หลินหรงเว่ยรู้ดีว่า การมาเยือนครั้งนี้ตัวเขาย่อมไม่ได้สมดังใจปรารถนาอย่างราบรื่นแน่ ดังนั้น สำหรับสายตาที่ทำเป็ไม่รู้ไม่ชี้ของอีกฝ่ายจึงไม่ได้ทำให้เขาขุ่นเคืองใจเลยแม้แต่น้อย กลับกันเขากลับสงบนิ่งเป็อย่างยิ่ง เขายิ้มบางๆ พูดว่า “บางครั้ง คิดอยากจะรักษาความลับไว้ แท้จริงแล้วก็ง่ายมาก”
“อ้อ ในเมื่อเป็เช่นนี้ ผู้น้อยก็อยากจะฟังเสียหน่อยว่า นายท่านหลิน้าจะพูดอะไร” จวินเหยียนคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มขณะมองใบหน้าหลินหรงเว่ย ดูท่าบางคนคงจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากเกินไปเสียแล้ว อันที่จริงนับๆ ดูแล้ว ครอบครัวของเจิ้นหนานอ๋องก็มาพักอยู่ในเมืองหลวงนานไปหน่อยแล้วจริงๆ
นิ้วของจวินเหยียนเคาะโต๊ะข้างกายเบาๆ ในทุกๆ ครั้งที่เคาะครั้งหนึ่ง หลินหรงเว่ยก็รู้สึกราวกับว่าคนกำลังเคาะลงบนหัวใจเขาอย่างไรอย่างนั้น ไม่รู้เพราะเหตุใดเมื่อต้องเห็นโอวหยางจวินเหยียนสาดสายตามาที่ตน เขาถึงกับอดไม่ได้ให้รู้สึกอกสั่นขวัญแขวน
ถูกต้อง อกสั่นขวัญแขวน ความรู้สึกเช่นนี้แปลกประหลาดมากจริงๆ ทั้งๆ ที่ตัวเขาเคยพบเจอเื่ราวมามากมาย จะมาถูกบุรุษอายุเพียงสามสิบทำให้ใได้อย่างไร เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็แค่นเสียงเ็าในใจ รอให้เื่นี้ถูกคนล่วงรู้ขึ้นมาจริงๆ ก่อนเถอะ เขาจะดูสิว่าอีกฝ่ายยังจะสามารถนั่งอย่างมั่นคงอยู่ตรงนี้ได้อีกหรือเปล่า
“ข้าไม่พอใจชิวเสียง ว่าที่ลูกเขยคนนี้เป็อย่างมาก จึง้าให้ลูกสาวคนที่สามของข้าได้เข้าไปอยู่ในจวนหนิงอ๋องของท่าน และนางต้องได้เข้าไปในฐานะผิงเฟยด้วย” หลินหรงเว่ยมองบุรุษตรงหน้าด้วยสายตาเ็ายิ่ง เขาจะยอมอ่อนข้อไม่ได้ และจะถูกทำให้ใไม่ได้
ทว่า จู่ๆ จวินเหยียนก็หัวเราะฮ่าฮ่าขึ้นมา “นายท่านหลิน ประโยคนี้ของท่านควรจะไปบอกหนิงอ๋องหรือไม่ก็ฝ่าามากกว่านะ ตอนนี้วิ่งโร่มาพูดกับคนในตระกูลพ่อค้าเยี่ยงข้า หากว่าแพร่ออกไปจะไม่ถูกหัวเราะเยาะเอาหรือ”
หลินหรงเว่ยยืนขึ้น พูดตรงๆ “หมอตำแยในตอนนั้นอยู่ในกำมือข้า แต่ท่านจะเลือกหลบเลี่ยงปัญหานี้ต่อไปก็ได้...” พูดจบ หลินหรงเว่ยก็ยืนขึ้น มองไปยังจวินเหยียน ก่อนจะพูดเรียบๆ ว่า “ที่บ้านของผู้น้อยมีเื่ คงต้องขอตัวก่อน แต่ข้าก็หวังว่าท่านจะไตร่ตรองเื่นี้ให้ดี ภายในสามวันให้หลัง หากข้ายังไม่ได้คำตอบที่้า ข้าก็จะส่งหมอตำแยคนนั้นไปที่จวนรัชทายาทแทน”
