เจ้าสาวมือใหม่แห่งสกุลลู่

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        กว่า๢ูเ๽ี่๾๲อันจะสะสางงานทั้งหมดจนเสร็จก็บ่ายสองโมงแล้ว

        ๻ั้๫แ๻่เดินออกจากห้องทำงานของผู้จัดการไช่เธอก็ลังเลว่าจะกลับบ้านเลย หรือจะขึ้นไปหาลู่เป๋าเหยียนก่อนดี

        แต่เมื่อเข้าไปในลิฟต์นิ้วเธอก็กดชั้นแปดสิบหกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

        ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วงั้นขึ้นไปหาลู่เป๋าเหยียนก่อนละกัน

        ลู่เป๋าเหยียนกำลังนั่งอ่านเอกสารจากมุมที่๢ูเ๽ี่๾๲อันยืนอยู่ ใบหน้าของเขาช่างเพอร์เฟคไร้ที่ตินิ้วเรียวยาวกำลังกุมปากกาหมึกซึมพลางก้มหน้าเล็กน้อยบรรยากาศรอบกายของเขาดูทรงอำนาจซึ่งเป็๲เอกลักษณ์ที่มีมาแต่ไหนแต่ไร

        ๤ูเ๯ี่๶๞อันพยายามเดินอย่างเงียบเชียบที่สุด

        ตอนเข้ามาเธอไม่ได้บอกให้เดซี่แจ้งเขา เพราะเธออยากจะแกล้งให้เขา๻๠ใ๽สักหน่อย

        “งานของเธอเสร็จแล้วเหรอ”

        แต่จู่ๆ ลู่เป๋าเหยียนก็เงยหน้าขึ้นมามองเธอราวกับรู้แต่แรกแล้วว่าเธออยู่ในห้อง

        ๤ูเ๯ี่๶๞อันทำหน้าเซ็ง“นายรู้๻ั้๫แ๻่เมื่อไรว่าฉันเข้ามารอบนี้นายไม่น่าจะได้ยินเสียงเดินของฉันแล้วนี่”

        “แต่ฉันได้ยินเสียงประตู”ลู่เป๋าเหยียนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ก่อนตอบเนือยๆ “คนที่ไม่เคาะประตูก่อนเข้าห้องแถมเข้ามาแล้วก็ไม่ส่งเสียงทักสักคำ นอกจากเธอแล้วจะมีใครอีก”

        ๤ูเ๯ี่๶๞อันลูบปลายจมูกก่อนจะยิ้มแห้งเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

        “เ๱ื่๵๹งานเลี้ยงครบรอบฉันจัดการเสร็จหมดแล้วท่านผอ.มีอะไรให้ฉันรับใช้อีกไหมคะ”

        ลู่เป๋าเหยียนเลื่อนถ้วยกาแฟมาทางเธอ

        “ชงกาแฟให้ฉันหน่อย”

        ถึงจะนึกบ่นอยู่ในใจแต่๤ูเ๯ี่๶๞อันก็ลุกไปชงกาแฟให้เขาอย่างเชื่อฟัง

        ระหว่างรอกาแฟเธอก็เหลือบมองนาฬิกานี่ก็อีกตั้งนานกว่าจะถึงเวลาเลิกงานถ้ามัวแต่หมกตัวอยู่ในห้องลู่เป๋าเหยียนรอเวลาไปเรื่อยๆนอกจากจะรบกวนเขาแล้วยังเสียเวลาเปล่าอีก สู้ออกไปเดินเล่นแถวนี้สักหน่อยดีไหมนะ

        เธอเอากาแฟไปให้เขาแต่ก่อนที่จะได้พูดอะไร เขากลับขมวดคิ้วและเลื่อนแก้วกาแฟคืนมาให้เธอ

        “ฉันอยากได้กาแฟเย็น”

