ในส่วนลึกที่สุดของป่า เสียงร้องของอินทรีลมกรดดังมาแต่ไกล
อันเจิงเบิกตากว้างคิดกับตัวเองในวินาทีนั้นว่า “ยังจะตามหลอกหลอนข้าอยู่อีก”
อย่างไรก็ตามเขาตระหนักได้ทันทีว่า แท้จริงแล้วการที่อินทรีลมกรดสามารถตามหาเขาพบล้วนเป็ผลมาจากมูลของมันที่ป้ายอยู่บนตัวของเขา
กลิ่นเหม็นบนร่างกายคือสิ่งที่เรียกให้มันตามมา!
อันเจิงพิจารณาเพียงแต่ว่า มูลของอินทรีลมกรดจะสามารถไล่หรือป้องกันสัตว์อสูรชนิดอื่นไม่ให้เข้าใกล้ได้แต่กลับลืมไปเลยว่ามันสามารถช่วยให้อินทรีลมกรดตามหาเขาเจอเช่นกัน
เมื่อคิดถึงตรงนี้เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง
แม้อินทรีลมกรดจะเป็สัตว์ที่ออกล่าในเวลากลางคืนแต่การบินไปไหนมาไหนใช่จะสะดวกอย่างที่คิดเนื่องจากดวงตาของมันไม่สามารถปรับให้ชินกับความมืดได้ ไม่เหมือนเวลากลางวันที่สามารถมองได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร
แม้ดวงตาของมันจะสูญเสียประสิทธิภาพในการใช้งานไป ทว่านั่นไม่ใช่กับจมูกของอินทรีลมกรด
ดังนั้น ตราบใดที่ยังมีกลิ่นน่าคลื่นไส้นี้ติดตัวเขาอยู่มันก็จะหาเขาจนเจอ
ทอดสายตามองออกไป ไม่ไกลจากจุดนี้มากมีแม่น้ำขนาดกลางสายหนึ่งอยู่แม่น้ำสายนี้ไหลมาจากูเาอีกลูกซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก อันเจิงตัดสินใจทันที ปีนขึ้นไปบนต้นไม้ก่อนจะนำมูลของอินทรีลมกรดจำนวนมากเทลงไปจากนั้นก็ะโลงมาแล้วรีบวิ่งไปที่แม่น้ำ
เสี่ยวช่านซึ่งกำลังนอนหลับฝันดีอยู่ในอกเสื้อ ทันทีที่ร่างกายัักับน้ำเย็นเจี๊ยบก็ร้องออกมาเสียงดัง...เห็นมันเอาแต่ดิ้นหนีแถมร้องอย่างนั้นอันเจิงก็เอ็ดใส่ “เสี่ยวช่านหุบปาก หากเ้ายังดิ้นไม่หยุดไม่ยอมล้างตัวนกตัวนั้นคงได้ตามมากินเ้าแน่”
เสี่ยวช่านยอมหุบปากจริง ๆแม้มันจะไม่เข้าใจว่าที่อันเจิงพูดนั้นหมายความว่าอย่างไร แต่มันก็ยอมอยู่นิ่ง ๆ
หนึ่งมนุษย์หนึ่งแมวช่วยกันขัดล้างถูตัวพยายามล้างกลิ่นที่ติดอยู่ออก
อันเจิงจับลูกแมวขัดถูในน้ำอยู่นานแต่กลิ่นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหายไป
เขาตัดสินใจถอดเสื้อผ้าทั้งหมดทิ้งอุ้มแมวแล้วเดินผ่านป่าไปด้วยสภาพเปลือยกายไร้เครื่องนุ่งห่ม
จากนั้นไม่นาน อินทรีลมกรดก็มาถึงจุดที่พวกเขาอยู่เมื่อครู่พายุขนาดใหญ่จากปีกของมันพัดทำลายต้นไม้บริเวณโดยรอบจนราบคาบ รัศมีการทำลายล้างไกลหลายร้อยเมตร
อินทรีลมกรดยังคงลอยอยู่กลางอากาศปีกของมันสะบัดขึ้นลงแรง ๆ ขนนกบนปีกร่วงลงมาราวกับสายฝนเพียงแต่มันมิได้นำพามาซึ่งความชุ่มฉ่ำ ตรงกันข้าม ขนนกที่คมกริบราวใบมีดทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้ามันคือหายนะของแท้
อันเจิงวิ่งเลียบไปตามแม่น้ำล้มบ้างสะดุดบ้างแต่ก็เดินหน้าต่ออย่างไม่ยอมแพ้เขาหวังอาศัยกลิ่นของแม่น้ำสายนี้ช่วยกลบกลิ่นบนร่าง
ก็คงได้แต่ภาวนาให้มันได้ผลแล้ว!
