“ให้ภรรยาเ้าใหญ่มาดูแลเื่ในบ้านไปก่อนเถิด” หลี่เหล่าไท่ไท่กล่าว เช่นนี้เป็การดีที่สุด ที่จริงจุดประสงค์ของนางคือ้าให้ตำแหน่งนี้ว่างลง ทำให้หลี่หยางซื่อตัดสินใจไม่ได้
“เช่นนั้นได้อย่างไรกัน” หลี่ลั่วปฏิเสธ “ท่านป้าใหญ่มาขออาศัยอยู่ในจวนโหวของเราเสมือนแขก ที่พวกเราไม่ได้จัดบ่าวไพร่ให้ท่านป้าใหญ่ไว้ใช้สอยแต่กลับกลายเป็ให้ท่านป้าใหญ่ออกเงินซื้อตัวบ่าวไพร่เข้ามาใช้เองข้าก็ทำไม่ถูกต้องแล้ว ยังมีเหตุผลอันใดต้องมารบกวนแขกอีกเล่า”
นี่ก็อีกประโยค ไม่เพียงแต่ตบหน้าของหลี่เหล่าไท่ไท่ แม้กระทั่งภรรยาหลี่ฮุยก็โดนไปด้วย หลี่ลั่วเพียง้าบอกพวกเ้าว่า พวกเ้าเพียงแต่มาอาศัยอยู่ในจวนโหวอย่าได้ก่อเื่วุ่นวาย
“เช่นนั้นเอาอย่างนี้ดีหรือไม่...” หลี่ลั่วเอ่ยขึ้นอีก “จวนโหวของพวกเราออกเงินซื้อคฤหาสน์สักแห่ง ให้เหล่าไท่ไท่ย้ายออกไป จากนั้นไปรับมารดากลับมา”
หลี่เหล่าไท่ไท่มาจวนโหวก็เพื่อที่จะมาเสวยสุขบนเกียรติยศของจวนโหว บัดนี้หากต้องย้ายออกไป นั่นไม่เท่ากับว่านางมาอย่างเปล่าประโยชน์หรอกหรือ? นางไม่คิดว่าหลี่ลั่วจะกล้า กล้าไล่นางออกไป ซ้ำยังเอ่ยขึ้นต่อหน้าไห่กงกงและหลิวย่วนเจิ้งอีก นางด่าคนไม่ได้ และในสถานการณ์เช่นตอนนี้ก็ไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยปาก
ริมฝีปากของหลี่ลั่วโค้งขึ้นเป็รอยยิ้ม พูดอย่างอ่อนหวานว่า “พวกเราออกไปก่อนนะขอรับ เหล่าไท่ไท่จะได้ฟื้นฟูร่างกายอย่างเงียบๆ”
จนกระทั่งหลี่ลั่วเดินออกไปจากห้อง หลี่เหล่าไท่ไท่จึงลุกขึ้นมานั่งบนเตียง มือของนางทั้งคู่กำเป็หมัดแน่นด้วยความโกรธ
“ท่านแม่ พวกเราจะทำเช่นใดต่อไปกันดี? ข่ายเกอเอ๋อร์ถูกจับไปจวนผู้ว่าการแล้ว ท่านต้องหาวิธีช่วยเขาออกมานะขอรับ” หยวนเฉิงพูด
“เ้าหุบปาก ให้ข้าคิดดูก่อน” คิดหาวิธี นางจะคิดหาวิธีเช่นใดดี? “หยางหมัวมัว...หยางหมัวมัว...”
