“ตูม!”
“ตูม เปรี้ยง…”
เสียงสายฟ้าผ่าอย่างรุนแรง กระเรียนเหมันต์ก็ไม่ยอมอ่อนข้อ
ลุงเยี่ยนกำสองมือแน่น เขาแอบให้กำลังใจจั๋วอวี้หวั่นอยู่เงียบๆ
เหลียนเว่ยฉีมองการต่อสู้ด้วยความใ จากนั้นจึงส่ายศีรษะด้วยความเสียดาย เขาไม่ได้มองผิดไปจริงๆ จั๋วอวี้หวั่นไม่เพียงมีพร์ระดับสูง จิตใจก็อยู่ในระดับสูงเช่นกัน น่าเสียดายที่ธิดาแห่ง์เช่นนี้จะต้องมาตายเสียที่นี่…ตระกูลซีโหลวมิอาจปล่อยเสี้ยนหนามทิ้งไว้ได้เยี่ยงนี้
หลังจากิญญาเซียนของจั๋วอวี้หวั่นเกิดวิวัฒนาการ นางจึงทุ่มกำลังเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ ทว่านั่นเป็เพียงปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นในนิทานเท่านั้น ที่นี่นางไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย ไม่ว่าอย่างไรตระกูลซีโหลวก็ไม่มีทางให้โอกาสนางได้เติบโต
……
“เด็กสาวตระกูลจั๋ว เ้าไม่เลวจริงๆ น่าเสียดายที่เ้ายังขาดเวลาฝึกฝนอีกมาก!”
เมื่อป้าเหลยหลิงได้สติกลับมา นางก็ไม่ได้สนใจนัก กลับเผยรอยยิ้มอันบิดเบี้ยวพร้อมกล่าวออกมาว่า “สิ่งที่ข้าชื่นชอบมากที่สุดก็คือการทำลายอัจฉริยะอย่างเ้า! เพียงแค่คิดข้าก็มีความสุขแล้ว…เคี้ยกๆ เคี้ยกๆ!”
เมื่อกล่าวจบหญิงชราปลดปล่อยพลังิญญาที่รุนแรงยิ่งขึ้น
“เปรี้ยงๆ…”
ภายใต้สายฟ้าที่โหมกระหน่ำ เงากระเรียนเหมันต์เริ่มถูกกดดันอีกครั้ง ร่างของจั๋วอวี้หวั่นหนักอึ้งขึ้นทันทีและมีเืไหลที่มุมปาก
“พี่หญิงอวี้หวั่น ท่านจะมาตบข้ามิใช่หรือ? ท่านมาตบข้าสิ!”
อาจเป็เพราะซีโหลวรั่วเมิ่งอดกลั้นมานาน วันนี้จึงไม่คิดปิดบังนิสัยที่แท้จริงอีก นางแสดงความหยิ่งยโส ไม่เห็นผู้ใดในสายตา
“ฮึฮึ…ตระกูลจั๋วของพวกเ้าล้วนแต่เป็พวกขยะ เป็ถึงคุณหนูใหญ่ แต่ก็ยัง…”
นางพูดยังไม่ทันจบ ซีโหลวรั่วเมิ่งก็เห็นเงาหนึ่งพุ่งเข้าใส่ ก่อนจะรู้สึกเจ็บร้อนที่ใบหน้า
“เพี๊ยะ!”
เสียงตบฝ่ามือดังขึ้น ใบหน้าของซีโหลวรั่วเมิ่งมีรอยนิ้วมือห้านิ้วอย่างชัดเจน และคนที่ตบนางก็มิใช่ใครอื่น เขาก็คือจั๋วอวิ๋นเซียนที่ไม่พูดไม่จาั้แ่นางออกมา
“พี่หญิงของข้าบอกว่าเ้าสมควรโดนตบ เ้าก็ต้องโดนตบ”
จั๋วอวิ๋นเซียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็าจนทำให้ผู้คนยากจะเชื่อว่าเขาเป็เพียงเด็กหนุ่มอายุราวสิบสองสิบสามปีเท่านั้น
……
วันนี้เกิดเื่ราวขึ้นมากมาย ทำให้ชีวิตที่เงียบสงบของจั๋วอวิ๋นเซียนเกิดคลื่นลูกใหญ่และทำให้เขามีความเห็นในปัญหาหลายๆ เื่ต่างออกไป
กฎหมาย บางครั้งก็มิใช่กฎ แต่อาจจะเป็ข้อผูกมัด
อิสระ บางครั้งก็มิใช่อิสระ แต่อาจจะเป็การเอาแต่ใจ