จวินเหยียนมองเงาหลังของหลินหรงเว่ย สายตามีจิตสังหารวาบผ่าน แต่ก็สามารถเก็บอารมณ์กลับมาได้อย่างรวดเร็ว เขาหรี่ตาลงน้อยๆ แล้วจึงพูดออกไปเรียบๆ “หรือว่านายท่านหลินจะไม่เคยได้ยิน บนโลกใบนี้ มีแต่คนตายเท่านั้นที่ทำให้คนวางใจที่สุด? ”
หลินหรงเว่ยได้ยินก็ถึงกับขมวดคิ้ว “นี่ท่าน ยอมรับสถานะของตนแล้ว? ”
“สถานะ สถานะอะไร? ผู้น้อยเพียงแต่เตือนท่าน คำที่ควรพูดก็พูด ที่ไม่ควรพูดก็อย่าพูด เพราะบนโลกใบนี้มีเพียงคนตายเท่านั้นที่จะรักษาความลับได้ดีที่สุด” ทันทีที่พูดจบ เขาก็เผยรอยยิ้มเกียจคร้านออกมา “เด็กๆ ส่งแขก”
เพียงไม่นาน องครักษ์สองคนก็ปรากฏกาย คนหนึ่งหนีบซ้าย คนหนึ่งหนีบขวา พาตัวหลินหรงเว่ยออกไปนอกประตูใหญ่
แขก? หึหึ คนเช่นนี้ไม่คู่ควรจะเป็แขกของเขาโอวหยางจวินเหยียนด้วยซ้ำ คิดอยากจะยัดเหยียดบุตรสาวตนเข้ามาในจวนอ๋องของเปิ่นหวาง ก็คงต้องดูแล้วว่า ตัวเ้ามีความสามารถนั้นหรือไม่ และยิ่งต้องดูด้วยว่า คนเช่นเขาจะรับนางเข้ามาหรือไม่
เขาดึงมีดสั้นที่พกติดตัวอยู่ตลอดขึ้นมาเล่นในมือ ประกายกระหายเืล้อแสงแวววาว เขาหัวเราะหึหึเ็า “น่าสนใจจริงๆ ” จู่ๆ เขาก็พูดเสียงขรึม “ไป ไปจัดการตามแผน”
หลินหรงเว่ย เ้าคิดอยากจะข่มขู่เปิ่นหวาง แล้วเ้าน่ะมีความสามารถเพียงพอหรือไม่ ในเมื่อพวกเ้าอดใจแทบไม่ไหวถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็รอไปเถอะ ละครเด็ดกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ก่อนหน้านี้เปิ่นหวางเองก็คิดอยากจะถือโอกาสตอนที่ชายารักไม่อยู่ในเมืองหลวงจัดการปัดกวาดพวกเ้าออกไปจากเมืองหลวงอยู่พอดี
แต่ว่า เมื่อลองคิดๆ ดูอีกที แค่กวาดทิ้งก็นับว่าสบายพวกเขาเกินไปแล้วจริงๆ เพราะฆ่าทิ้งเสียถึงจะดีที่สุด ไม่ว่าอย่างไรคนที่ไม่เชื่อฟังจะเป็ยามใดก็ไม่รู้จักเป็เด็กดีเช่นนี้มีแต่ต้องทำให้สิ้นไร้หนทางจะะโโลดเต้นได้อีกต่อไปถึงจะดี
ในมุมมืดมุมหนึ่งมีเสียงหนึ่งดังขึ้น “ขอรับ”
