“แกรก แกรก!”
ในผืนป่า กิ่งไม้มากมายแตกหักร่วงลงพื้นดินอย่างต่อเนื่อง
นกตัวหนึ่งบินผ่านจุดนี้พอดีจึงถูกลูกหลงจากพลังโน้มถ่วงจนร่วงตุบลงมาบนพื้นเช่นกัน
มีชายชุดฟ้าผู้นั้นเป็จุดศูนย์กลาง ผืนดินในรัศมีร้อยเมตรรอบกายเขาราวกับกลายมาเป็แม่เหล็กขนาดั์ก้อนหนึ่ง ปกคลุมทุกสรรพสิ่งเอาไว้ภายใน
เนี่ยเฉี่ยนที่พิงร่างอยู่กับต้นไม้ ่เอวพลันถูกพละกำลังมหาศาลดึงดูดเอาไว้ ร่างกายหนักอึ้งลงไปอย่างเห็นได้ชัด
“แรงโน้มถ่วงสิบเท่า!”
ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความหวาดผวา จ้องเขม็งไปที่เนี่ยเทียนด้วยความกระวนกระวายใจ ในใจแอบโมโหที่เนี่ยเทียนไม่รู้จักกลัวตาย
ชายชุดสีฟ้าที่ถือโล่อำพันลึกลับอยู่ในมือ แสยะปากยิ้มชั่วร้าย เดินก้าวเข้าใกล้เนี่ยเทียนเรื่อยๆ “เ้าเด็กสารเลว ข้าอยากจะรู้นักว่าเ้าจะยังเดินออกมาอีกก้าวได้หรือไม่!”
ภายใต้แรงโน้มถ่วงสิบเท่า ฝีเท้าของเนี่ยเทียนที่เดิมทีเคลื่อนที่ได้ดั่งใจพลันหยุดชะงักลง
ขมวดคิ้ว เขาลองรับััดู พบว่าความร้อนจากฝ่าเท้าของตัวเองคล้ายกำลังมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว
พลังความร้อนมากมายส่งผ่านมาจากกระดูกสัตว์ที่เขาถือเอาไว้ ไหลไปตามเส้นชีพจรของเขา ไล่ไปยังเท้าทั้งสองข้าง
กระดูกสัตว์ที่เพิ่งกลับคืนสู่สภาพปกติชิ้นนั้น เกิดความร้อนแผดเผาขึ้นใหม่ ทำให้รู้สึกร้อนลวกมืออีกรอบ
ััได้ถึงอุณหภูมิของกระดูกสัตว์ที่สูงขึ้น ไม่รู้ว่าเหตุใด ความมั่นใจของเนี่ยเทียนพลันเพิ่มพูน เผชิญหน้ากับคนผู้นั้นที่กำลังเข้ามาใกล้ แต่กลับไม่แสดงออกถึงความตื่นใเลยแม้แต่นิดเดียว
เขาไม่ได้รีบร้อนลงมือแต่อย่างใด เอาแต่ยืนมองคนผู้นั้นด้วยความนิ่งเฉย มือที่ไพล่หลังกำกระดูกสัตว์ชิ้นนั้นเอาไว้แน่นจนเส้นเอ็นปูดโปนขึ้นมา
“น้องสองของข้าไปไหนกันแน่?!”
คนผู้นั้นตวาดเสียงดัง โบกสะบัดโล่อำพันลึกลับโยนมาทางกระดูกสัตว์ของเนี่ยเทียนอย่างแรง
“ฟิ้ว!”