กลับมาทางฝั่งอินทรีลมกรดเพียงแค่เวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ต้นไม้ใบหญ้าในรัศมีหนึ่งพันเมตรถูกถางไปจนหมดสิ้นประหนึ่งผืนปฐีถูกพลิกกลับ ทุกอย่างราบเป็หน้ากลอง อินทรีลมกรดกวาดสายตามองไปรอบๆ หลายครั้ง หลังจากพบว่ากลิ่นมูลของมันในที่แห่งนี้จางหายไปแล้วมันก็เริ่มออกบินแล้วค้นหาจุดต่อไป
อันเจิงอาศัยจังหวะอันยอดเยี่ยมนี้ทั้งวิ่งทั้งว่ายน้ำออกไปไกลหลายร้อยเมตร
งูเขียวั์ตัวหนึ่งซึ่งมีความยาวกว่าหนึ่งเมตรถูกการเคลื่อนไหวของอินทรีลมกรดทำให้ขี้หดตดหายมันว่ายดิ่งไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็วประหนึ่งสายฟ้าแลบ หากเป็ในยามปกติ ร่างของอันเจิงที่กำลังว่ายน้ำอยู่ข้างหน้าคงถูกมันเขมือบลงท้องไปแล้วแต่ตอนนี้ไม่ใช่ แทนที่จะมาห่วงเื่ปากท้อง มันห่วงชีวิตของตัวเองมากกว่าอันเจิงเห็นงูเขียวั์ว่ายแซงขึ้นไปก็ให้ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่หลังจากเห็นว่างูเขียวั์กำลังจะว่ายผ่านเขาไปอันเจิงก็ไม่รอช้าะโขึ้นไปเกาะตัวมันไว้ก็ใครใช้ให้มันว่ายน้ำเร็วกว่าเขาเล่า!
งูเขียวั์มีขนาดตัวใหญ่ซ้ำยังมีน้ำหนักค่อนข้างมาก ดังนั้นต่อให้อันเจิงเกาะหลังไปด้วยมันก็ไม่มีทีท่าจะรู้สึกตัวหรือต่อให้มันรู้สึกตัวจริง ๆ แล้วจะอย่างไรมันจะเอาเวลาที่ไหนมาสนใจในเมื่อสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการหนีเอาชีวิตรอด
อินทรีลมกรดบินลดระดับลงมาก้มหน้ามองพื้นตลอดการบินของมัน เหมือนกับตาแก่สายตาสั้นที่กำลังก้มหาแว่นตาของตัวเองอยู่
ผ่านไปราว ๆ สิบนาทีหลังจากที่ไม่พบอะไรเลยมันก็ยิ่งโกรธมากขึ้น มันพุ่งตัวขึ้นไปบนฟ้ายิงดาบขนนกเข้าใส่ผืนป่าอย่างไม่สนหน้าไหนทั้งสิ้น ดาบขนนกที่มีความยาวกว่าหนึ่งเมตรตัดขาดทุกอย่างที่มันวาดผ่าน ต้นไม้สูงตระหง่านนับร้อยรวมถึงูเาหินถูกตัดออกจากกันในเสี้ยววินาที
งูเขียวั์ยิ่งนานก็ยิ่งรู้สึกกลัวยิ่งกลัวก็ยิ่งเร่งความเร็วในการว่ายน้ำให้มากขึ้นตอนนี้เองที่อันเจิงััได้ถึงแรงกระเพื่อมรุนแรงจากทางด้านล่างเขารีบก้มหน้าลงไปมอง แรงสั่นะเืนี้ไม่ได้มาจากดาบขนนกของอินทรีลมกรดอย่างแน่นอนไม่ให้เวลาเขาได้คิดอะไรเพิ่มเติมภาพที่ปรากฏอยู่ด้านหลังก็ทำเอาอันเจิงถึงกับหน้าซีดเผือด
ม่านน้ำ!
