เซียวิจูนำเสื้อที่เย็บแบบโครงตั้งต้นไว้แล้วออกมารูปร่างนั่น แค่ดูก็รู้ว่าไม่ได้เตรียมไว้ให้ท่านลุงสี่
"อาเซวียน นี่คือเสื้อที่ข้าตัดให้พี่ใหญ่ของเ้าข้าวัดขนาดจากเสื้อผ้าปีก่อนของพี่ใหญ่เ้า ขยายให้ใหญ่ขึ้นและยาวขึ้นเล็กน้อย ไม่รู้ว่าพี่ใหญ่ของเ้าจะใส่ได้พอดีตัวหรือไม่แต่ไม่เป็อะไร ข้าเผื่อไว้ค่อนข้างมาก หากใหญ่ไป ถึงเวลาข้าค่อยเย็บเก็บอีกหน่อย"เซียวิจูกล่าวต่อ "เ้าดูเนื้อผ้านี่สิ ทั้งใส่สบายและเย็นสบาย เถ้าแก่เนี้ยที่ขายผ้าผืนนี้บอกว่าเนื้อผ้าชนิดนี้สวมใส่สบายเป็พิเศษ อีกทั้งสีผ้าก็ดูหนักแน่นและงามสง่า เหมาะกับพี่ใหญ่ของเ้าพอดีเ้าว่าจริงหรือไม่? "
เซียวิจูกล่าวไม่หยุดไม่เห็นเลยว่าสีหน้าของเซียวจื่อเซวียนเปลี่ยนไปแล้ว
เซียวจื่อเซวียนรู้สึกราวกับมีเสียงะเิดังตูมอยู่ในห้วงภวังค์
เขารีบถอยหลังไปหลายก้าวจ้องมองผ้าในมือเซียวิจูด้วยแววตาระแวดระวัง
เซียวิจูผงะไป"อาเซวียน เ้าเป็อะไรไป? "
เซียวจื่อเซวียนกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง"พี่ิจู เสื้อของข้ากับพี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่กำลังเตรียมตัดให้แล้ว ท่านตัดเสื้อให้ท่านลุงสี่ใส่เถอะ!"
พี่ใหญ่แต่งงานแล้ว ไม่มีทางจะยุ่งเกี่ยวกับสตรีคนอื่นอีกเมื่อก่อนเขาไม่รู้ความ และไม่รู้ถึงความในใจของเซียวิจู แต่ตอนนี้เขารู้แล้ว นอกจากนั้นพี่สะใภ้ใหญ่ก็ดีต่อพวกเขาถึงเพียงนั้น เขาไม่มีทางรับมา และไม่มีทางให้พี่ใหญ่รับสิ่งของที่สตรีคนอื่นมอบให้!
อย่าว่าแต่เสื้อหนึ่งตัวเลยต่อให้เป็ผ้าเช็ดหน้าหนึ่งผืนก็ไม่ได้!
เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของเซียวจื่อเซวียนเซียวิจูรู้สึกเ็ปใจราวกับมีเืซึมออกจากหัวใจก็มิปาน "อาเซวียน เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมเ้าต้องทำตัวห่างเหินกับพี่ิจูถึงเพียงนี้ด้วย? เมื่อก่อนเ้าไม่ได้เป็เช่นนี้! "
ใบหน้าเล็กของเซียวจื่อเซวียนดูดีน่ารัก เนื้ออวบอิ่มตรงแก้มเป็สีชมพูดูเนียนนุ่ม พอจะดูออกว่า ระยะนี้เขามีชีวิตที่ดีมาก!
"พี่ิจู พี่ใหญ่ของข้าแต่งงานแล้วของเหล่านี้ พวกเรารับไว้ไม่ได้! "
ทั้งผ้าเช็ดหน้าและเสื้อผ้าล้วนเป็ของใช้ติดตัว หากรับไว้ ถ้าคนอื่นที่มีใจคิดไม่ซื่อรู้เข้า เช่นนั้นแม้จะมีปากก็ไม่อาจอธิบายให้ชัดเจนได้
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้พี่สะใภ้ใหญ่ดีกับเขาถึงเพียงนี้เื่เสื้อก็กำลังตระเตรียมให้พวกเขาแล้ว ต่อให้ตีเขาจนตายก็ไม่มีทางรับของของเซียวิจูหากรับไว้ เช่นนั้นก็เท่ากับแสดงออกว่าตัวเองไม่พอใจพี่สะใภ้ใหญ่ไม่ใช่หรือ?