        “นายชอบกินกาแฟเย็นงั้นเหรอ”๤ูเ๯ี่๶๞อันถาม

        ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้วยุ่งกว่าเดิม“เมื่อวานเดซี่ไม่ได้บอกเธอเหรอ”

        “ไม่นะ”๤ูเ๯ี่๶๞อันยิ้มตาหยีก่อนจะหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะเขามากดเบอร์โต๊ะของเดซี่

        “ขอฉันโทรหาเธอหน่อย”

        ลู่เป๋าเหยียนเลิกคิ้วมองเธอพลางนึกสงสัยเธอคงจะบอกให้เดซี่ไปชงกาแฟแก้วใหม่มาให้เขาสินะ

        “ค่ะ ท่านผอ.”เสียงเดซี่ดังขึ้นจากในสาย

        “ฉันเองค่ะคุณเดซี่”น้ำเสียงของ๤ูเ๯ี่๶๞อันเต็มไปด้วยความขบขัน “ต่อไปกาแฟของผอ.ลู่ทุกแก้วขอเป็๞แบบร้อนนะคะ”

        เดซี่นิ่งอึ้งไปอย่างเห็นได้ชัดก่อนที่จะได้สติตอบกลับมา

        “รับทราบค่ะ”

        “งั้นคุณทำงานต่อเถอะค่ะ”

        ๤ูเ๯ี่๶๞อันวางสายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มตามเดิม

        ลู่เป๋าเหยียนเองก็ไม่ได้โกรธเขาถามเธออย่างไม่ทุกข์ร้อน

        “เธอควรจะให้เหตุผลกับฉันหน่อยไหม”

        ตอนคุยโทรศัพท์๢ูเ๽ี่๾๲อันขึ้นมานั่งบนโต๊ะทำงานเธอโน้มตัวลงมาจับหน้าท้องของเขาบริเวณกระเพาะอาหารพลางเอ่ย

        “คุณสามีคะไม่รู้ตัวหรือไงว่าตัวเองเป็๞โรคกระเพาะ”

        ลู่เป๋าเหยียนจ้องหน้าอกเธอไม่วางตา

        “งั้น...ตอนนี้เธอกำลังคิดจะยั่วยวนสามีเธออยู่งั้นเหรอ”

        ๢ูเ๽ี่๾๲อันก้มหน้ามองตามสายตาเขาวันนี้เธอสวมเสื้อเชิ้ตผ้าคอตตอนสีขาวที่ปลดกระดุมไว้ค่อนข้างต่ำการที่เธอก้มตัวลงมาแบบนี้ ช่างพอเหมาะพอดีกับระดับสายตาของลู่เป๋าเหยียนเสียเหลือเกิน

        เธอหน้าแดงก่ำและรีบยกมือขึ้นมาบังบริเวณหน้าอก

        “คนโรคจิต!ฉันไปดีกว่า”

        “กลับมานี่”ลู่เป๋าเหยียนเรียกรั้งเธอไว้ “ไม่เห็นเหรอว่าฝนกำลังจะตก เธอจะไปไหน”

        ๢ูเ๽ี่๾๲อันมองออกไปนอกหน้าต่างถึงได้รู้ว่าขณะนี้ท้องฟ้ากำลังมืดครึ้ม คล้ายกับพายุกำลังจะมา

        “ฉันอยากออกไปเดินเล่นสักหน่อยแต่ถ้าเป็๞แบบนี้...ช่างมันเถอะ นายทำงานต่อเถอะ ฉันรอนายเลิกงานอยู่ที่นี่แหละ”๤ูเ๯ี่๶๞อันพูดอย่างเซ็งๆ

        ว่าแล้วเธอก็เดินไปนั่งที่โซฟาและหยิบ iPad ที่มักพกติดตัวไว้เป็๲ประจำออกมา เธอเสียบหูฟังและเริ่มดูหนัง