ม่านน้ำนี้โผล่ขึ้นมาจากรอยแยกที่อันเจิงเข้าไปเอาสมุนไพรออกมาเนื่องจากรอยแยกของถ้ำมีขนาดเล็ก ปริมาตรในถ้ำก็ค่อนข้างน้อยเมื่อน้ำจากปล่องูเาไฟผุดขึ้นมาจนเต็มแล้วไม่มีทางออกทางเลือกเดียวที่จะสามารถจัดการกับน้ำที่เหลือได้คือต้องระบายออกมาทางช่องเล็ก ๆที่อันเจิงใช้หนี
อย่างไรก็ตาม เพราะแรงดันน้ำในถ้ำค่อนข้างมากเป็ธรรมดาที่รอยแยกเล็ก ๆ รอยเดียวไม่อาจต้านไหว ในที่สุดมันก็แตก! ปริมาณน้ำมหาศาลไหลทะลักออกมาทันทีคลื่นน้ำที่ไล่ซัดมาจากทางด้านหลังบัดนี้สูงกว่าหนึ่งพันเมตรหากมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตใดก็ตามถูกมันซัดแรง ๆ เข้า คงได้ไปเกิดใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย
อินทรีลมกรดรับรู้ได้ถึงอันตรายเช่นกันมันกางปีกรีบบินหนีออกไปไกล ๆ อย่างไรก็ตาม ความเร็วของคลื่นน้ำที่ไล่ตามหลังมารวดเร็วมากจริงๆ พลังทำลายล้างของมันทั้งยิ่งใหญ่และรุนแรงกว่าอินทรีลมกรดไม่รู้กี่เท่าต้นไม้ด้านล่างถูกถอนออกมาทั้งรากก้อนหินขนาดใหญ่กลิ้งกระจายไปตามแรงคลื่นที่ซัดส่ง
อันเจิงที่วิ่งอยู่ด้านหน้าััได้เลยว่ายิ่งคลื่นน้ำกระจายตัวออกไปมากเท่าไหร่ความรุนแรงของมันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นงูเขียวั์ซึ่งอันเจิงโดยสารอยู่บัดนี้กลัวจนหัวหดมันไม่กล้าอยู่บนผิวน้ำต่อแล้ว ตัดสินใจดำดิ่งลงไปใต้น้ำทันที
อันเจิงสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะกลั้นหายใจเนื่องจากระดับการบ่มเพาะของเขาตอนนี้ค่อนข้างต่ำแม้จะพอกลั้นหายใจได้่หนึ่งแต่ก็คงไว้ได้ไม่เกินหกถึงเจ็ดนาทีเท่านั้นดังนั้นเมื่องูเขียวั์ดิ่งลึกลงไปเรื่อย ๆอันเจิงก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปล่อยมือแล้วว่ายขึ้นมา
กระแสน้ำบัดนี้ทั้งรวดเร็วและเชี่ยวกราก อันเจิงพิจารณาสถานการณ์ของตัวเองหากเขาหนีออกไปทางสองด้านของูเา อีกไม่นานจะต้องถูกคลื่นั์ลูกนี้ตามทันอย่างแน่นอนถึงตอนนั้นไม่เพียงแต่จะถูกซัดกลับเข้ามา แรงซัดจะทำให้เขาาเ็หนักอีกด้วยดังนั้น ทางที่ปลอดภัยที่สุดตอนนี้คือต้องว่ายไปตามกระแสของแม่น้ำ!
