“พาฝัน“ กับ “เทียร์“ ใช้เวลาไม่นานนัก ก็ได้เดินมาถึงจุดที่นัดหมายกับเพื่อนๆเรียบร้อยแล้ว โดยเป็จุดที่เป็ที่จอดรถตู้ ได้ และ ก็ได้เห็นเพื่อนๆอีกหลายคน มายืนรอกันอยู่ที่บริเวณจุดรอรถเรียบร้อยแล้ว
“ดูซิ... สองคู่รักคู่กัด มาถึงจนได้ คราวนี้ไม่สายนี่นา “
“แหมม...พูดอย่างกับ พวกชั้น มาสายตลอดงั้นล่ะ นานๆ ทีจะสายย่ะ !!! เงียบไปเลยนะ...”
หญิงสาวะโเสียงสูงใส่เพื่อนๆทันที ด้วยพลังเสียงระดับแปดหลอด อันนี้น่าจะเป็พลังพิเศษ อีกด้านหนึ่งของเธอก็ได้มั้งะโใส่ที เพื่อนๆ นี่แทบจะแก้วหูหลุด ออกมาจากหูเลยก็ว่าได้...นี่คงเป็พลังภายในของเธอซินะเนี่ย...ชายหนุ่มคิดก็สมกับมีความเป็เ้าป่าอยู่ในตัวดีนี่นะ...อื้อหือ เพื่อนๆเงียบกริบกันไปเลยทีเดียว ใช้ได้ๆ...ก็นับว่าเป็ข้อดีได้อยู่นะ คือเพื่อนๆเกรงใจนี่แหล่ะ
“ก็ถ้ามากันครบแล้ว...ก็เตรียมขนของ ขึ้นรถเถอะ...จะได้รีบไปเร็วๆ หนทางยังอยู่อีกไกลนะ กว่าจะถึงที่หมายบนดอยน่ะ ข้ามคืนเชียวนะ ขืนชักช้ากัน เดี๋ยวก็ได้ถึงเอาพรุ่งนี้เที่ยงพอดี แทนที่จะได้ถึงสายๆแดดร้อนน้อยหน่อย ตอนเข้าที่พักจะได้สบายๆ“
หญิงสาวร่างเล็กใส่แว่นตากรอบบางเฉียบ มีส่วนสูงประมาณ 160 เิเ เธอเป็คนที่มีส่วนสัดที่ดูสมตัว มีใบหน้าที่กลมดูเป็รูปไข่ มีเรือนผมที่เป็ผมสั้นสยาย สีเทาอ่อน และในส่วนของผมที่ฟูหนา ก็มัดและตกแต่งด้วย ที่คาดผม ที่คาดเอาไว้อย่างสวยงามเป็ระเบียบ พร้อมกิ๊บรูปตุ๊กตาน่ารักๆ ที่ปักเสียบเอาไว้บนผมอยู่ 1 อัน รูปร่างหน้าตาโดยรวมของหญิงสาวผู้นี้ ก็จัดว่าเป็หญิงสาวที่มีความน่ารักมากๆคนหนึ่งเอ่ยปากพูดขึ้นมาต่อหน้าเพื่อนๆ
ซึ่งหญิงสาวเมื่อได้เอ่ยคำพูดนั้นขึ้น ก็ทำเอาทุกคน ต้องหันมามองเป็เสียงเดียวกัน ก่อนที่นาย “ต้อม“ หนึ่งในชายหนุ่มประจำกลุ่ม จะได้เอ่ยปากสนับสนุนขึ้นมาว่า
“เออ...ใช่ๆ ก็ดีนะ “ เกสร“ รีบไปกันเถอะ ถ้าไปถึงที่นั่นช้าแล้วต้องเดินขึ้นมาบนดอย ตอนแดดจ้าๆ คงจะเหนื่อยน่าดู ่นี้ก็เป็่หน้าร้อน อากาศก็ไม่ได้เย็นซะด้วยซิ...”
แล้วหญิงสาวที่ชื่อว่า “เกสร“ ก็เดินมาหา “พาฝัน” และ ก็ “ เทียร์“ แล้วเดินผ่านไปที่ “ เทียร์“ ช้าๆ ก่อนกระซิบเบาๆ พอให้ทั้งสองคนได้ยินว่า
“แหม...วันนี้ ก็ดูคึกคักแต่หัววันเลยนะคะ... คุณแม่เสือสาว “ กัญญาวีร์ “ เนี่ย...”