“มาแล้วเ้าค่ะ” หยางหมัวมัววิ่งเข้ามา
“เ้าไปจวนชิ่งป๋อ บอกว่าข้าล้มป่วยลง เชิญพี่สะใภ้ของข้ามาเยี่ยมไข้เสีย” หลี่เหล่าไท่ไท่กล่าว
“เ้าค่ะ”
ณ วังหลวง
เมื่อไห่กงกงกลับมาถึงวังหลวงก็รีบนำเื่ราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ทั้งหมดมารายงานแก่จ้าวหนิงฮ่องเต้ จ้าวหนิงฮ่องเต้ฟังแล้วพลันทนไม่ไหวหัวเราะออกมา “กลายเป็เจิ้นที่ประเมินเขาต่ำไป”
“เสี่ยวโหวเหฺยฉลาดล้ำเลิศพ่ะย่ะค่ะ” ไห่กงกงชม
“สติปัญญาระดับนี้ แค่เพียงฉลาดรึ? เกรงว่าจะฉลาดเกินไปเสียแล้ว เ้าฟังคำพูดเ่าั้สิ แต่ละประโยคพูดว่าเจิ้นดียิ่ง นี่เป็ครั้งแรกที่เจิ้นถูกคนประจบสอพลอเช่นนี้” จ้าวหนิงฮ่องเต้ร้องไห้ไม่ออกหัวเราะไม่ได้
“เช่นนั้นบ่าวก็จะประจบสอพลอฝ่าาพร้อมกับเสี่ยวโหวเหฺยด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ไห่กงกงพูด
ฮ่าๆๆ...ครั้งนี้จ้าวหนิงฮ่องเต้จึงหัวเราะออกมาด้วยเสียงอันดัง อารมณ์ดียิ่งนัก คำพูดเ่าั้ของหลี่ลั่วที่ไห่กงกงถ่ายทอดออกมาทำให้ฮ่องเต้ถึงกับตกตะลึงจริงๆ เด็กน้อยอายุห้าขวบคนหนึ่งกลับพูดคำพูดที่มีความรู้เช่นนั้น เป็ขุนนางที่ซื่อสัตย์ไปชั่วชีวิตเช่นนั้นหรือ? จ้าวหนิงฮ่องเต้เกิดความรู้สึกรอคอยให้เด็กน้อยคนนี้เจริญเติบโตเป็ผู้ใหญ่ขึ้นมาเสียแล้ว
“เหฺย เช่นนั้นสกุลหลี่...” เมื่อเห็นจ้าวหนิงฮ่องเต้อารมณ์ดี ไห่กงกงก็คิดว่าควรจะถามเื่นี้หรือไม่
“เื่ภายในครอบครัวของขุนนาง เจิ้นไม่ขอมีส่วนร่วม” จ้าวหนิงฮ่องเต้กล่าว เขาเข้าใจความหมายของไห่กงกง แต่เขาไม่อยากยื่นมือเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างชัดเจน แต่ว่า “พรุ่งนี้ในท้องพระโรงมีงานให้ทำแล้ว”
หลี่เหล่าไท่เหฺยกลับมาจากศาลาว่าการ จึงไม่รู้เื่ราวที่เกิดขึ้นภายในจวนโหว เขาเป็คนที่ไม่ใส่ใจในเื่เหล่านี้ อยู่ในจวนโหวเขาไม่มีอำนาจใดๆ ของตน ลำดับแรก ผู้ดูแลจวนโหวคือพ่อบ้านจี้ เป็คนที่หลี่หยางซื่อนำมาจากบ้านมารดา หลี่เหล่าไท่เหฺยเมื่อครั้งอยู่ในจวนสกุลหลี่ก็ไม่ได้สร้างหรือพัฒนาอำนาจของตนขึ้นมา เมื่อมาถึงจวนโหวยิ่งไม่ได้ใส่ใจ กับหลี่เหล่าไท่ไท่พวกเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนผู้ดูแลจวนโหว หลี่หยางซื่อย่อมไม่เห็นด้วย
ดังนั้นเมื่อหลี่เหล่าไท่เหฺยกลับมาถึงจวนโหวจึงไม่มีผู้ใดบอกเขาว่าในจวนโหวเกิดเื่อันใดขึ้น เขาไปที่เรือนของหลี่เหล่าไท่ไท่เพื่อเตรียมตัวทานอาหารเย็น
“เหล่าไท่เหฺยกลับมาแล้ว” หยางหมัวมัวเห็นหลี่เหล่าไท่เหฺย ดวงตาแดงก่ำขึ้นทันที “เหล่าไท่เหฺย ในที่สุดท่านก็กลับมา หากท่านยังไม่กลับมาอีก เหล่าไท่ไท่คงถูกผู้อื่นบีบบังคับจนตายแล้วเ้าค่ะ”
หลี่เหล่าไท่เหฺยขมวดคิ้ว “เกิดเื่อันใดขึ้น? นี่มันอะไรกัน?”