ไม่นานก็ล่วงเข้าวันที่สามหลังจากที่หลินหรงเว่ยไปหาจวินเหยียน จู่ๆ วันนี้ในเมืองหลวงก็เกิดเื่ใหญ่ที่คนไม่ทันได้ตั้งตัวขึ้น คุณหนูจวนเจิ้นหนานอ๋องจางเหวินเหมยถูกจับได้ว่ามีชู้คาเตียง ส่วนบุรุษที่ร่วมพลิกฟ้าคว้าฝนกับนางก็คือ รองเ้ากรมอาญาชิวเสียง
เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป เมืองหลวงก็ครึกครื้นขึ้นมาทันที ซึ่งความโด่งดังของเื่นี้ยังมากยิ่งกว่าข่าวโรคระบาดที่เกิดขึ้นในเมืองเฟิงและอวี่โจว สิ่งที่ต้องรู้ก่อน ลูกสาวคนเล็กของจางเหวินเหมยเป็ฝ่าาที่พระราชทานสมรสให้ชิวเสียงด้วยพระองค์เองเชียวนะ
ตอนนี้เกิดเื่เช่นนี้ขึ้น ทุกอย่างก็เละเทะวุ่นวายไปหมดแล้วน่ะสิ
ณ ตำหนักสิงกง
เดิมทีเจิ้นหนานอ๋องตั้งใจจะรอจนอวิ๋นซีกลับมาจากเขตโรคระบาด จึงค่อยพบกับหลานสาวคนนั้นอีกสักครั้ง ก็จะพาคนกลับชายแดนใต้ มิคาดจะเกิดเื่เช่นนี้ขึ้น ลูกสาวของตนกับชิวเสียงถูกคนจับได้คาหนังคาเขาในเรือนพักแห่งหนึ่ง สิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือ ในตอนนั้นบุตรสาวเขายังคงพาดอยู่บนร่างของชิวเสียงพลางร้องขอมากขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน
ฉากในเหตุการณ์นั้นถูกคนลือกันปากต่อปากอย่างละเอียดยิบ กระทั่งมาถึงหูเขา ทำให้ผู้เป็บิดาเช่นเขาถึงขนาดไม่อาจทนฟังได้ น่าตายนัก เมื่อเป็เื่ระหว่างชายหญิง ลูกสาวคนนี้ก็ไม่รู้จักควบคุมตัวเองมาโดยตลอด ก่อนหน้าเขาเคยว่ากล่าวไปหลายครั้งแล้ว ทั้งยังทำถึงนั้นนำกฎของบ้านออกมาใช้ก็แล้ว คราวแรกเห็นว่านางมีทีท่าจะทำตัวดีขึ้นไม่น้อย คิดไม่ถึงหนนี้จะถึงกับ...
คิดไปคิดมา เจิ้นหนานอ๋องก็กระอักเืสดๆ องครักษ์ที่อยู่ด้านข้างที่คอยติดตามเจิ้นหนานอ๋องมาตลอด เมื่อเห็นเช่นนั้นก็เป็กังวลทันที รีบเข้าไปถามไถ่ว่าเป็อันใดหรือไม่ แต่เจิ้นหนานอ๋องกลับขัดขวางไม่ให้องครักษ์ไปตามหมอ เขากล่าวเสียงเ็า “พวกเ้าออกไปให้หมด ที่นี่ไม่ต้องมีคนเฝ้า ไม่้าบ่าวรับใช้”
ประโยคเดียวนี้เป็การไล่องครักษ์และสาวใช้ทั้งหมดออกไป
จางเหวินเหมยมองบิดาที่ถูกทำให้โกรธจนกระอักเื นางรีบร้องห่มร้องไห้พูดว่า “เสด็จพ่อ ข้าถูกคนใส่ร้าย นี่ข้าถูกคนใส่ร้ายจริงๆ นะเ้าคะ ข้าว่าต้องเป็จางเฉินปินแน่ๆ เขาไม่อยากให้ข้าอยู่ดี จึงได้คิดจะทำร้ายข้าให้ตาย”