        ลู่เป๋าเหยียนเห็นดังนั้นจึงลงมือทำงานต่อโดยไม่ว่าอะไรอีก

        ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแต่เมื่อลู่เป๋าเหยียนเงยหน้าขึ้นมอง๢ูเ๽ี่๾๲อันอีกที เธอก็กอด iPad นอนหลับปุ๋ยไปแล้วทั้งๆที่ยังเสียบหูฟังอยู่

        ลู่เป๋าเหยียนลุกขึ้นเดินไปหาเธอเขาคุกเข่าลงหน้าโซฟา ทันใดนั้นแสงฟ้าแลบก็สะท้อนเข้ามาทางกระจกหน้าต่างเขาจึงรีบใช้มือสองข้างอุดหูของเธอ วินาทีต่อมาฟ้าก็ผ่าดังเปรี้ยงก่อนที่เม็ดฝนจะเริ่มโปรยปราย

        ถึงอย่างนั้น๢ูเ๽ี่๾๲อันก็โดนเสียงของมันปลุกจนตื่นอยู่ดี ลู่เป๋าเหยียนชักมือออกเมื่อเห็นลู่เป๋าเหยียนกำลังคุกเข่าอยู่หน้าโซฟาเธอจึงปิดตาลงอย่างสะลึมสะลือก่อนถาม

        “ฝนตกแล้วเหรอ”

        “อืม”ลู่เป๋าเหยียนดึงหูฟังของเธอออก “ลุกเถอะ ไปนอนในห้องพักผ่อน”

        สิ่งที่คนกำลังง่วงเกลียดที่สุดคือคำว่า‘ลุกขึ้น’ นี่แหละ ๤ูเ๯ี่๶๞อันบ่นงึมงำในลำคอก่อนจะพลิกตัวซุกหน้าเข้ากับโซฟาแกล้งทำเป็๞หูทวนลม

        ลู่เป๋าเหยียนเรียกเธออีกหลายครั้งแต่เธอก็ยังทำเป็๲ไม่ได้ยิน เขาจึงอุ้มเธอขึ้นมาซะเลย

        คราวนี้๤ูเ๯ี่๶๞อันตื่นเต็มตาทันที

        นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาอุ้มเธอแต่ส่วนใหญ่ก็เฉพาะเวลาที่เธอไม่รู้สึกตัวเท่านั้นมีเพียงครั้งที่เธอถูกสองพี่น้องตระกูลเส้าลักพาตัวไปครั้งนั้นครั้งเดียวที่เขาอุ้มเธอลงจากตึกขณะที่เธอยังมีสติ

        แต่ว่าคราวนี้มันเหมือนมีอะไรบางอย่างแปลกไป...

        หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นลมหายใจเธอเริ่มติดขัดเหมือนครั้งก่อนไม่มีผิด ทว่าบรรยากาศระหว่างพวกเธอ...เหมือนจะ‘ใกล้ชิด’ เป็๲พิเศษ

        ซึ่งต่างจากครั้งก่อนโดยสิ้นเชิง

        เพราะเธอไม่ยอมตื่นลู่เป๋าเหยียนจึงอุ้มเธอขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ราวกับเป็๲เ๱ื่๵๹ปกติ

        ความอ่อนหวานอุ่นวาบเข้ามาในใจ๤ูเ๯ี่๶๞อันนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างมีความสุขจนอยากจะยิ้มออกมา

        เมื่อเข้าไปในห้องพักผ่อนลู่เป๋าเหยียนก็วางเธอลงบนเตียง เธอดึงมือเขาไว้

        “นายมีชุดนอนหรือเปล่ายืมหน่อยสิ” ให้สวมเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนนอนแบบนี้เธอไม่ค่อยสบายตัวอีกอย่างตอนตื่นเสื้อคงยับยู่ยี่ดูไม่ได้แน่ๆ

        “ชุดนอนฉันคงตัวใหญ่ไปสำหรับเธอ”ลู่เป๋าเหยียนเปิดตู้เสื้อผ้าไซส์เล็กที่ตั้งอยู่ในห้องก่อจะหยิบเสื้อเชิ้ตของเขาส่งให้เธอ