วิถีเซียนยากไขว่คว้า มิใช่ฝึกวิทยายุทธ์ไม่ได้ แต่เป็เพราะจิตใจยากจะบรรลุ…โลกมนุษย์เต็มไปด้วยความทุกข์ยาก แต่ไม่ลึกเท่าหุบเหวหมื่นจั้ง ทว่าความชั่วร้ายในจิตใจมนุษย์นั้นกลับยากแท้หยั่งถึง
แผ่นดินเซียนฉยงทุกคนสามารถบำเพ็ญเซียน แต่มิใช่ทุกคนจะมีจิตใจมุ่งสู่วิถีเซียนอย่างเดียว เมื่อเกิดเื่ราวมากมายที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ ก็จะมิใช่เื่บริสุทธิ์อีกต่อไป
ดังนั้นฝ่ามือของจั๋วอวิ๋นเซียนไม่เพียงตบที่หน้าของซีโหลวรั่วเมิ่ง ยังเป็การเคาะความยึดมั่นในใจของเขา…เขาสามารถเก็บซ่อนฝีมือต่อไปได้ แต่เขาไม่อยากกล้ำกลืนฝืนทนอีกต่อไป เขาสามารถแกล้งบ้าได้ แต่เขาจะไม่ยอมก้มศีรษะให้ผู้ใด เขาสามารถละทิ้งทุกสิ่งได้ แต่เขาไม่ยอมคุกเข่าขอร้องเด็ดขาด…โดยเฉพาะเมื่อครอบครัวกับสหายของเขาโดนข่มขู่
สำหรับคำสั่งและคำเตือนของจั๋วฟู่ไห่…
จั๋วอวิ๋นเซียนไม่ได้คิดเื่เ่าั้อีก เพราะนั่นไม่ใช่วิถีเซียนของเขา เขารู้ว่าการลงมือครั้งนี้อาจจะเปิดเผยความลับของตัวเอง ทำให้เกิดเื่ยุ่งยากหรือเกิดอันตรายมากมาย…แต่ถึงเป็เช่นนั้นแล้วจะเป็เช่นไร!
หากหายใจไม่สะดวก จะมีชีวิตนิรันดร์ได้อย่างไร?
หากคิดไม่ออก จะมีอิสระได้อย่างไร?
หากจิตไม่กระจ่าง จะอยู่เหนือผู้คนได้อย่างไร?
นี่ก็คือวิถีเซียนที่เขาไขว่คว้า ไม่สนว่าเป็หรือตาย ไม่เกี่ยวว่าถูกหรือผิด
ถ้ามีวันหนึ่งที่เขามิอาจไขว่คว้าวิถีเซียนได้ เขาก็ยินดีตายบนเส้นทางแห่งเซียน นี่เรียกว่าใจมุ่งวิถี แข็งแกร่งดุจหินผา เปล่งประกายดุจอัญมณี
……
บรรยากาศในจวนเงียบกริบ แม้แต่ป้าเหลยหลิงก็ยังยืนอึ้งอยู่กับที่ ไม่ได้สติกลับมา
“เ้า…เ้ากล้าตบข้าหรือ?”
ซีโหลวรั่วเมิ่งมึนงงไปหมดแล้ว นางจับหน้าตัวเองจนลืมตอบโต้
“ทำไมข้าจะตบเ้าไม่ได้?”
จั๋วอวิ๋นเซียนยืนอยู่ด้านหน้าของนาง สายตายังคงสงบนิ่ง
ทุกคนถึงนึกขึ้นได้ว่า ไม่ว่าซีโหลวรั่วเมิ่งจะหยิ่งผยองและเผด็จการเพียงใด แต่ในทางความเป็จริงแล้วนางเป็สะใภ้ตระกูลจั๋ว จั๋วอวิ๋นเซียนจึงมีสิทธิ์สั่งสอนนาง
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเห็นซีโหลวรั่วเมิ่งถูกตบหน้า ผู้คนไม่น้อยล้วนรู้สึกสะใจมาก โดยเฉพาะคนตระกูลจั๋ว
เมื่อมองตามหลักการแล้ว ถ้าบ้านใดที่มีสะใภ้ชั่วร้ายเช่นนี้ เรียกได้ว่าโชคร้ายไปแปดชาติ ไม่ว่าเป็บุรุษคนไหนก็คงมิอาจทนไหว!
แน่นอนว่าเงื่อนไขคือต้องสู้กับอีกฝ่ายได้
……
“ขยะอย่างเ้ากล้าตบข้าหรือ?”
ในเวลานี้แม้แต่ซีโหลวรั่วเมิ่งก็มิอยากเชื่อ ทั้งโมโหและอับอายจนทำให้นางลืมแผนการและเสียสติไป
ตบก็ตบไปแล้วยังจะถามว่ากล้าไม่กล้าอีก? แบบนี้ไม่เรียกโง่หรือ?
มีคนไม่น้อยที่แอบหัวเราะ แต่ไม่มีเสียงดังออกมา เพราะกลัวติดร่างแหไปด้วย
“ขะ…ข้าจะฆ่าเ้า!”
