เย่ชิงหานกำลังเผชิญกับอันตรายอยู่จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลายวันมานี้เขาเผชิญกับมันมานับครั้งไม่ถ้วน ตอนนี้เขากำลังจะทำการทะลวงผ่านด่านแรกดินแดนแห่งภาพลวงตาพฤกษาเจ็ดอารมณ์!
อดหลับอดนอนตั้งใจฝึกฝนมาตลอดทั้งวันทั้งคืนเป็เวลาแปดเดือนในที่สุดหลายวันก่อนเขาก็บรรลุถึงระดับขอบเขตจ้าวนักรบ ตอนที่บรรลุถึงระดับขอบเขตจ้าวนักรบเขาเพิ่งผ่านวันเกิดครบรอบอายุสิบเจ็ดปีไปได้ครึ่งเดือน อายุสิบเจ็ดปีระดับขอบเขตจ้าวนักรบ เย่ชิงหานทำลายบันทึกสถิติเดิมของเขตปกครองเทพาอีกครั้ง
แน่นอนว่าความสำเร็จของเขาในวันนี้มาจากความตั้งใจ ความพยายามทุ่มเทฝึกฝน รวมไปถึงผลไม้วิเศษที่มีอยู่ในด่านแรกดินแดนแห่งภาพลวงตานี้ล้วนมีส่วนช่วยที่สำคัญอย่างไม่สามารถจะแยกออกจากกันได้
ตระกูลใหญ่ทั้งห้าถ้าหากมีตระกูลใดกล้าทุ่มเทอย่างไม่เสียดายนำทรัพย์สมบัติของมีค่าต่างๆ เกือบทั้งหมดเพื่อไปแลกยาวิเศษและผลไม้วิเศษต่างๆ มาให้เด็กหนุ่มสาวที่มีพร์โดดเด่นของตระกูลใช้ในการฝึกฝนละก็ ตระกูลนั้นก็ย่อมต้องสามารถสร้างผู้ที่มีพร์ล้ำเลิศออกมาได้
เพียงแต่ถ้ายอมสละทรัพย์สมบัติที่ตระกูลทำการสะสมมานับพันปีเพื่อสร้างผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบที่มีอายุสิบเจ็ดปีขึ้นมา คิดดูแล้วคงไม่มีตระกูลใดยินยอมที่จะเสียสละทำได้ถึงขนาดนั้น เพราะไม่ว่าจะพูดอย่างไรระดับขอบเขตจ้าวนักรบเปรียบกับคนก็ยังเป็ได้แค่เด็กหนุ่มอยู่ แต่ระดับขอบเขตาาจักรพรรดิถึงจะถือว่าเป็ผู้ใหญ่แล้ว สละทรัพย์สมบัติเกือบทั้งตระกูลสร้างเด็กหนุ่มที่มีพร์ล้ำเลิศขึ้นมา แต่เมื่อทำการฝึกฝนกฎเกณฑ์พลังฟ้าดินกลับไม่มีความรุดหน้าอย่างที่คาดหวังไว้ ฉะนั้นแล้วความเสียหายที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่เื่เล็กน้อยที่ตระกูลใดจะสามารถแบกรับไหว
ส่วนเย่ชิงหานถ้าหากไม่สามารถทะลวงผ่านทั้งสามด่านออกไปจากูเาสุสานทวยเทพได้แล้วตายลงภายในนี้ละก็ ถึงต่อให้อายุสิบเจ็ดปีบรรลุถึงระดับขอบเขตาาจักรพรรดิก็ไม่มีประโยชน์อันใด เพราะแม้กระทั่งผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพถ้าตายแล้วก็เป็แค่กองกระดูกสีขาวกองหนึ่งเพียงเท่านั้น
ดังนั้นหลังจากที่ทำการพักผ่อนไปหนึ่งวันเขาจึงตัดสินใจเริ่มทะลวงด่านพฤกษาเจ็ดอารมณ์ที่เหลือทั้งหกต้น เพื่อจะได้ผ่านด่านแรกไปเสียที
พลังฝีมือบรรลุขึ้นมาถึงระดับขอบเขตจ้าวนักรบทำให้ระดับพลังิญญาแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าแต่ก่อนไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าตัว ในตอนนี้หลังจากผ่านการทดลองไปหลายครั้งจนแน่ใจว่าเมื่อรวมร่างสัตว์อสูรแล้วระดับพลังิญญาจะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัวอย่างแน่นอน
วันแรกเขาใช้เวลาเพียงแค่ห้านาทีก็ทะลวงผ่านด่านภาพลวงตาแห่งความยินดีและเด็ดเอาผลไม้วิเศษที่อยู่้าลงมาได้ หยุดพักหนึ่งวันจึงค่อยทะลวงด่านภาพลวงตาแห่งความเกลียดโดยใช้เวลาไปครึ่งชั่วโมง วันที่สาม...