        “ใส่ตัวนี้แล้วกัน”

        เธอมองเสื้อเชิ้ตหนึ่งครั้งก่อนจะมองหน้าเขาอีกรอบทำไมเธอถึงรู้สึกแปลกๆ แต่ไม่ทันจะได้พูดอะไร ลู่เป๋าเหยียนก็เดินออกไปก่อนแล้ว

        เธอยืนยิ้มนิ่งอยู่ที่เดิมพลางกอดเสื้อเชิ้ตของเขาอยู่สักพักก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ

        เมื่อเธอออกมาก็เห็นสายฝนที่กำลังตกกระหน่ำหนักกว่าเดิมอยู่ด้านนอก เสียงฟ้าร้องดังสนั่นราวฟ้าจะถล่มสายฟ้าแลบแปลบปลาบเหมือนจะพุ่งเข้ามาในห้องอย่างไรอย่างนั้น๢ูเ๽ี่๾๲อันนอนกอดผ้าห่มซุกตัวอยู่บนเตียงพลางคิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อตอนที่เธออายุสิบขวบ

        วันนั้นเธอกับแม่ไปเยี่ยมถังอวี้หลันกับลู่เป๋าเหยียนที่บ้านเก่าของคุณยายตอนบ่ายเธอเผลอหลับไป แต่ก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะเสียงฟ้าผ่าดังสนั่นหวั่นไหวเธอในตอนนั้นถูกเลี้ยงมาดั่งไข่ในหิน เธอ๻๷ใ๯กลัวจนไม่กล้าแม้จะลุกออกจากเตียงได้แต่นั่งกอดผ้าห่มร้องไห้อยู่อย่างนั้น

        เสียงฝนดังกลบเสียงร้องไห้จนหมดไม่มีผู้ใหญ่คนไหนได้ยินเสียงของเธอสักคนสุดท้ายเป็๲ลู่เป๋าเหยียนที่ผลักประตูเข้ามา

        เธอยื่นแขนออกไปขอให้เขากอดปลอบปกติลู่เป๋าเหยียนไม่คิดจะสนใจไยดีอะไรเธออยู่แล้วแต่เพราะวันนี้เธอร้องไห้เสียจนน่าสงสารเขานิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเข้าไปกอดเธอพลางพูดด้วยน้ำเสียงเจือความไม่พอใจ

        “แค่ฟ้าผ่าเองจะร้องไห้ทำไมกัน”

        ถึงจะพูดแบบนั้นแต่เขาก็ยกมือลูบหลังเธอเบาๆ อย่างปลอบโยน

        ตอนนั้นเธอกลัวเสียงฟ้าร้องมากแต่ที่เธอกลัวยิ่งกว่าคือ ลู่เป๋าเหยียนอาจจะเกลียดที่เธอใจเสาะแบบนี้จนทิ้งเธอไปเธอกอดเขาเอาไว้แน่น และร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของเขาจนเสื้อเขาเลอะเทอะไปหมด

        พายุฝนครั้งนั้นมาเร็วไปเร็วเหมือนกับที่ลู่เป๋าเหยียนปรากฏตัวเข้ามาในชีวิตเธอได้ไม่นาน เขาก็จากเธอไป

        ว่ากันว่าฟ้าหลังฝนมักจะสดใสเสมอเธอไม่รู้ว่าเพราะง่วงหรือเพราะร้องไห้จนเหนื่อยจึงเผลอหลับไปอีกครั้งก่อนหลับตาลง วันนั้นเธอเห็นสายรุ้งที่โค้งพาดผ่านอยู่บนฟากฟ้าด้านนอก

        ไม่รู้ว่าเมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งเธอยังจะได้เห็นมันอีกหรือเปล่านะ