ไม่อาจไม่กล่าวว่าอินทรีลมกรดที่อยู่้าช่างโง่บัดซบเพราะเขาไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้แล้วจึงได้แต่ยอมไหลไปตามกระแสของแม่น้ำ แต่อินทรีลมกรดกลับพุ่งเข้าหาตัวคลื่นเสียอย่างนั้นคลื่นั์ด้านหลังก็เหมือนกับอสุรกายขนาดมหึมา เพียงพริบตาก็สามารถถมป่าทั้งป่าจนเต็มได้แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงพลังอำนาจในการทำลายล้าง สามารถทำลายูเาทั้งลูกได้ในชั่วพริบตา
อันเจิงพยายามบังคับให้ตัวเองใจเย็น ๆหากเป็แบบนี้ต่อไปไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องจมน้ำตายแน่
อย่างไรก็ตาม ไม่รู้ว่างูเขียวั์ที่เพิ่งมุดหัวเข้าไปซ่อนอยู่ใต้น้ำตัวนั้นถูกความกลัวทำให้เสียสติไปแล้วหรืออย่างไร จู่ ๆ มันก็ลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำก่อนจะเข้าโจมตีอันเจิงอย่างแรง อันเจิงหน้าซีดเผือดทันทีควานหาปิ่นแมลงปอทับทิมในอกเสื้อแล้วชักออกมาตอบโต้กลับปิ่นแมลงปอทับทิมเจาะลงไปบนกะโหลกของงูเขียวั์อย่างแรง มันร้องครวญครางออกมาด้วยความเ็ปก่อนจะขดตัวเข้าหากันแล้วดีดดิ้นอยู่แบบนั้น
อันเจิงยื่นมือออกไปจับตัวงูเขียวั์เอาไว้ในใจเกิดความสงสัยเล็กน้อยว่าทำไมมันถึงไม่ถูกดูดเข้าไปในลูกประคำโลหิต
บางทีอาจเป็เพราะการปรากฏของปิ่นแมลงปอทับทิมอันนี้แม้แต่อินทรีลมกรดยามนี้ก็ไม่คิดรักชีวิตอีกแล้ว มันโฉบลงมาพุ่งเข้าหาอันเจิงซึ่งกำลังถือสมบัติล้ำค่าอยู่
ดูเหมือนว่าปิ่นแมลงปอทับทิมจะกลายเป็สมบัติล้ำค่าที่เขาต้องปกป้องเสียแล้ว!
งูเขียวั์บิดตัวอยู่ในน้ำก่อนที่มันจะถูกกรงเล็บของอินทรีลมกรดกระชากขึ้นไปบนฟ้า
งูเขียวั์แม้จะมีขนาดตัวใหญ่และมีแรงมาก แต่ภายใต้กรงเล็บอันแหลมคมของอินทรีลมกรดมันก็ไม่ต่างอะไรจากสัตว์ตัวน้อยที่ไร้พลัง
อันเจิงปล่อยมือจากงูทิ้งร่างของตัวเองลงน้ำ ก่อนจะเก็บปิ่นแมลงปอทับทิมซ่อนเข้าอกเสื้อไปคลื่นของน้ำที่เกิดจากแรงกระแทกกระจายไปทั่ว
อินทรีลมกรดหลังจากคว้าตัวงูเขียวั์ได้มันก็รีบทะยานขึ้นไปในอากาศอย่างไรก็ดีทันทีที่มันััได้ว่ากลิ่นอายของปิ่นแมลงปอทับทิมหายไป มันก็โกรธมากกรงเล็บจิกเข้าไปในเนื้อของงูเขียวั์ลึกงูเขียวั์ซึ่งบัดนี้กำลังถูกฉีกกระชากไม่ต่างไปจากผ้าเก่า ๆ ร้องโหยหวนด้วยความเ็ป
อินทรีลมกรดทิ้งร่างงูเขียวั์ลงจากความสูงหลายร้อยเมตรอย่างไม่แยแสแต่ยังไม่ทันที่ร่างของงูเขียวั์จะตกกระทบกับผิวน้ำดาบขนนกจำนวนมหาศาลก็ถูกซัดออกจากร่างอินทรีลมกรดเสียก่อนตัดเนื้อของงูเขียวั์ออกเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อยกลางอากาศ
ดาบขนนกอันหนึ่งเฉียดหัวอันเจิงไปอย่างน่าหวาดเสียวปักเข้าที่หน้าผาฟากหนึ่งซึ่งตั้งห่างจากที่นี่ไม่ไกลนัก อันเจิงไม่อาจควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวเองเมื่ออยู่ในน้ำได้จึงได้แต่ปล่อยให้ร่างกายไหลไปตามกระแสน้ำ
หลังจากยืนยันได้แล้วว่า ผู้ที่ขโมยปิ่นแมลงปอทับทิมของมันไปอยู่ในน้ำมันก็เริ่มยิงดาบขนนกลงน้ำอีกครั้งอย่างบ้าระห่ำ
อันเจิงถูกบีบจนต้องกลืนน้ำไปหลายอึกว่ายน้ำไปด้วยด่านกที่อยู่บนฟ้าไปด้วย “ไม่กลัวขนเกรียนหรืออย่างไร?”
