อวี้ฉู่จาววางหลินหร่านลง ช่วยจัดเสื้อผ้าให้เขาอย่างเบามือราวกับกลัวว่าจะทำให้อีกฝ่ายเจ็บ จากนั้นเชยใบหน้าของอีกคนขึ้น เผยรอยยิ้มที่อบอุ่นที่สุดในชีวิตออกมา
“เดี๋ยวก็จะไม่เจ็บแล้ว ชาติหน้าข้าจะหาเ้าให้พบ ตอบแทนถั่วแดง นี่คือคำมั่นสัญญาที่ข้าจะให้กับเ้า รอข้านะ” หลินหร่านถ่อมตนมาทั้งสองโลก พอก่อนตายวันนี้ได้รับคำมั่นสัญญาและความอบอุ่นจึงรู้สึกโชคดี
“ยังไม่คุกเข่าลงอีก!” เพชฌฆาตที่อยู่ข้างฮ่องเต้ะโอย่างไม่เกรงกลัว
อวี้ฉู่จาวไม่ได้สนใจเสียง เขายืนขึ้นก่อนมองไปทางผู้คนด้านล่าง
“จ้านหวัง1 ” จู่ๆ ผู้คนกลุ่มหนึ่งก็พากันะโขึ้นก่อนคุกเข่าแล้วก้มหัวลงกับพื้น
“จ้านหวัง จ้านหวัง!”
ผู้คนพากันส่งเสียงดังสนั่นไปทั่วฟ้าดิน วันนี้ชาวเมืองอวี้อันมาเพื่อส่งเขา
ต่อจากนั้น อวี้ฉู่จาวคุกเข่าลง เสียงผู้คนที่ะโอยู่พลันหยุดชะงัก
ทุกคนต่างรู้ดีว่าอดีตเทพเ้าแห่งาเป็คนไม่ชอบพูด การคุกเข่าลงก็เพื่อ้าแสดงความขอบคุณ และทุกคนย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าท่านอ๋องผู้นี้ไม่สมควรตาย
“จ้านหวัง จ้านหวัง!” เสียงะโดังขึ้นมาอีก
น้ำตาของหลินหร่านไหลลงมาอย่างเงียบงัน คิดไม่ผิดเลยที่รักชายผู้นี้ เขาเป็ดั่งวีรบุรุษ น่าเสียดายที่โชคชะตาเล่นตลก คนชั่วกำลังทำร้ายเขาอยู่
อวี้ฉู่จาวหันไปสบตาหลินหร่าน
“ปะา!” เมื่อเพชฌฆาตเห็นว่าไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว จึงออกคำสั่งให้ลงมือ
รอยยิ้มสุดท้ายที่อวี้ฉู่จาวมอบให้หลินหร่าน ทิ้งความอบอุ่นไว้ให้อีกฝ่ายใน่เวลาสุดท้ายของชีวิต
……….
อวี้ฉู่จาวไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ที่แห่งใด ดวงตาเต็มไปด้วยพระพระชายาตัวน้อย ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ของพวกเขาที่ไปยังฮวางฉวนจะไม่ค่อยเป็ไปในลักษณะที่ดีนัก แต่เขาจดจำดวงตาคู่นั้นได้เป็อย่างดี แม้จะดูเหนื่อยล้าแต่ก็เต็มไปด้วยความสดใส
“ท่านอ๋อง ท่านเป็เพียงคนเดียวในใจข้า ในชีวิตข้า ท่านคือความรุ่งโรจน์” นั่นคือคำพูดสุดท้ายของหลินหร่าน พูดไปพลางยิ้มน้อยๆ แม้ว่าเสียงนั้นจะแ่เบาจนโดนเสียงะโโห่ร้องของผู้คนกลบจนหมด แต่อวี้ฉู่จาวกลับได้ยินชัดเจน
เื้ัของหลินหร่านที่เขาเห็นคือน้ำวนที่มองไม่เห็นก้นบึ้ง เส้นไหมสีดำออกมาจากน้ำวน พยายามดึงหลินหร่านที่สูญเสียมือและเท้าไป
อวี้ฉู่จาวยื่นมือไปด้านหน้าหวังจะดึงพระชายาของเขากลับมา พยายามปฏิบัติต่ออีกคนอย่างดี ้าปกป้อง
“อย่า!” อวี้ฉู่จาวตื่นขึ้นจากความฝัน เขาลุกขึ้นนั่งทันทีแล้วเบิกตากว้าง
ยังคงเป็่ฤดูหนาวงั้นหรือ
ลมหนาวดังหวีดหวิวอยู่นอกหน้าต่าง แสงเทียนในห้องพลิ้วไหว เทียนสีแดงที่มีตัวอักษรแห่งความสุขมีให้เห็นละลานตา ยังมีม่านเตียงที่ทำด้วยผ้าเนื้อโปร่งสีแดง
