เพราะวันนี้เป็วันทำงานหยางเฉินจึงรีบขับรถตรงไปยังบริษัทอวี้เหล่ย ทันทีที่ออกจากสถานีตำรวจแม้ว่าเขาจะไม่ได้ซื้ออาหารมาให้สาวๆ ในแผนก แต่ในฐานะพนักงานดีเด่นที่ตั้งใจทำงานหยางเฉินจึงไม่อาจล้มเลิกการเล่นเกมจนกว่าจะถึงเวลาเลิกงาน
ทันทีที่หยางเฉินเดินเข้ามาในแผนกเหล่าสาวๆ ต่างพากันพร้อมใจส่งสายตาฮึดฮัดไม่พอใจมาทางหยางเฉินนั่นทำให้หยางเฉินขนลุกซู่
"อรุณสวัสดิ์ครับ"หยางเฉินยังคงทักทายอย่างยิ้มแย้ม
"ฮึ่มมีใครบางคนละเลยพวกเรา และปล่อยให้พวกเราหิวโซั้แ่เช้า"จางไช่เบ้ริมฝีปากสีแดงของเธอ และบ่นขึ้นอย่างไม่พอใจ
หยางเฉินได้ยินดังนั้นก็รีบกล่าวตอบอย่างรวดเร็ว "ผมอธิบายได้เมื่อเช้านี้ผมเจอปัญหาบางอย่าง"
"ปัญหาอะไรล่ะ?"หญิงสาวถามอย่างหวาดระแวง
"เมื่อวานนี้ผมตกสาวคนหนึ่งได้ที่บาร์แล้วเราก็ไปต่อกันที่โรงแรมแต่สุดท้ายผมกลับโดนตำรวจจับในตอนเช้า และเมื่อออกจากสถานีตำรวจผมก็รีบมาที่นี่ทันทีอาหารเช้าก็ยังไม่ได้กินเลยด้วย" หยางเฉินพูดไปตามตรง
หญิงสาวหลายคนเมื่อได้ฟังก็ต่างเอามือก่ายหน้าผากเื่อย่างนี้ใครจะเชื่อได้ลง!?
"ผู้ชายขี้โม้อย่างนายน่ะหรือจะสามารถตกสาวได้? เธอคงไม่ใช่ไดโนเสาร์ใช่มั้ย?"
"นายแค่ตื่นสายแล้วลืมซื้ออาหารมาให้พวกเราใช่มั้ยล่ะ?พวกเราต่างรู้ว่านายมีชื่อเสียงในด้านการทำทุกวิถีทางที่จะไม่ต้องทำงาน เรายกโทษให้นายก็ได้ แต่นายก็ไม่จำเป็ต้องโกหกเื่ไร้สาระจริงมั้ย?"
"พี่ใหญ่หยางพี่ล่อลวงฉันทีฉันจะไปโรงแรมกับพี่ และจะให้ตำรวจมาจับ ฉันยังไม่เคยไปสถานีตำรวจเลยสักครั้งเดียว!"
"แม่จิ้งจอกเ้าเล่ห์ถ้าเธอ้าไปสถานีตำรวจ เธอก็แค่ไปขายบริการที่บาร์ก็พอแล้วล่ะ!ฮ่าๆๆ"
พวกผู้หญิงต่างพูดคุยกันอย่างสนุกสนานจนหยางเฉินตะลึงงันว่าไม่มีแม้สักคนเดียวที่จะเชื่อเขา
หยางเฉินรู้สึกหดหู่เขาพูดความจริงแต่กลับไม่มีคนเชื่อ โลกนี้กลับกลายเป็แบบนี้ได้อย่างไร!?
เื่นี้จบลงด้วยประการฉะนี้แลเมื่อหยางเฉินเดินกลับไปนั่งที่ จ้าวหงเยี่ยนเหลือบมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
"นายไปสถานีตำรวจมาจริงๆใช่หรือเปล่า?"