น่าเสียดายที่เสียงคลื่นดังกลบเสียงของอันเจิงจนหมดอินทรีลมกรดที่อยู่บนฟ้าจึงไม่ได้ยิน
อันเจิงพยายามว่ายน้ำเข้าหาฝั่งโชคดีที่ระหว่างทางไม่ไปกระแทกโดนหินหรือเศษไม้ที่ลอยมาในที่สุดเขาก็ขึ้นฝั่งได้สมใจ
แม้จะขึ้นฝั่งมาแล้วแต่สภาพของอันเจิงดูไม่ได้เอาเสียเลยน้ำเข้าหูเขาเยอะมาก ได้ยินเสียงดังหึ่ง ๆ ในหูไม่หยุดตอนนี้เขากะระยะทางไม่ได้แล้วว่าตัวเองถูกพัดออกมาไกลแค่ไหนรู้เพียงแต่ว่าคลื่นน้ำด้านหน้าช่างสูงใหญ่นัก
อันเจิงถอนหายใจให้กับภาพอันสิ้นหวังตรงหน้าในขณะที่เขากำลังพยายามดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด จู่ ๆก็รู้สึกเหมือนถูกฉุดลงจากที่สูง
ตกหน้าผา!
ร่างของอันเจิงตกลงมาอย่างแรงกระแทกเข้ากับผิวน้ำใต้น้ำตกดังตูม เวลานี้เองที่อินทรีลมกรดกลับมาััถึงกลิ่นอายของปิ่นแมลงปอทับทิมได้อีกครั้งมันอ้าปากกว้างแล้วดิ่งตัวเข้าไปหาอันเจิงทันที
ตอนนี้อันเจิงไม่มีแรงจะตอบโต้กลับแล้วจริง ๆแขนขาทั่วร่างเรียกได้ว่าแทบเป็อัมพาตไปหมด หรือต่อให้เขายังมีแรงและพอตอบโต้ได้กับสัตว์อสูรระดับกลางชั้นสูงตัวหนึ่ง ผู้ฝึกตนที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำเตี้ยเรี่ยดินเช่นเขาจะเอาอะไรไปสู้
อันเจิงทำอะไรไม่ได้ ได้แต่มองดูอินทรีลมกรดบินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
ด้านหลังของอินทรีลมกรดคือพระจันทร์กลมโตที่ลอยเด่นอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าสีดำสนิท
ตอนนี้อันเจิงััได้ถึงความตายอีกครั้งเหมือนกับครั้งก่อนที่เขาถูกลอบโจมตีโดยผู้ฝึกตนจำนวนมากในเทือกเขาชางหมานตอนนั้นก็เป็คืนพระจันทร์เต็มดวงเหมือนกัน
ขณะที่จะงอยปากของมันกำลังจะจิกโดนร่างอันเจิง จู่ ๆเงาที่ใหญ่กว่าเงาหนึ่งก็ะโขึ้นมาเหนือผิวน้ำ งับร่างอินทรีลมกรดซึ่งกำลังบินอยู่กลางอากาศอย่างแรง
เงานั้นมีขนาดใหญ่มาก ใหญ่พอ ๆกับูเาลูกหนึ่ง
หลังจากเงาร่างนั้นจัดการกับร่างของอินทรีลมกรดเรียบร้อยแล้วอันเจิงถึงได้เห็นเกล็ดขนาดใหญ่ของมันที่สะท้อนกับแสงจันทร์งดงามมองจากตรงนี้เกล็ดของมันมีขนาดใหญ่มาก อย่างน้อย ๆ ก็ยาวหลายเมตร
ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่องน้ำตกไหลลดหลั่นกันลงมาเป็ชั้น ๆ
ปลาตัวใหญ่ชนิดที่ไม่อาจหาปลาตัวใดเทียบได้อีกกำลังกัดกินร่างอินทรีลมกรดอย่างโอชะ
อันเจิงไม่คิดเลยว่าบนโลกใบนี้จะมีปลาที่ตัวใหญ่ขนาดนี้อยู่จริงแม้จะเคยได้ยินคนพูดถึงมันมาก่อน แต่อันเจิงไม่เชื่อว่าปลาจะสามารถเติบโตถึงขนาดนี้ได้!