วันนี้เป็วันที่หก วันก่อนหน้าเขาผ่านมาได้อย่างไม่ยากลำบากเท่าใดนัก ตอนนี้เขาหยุดอยู่ที่ต้นแห่งความอยากนั่งขัดสมาธิทำให้จิตใจสงบเยือกเย็นลงอย่างถึงที่สุดก่อนที่จะทำการทะลวงผ่านด่านภาพลวงตาสุดท้ายนี้ จากนั้นสะสมผลเจ็ดอารมณ์ได้ครบทั้งหมดก็จะสามารถผ่านด่านแรกดินแดนแห่งภาพลวงตาไปได้
เย่ชิงหานรู้ตัวเป็อย่างดีว่าภาพลวงตาแห่งความอยากมีผลกระทบต่อจิตใจของเขามากที่สุด อายุเพียงสิบเจ็ดปีผ่านเื่โลกีย์มาเพียงสองครั้ง ดังนั้นสำหรับเื่เหล่านี้ภายในใจนั้นเต็มไปด้วยความอยากความปรารถนาอย่างรุนแรง เมื่อเจอกับภาพลวงตาที่ยั่วยวนชวนลุ่มหลงเขาย่อมยากที่จะต้านทานมันได้
.................................
มีคนเคยพูดว่าร่างกายท่อนล่างของบุรุษไม่ต่างจากสัตว์ เย่ชิงหานในตอนนี้รู้สึกว่าคำพูดนี้ดูมีเหตุผลอย่างมาก เขาคิดด้วยซ้ำไปว่าไม่ว่าชาตินี้หรือชาติที่แล้ว บุรุษที่ไม่ชอบเื่เกี่ยวกับกามารมณ์ถ้าไม่ใช่คนเป็โรคก็ต้องเป็ขันที
ทำไมหอนางโลมและเหล่าผู้หญิงขายบริการไม่ว่าจะอยู่ในยุคสมัยใด ประเทศใด โลกใดล้วนเป็กิจการที่รุ่งเรืองเติบโตได้เป็อย่างดี? ทำไมผู้หญิงขายบริการ ผู้ปกครอง และนักฆ่าถึงได้กลายเป็สายอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดตลอดกาล?
เขาคิดว่าความจริงแล้วทุกๆ คนแรกเริ่มนั้นไม่ได้ชอบเื่กามารมณ์แต่อย่างใด แต่ต่อมาที่เป็เช่นนั้นก็เพราะแรงกระตุ้นที่เกิดจากสภาพทางสรีระร่างกายของเพศผู้ที่ทำให้เกิดขึ้น เื่กามารมณ์จึงเกิดขึ้นและดำรงอยู่มาภายในสังคมของมนุษย์อย่างไม่สามารถจะแยกออกจากกันได้
การกระตุ้นจากความเป็เพศผู้ทำให้ผู้ชายทุกๆ คนมีความอยากต่อรสััทางร่างกายที่เป็เนื้อหนังมังสาของผู้หญิง บวกกับสังคมที่เริ่มมีสิ่งกระตุ้นยั่วยุขึ้นมามากยิ่งทำให้ความอยากที่เป็สัญชาตญาณดิบของผู้ชายที่เป็เพศผู้ที่มีต่อผู้หญิงซึ่งเป็เพศเมียนั้นยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเก่า
ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าหากมีคนป่าที่เผอิญหลุดเข้ามาอยู่ในสังคมเมืองของมนุษย์ เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์เขาจะสนแค่ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็เพศเมียหรือไม่เพียงเท่านั้น โดยจะไม่สนว่าฝ่ายตรงข้ามจะหน้าตางดงามหรือรูปร่างดีหรือไม่ เขาแค่เพียงทำตามสัญชาตญาณดิบที่เกิดจากแรงกระตุ้นของสรีระร่างกายเพียงเท่านั้น แค่อยากจะหาที่ระบายความอัดอั้นของความเป็เพศผู้ที่ถูกกระตุ้นเร้าอยู่ภายในของตนเองออกมาก็แค่นั้นเอง
ส่วนสังคมของมนุษย์เริ่มมีความเจริญทางศิลปวัฒนธรรม เริ่มมีการแบ่งความสวยงามความอัปลักษณ์ เริ่มมีกำไรมีขาดทุน เริ่มมีชนชั้น และแน่นอนในสังคมเช่นนี้กลุ่มชนชั้นบนสุดจะเป็ผู้ที่ทรัพยากรส่วนมากของสังคม และยังสาวงามโดยส่วนมากด้วย