"ทำไมผมต้องโกหกด้วยล่ะผมยังทะเลาะกับครอบครัวฝ่ายหญิงอยู่เลย"
จ้าวหงเยี่ยนมองหยางเฉินด้วยสายตาชื่นชม
"นายนี่ช่างโชคร้ายจริงๆนอกใจคืนเดียวก็เจอแบบนั้นเข้าซะแล้ว ฉันไม่เคยเห็นผู้ชายล้มเหลวอย่างนายมาก่อน"
"หึคุณคิดว่าการนอกใจเป็เื่ง่ายงั้นหรือไง?" หยางเฉินก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ "คุณลองนอกใจสามีดูมั้ยล่ะห้ามให้เขาจับได้ด้วย"
จ้าวหงเยี่ยนได้ยินดังนั้นก็ทำหน้าตาสนุกสนานเธอมองมาที่หยางเฉินพร้อมกล่าวว่า
"นายพูดอะไรของนายน่ะหญิงสาวสูงศักดิ์อย่างฉัน ควรที่จะอุทิศชีวิตมุ่งมั่นเพื่อความสุขของครอบครัว"
"แล้วใครเอ่ยที่แค่แตะติดหน่อยก็เปียกซะแล้ว" หยางเฉินกระซิบ
จ้าวหงเยี่ยนเงยหน้าขึ้นตบบ่าหยางเฉินหลายครั้งและกล่าวด้วยใบหน้าอันแดงก่ำว่า
"นายห้ามพูดแบบนี้อีกเด็ดขาดฉันแค่อยากให้นายเป็เพื่อนร่วมงานธรรมดาและฉันก็ไม่ได้มีความคิดสกปรกแบบนาย"
"ความคิดที่สกปรกเหรอ..."หยางเฉินพูดเย้ยพลางจ้องมองผู้หญิงขี้อายที่แต่งงานแล้วตรงหน้าเขา "ก็คุณเล่นแต่งตัวซะเปิดเผยขนาดนั้นใครเขาจะไม่คิดกันล่ะ แล้วนอกจากนั้นผมยังไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้นเลยเื่สกปรกที่ว่าคุณคิดไปเองคนเดียวนะ?"
จ้าวหงเยี่ยนโกรธจนหน้าอกกระเพื่อมเธอหันหน้าหนีไปโดยไม่สนใจหยางเฉินอีก
หลิวิอวี้สวมชุดสูทสีขาวเดินโบกมือไปมาวันนี้เธอดูอารมณ์ดีหลังจากไม่ต้องทนถูกคุกคามจากหัวหน้าหม่าเธอก็กลับมาสดใสงดงามเช่นดอกทิวลิปบาน
เธอยืนพิงโต๊ะหยางเฉินในมือถือถ้วยกาแฟเอวของเธอที่พิงโต๊ะถูกกดลงจนสามารถเห็นรูปร่างของก้นงอนงามที่สมบูรณ์แบบ
"หยางเฉินนายไม่ควรหยอกล้อหงเยี่ยนนะ เธอเป็ห่วงนายมาก เมื่อเห็นว่านายไม่ได้มาเธอยังให้ฉันโทรตามเลยแต่ใครจะรู้ว่านายปิดเครื่อง"
"พี่ิอวี้ใครจะสนคนใจร้ายคนนี้กัน เขาจะมาหรือไม่มาก็เื่ของเขา"
แต่หยางเฉินรู้สึกอบอุ่นในหัวใจดูเหมือนว่าผู้หญิงเหล่านี้นั้นเป็ห่วงเขาจริงๆ ดังนั้นเขาจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม "คุณเป็ห่วงผมงั้นเหรอ"
"ใครจะห่วงนายอย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย..." จ้าวหงเยี่ยนแกล้งทำเป็โกรธ เธอจ้องหน้าเขาแล้วหันไปทำอย่างอื่นทันที
หยางเฉินหันไปถามหลิวิอวี้
"แล้วคุณล่ะ?"