โล่อำพันลึกลับหลุดจากมือบินออกไป กรีดผ่าเป็แสงโค้งงอสีเหลืองเข้มงดงาม พลังอานุภาพเกรียงไกรเสมือนอสนีบาตฟาดกระแทกลงมา
สนามแรงโน้มถ่วงที่น่าตะลึงยิ่งกว่าเดิมถูกปลดปล่อยออกมาจากโล่อำพันลึกลับ ทำให้พื้นรอบกายเนี่ยเทียนคล้ายจะหนักอึ้งลงไปในพริบตา
“เสี่ยวเทียน!” เนี่ยเฉี่ยนร้องเสียงหลง
ในเวลานี้ กระดูกสัตว์ชิ้นนั้นที่อยู่ในมือของเนี่ยเทียนก็พลันเปลี่ยนเป็สีแดงจ้าราวกับเหล็กหลอม ความร้อนแผดเผาถูกปลดปล่อยออกมาอีกครั้งอย่างพลุ่งพล่าน
“ไปเถอะ!”
เนี่ยเทียนโยนกระดูกสัตว์ชิ้นนั้นออกมา
ขณะที่กระดูกสัตว์คำรามออกไป พลังงานความร้อนที่รวมอยู่กลางฝ่าเท้าของเขาก็ะเิออกในบัดดล
พลังโน้มถ่วงน่าหวาดกลัวที่ลอยออกมาจากพื้นดินคล้ายไม่สามารถทนแบกรับได้อีกต่อไป ร่างของเนี่ยเทียนจึงพุ่งถลาออกไปด้านหน้าตามการเปลี่ยนแปลงของเท้า
เขาหลบฉากหลีกหนีการโจมตีของโล่อำพันลึกลับนั้น
“โฮก!”
เสียงคำรามแหบแห้งพลุ่งพล่านที่มีเพียงเขาคนเดียวที่ได้ยิน เสียงนั้นราวกับะเิอยู่ในจิติญญาของเขา เขามองเห็นอย่างชัดเจนว่ากระดูกสัตว์ชิ้นนั้นกลายร่างออกมาเป็เปลวไฟที่ร้อนแรงซัดโหม กลืนกินคนผู้นั้นเข้าไปจนหมด
สนามโน้มถ่วงสิบเท่าที่พันธนาการฟ้าดินแห่งเอาไว้ บัดนี้พลันอันตรธานหายไป!
“ตุบ!”
โล่อำพันลึกลับที่สูญเสียแรงถือประคองจากเ้าของจึงร่วงลงมาอยู่ด้านหลังเนี่ยเทียนกะทันหัน
เ้าของโล่อำพันลึกลับกลับสลายร่างไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางเปลวไฟที่พวยพุ่ง
เวลาเพียงไม่กี่วินาที คนผู้นั้นที่ถูกเปลวไฟเขมือบกลืนกิน ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในเปลวเพลิง
อาภรณ์และร่างกาย แม้กระทั่งลมหายใจของเขาต่างก็มอดไหม้กลายเป็เถ้าธุลีตามการลุกไหม้ของไฟนั้น
ภายในระยะเวลาอันแสนสั้น คนผู้นั้นก็ไม่หลงเหลือร่องรอยใดทิ้งไว้บนโลกใบนี้อีก เปลวไฟร้อนแรงที่เกิดจากกระดูกสัตว์กลับมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็กลายมาเป็ชิ้นกระดูกสีน้ำตาลแก่อีกครั้ง
ห่างออกไปไม่ไกล เนี่ยเฉี่ยนที่ก่อนหน้านั้นใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เหม่อมองมาทางนี้ สีหน้าเลื่อนลอยเล็กน้อย
นางหลับตาลงอย่างอดไม่ได้ จากนั้นก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง พยายามมองภาพด้านหน้าให้ชัดเจน
หลังจากทำเช่นนี้อยู่หลายครั้ง ในดวงตาของนางก็ยังคงมองเห็นเนี่ยเทียนยืนตระหง่านอยู่ที่เดิม ส่วนนักฆ่าที่เผยความเหี้ยมโหดออกมาก่อนหน้านี้กลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
จิตใจของนางเลื่อนลอย ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงได้ค่อยๆ คืนสติกลับมา พึมพำเสียงเบาว่า “ตายแล้ว คนผู้นั้น... ถูกเผาจนตายแล้วหรือ? มอดไหม้จนกลายเป็เพียงเถ้าธุลีเลยรึ?”