ในเมื่อความ้ามีมากแต่สิ่งที่มีอยู่นั้นมีจำกัดทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำขึ้น จึงทำให้เกิดอาชีพผู้หญิงขายบริการขึ้นมา เนื่องจากผู้หญิงมีร่างกายอ่อนแอจึงจำเป็ต้องพึ่งพาอาศัยผู้ชายอยู่ตลอด การใช้เรือนร่างเพื่อแลกเปลี่ยนมาเป็สิ่งของต่างๆ ที่้าจึงเป็อีกทางเลือกหนึ่งที่มีผู้หญิงบางกลุ่มยินดีที่จะทำ ดังนั้นวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของหญิงสาวจึงเริ่มมีด้านที่ดำมืดขึ้นมา
ความ้าที่เกิดจากแรงกระตุ้นของสัญชาตญาณทางสรีระร่างกายรวมไปถึงการหล่อหลอมจากสภาพทางสังคมและวัฒนธรรม เย่ชิงหานคิดว่าบุรุษทุกคนในใต้หล้านี้ไม่มีใครที่จะไม่ชองเื่อย่างว่า นอกเสียจากว่าคนๆ นั้นจะเป็ขันทีที่ไม่มีอาวุธใช้งานแล้วเท่านั้น
เขาจึงคิดว่าบุรุษทุกคนสามารถปล่อยตัวปล่อยใจอย่างอิสระในเื่เช่นนี้ได้และสมควรที่จะทำ เขาเองก็ทำตามใจอยากของตนเองเช่นกัน เตียงหลังใหญ่ที่พักด้านหลังโรงเตี้ยมอั้นเยว่เมืองหมันเขาก็ทำตามใจอยากโดยไม่สนใจต่อสิ่งใดๆ เมื่อตอนกลับมาจากตีนเขายอดเขาขาดที่เขตพื้นที่จุดรวมพลชั่วคราวเขาก็ทำตามใจอยากทำการสำรวจพื้นที่เร้นลับบนเรือนร่างของธิดาศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเยว่ เยว่ชิงเฉิง
ต่อมาในสวนที่พักของตระกูลเย่ภายในนครแห่งเทพเขาทำลายความบริสุทธิ์ของเย่ชิงอู่ แต่หลังจากนั้นในหัวที่คิดก็มีเพียงแค่ว่าจะทำอย่างไรให้เื่เงียบลงด้วยดีที่สุดและได้นางมาเพื่อที่จะได้ควบม้าได้ดั่งสมใจปรารถนาทุกคืนวัน ซึ่งเขาไม่เคยคิดที่จะใช้การปลิดชีวิตของตนเองเพื่อไถ่บาปความผิดที่กระทำลงไป อะไรแบบนั้นไม่เคยอยู่ในหัว...
เพียงแต่...ตอนนี้เวลานี้เพราะคำๆ นี้ “ความอยาก” กำลังทำให้เขาประสบกับปัญหาใหญ่หลวงมากที่สุด...ด่านภาพลวงตาแห่งความอยาก
ไม่ใช่ว่าไม่เคยผ่านภาพลวงตาแห่งความอยากมาก่อน การโจมตีที่เกิดขึ้นทุกๆ วันวันละสามเวลานั้นเขาก็พบเจออยู่บ้างเป็บางครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ต่างออกไปเพราะอานุภาพที่เกิดขึ้นจากการโจมตีของภาพลวงตาจะยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเข้าใกล้ต้นไม้ดึกดำบรรพ์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเกิดขึ้นอยู่ตลอดไม่มีหยุดพักอีกด้วย เขาไม่รู้ว่าอีกสักพักจะเกิดอะไรขึ้น เขากลัวว่าจะถลำตัวเข้าไปอยู่ภายในวังวนของภาพลวงตาอย่างถอนตัวออกมาไม่ได้ แต่ภายในใจลึกๆ อีกส่วนหนึ่งกลับรู้สึกเฝ้าปรารถนาอยากอยู่เล็กน้อยเช่นกัน
‘ถุย! เย่ชิงหานเ้ามันสัตว์เดรัจฉาน’
เย่ชิงหานด่าทอตนเองออกมาภายในใจ อีกสักพักก็จะไปทำการทะลวงฝ่าด่านภาพลวงตาแห่งความอยากแล้วตนเองกลับปรารถนาที่อยากจะพบเจอขึ้นมาเสียอย่างนั้น? นี่มันไม่ต่างจากการรนหาที่ตายชัดๆ!