"ฉัน?"เมื่อถูกถามอย่างกะทันหัน หลิวิอวี้ก็ลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย
"นายต่างหากที่มักจะทำให้คนเจ็บช้ำจะมีใครทำอันตรายกับนายได้กัน?" พูดพลางเธอก็หายกลับไปนั่งที่อย่างรวดเร็ว
เล่นละครเก่งกันเสียจริงหยางเฉินยิ้มแล้วหันหน้าเข้าหาคอมพิวเตอร์ เตรียมพร้อมที่จะเล่นเกมต่อไป
เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวันพวกเขาทั้งสามต่างไปโรงอาหารรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย แต่แล้วจู่ๆ จางไช่ก็เอ่ยขึ้นมาว่า
"งานแฟชั่นฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะถึงนี้พวกเธอคิดว่าซีอีโอของเราจะออกจากโรงพยาบาลทันหรือเปล่า?"
"ถ้าซีอีโอไม่อยู่เมื่อถึงเวลาแฟชั่นโชว์ในปีนี้ย่อมขาดสีสันเป็อย่างมาก"หลิวิอวี้พูดขึ้นพลางหันไปหาหยางเฉินที่กำลังมุ่งมั่นกับการกินอาหารอยู่
"หยางเฉินไม่ว่าจะอะไรยังไงนายก็เป็พนักงานของบริษัทนายต้องรู้สิ่งที่เกิดขึ้นภายในบริษัทบ้าง"
เราจะต้องกังวลอะไรอีก?หยางเฉินแอบคิดในใจ กล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า
"ผมไม่ใช่หมอซะหน่อยถึงจะเป็ห่วงบอสหลินแค่ไหน แต่ผมก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้"
"คนใจดำ"จางไช่แลบลิ้นอย่างน่ารัก
"ภรรยาของนายน่าสงสารมากที่มีสามีอย่างนาย"
"ใช่นายแต่งงานแล้วแต่ยังไปเถลไถลในผับอีก แถมยังไม่ตั้งใจทำงานเอาแต่เล่นเกมไปวันๆฉันล่ะเชื่อจริงๆ ว่าผู้หญิงโง่คนไหนที่กล้าแต่งงานกับนาย"จ้าวหงเยี่ยนกล่าวเยาะเย้ย
หยางเฉินยิ้ม ผู้หญิงพวกนี้นึกว่าเขาพูดล้อเล่นไม่เช่นนั้นพวกเธอคงไม่ไปทานข้าวกับเขาหยางเฉินคิดว่าสัปดาห์หน้าเมื่อหลินรั่วซีออกจากโรงพยาบาลเขาเองก็มีเื่พูดคุยกับเธออยู่หลายเื่
สำหรับหญิงสาวที่รู้ว่าสามีถูกจับเพราะนอกใจแต่เธอยังคงส่งทนายความมาพาตัวเขาออกไป แน่นอนว่าเธอนับเป็คนประหลาดคนหนึ่ง
หยางเฉินี้เีคิดเื่นี้อีกเขาส่ายหัวไล่ความคิดดังกล่าวทิ้งไป ก่อนจะวางแผนรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ทันใดนั้นเองหางตาของเขาก็ไปสะดุดที่โม่เชี่ยนนีที่ไม่พบเจอมาหลายวันกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับเลขาของหลินรั่วซี อู๋เยวี่ย พร้อมด้วยหญิงสาวอีกไม่กี่คน
โม่เชี่ยนนีสวมเสื้อเชิ้ตแฟชั่นผ้าชีฟองกับเสื้อกั๊กสีน้ำตาลเข้มกางเกงขาม้า ดูแล้วเหมือนนักเลง และรองเท้าบู๊ทยาวสไตล์คาวบอยด้วยรูปร่างที่สง่างามของเธอนั้น ให้ความรู้สึกที่ดื้อดึง ไม่อ่อนข้อขณะที่เธอเดินเข้าไปในโรงอาหาร สายตาของพนักงานชายจำนวนมากต่างจับจ้องมาที่เธอ
อย่างไรก็ตามใบหน้างดงามของโม่เชี่ยนนีนั้นมีเค้าลางของความเหนื่อยอ่อน คิ้วของเธอขมวดเครียดในขณะที่เธอพูดคุยกับอู๋เยวี่ย เมื่อเธอพบเจอปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้
"หัวหน้าโม่ช่างน่าสงสารเสียจริงเมื่อเธอว่างงานจากแผนกประชาสัมพันธ์เมื่อใดเธอยังต้องรับผิดชอบงานของซีอีโอต่ออีก" จางไช่กล่าวเสียงเบาว่า "เข้าประชุมทุกวันและลงมาทานอาหารเมื่อประชุมเสร็จเท่านั้น"
"มีวิธีอื่นอีกหรือไงล่ะ?ซีอีโอไว้ใจหัวหน้าโม่มากที่สุดนอกจากนี้ใน่ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลกำไรของบริษัทก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าด้วยความสามารถของแผนกประชาสัมพันธ์ฉันคิดว่าเมื่อบอสหลินกลับมาหัวหน้าโม่ต้องได้รับรางวัลอย่างงามแน่ๆ"จ้าวหงเยี่ยนกล่าวขึ้นด้วยความชื่นชม
สองสาวกล่าวพลางหันไปมองหลิวิอวี้ที่ยังคงนิ่งเงียบ
หลิวิอวี้มองสองสาวอย่างงุนงง
"ทำไมพวกเธอมองฉันอย่างนั้น?"