ก่อนที่ซีโหลวรั่วเมิ่งจะะเิความโกรธ จั๋วอวิ๋นเซียนได้หยิบกระบี่สั้นเล่มหนึ่งออกมา ทว่าเมื่อใดไม่มีใครทราบ เขาฟันกระบี่ชิงถุงเก็บของของนางมา ในเวลาเดียวกันก็ถือกระบี่จ่อที่คอของนาง ความหนาวเย็นแพร่กระจายจากปลายกระบี่ทิ่มแทงที่ใจของนาง
“ถ้าเ้าขยับ ข้าจะเฉือนร่างของเ้า!”
จั๋วอวิ๋นเซียนกล่าวเตือนอย่างจริงจัง ทว่าซีโหลวรั่วเมิ่งกลับมิได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย
“จะทำร้ายข้า? เ้ากล้าหรือ!”
“ฉึก!”
เสียงแทงดังขึ้นพร้อมกับาแบนไหล่ของซีโหลวรั่วเมิ่ง ชุดผ้าไหมของนางถูกย้อมด้วยสีแดงเื
“ถ้าข้าตายไป ทั้งตระกูลจั๋วจะต้องตายไปพร้อมกับข้า!”
“ฉึก!”
ไหล่อีกข้างของซีโหลวรั่วเมิ่งถูกแทงจนอาบย้อมไปด้วยเือีกครั้ง
ผู้คนรอบด้านหายใจแรงอย่างห้ามไม่ได้ พวกเขาคิดไม่ถึงว่าจั๋วอวิ๋นเซียนที่ดูท่าทางอ่อนแอจะเป็คนเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ อีกทั้งยังลงมืออย่างโเี้
“เ้า…เ้ามันคนบ้า!”
“ฉึก!”
จั๋วอวิ๋นเซียนแทงกระบี่อีกครั้งโดยไม่พูดไม่จา เขารู้สึกเริ่มเหนื่อยแล้ว
“……”
ในที่สุดซีโหลวรั่วเมิ่งก็หยุดความป่าเถื่อนและความไร้เหตุผล นางถูกแทงสามครั้งติดกัน นั่นไม่ได้ทำให้นางโมโหอาละวาด กลับทำให้นางค่อยๆ ใจเย็นลง
หากพูดถึงระดับพลัง ซีโหลวรั่วเมิ่งเปิดจิตรอบที่สามแล้ว จึงมิใช่คนอ่อนแอ…แต่นางกลับถูกจั๋วอวิ๋นเซียนจับอย่างง่ายดาย อีกทั้งนางยังััคลื่นพลังิญญาจากร่างของเขาไม่ได้เลย หรือก็คือจั๋วอวิ๋นเซียนมิใช่ผู้บำเพ็ญเซียนที่แท้จริง อย่างน้อยก็ยังไม่ได้ปลุกพร์และหลอมิญญาเปิดจิต
“ไอ้เด็กสารเลว! ปล่อยคุณหนูของข้าเสีย มิเช่นนั้นข้าจะสังหารพวกเ้าล้างตระกูล!”
ป้าเหลยหลิงถูกจับจุดอ่อนจึงไม่กล้าลงมือทำได้เพียงข่มขู่
จั๋วอวิ๋นเซียนไม่ได้เคลื่อนไหว “เก็บไข่มุกอัสนีของเ้า ถอยหลังไปห้าสิบก้าว…หากขาดไปแม้แต่ก้าวเดียวข้าจะแทงคุณหนูของพวกเ้า”
“เ้า…”
ป้าเหลยหลิงคิดจะะโด่า ทว่าเมื่อนึกถึงท่าทางโเี้ของอีกฝ่ายก็กล้ำกลืนคำพูดกลับไป
ดังคาดจั๋วอวิ๋นเซียนไม่ให้โอกาสใคร เขาหยิบะเิเพลิงอัสนีห้าลูกออกมาจากถุงเก็บของ ท่าทางเหมือนพร้อมสละชีพตายไปพร้อมกัน
หากใช้ ‘ะเิเพลิงอัสนี’ ต่อกรกับผู้บำเพ็ญเซียนระดับรวมพลังขึ้นไป อาจจะไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าจัดการกับผู้บำเพ็ญเซียนระดับผสานจิต กลับมีพลังทำลายล้างอย่างมาก
ป้าเหลยหลิงลังเลไม่น้อย แต่สุดท้ายก็ปล่อยจั๋วอวี้หวั่นและถอยออกไปห้าสิบก้าว
นางไม่กล้าเดิมพัน โดยเฉพาะเอาชีวิตของซีโหลวรั่วเมิ่งมาวางเดิมพัน ไม่ว่าสุดท้ายใครจะชนะ ล้วนมิได้มีผลลัพธ์ที่ดีต่อนางเลย