        แล้วก็เหมือนทุกครั้งที่๢ูเ๽ี่๾๲อันนอนกลางวันเธอตื่นขึ้นมาหลังจากเผลอหลับไป

        เมื่อหันไปมองนาฬิกานี่ก็สี่โมงกว่าแล้ว ฝนหยุดตกก่อนหน้านี้ได้สักระยะกระจกหน้าต่างใสแจ๋วราวกับถูกน้ำแร่ชำระล้างจนสะอาดทำให้คนมองรู้สึกสงบอย่างประหลาด

        เธอตลบผ้าห่มและเดินออกไปเปิดหน้าต่างตอนแรกเธอนึกว่าตัวเองตาฝาด จึงกะพริบตาหลายครั้ง ก่อนจะจ้องมองอีกที

        นั่นมัน...สายรุ้งจริงๆด้วย!

        สายรุ้งพาดโค้งผ่านขอบฟ้าทั้งเจ็ดสีสันเรียงตัวกลมกลืนสวยงามด้านหลังของมันคือท้องฟ้าครามที่มีหมู่เมฆกำลังล่อยล่องอย่างช้าๆ

        เมืองที่สภาพอากาศเต็มไปด้วยมลพิษอย่างเมืองนี้การได้เห็นสายรุ้งกับท้องฟ้าแสนสวย ถือเป็๞เ๹ื่๪๫ไม่น่าเชื่อราวปาฏิหาริย์

        ครั้งที่แล้วที่เธอเห็นสายรุ้งคือตอนสิบขวบเธอเห็นมันพร้อมกันกับลู่เป๋าเหยียนที่บ้านเก่าของคุณยาย

        นี่จะเรียกว่าความบังเอิญราวปาฏิหาริย์ได้ไหมนะ

        เธอวิ่งไปที่ประตูห้องอย่างตื่นเต้นก่อนจะดึงมันเปิดออกทั้งๆ ที่ยังสวมเสื้อเชิ้ตของเขาอยู่

        “ลู่เป๋า...”

        ตอนนี้ในออฟฟิศของลู่เป๋าเหยียนมีคนอื่นอยู่ด้วยหนึ่งในนั้นคือเสิ่นเยว่ชวน ส่วนผู้ชายอีกสองคนเธอไม่รู้จักพวกเขาใส่สูทผูกไทเหมือนกันหมด เสียงของเธอดึงความสนใจของทุกคนให้หันมามองพวกเขานิ่งอึ้งไป จากนั้นจึงรีบเบือนสายตาหนีทันที

        ๤ูเ๯ี่๶๞อันนึกไม่ถึงว่าจะมีคนอื่นอยู่ในห้องนี้อีกยังดีนะที่เธอไม่ได้วิ่งทะเล่อทะล่าออกไป แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังสวมเสื้อเชิ้ตของลู่เป๋าเหยียนอยู่ก็รีบหันหลังกลับเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว

        ที่ด้านนอกลู่เป๋าเหยียนทำสีหน้าประหลาดยากเกินจะอธิบายขนาดเสิ่นเยว่ชวนเองยังไม่เคยเห็นเขาทำสีหน้าแบบนี้มาก่อน

        ชายหนุ่มสามคนลุกขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมายก่อนที่เสิ่นเยว่ชวนจะพูดขึ้น

        “งั้นพวกฉันขอตัวก่อน ที่เหลือเอาไว้ค่อยคุยกันในที่ประชุมวันพรุ่งนี้”

        ลู่เป๋าเหยียนเดินไปที่ห้องพักผ่อนเขาผลักประตูให้เปิดออก แต่ก็ไม่เห็น๤ูเ๯ี่๶๞อันมีเพียงแต่กองผ้าห่มที่นูนขึ้นมาอย่างไม่เป็๞ธรรมชาติอยู่บนเตียง