เขาไม่ได้รู้สึกไม่พอใจแม้แต่น้อยพี่สะใภ้ใหญ่ในตอนนี้ เขารักแทบตาย!
เซียวิจูทำท่าจะกล่าวอะไรอีกเซียวจื่อเซวียนเพียงกล่าวอย่างเคารพว่าจะไปแล้ว ก่อนเปิดประตูวิ่งออกไปโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นแผ่นหลังของคนตัวเล็กะโโลดเต้นจนหายลับไปจากสายตาเซียวิจูก็รู้สึกห่อเหี่ยวยิ่งนัก นั่งลงบนเตียงเตา อาเซวียนทำตัวเหินห่างกับนางแล้วเหินห่างถึงเพียงนั้น!
หยาดน้ำตาหยดลงบนผ้าใหม่สีเทาที่อยู่ในมือราวกับเป็เมล็ดถั่วก็มิปานหยาดน้ำตาซึมเข้าไปในผ้า ย้อมให้ผ้าสีเทากลายเป็สีเทาเข้ม
อาเซวียนบอกว่า เซี่ยยวี่หลัวกำลังเตรียมเสื้อให้เขาและและอายวี่เป็ความจริงหรือ?
เซียวิจูปาดคราบน้ำตาหัวใจของนางเหมือนถูกคนใช้มีดแหลมแทงเข้าไปแล้วชักออกมา ก่อนจะแทงเข้าไปซ้ำอีก หัวใจของนางถูกทำร้ายจนแหลกสลาย
นางร้องไห้เงียบๆ อยู่ครู่หนึ่งเมื่อคิดถึงความเปลี่ยนแปลงของเซี่ยยวี่หลัว คนที่เมื่อก่อนชั่วร้ายถึงเพียงนั้น เหตุใดจู่ๆถึงดีขนาดนี้กัน?
ราวกับว่า คนยังคงเป็คนเดิมแต่หัวใจภายในกลับเปลี่ยนเป็ดวงอื่น!
เซียวิจูคิดถึงเื่ผีสางที่นางได้ฟังมาจากในตัวเมืองบอกว่าบนโลกใบนี้ มีเื่ที่คนยังคงเป็คนเดิม แต่หลังจากโดนิญญาภูตผีเข้าสิงสู่คนผู้นั้นก็เปลี่ยนไปเป็คนละคน
ผีสิงสู่ ใช่แล้ว ผีสิงสู่เป็แน่
เซียวิจูลุกขึ้นยืนดัง"ตึง" ออกแรงเช็ดคราบน้ำตาบนแก้มตัวเอง จากนั้นจึงวางผ้าที่ซื้อมาไว้ล่างสุดของกระจาดก่อนใช้สิ่งของอย่างอื่นปิดไว้ แล้วจึงนำไปเก็บในตู้
นางยังมีเื่อื่นต้องทำ
หากมีคนโดนผีสิงสู่ ใครจะรู้ว่าต่อไปคนผู้นี้จะทำเื่เหี้ยมโหดอะไรบ้างหากทำร้ายเด็กสองคนนั้น...
เซียวิจูเก็บของเสร็จเปิดประตู แทบจะพุ่งพรวดออกจากประตูไป
ท่านลุงสี่ได้ยินเสียงปิดประตูดังสนั่นรีบวิ่งออกมา ก็เห็นเงาแผ่นหลังของเซียวิจูหายลับไปทางประตูพอดี จึงะโเสียงดัง“ิจู เ้าจะไปไหน? ”
เซียวิจูไม่ได้กล่าวตอบวิ่งไปแล้ว
ท่านลุงสี่ได้แต่ส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจ“ลูกโตแล้ว มีความคิดเป็ของตัวเอง! ”
เซี่ยยวี่หลัวกลับบ้านนานแล้วกำลังเก็บข้าวของอยู่ในห้องของเซียวยวี่ ห้องนี้ไม่ใหญ่ เก็บไว้ให้เซียวจื่อเซวียนใช้ห้องที่เซียวจื่อเซวียนอยู่ในตอนนี้ ต่อไปห้องนั้นจะเชื่อมต่อกับสวนหลังบ้าน มีคนผ่านไปมาไม่สะดวกแก่การอยู่อาศัยแล้ว นางจะใช้เป็ห้องโถง วางโต๊ะไว้ตัวหนึ่ง ต่อไปก็ใช้กินอาหารและรับแขก
ตำราของเซียวยวี่มีเยอะมากเซี่ยยวี่หลัววางตำราไว้ทีละเล่ม ใช้ผ้าสะอาดคลุมแล้วจึงเก็บไว้ ด้วยกลัวว่าถึงเวลาตอนปลูกเรือนจะมีฝุ่นเยอะจะทำให้ตำราของเขาเปื้อน
เซี่ยยวี่หลัวเคยอ่านเจอในหนังสือนอกจากน้องชายและน้องสาวทั้งสองคนที่เปรียบเสมือนชีวิตของเซียวยวี่แล้ว ตำราแต่ละเล่มก็เปรียบเสมือนชีวิตของเซียวยวี่เช่นกัน!