“สวบ สวบ!”
หลังจากแรงโน้มถ่วงกลับคืนเป็ปกติ เนี่ยเทียนก็เดินเบาๆ ไปหยุดอยู่ข้างกระดูกสัตว์ ย่อตัวลงหยิบเอากระดูกสัตว์ชิ้นนั้นขึ้นมาใหม่
“ของวิเศษ” เนี่ยเทียนหยิบกระดูกสัตว์ขึ้นมาเล่นอย่างอดไม่อยู่
จนถึงกระทั่งตอนนี้เนี่ยเฉี่ยนถึงได้ฟื้นคืนสติขึ้นมาจากความฉงนอย่างแท้จริง ะโอย่างหวาดกลัว “ระวังกระดูกสัตว์ชิ้นนั้น!”
เนี่ยเทียนเงยหน้าขึ้น ยกกระดูกสัตว์ขึ้นสูงหันมาทางนาง บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ท่านป้าใหญ่ มันคือของวิเศษของข้า จะทำร้ายข้าได้อย่างไร?”
“ของวิเศษของเ้าอย่างนั้นรึ? เ้า... เ้าสามารถควบคุมมันได้?!” เนี่ยเฉี่ยนกล่าวด้วยความตื่นตะลึง
เนี่ยเทียนพยักหน้าแรงๆ “แน่นอน!”
หยุดไปครู่หนึ่งเขาก็ชี้ไปที่ด้านหลัง พูดอธิบายว่า “น้องรองของเ้าหมอนั่นก็ถูกมันเผาจนตายไปเหมือนกัน แม้แต่เืก็ยังไม่เหลือสักหยด ตอนนี้ข้าถึงได้เข้าใจว่าเหตุใดทุกคนถึงได้ให้ความสำคัญกับของวิเศษที่เหมาะมือขนาดนั้น ของวิเศษที่ร้ายกาจสามารถพลิกสถานการณ์ได้จริงๆ ด้วย!”
ก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้สนใจอาวุธวิเศษที่พวกนักพรตเสาะแสวงหาด้วยความอยากลำบากมากเท่าไหร่นัก
เพราะความแข็งแกร่งของร่างกายเขา เวลาที่ต่อสู้กับพวกเนี่ยหงก็มักจะอาศัยความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อเอาชนะมาได้ทุกครั้ง นั่นจึงทำให้เขารู้สึกว่าขอแค่ตั้งใจฝึกบำเพ็ญตบะก็เพียงพอ
เดิมทีเขาไม่คิดว่าอาวุธวิเศษหนึ่งชิ้นที่เหมาะกับตัวเองจะมีประโยชน์สำคัญตอนต่อสู้อย่างแท้จริง
ทว่าคราวนี้ เขาตกอยู่ในสภาวะจนตรอก แทบไม่อาจเอาชีวิตรอดได้ กระดูกสัตว์กลับช่วยให้เขาสังหารคนได้ถึงสองคนในเวลาติดต่อกัน เปลี่ยนแปลงความคิดก่อนหน้านั้นของเขาไปอย่างสิ้นเชิง
อยู่ๆ เขาก็ตระหนักว่าได้อาวุธวิเศษที่ไม่ธรรมดาถือเป็ความโชคดีของชีวิตคนอย่างแท้จริง
“เก็บของชิ้นนั้นเอาไว้ให้ดี!” เนี่ยเฉี่ยนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สีหน้าแตกตื่นยังไม่จางหาย ทว่าั์ตากลับคืนสู่ความสงบได้ดังเดิมแล้ว “ที่นี่ไม่ปลอดภัย รับประกันไม่ได้ว่านางสารเลวหยวนชิวอิ๋งนั่นจะไม่ส่งคนมาตามหลังอีก กระดูกสัตว์ชิ้นนั้น เมื่อกลับไปถึงบ้าน พวกเราค่อยศึกษากันใหม่ได้ ตอนนี้จำเป็ต้องไปแล้ว!”