“ท่านรีบไปดูเหล่าไท่ไท่เถิดเ้าค่ะ เหล่าไท่ไท่ถูกเสี่ยวโหวเหฺยทำให้โมโหจนล้มป่วยแล้ว” หยางหมัวมัวปั้นน้ำเป็ตัวต่อไป
หลี่เหล่าไท่เหฺยเดินเข้าไปในห้องของหลี่เหล่าไท่ไท่ เห็นบนศีรษะนางมีห่อผ้าผ้าผืนหนึ่ง ในผ้าผืนนั้นมีกลิ่นของยา นี่เป็ห่อยา “เ้าเป็อันใดเล่า? ไฉนลั่วเกอเอ๋อร์จึงทำให้เ้าโมโหได้?”
หลี่เหล่าไท่ไท่ยื่นมือออกมา “นายท่าน ท่านกลับมาแล้ว หากท่านยังไม่กลับมา ข้าก็คงไม่ได้เห็นท่านแล้ว”
“หยุดๆๆ...อย่าขยับ” หลี่เหล่าไท่เหฺยรีบเข้าไปประคองนาง “อย่าลุกขึ้น ข้าฟังอยู่ เกิดเื่อันใดขึ้น?”
“เื่เกิดขึ้นั้แ่ยามเที่ยงของวันนี้” หลี่เหล่าไท่ไท่พูดอย่างอ่อนแรง “ข่ายเกอเอ๋อร์หลงรักหลินเจี่ยเอ๋อร์มาตลอด วันนี้ยามเที่ยงเขาวู่วามไปหน่อย สารภาพความรู้สึกต่อหลินเจี่ยเอ๋อร์ แล้วยังกอดนาง เื่นี้ถูกลั่วเกอเอ๋อร์พบเห็นเข้า เขาจึงให้หลี่จงิโบยข่ายเกอเอ๋อร์จนก้นแตกยับ”
“เขา...เื่นี้ข่ายเกอเอ๋อร์ก็ทำไม่ถูก หญิงชายที่ไม่ใช่พี่น้องย่อมไม่ใกล้ชิดกัน ลั่วเกอเอ๋อร์ปกป้องพี่สาว ไม่มีอันใดที่ไม่ถูกต้อง” หลี่เหล่าไท่เหฺยกล่าว
“เื่นี้ลั่วเกอเอ๋อร์ทำไม่ผิดก็จริง แต่ต่อมาเขาจับข่ายเกอเอ๋อร์โยนออกไปนอกจวน ซ้ำยังไม่ให้เขาเข้ามาอีก” หลี่เหล่าไท่ไท่พยายามควบคุมอารมณ์โกรธของตนเอาไว้ “ข่ายเกอเอ๋อร์คุกเข่ายอมรับผิดอยู่หน้าจวน บอกว่าเขาล่วงเกินหลินเจี่ยเอ๋อร์ไปแล้ว เขายินดีที่จะแต่งหลินเจี่ยเอ๋อร์ ปรากฏว่าลั่วเกอเอ๋อร์มาถึงหน้าจวนยังตบข่ายเกอเอ๋อร์ไปอีกหนึ่งฉาด เขาบอกว่าข่ายเกอเอ๋อร์เป็หลานที่เกิดจากอนุกับสามีคนก่อนของนาง...มาขออาศัยอยู่ในจวนโหว...เหล่าเหฺย คำพูดประโยคนี้มิได้ตบหน้าข้าหรอกหรือ? ไฉนเขาจึงได้เป็คนไม่รู้จักผ่อนหนักเบาเช่นนี้? ข้าอายุปูนนี้แล้ว คำพูดของเขาที่พูดเช่นนี้จะให้ข้ามีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไรกัน?”