หลังจากกลืนร่างอินทรีลมกรดลงท้องแล้วปลาั์ก็ะโลงน้ำอย่างสวยงาม
อันเจิงอดตะลึงไม่ได้ ราชันแห่งหมู่มวลสัตว์อสูรในรัศมีกว้างใหญ่นี้ถูกปลาั์ตัวหนึ่งกลืนลงท้องด้วยเวลาอันรวดเร็วโดยไม่มีโอกาสส่งเสียงร้องสักนิด
พิจารณาดูปลาั์ตรงหน้าอย่างละเอียดอีกครั้งอันเจิงก็อดไม่ได้คิดเื่เหลวไหลขึ้นมา...ได้เห็นปลาั์ในระยะประชิดเช่นนี้เห็นทีสัปดาห์นี้ของเขาคงจะมีข่าวดีแน่แล้ว
ถุย!
อันเจิงถ่มน้ำลายครั้งหนึ่ง ก่นด่าตัวเองในใจไม่หยุด
อย่างไรก็ตาม คลื่นน้ำที่ซัดมาตรงหน้าทำให้อันเจิงหมดสติไปในที่สุด
หลังจากตื่นขึ้นมาอีกครั้ง พระอาทิตย์ก็เคลื่อนตัวขึ้นแตะเส้นขอบฟ้าแล้วแสงของรุ่งอรุณวันใหม่ที่แสนอบอุ่นตกกระทบร่างอันเจิงบางเบา เขานั่งพิงอยู่กับยอดเขายอดหนึ่งเนื่องจากความสูงของน้ำนั้นมากกว่าหนึ่งพันเมตรยอดเขาสูงเสียดฟ้าในยามปกติจึงกลายมาเป็ก้อนหินให้คนได้พักพิง
ต้องบอกว่าอันเจิงโชคดีมากที่ลอยมาติดยอดเขานี้เข้าเพราะยอดเขานี้มีร่องสำหรับให้สอดตัวเข้าไปพักได้พอดีอันเจิงที่หมดสติและถูกเหวี่ยงมาตามคลื่นน้ำจึงไม่ได้ถูกซัดไปไกล
อันเจิงยกมือขึ้นลูบหัวป้อย ๆหวนนึกไปถึงเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เขาจำได้ว่าหลังจากตกลงมาจากหน้าผาแล้วเขาก็มาเจอกับปลาั์เข้า ปลาตัวนั้นตวัดหางซัดคลื่นขึ้นไปบนฟ้าตัวเขาที่ลอยติดคลื่นมาด้วยก็ถูกซัดขึ้นหน้าผาไปพร้อมกัน เรียกได้ว่าโชคดีสุด ๆ
ร่องหินที่อันเจิงนั่งอยู่ขณะนี้มีขนาดใหญ่มาก ตอนนี้ระดับน้ำลดลงไปแล้วแต่อันเจิงกลับสามารถอยู่ได้อย่างปลอดภัยทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่มีสติด้วยซ้ำไม่รู้ว่าโชคของเขาควรจะเรียกว่าอย่างไรดี นี่ไม่ใช่เื่ที่จะใช้คำว่าโชคดีธรรมดามาเปรียบเปรยได้แล้ว
โชคของเขามันเป็สิ่งที่ท้าทาย์ชัดๆ
หลังจากตื่นเต็มตา เขาก็ลุกขึ้นมานั่งอย่างไรก็ดีแขนขาทั้งสี่ของเขาตอนนี้เ็ปเอามาก ๆอันเจิงก้มมองดูเสี่ยวช่านที่อยู่ในอกเสื้อ เห็นว่ามันกำลังมองมาด้วยความเป็ห่วง