“อ้อ” เนี่ยเทียนกล่าวรับอย่างว่าง่าย
“นอกจากโล่อำพันลึกลับชิ้นนั้น เ้าสองคนนั่นได้ทิ้งของอย่างอื่นไว้หรือไม่?” เนี่ยเฉี่ยนถาม
เนี่ยเทียนส่ายหัว “ไม่มีขอรับ ทุกอย่างถูกเผาเป็เถ้าถ่านหมดแล้ว ไม่เหลืออะไรทิ้งไว้สักอย่าง”
“ช่างเป็อาวุธวิเศษที่เหี้ยมหาญนัก!” ดวงตาเนี่ยเฉี่ยนเผยความตะลึงพรึงเพริด จากนั้นก็พึมพำเสียงเบาด้วยความเสียดาย “น่าเสียดาย ตอนนี้เราขัดสนกันมาก หากได้ผลพวงมากหน่อยก็คงจะดี”
ระหว่างที่พูดนางก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว หยิบเอาโล่อำพันลึกลับนั่นขึ้นมา เก็บไว้ในกระเป๋าข้างเอวอย่างไร้ซึ่งความเกรงใจ “กลับบ้านกัน!”
“อืม รู้แล้วขอรับ กลับบ้าน กลับบ้าน”
เนี่ยเทียนที่ใช้กระดูกสัตว์ชิ้นนั้นฆ่าคนไปสองคน ไม่เพียงแต่ไม่กระวนกระวายหลังจากฆ่าคนเป็ครั้งแรก ยังแสดงออกถึงความฮึกเหิมอย่างเห็นได้ชัด ตลอดทางที่เดินทางกลับก็หยิบเอากระดูกสัตว์ชิ้นนั้นออกมาเล่นไม่วางมืออยู่ตลอดเวลา
ทุกครั้งที่เนี่ยเฉี่ยนหันหน้ากลับมามองเห็นเขาเล่นกระดูกสัตว์ชิ้นนั้น สีหน้าของนางแสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัวยิ่งนัก รักษาระยะห่างกับเขาอยู่หลายก้าวโดยไม่รู้ตัว
ในสายตาของเนี่ยเฉี่ยน กระดูกสัตว์ชิ้นนั้นคล้ายสามารถกลายร่างออกมาเป็ปีศาจเปลวเพลิงบ้าคลั่งที่พร้อมเผาไหม้และเขมือบกลืนกินทุกสรรพสิ่งที่มีชีวิตได้ตลอดเวลา
ก่อนที่ฟ้าจะมืด เนี่ยเทียนตามเนี่ยเฉี่ยนกลับเข้าไปในเมือง และกลับไปถึงจวนตระกูลเนี่ยอย่างรวดเร็ว
หลังจากกลับมาถึงจวนตระกูลเนี่ย เนี่ยเฉี่ยนก็กำชับเขาว่าต้องใช้กระดูกสัตว์ชิ้นนั้นด้วยความระมัดระวัง จากนั้นก็ไปหาเนี่ยตงไห่ต่อโดยไม่หยุดพัก นำเื่ภัยพิบัติซึ่งเกิดขึ้นในเหมืองแร่ รวมไปถึงเหตุการณ์ที่ประสบระหว่างทางบอกเล่าให้เนี่ยตงไห่ทราบ
“หยวนชิวอิ๋ง!”
หลังจากเนี่ยตงไห่ได้ยินเื่ราวเสี่ยงภัยที่พวกเขาพบเจอระหว่างทางก็โกรธจนสั่นเทิ้มไปทั้งตัว ดวงตาอบอวลไปด้วยไฟโทสะ
“ผู้หญิงคนนั้นช่างบังอาจยิ่งนัก เพียงแค่ความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ กลับถึงขั้นคิดจะคร่าชีวิตเ้าและเสี่ยวเทียน! เื่นี้อย่างไรข้าก็ต้องเอาเื่ให้ได้!”
