเจิงก็ประเมินเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างรวดเร็วเช่นกัน กระโปรงสีแดงสะดุดตา ใบหน้าสวยจับใจเหลือเกิน
แม่บ้านคนหนึ่งอย่างเธอไม่มีความคิดเห็นใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ไม่รู้ว่าคนบ้านโจวจะชอบหรือไม่ชอบ บ้านโจวเป็พวกสงวนท่าทีที่ทำอะไรใหญ่โตเสมอมา