“ดีจริง ๆ ที่เ้าไม่เป็อะไร”
อันเจิงพูดได้แค่นั้นแขนเขาก็ร่วงตกลงข้างตัวไร้เรี่ยวแรงขยับเขยื้อนอีก อย่างไรก็ตาม มือของเขากลับยังคงกำปิ่นแมลงปอทับทิมไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
หลังจากพักได้ราวสี่ชั่วโมงอันเจิงก็เริ่มกลับมามีแรงขยับตัวได้อีกครั้ง เขาเบี่ยงตัวไปด้านหลังอาศัยก้อนหินในการพยุงตัวลุกขึ้นยืน ทว่าเห็นทีร่างกายเขาจะไม่ไหวเสียแล้วอันเจิงตระหนักได้ทันทีว่าสภาพของเขาตอนนี้ย่ำแย่ขนาดไหน แม้แขนเขาจะยังใช้การได้แต่กระดูกขาบางส่วนและซี่โครงหักหมดแล้ว
ตอนนี้เขาอยู่กลางป่าบนยอดเขาสูง หากจะหวังให้มีใครสักคนมาพบและช่วยเหลือคงเป็ไปได้ยากอันเจิงรู้ดีว่า หากปล่อยให้เป็เช่นนี้ต่อไปเขาคงทนได้อีกไม่นานโชคดีที่ในมือของเขามียาและสมุนไพรล้ำค่าหลายอย่าง ไม่เช่นนั้นคงได้แต่นอนรอให้ความตายมาถึง
“เสี่ยวช่านครั้งนี้ข้าผ่านเคราะห์ใหญ่มาได้ ไม่รู้ว่าจากนี้จะได้เจอเื่ดี ๆ บ้างหรือไม่ แต่ตอนนี้พูดได้คำเดียวว่ามารดามันเถอะข้าเจ็บสุด ๆ เลย”
เ้าแมวถูไถใบหน้าเล็ก ๆของมันไปที่ร่างอันเจิงเบา ๆ เหมือนกับกำลังปลอบโยนและให้กำลังใจ
“ข้าไม่เป็ไร ไม่ใช่ว่าพวกเรามียาอยู่ในมือหรอกหรือ?”
อันเจิงพุ่งกระแสจิตไปที่ลูกประคำโลหิตคิดถึงภาพสวนสมุนไพรขนาดใหญ่ เลือกสมุนไพรออกมาสองสามชนิดแล้วหยิบมันออกมาจากมิติ
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกมองไปยังทิศทางที่อยู่ไกล ๆเห็นว่าเบื้องหน้าท่ามกลางหุบเขามากมายบัดนี้เต็มไปด้วยทะเลสาบจำนวนนับไม่ถ้วนปริมาณน้ำในทะเลสาบสูงเกินครึ่งหนึ่งของความสูงูเา ไม่รู้ว่าปลาั์ตัวนั้นว่ายไปถึงไหนแล้วบางทีอาจจะบินขึ้นฟ้าไปแล้วก็เป็ได้
อันเจิงได้แต่ภาวนาอยู่ในใจ ขออย่าให้เกิดอะไรขึ้นในโลกมายาระหว่างที่เขาไม่อยู่เลยไม่อย่างนั้นคงมีผู้คนต้องสังเวยชีวิตอีกเป็จำนวนมากและขออย่าให้เกิดอะไรขึ้นกับตู้โซ่วโซ่วและคนอื่น ๆ ด้วย