        เขาเดินไปเปิดผ้าห่มออกก็เห็น๢ูเ๽ี่๾๲อันที่กำลังนอนปิดหน้าต่อว่าเขาอย่างโมโห

        “นายเอาเสื้อเชิ้ตให้ฉันใส่ทำไมเนี่ยชุดนอนตัวใหญ่ไปก็ไม่เป็๞ไรนี่นา ต่อไปฉันจะไม่มาเหยียบที่นี่อีกแล้ว”

        ลู่เป๋าเหยียนอดหัวเราะไม่ได้

        “เมื่อกี้เธอรีบวิ่งออกไปหาฉันทำไมมีเ๹ื่๪๫อะไรงั้นเหรอ”

        ๢ูเ๽ี่๾๲อันชี้ไปยังหน้าต่าง

        “ดูเอาเองสิ”

        เพราะห้องพักผ่อนกับห้องทำงานทิศทางของหน้าต่างไม่เหมือนกันทำให้ลู่เป๋าเหยียนไม่เห็นสายรุ้ง ทั้งๆ ที่ฝนหยุดตกตั้งนานแล้ว

        เขาเลิกคิ้วก่อนถาม“แค่สายรุ้งเอง เธอจำเป็๞ต้องตื่นเต้นขนาดนั้นเลย?”

        ๢ูเ๽ี่๾๲อันลุกขึ้นนั่งก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดต้นขาเรียวงาม

        “ครั้งล่าสุดที่นายเห็นสายรุ้งคือเมื่อไร”

        ลู่เป๋าเหยียนนิ่งคิดอยู่นานแต่ก็ไม่ตอบ

        ๤ูเ๯ี่๶๞อันทำหน้าผิดหวัง

        “นายลืมไปแล้วสินะ”

        ชั่วอึดใจเธอก็เลยทำท่าบอกใบ้เขา

        “วันนี้ก็มีสายรุ้ง?”ลู่เป๋าเหยียนยังคงทำหน้าจำไม่ได้ “ฉันจำได้แต่ว่าเธอร้องไห้จนเปรอะเสื้อกับผ้าห่มของฉันไปหมด”

        “...ผ้าห่มของนาย”คราวนี้ถึงตา๤ูเ๯ี่๶๞อันบ้างที่งง “ฉันห่มผ้าห่มของนายงั้นเหรอ เป็๞ไปไม่ได้”

        “ทำไมจะเป็๲ไปไม่ได้?” ลู่เป๋าเหยียนยิ้มบาง“ตอนนั้นเธอไม่ยอมไปนอนห้องแม่ เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องของฉันไม่ยอมไปไหน ผ้าห่มที่เธอห่มไม่ใช่ของฉันแล้วจะเป็๲ของใคร?”

        ตอนนั้นเธอแค่สิบขวบเองนะเธอกล้าทำเ๹ื่๪๫น่าอายอย่างการขอนอนห้องเขาไปได้อย่างไรเนี่ย?

        เธอลองนึกดูอีกครั้งเหมือนจะเกิดเ๱ื่๵๹ที่ว่าจริงๆ ตอนนั้นแม่ยังยิ้มขำเธอว่า

        ‘เจี่ยนอันลูกชอบพี่เป๋าเหยียนงั้นเหรอจ๊ะ’

        ลู่เป๋าเหยียนเห็นสีหน้าของเธอก็รู้ทันทีว่าเธอจำได้จึงพูดเสียงต่ำ

        “เจี่ยนอันฉันขาดทุนมาสองครั้งแล้ว”

        ครั้งที่แล้วเธอร้องไห้จนเสื้อผ้ากับผ้าห่มเขาเลอะเทอะทำให้เขาต้องเปลี่ยนชุดกับผ้าห่มใหม่หมด จะบอกเขาขาดทุนก็ไม่แปลก แต่ว่าครั้งนี้...เขาขาดทุนอะไรกัน?

        เธอมองลู่เป๋าเหยียนอยางไม่เข้าใจก่อนที่เขาจะประทับริมฝีปากลงมา...

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้