หลี่เหล่าไท่เหฺยเบิกตากว้าง เขาเป็คนเรียนหนังสือ ชมชอบผู้รู้ธรรมเนียมมารยาท คำพูดเหล่านี้ของหลี่ลั่วไม่น่าฟังจริงๆ
“นายท่าน อนุตอนนี้เป็ภรรยาของท่าน คำพูดนี้ของเขาไม่ได้ตบหน้าเพียงอนุเท่านั้น แต่ยังตบหน้าของท่านด้วย ท่านแต่งหญิงม่ายเข้ามา ซ้ำยังรับลูกชายหลานชายของหญิงม่ายเข้ามาอยู่อาศัยในจวนโหว พูดให้ไม่น่าฟังอีกสักหน่อยก็คือเป็ข่ายเกอเอ๋อร์ที่ทำไม่ถูก แต่ที่จริงแล้วมิใช่เขากำลังกล่าวว่าท่านอยู่หรอกหรือ? ท่านอาศัยอยู่ใต้คฤหาสน์ของบุตรชายแต่ไม่มีอำนาจใดๆ ในมือ แม้กระทั่งเด็กน้อยอายุเพียงห้าขวบก็ยังไม่ฟังคำพูดของท่าน” หลี่เหล่าไท่ไท่พูดไปพร้อมกับสังเกตสีหน้าท่าทางของเขาไปด้วย
ปรากฏว่าเมื่อหลี่เหล่าไท่เหฺยได้ยินคำพูดประโยคนี้ก็โกรธขึ้งขึ้นมาจริงๆ
ในชีวิตของผู้ชายนั้น ไม่ชอบที่สุดก็คือมีคนสงสัยคลางแคลงใจในตัวเขา ซ้ำยังเป็หลานชายของเขาเอง หลี่เหล่าไท่เหฺยอยู่ในเรือน ตลอดมาไม่เคยสนใจเื่ราวในเรือน หลี่เหล่าไท่ไท่เองก็ไม่นำเื่ราวเหล่านี้ไปรบกวนเขา ดังนั้นแต่ไหนแต่ไรมาชีวิตประจำวันของเขานั้นผ่อนคลายยิ่งนัก เขาจึงทุ่มเทจิตใจไปที่ตำแหน่งหน้าที่การงานจนหมดสิ้น
“เ้าค่อยๆ รักษาตัวเถิด” หลี่เหล่าไท่เหฺยลุกขึ้น
เมื่อเดินออกไปนอกเรือน หลี่เหล่าไท่เหฺยก็สั่งการบ่าวรับใช้ “ไปตามลั่วเกอเอ๋อร์มาให้ข้า”
“ขอรับ”
ที่จริงแล้วเื่ที่หลี่เหล่าไท่เหฺยให้คนมาเรียกตนนั้นอยู่ในความคาดหมายของหลี่ลั่วอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงกินอาหารเย็นเร็วขึ้น อาหารเย็นวันนี้เขากินที่เรือนของหลี่หลินเพื่อเป็เพื่อนนาง หลี่หงไปเยี่ยมหลี่หยางซื่อที่สำนักแม่ชีจนค่ำแล้วก็ยังไม่ได้กลับมา
หลี่ลั่วมาถึงข้างหน้าห้องหนังสือของหลี่เหล่าไท่เหฺย “ซินเป่า ฉางเฉิง พวกเ้ารอข้าอยู่หน้าประตู”
“ขอรับ”
หลี่ลั่วเดินเข้าไปในห้องหนังสือ หลี่เหล่าไท่เหฺยนั่งอยู่บนเก้าอี้ “ท่านปู่หาข้าหรือขอรับ?”