ค่อยๆ หลับตาลงไปอย่างช้าๆ จากนั้นเริ่มโคจรพลังปราณรบเพื่อทำการฝึกฝนทำกายใจให้สงบเข้าสู่สมาธิพร้อมทั้งขับไล่ความคิดยุ่งเหยิงให้หมดไป
“เคลื่อนไหวก็เป็สมาธิ ยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่มก็ล้วนเป็สมาธิ สิ่งเล็กๆ ดั่งเช่นดอกไม้ ต้นหญ้า ใบไม้ล้วนแล้วแต่มีหลักธรรมดำรงอยู่ทั้งสิ้น หากสามารถน้อมจิตเข้าไปพิจารณาอย่างละเอียดลึกซึ้งถึงการดำรงของสรรพสิ่งแล้วก็ไม่ยากที่จะทำความเข้าใจหลักสัจธรรมได้ จิตซึ่งเป็รากฐานของสรรพสิ่ง หากมนุษย์สามารถอาศัยจิตใจอันสงบว่างเปล่าย้อนสำรวจภายในตนเองให้เข้าใจลึกซึ้งแล้วปล่อยวางลงได้ ก็จะสามารถััรับรู้ได้ถึงความสงบระงับที่ดำรงอยู่ภายในดวงจิตของตนเองอย่างแท้จริง”
ผ่านไปเนิ่นนานเย่ชิงหานค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น ภายในใจท่องบทภาวนาการฝึกจิตที่เคยเรียนรู้มาในชีวิตชาติที่แล้ว เมื่อจิตใจสงบระงับ สมองก็ปลอดโปร่งโล่งเกิดแสงสว่างพร่างพราวขึ้น ไม่มีความอยากไม่มีความปรารถนาก็ไม่มีช่องว่างให้กับความคิดอื่นๆ เข้ามาแทรกแซงให้ไขว้เขวหรืออ่อนแอ โลกทั้งใบภายในดวงจิตพลันสงบเงียบลงโดยทันที
“รวมร่างสัตว์อสูร!”
เย่ชิงหานลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ แล้วใช้การรวมร่วงสัตว์อสูรขึ้นในทันที จากนั้นเดินตรงเข้าไปทางต้นไม้ดึกดำบรรพ์ด้วยอาการสงบ
เมื่อเท้าเหยียบเข้าไปภายในรัศมีทำการของภาพลวงตา ทัศนียภาพรอบด้านเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทันที เขารู้สึกว่าตนเองได้มาถึงยังสถานที่แหล่งหาความสำราญเมื่อชาติที่แล้ว ตรอกถนนเล็กๆ ที่มีแสงไฟสลัวๆ และเต็มไปด้วยบานประตูมากมายที่มีไฟสีแดงส่องสว่างอยู่อย่างริบหรี่ ภายใต้ดวงไฟสีแดงเ่าั้ต่างมีหญิงสาวที่นุ่งน้อยห่มน้อยยืนประจำอยู่แต่ละจุดกำลังทำท่าทางยั่วยวนชักชวนมาทางเขาอย่างต่อเนื่อง
“ทุกสรรพสิ่งล้วนอนิจจัง ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืนมีเกิดย่อมมีดับเป็เื่ธรรมดาตามเหตุปัจจัยของสภาวะธรรม จิตที่ว่างเปล่าไม่ยึดมั่นถือมั่นจึงเป็อิสระจากกิเลสตัณหาความอยากทั้งปวง รูปลักษณ์ที่สวยงามหล่อเหลาทั้งหลายล้วนก่อรูปขึ้นมาจากธาตุสี่ขันธ์ห้า เมื่อดับสลายไปก็จะมีเพียงความว่างเปล่า กิเลศตัณหาความอยากเมื่อถูกสนองตอบอย่างถึงที่สุดแล้วก็จะมีเพียงความว่างเปล่าที่เป็จุดสิ้นสุด ด้วยเหตุนี้ทุกสรรพสิ่งจึงมีความว่างเปล่าเป็สัจธรรมเที่ยงแท้ที่อยู่ภายใน ดังนั้นเมื่อทำจิตให้ว่างเปล่าได้ย่อมไม่ตกเป็ทาสของอารมณ์ทั้งปวงที่เข้ามาตกกระทบ...”
เย่ชิงหานเดินหน้าตรงไปอย่างรวดเร็วโดยไม่แม้แต่จะชายตามอง ปากก็พูดพร่ำบทสวดบทเทศน์ที่เคยได้ยินได้ฟังมา อีกทั้งเคยเสพสุขกับสาวงามระดับพระกาฬมาแล้ว ภาพลวงตาเกรดต่ำเช่นนี้ไม่ได้ทำให้ภายในใจของเขาหวั่นไหวขึ้นมาแม้แต่น้อย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้