อวี้ฉู่จาวรู้สึกปวดหัวขึ้นมาจึงยกมือกุมหัว
เขาตายไปแล้วไม่ใช่หรือ เขากับพระชายาตัวน้อยของเขา นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
อวี้ฉู่จาวหันไปมองด้านข้างโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาพบกับหญิงสาวคนหนึ่งนอนอยู่ข้างๆ นางสวมเสื้อผ้ามิดชิด นอนหลับด้วยท่าทีสงบ
อวี้ฉู่จาวหันกลับมา ไม่สนใจหญิงสาวที่อยู่ข้างกาย เขาลุกจากเตียงพร้อมทอดสายตามองไปข้างนอกหน้าต่าง ทัศนียภาพในห้องนี้ช่างดูคุ้นตา ที่นี่ดูราวกับตำหนักที่เขาไม่ได้กลับมาหลายปี
อวี้ฉู่จาวไม่แน่ใจว่าตนเองกลับมาเกิดใหม่หรือไม่ เขาก้มมองหญิงสาวข้างกาย
หากว่าตัวเขาจำไม่ผิด นี่คือพระพระชายาคนที่สองของเขาไม่ใช่หรือ เมื่อวานคงเป็คืนวันแต่งงานของเขา ในงานแต่งเขาดื่มเหล้าสองสามจอกกับฮ่องเต้ก่อนจะเมาแล้วหลับไป ตื่นขึ้นมาอีกทีหญิงสาวก็กลายเป็ศพไปเสียแล้ว
รุ่งเช้าก็มีคนมาเคาะประตูนำน้ำร้อนมาให้ หลังจากนั้นพวกเขาถึงพบว่าพระชายาคนใหม่ได้เสียชีวิตอย่างกะทันหัน
ต่อจากนั้น ข่าวการเสียชีวิตหลังคืนวันแต่งงานของพระชายาจ้านหวังก็ได้กระจายไปทั่วเมืองอวี้อัน แม้อวี้ฉู่จาวไม่ได้ทำอะไรเพราะเขาเมามาย แต่ใครจะสามารถบอกได้ว่าในคืนวันแต่งงานเกิดอะไรขึ้น เื่นี้เหมือนกับเื่ของพระชายาคนแรกไม่มีผิด
อวี้ฉู่จาวนอนหลับไปโดยไม่ได้สนใจพระชายาที่สิ้นชีวิตไปแล้วทั้งสองคน เนื่องจากการหาผลประโยชน์จากการทหารจึงได้ถูกยัดเยียดพวกนางมาให้ บางคนก็พูดเกี่ยวกับหญิงสาวทั้งคู่ว่า อาจเพราะพวกนางเป็ศัตรูกันทำให้เข่นฆ่ากันเอง
เวลานี้เป็ยามเฉิน ยังเช้าอยู่มาก อวี้ฉู่จาวมองหญิงสาวซึ่งคาดว่าเสียชีวิตแล้ว เขาจัดเสื้อผ้าตนเองเล็กน้อย ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกจากห้องนอนมาดึงลิ้นชักตรงกลางออก หยิบตำราออกมา เป็บันทึกกิจการทหารประจำวันของค่ายซีเจียว หน้าสุดท้ายเขียนอย่างชัดเจนว่ารัชศกที่ 21 วันที่ 5 เดือน 12
ไม่ผิดแน่ นี่คือ่ฤดูหนาวที่เขาเพิ่งกลับจากการทำากับอนารยชน นับเป็่ที่ฮ่องเต้ฉงเต๋อจำได้ว่าเขาเสียพระชายาไปแล้วเป็เวลาหนึ่งปี และเนื่องด้วยพระองค์กลัวว่าตัวเขาจะรู้สึกโดดเดี่ยว จึงให้แต่งงานกับบุตรสาวจากจวนลิ่นหยวนโหว
อันที่จริง จ้านหวังทรงถืออำนาจแม่ทัพของกองทหารม้า เป็ท่านอ๋องสูงส่งของราชวงศ์อวี้
อย่างไรก็ตาม เื่นี้กลับสร้างความลำบากใจให้กับฮ่องเต้
เวลานี้ ตำแหน่งพระชายาของท่านอ๋องยังไม่มีผู้ใดครอง จึงทำให้ฮ่องเต้ฉงเต๋อไม่สบายใจยิ่งนัก ลิ่นหยวนโหวไม่ได้มีอำนาจทางการทหารอยู่ในมือมากมาย พระองค์จึงคิดว่า คงจะเป็การดีหากจะให้บุตรสาวจากจวนแห่งนี้ได้แต่งงานกับอวี้ฉู่จาว เพราะอาจสร้างความแข็งแกร่งให้ตระกูลพวกเขาในภายภาคหน้าได้