“วันนี้เ้าทำให้ท่านย่าโมโหจนล้มหมอนนอนเสื่อรึ?” หลี่เหล่าไท่เหฺยถาม
“ไม่ทราบว่าเื่นี้ท่านปู่เริ่มพูดจากตรงไหนขอรับ?” หลี่ลั่วถามกลับ
“เ้ายังคิดจะเล่นตลกอีกรึ? ท่านย่าของเ้านอนอยู่กับเตียงแล้ว” หลี่เหล่าไท่เหฺยพูดเสียงดัง “เ้าเป็เพียงเด็กอายุห้าขวบ ไฉนเลยจึงมีอารมณ์รุนแรงเช่นนี้?...ท่านย่าของเ้าาุโกว่าเ้า สิ่งที่เ้าร่ำเรียนมาจากข้างนอกมีเพียงแต่อารมณ์พวกนี้หรือไร?”
หลี่ลั่วเลิกคิ้ว “ท่านปู่ในฐานะผู้าุโ ฟังความข้างเดียวแล้วมาด่าข้าเช่นนี้ หรือไม่คิดว่าจะทำให้ข้าเสียใจบ้างหรือ? ข้าเป็เพียงเด็กน้อยอายุห้าขวบ สิ่งที่ท่านปู่ตำหนินั้นข้ารับไม่ไหว”
“เ้าพูดอันใดกัน?” หลี่เหล่าไท่เหฺยหรี่ตาลง
หลี่ลั่วหัวเราะเบาๆ อารมณ์สงบนิ่ง “ข้ากลับมาจากหมู่บ้านเมื่อตอนเช้า อยู่ที่จวนฉีอ๋องครู่หนึ่งจนกระทั่งถึงตอนเที่ยงจึงกลับมายังจวนโหว เวลาระหว่างนั้นฉีอ๋องสามารถเป็พยานได้ เมื่อกลับมาถึงจวนโหวก็เห็นเสี่ยวฟาง สาวใช้ของพี่หญิงใหญ่วิ่งออกมาด้วยความร้อนรน บอกว่าหยวนข่ายบุกเข้าไปในเรือนของพี่หญิงใหญ่ คิดจะรังแกพี่หญิงใหญ่ สาวใช้ในเรือนของพี่หญิงใหญ่และคนที่มากับข้าล้วนเป็พยานได้ พวกเราคนมากเช่นนี้ไม่สามารถพูดได้เหมือนกันทั้งหมด ท่านปู่ พี่หญิงใหญ่เป็หลานสาวแท้ๆ ของท่าน หยวนข่ายเป็คนนอกที่ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเืบุกเข้าไปในเรือนของพี่หญิงใหญ่ ท่านเคยใส่ใจหรือไม่?”
“เ้า...” หลี่เหล่าไท่เหฺยฟังแล้วสีหน้ายิ่งดำทะมึนลงไปอีก
“ยามที่ข้าเข้าไปนั้น สาวใช้ในเรือนหวาดกลัวจนรวมกันเป็กลุ่ม พี่ใหญ่ถูกหยวนข่ายฉีกเสื้อผ้าลงมาแล้ว ในฐานะน้องชาย ในฐานะเ้าของจวนโหว ข้าจะยอมให้ชายคนหนึ่งที่เป็คนนอกซึ่งมาขออาศัยอยู่ในจวนโหวของข้าแล้วมารังแกข่มเหงพี่สาวแท้ๆ ของข้าหรือ?” หลี่ลั่วย้อนถาม “หากว่าท่านปู่้าพยานหลักฐาน บ่าวรับใช้เ่าั้ล้วนเป็พยานได้”
หลี่เหล่าไท่เหฺยโกรธที่หลี่ลั่วปฏิบัติต่อเขาอย่างไม่แบ่งผู้าุโผู้เยาว์และตำหนิต่อว่าเขา แต่ก็โมโหในการกระทำของหยวนข่ายด้วยเช่นกัน
“ข้าให้ท่านอาหลี่โบยเขา แล้วจับเขาโยนออกไปนอกจวน หรือว่าข้าทำผิดหรือขอรับ? ข้าต้องนำคนที่มีใบหน้าเป็คนแต่ใจเป็สัตว์ป่าเถื่อนเลี้ยงไว้ในจวนแล้วเชิญท่านหมอมาให้หรือไร?” หลี่ลั่วย้อนถาม