เจิ้นหนานอ๋องได้ยินคำกล่าวอ้างของบุตรสาวก็ได้แต่หัวเราะหึหึอย่างเ็า เขาถาม “ตอนนี้เขาเป็ถึงหมอเทวดาที่มีชื่อเสียงโด่งดังในดินแดนตะวันตกเฉียงเหนือ ทั้งยังเป็ดองกับฮ่องเต้ มิหนำซ้ำภรรยายังเป็ถึงคุณหนูรองแห่งจวนอวิ๋นโหว กระทั่งมีลูกสาวก็ยังโดดเด่นกล้าหาญและมากความสามารถ เขามีทั้งหลานสาวหลานชาย มีภรรยารักอยู่ข้างกาย สิ่งที่เขามีล้วนเป็สิ่งที่เ้าไม่มี เ้าบอกว่า เฉินปินริษยาเ้า จึงได้ใส่ร้ายเ้างั้นหรือ เช่นนั้นเ้าลองบอกเหตุผลที่เขาต้องทำเช่นนี้ให้ข้าฟังหน่อย”
จางเฉินปินเป็ถึงลูกที่เกิดจากหญิงผู้เป็ที่รักของเขา ถึงแม้หลายปีมานี้บุตรชายจะมีความโกรธเคืองต่อเขา แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะตำหนิเฉินปินเลยสักครั้ง อย่างไรเสีย เื่นั้นก็เป็เพราะตนที่ไม่ดี ทำไม่ถูกเอง
ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่มีทางยอมให้ใครมาสาดน้ำสกปรกบนตัวลูกชายของเขาอย่างเด็ดขาด ต่อให้คนผู้นั้นจะเป็ลูกสาวแท้ๆ ของตนก็ตาม เมื่อเทียบกับเฉินปินแล้ว ในใจเขา จางเหวินเหมยไม่นับเป็อะไรได้
“เสด็จพ่อ ในใจท่าน ตัวข้านี้ดูไม่ได้ถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? ” จางเหวินเหมยะโเสียงดัง “จางเฉินปินนั่น ไม่ว่าจะอะไรก็ดีไปกว่าข้าเสียหมด ข้าก็ราวกับเป็ดินโคลนบนพื้นดินที่สามารถให้คนเหยียบย่ำได้ง่ายๆ อย่างนั้นเลยหรือ? ต่อให้ข้าจะดูไม่ได้เพียงใด แต่ชิวเสียงก็เป็ลูกเขยในอนาคตของข้า ข้าไม่มีทางกระทำเช่นนั้นแน่ อีกประการ สามีข้าดีมาก นอกจากเขาแล้ว บุรุษอื่น ข้าล้วนไม่เห็นอยู่ในสายตา แล้วเหตุใดข้าจึงต้องกระทำเื่เช่นนี้เพื่อทำลายตัวข้าเอง และทำลายครอบครัวของข้าด้วย เสด็จพ่อ ท่านจะให้ข้าต้องเผชิญกับความไม่ยุติธรรมเพียงนี้เพราะความลำเอียงในใจท่านไม่ได้นะ”
หลินหรงเว่ยมองสตรีที่กำลังต่อสู้อย่างมีเหตุผลเพื่อตนเองอยู่ สตรีนางนี้ เขาป้อนจนอิ่มทุกคืน จึงได้เชื่อมั่นว่า นางย่อมไม่มีทางออกไปหาชายอื่นแน่ เขามั่นใจในทักษะบนเตียงของตนเป็อย่างมาก
เขายืนขึ้น ก่อนจะมาคุกเข่าอยู่หน้าจางเหวินเหมย พูดว่า “เสด็จพ่อ ความสัมพันธ์ของข้ากับเหวินเหมยดียิ่ง ด้วยเื่นี้ ขอเสด็จพ่อได้โปรดสืบหาข้อเท็จจริงให้ชัดแจ้งด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ เพื่อเป็การคืนความบริสุทธิ์ให้เหวินเหมย”