เนี่ยเฉี่ยนส่ายหัว พูดเกลี้ยกล่อมว่า “ช่างเถอะ อย่างไรเสียสองคนนั้นก็ตายไปแล้ว เื่นี้ก็ถือว่าจบกันไป ผู้หญิงคนนั้นคงไม่มาหาเื่วุ่นวายอีก ท่านพ่อ ตอนนี้ท่านไม่ใช่ประมุขของตระกูลแล้ว เนื่องจากภัยพิบัติที่เหมืองแร่ ใน่ระยะเวลาสั้นๆ นี้เกรงว่าตระกูลของพวกเราคงต้องวุ่นวายกันไม่น้อย อย่าให้มีเื่มีราวมากความอีกเลย มาคิดกันดีกว่าว่าจะให้คำอธิบายแก่สำนักหลิงอวิ๋นอย่างไร”
“ทางฝ่ายของเหมืองแร่นั้นเมื่อไหร่ถึงจะกลับมาเป็ปกติได้?” เนี่ยตงไห่กล่าวด้วยเสียงทุ้มลึก
“ไม่ทราบเ้าค่ะ” เนี่ยเฉี่ยนยิ้มเจื่อนๆ “เื่นี้ต้องโทษข้าเอง แต่ไม่ว่าอย่างไรข้าก็คิดไม่ถึงว่ากระดูกสัตว์ชิ้นนั้นจะทำให้เหมืองแร่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นนี้ ตามความเห็นของข้า ภายในหนึ่งถึงสองเดือนนี้คงยากที่จะขุดเหมืองแร่ได้ตามปกติ ปีนี้ไม่ว่าจะอย่างไรก็คงรวบรวมหินเมฆอัคคีมอบให้กับสำนักหลิงอวิ๋นในจำนวนที่มากพอไม่ได้”
“เ้ากับเนี่ยเทียนไปที่เหมืองแร่ อีกทั้งมีคนมากมายเห็นพวกเ้า อารองของเ้าต้องโยนความรับผิดชอบทั้งหมดมาให้พวกเ้าอย่างแน่นอน” เนี่ยตงไห่เองก็กลัดกลุ้มอย่างเห็นได้ชัด “น่าเสียดายที่ข้าไม่ใช่ประมุขของตระกูลเนี่ย เื่นี้... ข้าอาจจะต้องหาคำอธิบายให้แก่เขา”
“ท่านพ่อ ลำบากท่านอีกแล้ว” เนี่ยเฉี่ยนก้มหน้า
“เนี่ยเทียนสามารถเพิ่มขั้นถึงหลอมลมปราณหกได้ในเหมืองแร่ สำหรับข้าแล้วมันสำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น!” เนี่ยตงไห่สีหน้าจริงจัง พูดอีกครั้งว่า “แล้วก็กระดูกสัตว์มหัศจรรย์ชิ้นนั้น เขาสามารถนำมันมาใช้ สามารถปลดปล่อยพลังอานุภาพที่น่าตื่นตะลึงได้เช่นนี้ก็มากพอที่จะชดเชยทุกอย่างแล้ว!”
“กระดูกสัตว์ชิ้นนั้นช่างเหี้ยมหาญยิ่งนัก ข้ากังวลว่าเนี่ยเทียนจะควบคุมมันไม่ได้...” เนี่ยเฉี่ยนกล่าวด้วยความหวาดผวา
“ข้าเชื่อว่าเขาสามารถทำได้เ!” เนี่ยตงไห่พูดด้วยเสียงทุ้มหนัก
และตอนนี้เองเนี่ยเทียนที่อยู่ในห้องของตัวเอง หยิบกระดูกสัตว์ออกมาอีกครั้ง นั่งอยู่บนเตียง ถือกระดูกสัตว์เอาไว้แน่น จิตใจเคลิบเคลิ้มไปกับมัน
“เอ๊ะ!”
------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้