นางลงมือทำเพียงคนเดียวไม่ได้ให้จื่อเมิ่งมาช่วย นางเกรงว่าจื่อเมิ่งยังเด็กเกินไป หากไม่ระวังจะทำให้ตำราของเซียวยวี่เสียหาย
เมื่อเซียวจื่อเซวียนกลับถึงบ้านก็เห็นเซี่ยยวี่หลัวเก็บกวาดตำราของพี่ใหญ่เสร็จแล้ว กำลังทยอยยกไปไว้ที่ห้องของตัวเอง
“พี่สะใภ้ใหญ่...”
“กลับมาแล้วงั้นหรือ มานี่ตำราของพี่ใหญ่เ้าจัดไว้หมดแล้ว ยังมีอีกมากที่ยังไม่ได้ย้ายมา เ้าไปย้ายมา พรุ่งนี้ปลูกเรือนใหม่ข้ากลัวจะมีฝุ่นเยอะ”เซี่ยยวี่หลัวแย้มรอยยิ้มอยู่ตลอด คิ้วงามโก่งโค้ง ประหนึ่งดวงจันทร์ผ่องใสบนท้องฟ้าราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิในเดือนสามที่โบกพัดมากระทบใบหน้า ขจัดอารมณ์ขุ่นเคืองของเซียวจื่อเซวียนจนหายไปในชั่วพริบตา
เซียวจื่อเซวียนถกแขนเสื้อขึ้นท่าทางราวกับจะทุ่มสุดกำลัง “ขอรับ ข้ามาแล้วขอรับ! ”
หลังจากเคลื่อนย้ายตำราทั้งหมดของเซียวยวี่ไปไว้ในห้องเซี่ยยวี่หลัวเซี่ยยวี่หลัวก็เอาโต๊ะออกมาหนึ่งตัว วางตำราไว้อย่างเป็ระเบียบ
เมื่อวางตำราเสร็จหมดแล้วเซี่ยยวี่หลัวจึงไปเก็บเครื่องนอนและเสื้อผ้า เซี่ยยวี่หลัวซักเสื้อผ้าและเครื่องนอนของเซียวยวี่จนสะอาดและตากแห้งแล้ว นางจัดเก็บตู้ของตัวเองให้ว่างสองช่อง นำเสื้อผ้าของเซียวยวี่มาวาง
บัดนี้ในตู้เสื้อผ้า มีเสื้อผ้าของเซี่ยยวี่หลัวเสื้อผ้าของเซียวยวี่ และเสื้อผ้าของเซียวจื่อเมิ่ง เห็นเช่นนี้ ถึงจะดูเป็ครอบครัวเดียวกัน!
ย้ายของออกจากห้องเซียวยวี่จนว่างแล้วขณะนี้ภายในห้องว่างเปล่า เหลือเพียงเตียงหนึ่งเตียงและโต๊ะหนังสือหนึ่งตัว เซี่ยยวี่หลัวกล่าว“จื่อเซวียน ต่อไปเ้าก็นอนห้องนี้ เรือนสองห้องที่จะปลูกใหม่ ให้พี่ใหญ่เ้าทั้งหมดห้องหนึ่งเป็ห้องหนังสือ อีกห้องเป็ห้องนอน ถึงเวลาพี่ใหญ่ของเ้าต้องอ่านตำราฝึกอักษรจะได้มีสถานที่โดยเฉพาะ จะได้ไม่ถูกรบกวน”
เซียวจื่อเมิ่งกล่าวเสียงใส“เช่นนั้นพี่สะใภ้ใหญ่ ข้านอนที่ไหนเ้าคะ? ”
เซียวยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว“จื่อเมิ่งนอนกับข้าต่ออย่างไรเล่า! ”
เซียวจื่อเมิ่งเอียงคอด้วยท่าทีสงสัยเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “พี่สะใภ้ใหญ่ พี่ใหญ่กลับมาแล้ว ท่านไม่นอนกับพี่ใหญ่หรือเ้าคะ? ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้