จางไช่หัวเราะกล่าวว่า
"พี่ิอวี้เมื่อหัวหน้าหม่าลาออก คนที่จะขึ้นมาแทนเขาจะต้องเป็พี่ใช่มั้ย?"
"พวกเธอรู้ตัวมั้ยว่าพูดอะไรออกมา"หลิวิอวี้ยื่นมือมาหยิกแก้มนุ่มสีชมพูอ่อนของจางไช่ด้วยรอยยิ้ม พลางกล่าวว่า"คำพูดพวกนี้จะพูดสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะ"
"แต่มันจริงนี่นา"จ้าวหงเยี่ยนเห็นด้วยกับความเห็นของจางไช่
"พี่ิอวี้เป็อันดับหนึ่งในแผนกพวกเขาไม่สามารถนำคนนอกมาเป็หัวหน้าแผนกของพวกเราได้!พวกเราพร้อมที่สนับสนุนพี่ิอวี้นะ!"
เมื่อเห็นหลิวิอวี้แสดงท่าทางมีความสุขหยางเฉินก็ไม่อาจทำอย่างไรได้ เขากล่าวว่า
"พวกคุณทำเสียงเหมือนเป็คณะกรรมการที่สามารถตัดสินใครก็ได้อย่างงั้นแหละ"
"หุบปาก!กินๆ เข้าไปซะ!" หญิงสาวทั้งสามพร้อมใจกันพูดขึ้นมาในเวลาเดียวกัน
"ผมจะกินข้าวได้อย่างไรในเมื่อพวกคุณสั่งให้หุบปากอยู่..."หยางเฉินพึมพำ และไม่พูดอะไรอีก
ในขณะนั้นเองโม่เชี่ยนนีที่เดินผ่านทั้งสี่ไปไม่นาน เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นหลังจากหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้ว สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป เธอทำเสียง ''ฮึ่ม''ก่อนจะกดรับโทรศัพท์
เมื่อโม่เชี่ยนนีหันกลับมาเธอก็สังเกตเห็นหยางเฉินซึ่งกำลังทานข้าวอยู่ เธอลังเลเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปหาแล้วกล่าวว่า
"หยางเฉินตามฉันมาฉันมีเื่บางอย่างอยากให้นายช่วย"
"อ่า?แต่ผมกำลังทานข้าว..."
"ช่างมันนายไม่หิวตายหรอก นี่เป็คำสั่ง!" โม่เชี่ยนนีจ้องไปที่ชายหนุ่มที่ยังมีท่าทางเกียจคร้านอยู่ตลอดเวลาเพียงแค่มองก็ทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที
หยางเฉินรู้สึกช่วยไม่ได้ถ้าเธอเป็แค่หัวหน้าเขาอาจจะละเลยทำเป็ไม่สนใจ แต่เธอยังเป็เพื่อนลับๆของเขาด้วย นั้นมันจะไม่ดีแน่ถ้าเขาปฏิเสธเธอ
"เอาล่ะแต่ถ้าผมเกิดหิวขึ้นมา คุณอย่าลืมเลี้ยงข้าวผมด้วยล่ะ"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้