อวี้ฉู่จาวครุ่นคิดแล้ววางตำราในมือ เขาทิ้งตัวลงบนที่นั่งประจำตำแหน่งก่อนหลับตาลง เขาต้องพิจารณาให้ดีว่าตอนนี้เขาควรทำเช่นไร
รัชศกที่ 21 เขาอายุยี่สิบเอ็ดปี แต่งกับพระชายาคนแรกเมื่อปีก่อน คืนแต่งงานนั้นช่างเหมือนกับคืนนี้ พระชายาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน
ขณะนี้ฮ่องเต้ยังมีชีวิตอยู่ เขาเป็โอรสเพียงองค์เดียวของฮ่องเต้ฉงเต๋อที่กลายเป็ท่านอ๋อง และเป็ท่านอ๋องที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ราชวงศ์อวี้ ตอนนี้เขายังมีพี่น้องอยู่มากมาย แต่ก็ไม่ได้สนิทสนมเท่าไรนัก โดยเฉพาะกับโอรสของฮองเฮานามว่าอวี้ฉู่ซวน นับว่าไม่ลงรอยกันมากที่สุด
เขาไม่เคยสนใจเื่เหล่านี้ เช่นเดียวกับการตายอย่างกะทันหันของพระชายาทั้งสองในชาติก่อน
เขาไม่เคยอยากตรวจสอบเพราะมัวแต่คิดเื่ออกรบ ทำลายกองทัพของเหล่าอนารยชน เื่ในครอบครัวจึงโยนทิ้งไป
เพราะอย่างนั้นเอง ทำให้ฮ่องเต้ยัดเยียดพระชายามาให้เขาอีก
ใช่แล้ว พระชายาตัวน้อยของเขา
ถึงตอนนี้ อวี้ฉู่จาวเพิ่งนึกออกถึงคนในชาติก่อนที่ทำให้เขาปวดใจ
หลังจากบุตรสาวของลิ่นหยวนโหวเสียชีวิต คนเ่าั้ก็เริ่มพูดถึงงานแต่งงานครั้งใหม่ของเขากับบุตรชายคนเล็กของแม่ทัพฮวาเวย ซึ่งมีนามว่าหลินหร่าน ในตอนนั้นข้ออ้างของฮ่องเต้คือ เพราะชีวิตเขาเต็มไปด้วยลางร้าย มีปรปักษ์มากมาย หากจะมีพระชายา หลินหร่านที่ฟื้นจากความตายและเคยผ่านเื่ร้ายๆ มาจึงนับว่าเป็การจับคู่ที่เหมาะสม
อวี้ฉู่จาวในตอนนั้นก็ทำอะไรไม่ได้เสียด้วย
.........
ท้องฟ้าค่อยๆ สว่างขึ้น เขาสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนเรียกนางกำนัลจากข้างนอกให้นำน้ำมาให้เขาล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น แล้วสั่งไปหนึ่งประโยค “ให้คนมาเก็บศพออกไป” หลังจากนั้นเดินออกมา
นางกำนัลใเป็อย่างมาก เมื่อเดินไปที่เตียงของท่านอ๋องถึงเข้าใจ
อวี้ฉู่จาวรีบออกไปเพื่อที่จะได้ยืนยันว่าคนที่อยู่ในใจเขายังมีชีวิตอยู่ เื่ในตำหนักเขายังจัดการอะไรไม่ได้ ได้แค่รอให้ถูกเรียกมาสอบสวน
อวี้ฉู่จาวไม่เคยรับรู้มาก่อนว่า่ชีวิตในชาติก่อนของหลินหร่านเป็อย่างไร และไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ใด ใช้ชีวิตอย่างไรด้วย
อีกทั้งอวี้ฉู่จาวเติบโตมาในค่ายทหาร มักติดตามท่านอาของเขาหรืออวี้หนานถังออกไปประจำการอยู่ที่ชายแดน ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง ดังนั้น เขาจึงไม่ค่อยรู้อะไรมากเกี่ยวกับนายทหารชั้นประทวน ทหารรักษาประตู หรือแม้แต่จวนของแม่ทัพฮวาเวย
-------------------------------
1 จ้านหวัง หมายถึง เทพเ้าแห่งา เป็คำเรียกที่ชาวเมืองเรียกอวี้ฉู่จาว