หลี่เหล่าไท่เหฺยเงียบ
“หลังจากโยนออกไปแล้ว หยวนเฉิงก็ไปเชิญเหล่าไท่ไท่มาก่อกวนในเรือนของข้า ด่าว่าดูิ่ลบหลู่ข้า ข้าเป็โหวเหฺยที่ฝ่าาพระราชทานบรรดาศักดิ์ หยวนเฉิงนับเป็สิ่งของอันใดกัน? ต่อให้เหล่าไท่ไท่ที่เป็ภรรยาห้องข้างของท่านก็ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะมาด่าว่าข้า” หลี่ลั่วกล่าวต่อ “ต่อมาหยวนข่ายไปก่อกวนที่หน้าจวนอีก บอกว่าตนเองได้ล่วงเกินพี่ใหญ่แล้ว ตนเองวู่วาม ้าแสดงความรับผิดชอบต่อพี่ใหญ่ มีชาวบ้านในเมืองหลวงมากมายมาล้อมดูอยู่มากมายขนาดไหน ข้าขอถามท่านปู่ เป็ผู้ใดกันแน่ที่กำลังตบหน้าจวนโหวของพวกเรา? จวนจงหย่งโหวนั้นเป็เกียรติยศที่บิดาของข้าแลกมาด้วยชีวิต ขอเพียงข้ายังมีชีวิตอยู่ เกียรติยศของจวนโหวจะไม่มีวันยอมให้ผู้ใดมาเหยียบย่ำ อย่าพูดแค่ว่าสกุลหยวนเลย ต่อให้เป็ภรรยาของท่านที่ออกมาจากจวนชิ่งป๋อข้าก็ไม่มีวันยอม”
คำพูดของหลี่ลั่ว พูดอย่างอ่อนนอกแข็งใน นี่เป็คำพูดของเด็กน้อยอายุห้าขวบคนหนึ่ง แต่กลับทำให้หลี่เหล่าไท่เหฺยปฏิเสธไม่ได้ แม้กระทั่งคำพูดที่จะตำหนิเขาก็ยังพูดไม่ออก
“เหล่าไท่ไท่บอกว่าไม่สบาย ข้าจึงส่งเทียบเชิญให้หมอหลวงทั้งสำนักหมอหลวงมาดูอาการ ท่านหลิวย่วนเจิ้งจับชีพจรให้เหล่าไท่ไท่ด้วยตนเอง ท่านหลิวย่วนเจิ้งบอกว่าสุขภาพของเหล่าไท่ไท่แข็งแรงยิ่งนัก ไม่มีปัญหาอันใด เมื่อยามที่หลิวย่วนเจิ้งมานั้นไห่กงกงก็มาพร้อมกันด้วย ไห่กงกงเป็คนของฝ่าา ละครที่เกิดขึ้นในจวนโหววันนี้คิดว่าฝ่าาก็คงจะทราบเื่แล้ว สิ่งที่ท่านปู่ต้องกังวลในยามนี้มิใช่จะตำหนิว่ากล่าวข้าอย่างไรดี แต่ควรจะคิดว่าพรุ่งนี้จะทำเช่นใดดีต่างหากเล่า?”
“เ้า...เ้า...” ทันทีที่หลี่ลั่วพูดเช่นนี้ หลี่เหล่าไท่เหฺยก็แทบจะโมโหตาย เขากำลังแย่งชิงตำแหน่งราชเลขาธิการ หากชื่อเสียงมามัวหมองด้วยเื่เช่นนี้ ตำแหน่งราชเลขาธิการย่อมสูญสลายไปด้วย
“หากเหล่าไท่ไท่ไม่รู้จักฐานะของตน ถึงเวลานั้นอย่าหาว่าข้าเปลี่ยนสีหน้าไล่คนก็แล้วกัน” หลี่ลั่วกล่าว “ท่านปู่เป็บิดาแท้ๆ ผู้ให้กำเนิดท่านพ่อ หลานเลี้ยงดูท่านถือเป็เื่สมควรอยู่แล้ว แต่เหล่าไท่ไท่มีอีกสามครอบครัวอยู่ด้วย หลานเกรงว่าจะไม่กตัญญูแล้ว”