สำหรับชื่อ “ กัญญาวีร์” นั้น ที่จริงก็คือ ชื่อจริง ของ “ เทียร์ “ นั่นเอง และก็ใช่อย่างที่ทุกๆคนอาจจะเดาออกล่ะครับ...ผู้หญิงคนนี้นี่ก็เป็อีกหนึ่งความยุ่งยากของ “ พาฝัน” เหมือนกัน เนื่องด้วยทั้งสองสาวนี้ ก็ต่างเป็คนที่เรียกได้ว่ามี “ พลังพิเศษ “ เหมือนกัน ซึ่งทั้งสองคนนี่ก็จัดเป็คู่ขันแข่งกันในเชิงความรัก กันในตัวของ “ พาฝัน “ เองอยู่ในทีกันอยู่เสียด้วยซิ ซึ่งตัวของผู้ชายอย่างนาย “พาฝัน“ ที่ไม่ค่อยประสี ประสา เื่ของความรัก หรือเื่ผู้หญิงอะไรพวกนี้มากนัก ก็ทำตัวไม่ค่อยถูกอยู่หลายครั้งเหมือนกัน อย่างไรก็ตามสำหรับบุคคลภายนอกแล้ว ถ้าดูภาพลักษณ์โดยรวมๆแล้ว ผู้หญิงอย่าง “เกสร“ ก็ดูจะเป็ผู้หญิงที่ดูเรียบร้อยมากคนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ถ้าแค่ดูจากภายนอกแต่เพียงอย่างเดียว ก็คงจะเดาได้ยากว่า ที่จริงแล้วหญิงสาวคนนี้นี่ก็เป็คนที่ชอบการท้าชนซึ่งๆหน้า ประเภท “ตัวตึง“ อยู่คนหนึ่งเลยทีเดียว อย่างในครั้งนี้เป็ต้น....
“ พาฝัน ๆ ต่ะเอง มานั่งรถตู้กับเรา นะวันนี้ มีเื่อยากคุยด้วยเยอะเลย...นะๆ “
พูดพลางหญิงสาวก็เอื้อมมือไปคล้องแขนของชายหนุ่ม แล้วส่งสายตายิ้มหวานอย่างน่ารักที่สุดให้ และกระเถิบตัวมาเอาหัวซบที่แขนของชายหนุ่มอย่างนุ่มนวลเหมือนอย่างกับลูกแมวที่ขี้อ้อน พร้อมชายตาไปมองหญิงสาวอีกคนหนึ่ง ที่แม้จะมีความเป็ “ แมวใหญ่ “ อยู่กับตัวแท้ๆ แต่ก็แทบไม่เคยได้ทำสิ่งที่ออดอ้อนแบบนี้มาก่อน เลยไม่ต้องบอกเลยว่า ตอนนี้ระดับความฉุน พุ่งทะยานไปจนแทบจะถึงขั้นแปลงร่างได้อยู่แล้ว !!!
ซึ่งด้วยความรวดเร็วในการฉวยโอกาศ “ อ้อนขอความรัก “ ด้วยความว่องไวแบบนี้ แม้แต่ตัวของ “ พาฝัน “ เอง ก็ยังคาดไม่ถึง จนถึงกับทำอะไรไม่ถูก ยืนนิ่งเป็หุ่นไล่กากันเลยทีเดียว ส่วนหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ตัวเองนั้นก็ “ รักเหมือนกัน “ แต่เป็คนที่ปากหนัก ( และ มือหนัก เท้าหนักมากกว่าปากเป็อย่างยิ่ง ) รักชอบไม่ค่อยแสดงออกมากนัก เมื่อได้เห็นภาพนี้เข้า ก็ได้แต่กัดกรามกรอดๆ จนเขี้ยวงอกออกมา โดยที่ ชายหนุ่มอย่าง “ พาฝัน “ ก็เห็นอาการอยู่ แต่ก็ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร...
“ ทุกคนๆ เอาล่ะ...เดี๋ยวเราจะเดินทางกันละนะ แต่ทีนี้ เราจะเดินทางกันครั้งนี้ เราไม่ใช่จะแค่เดินทางกันเฉยๆ นะ เราจะมีการจับคู่ เป็บัดดี้กันด้วย ซึ่งเราก็จะให้คู่บัดดี้ นั้นได้ดูแลกันไป ตลอดทริปในครั้งนี้เลยทีเดียว นั่งรถก็นั่งด้วยกัน กินข้าวก็กินด้วยกัน ดีไหมล่ะทุกคน...เป็เกมส์น่ารักๆ ในหมู่คณะ เพื่อเชื่อมความสามัคคี “
“ ต้อม” ชายหนุ่มผู้ร่าเริงประกาศเกมส์เล่นสนุกๆกันเองในหมู่คณะขึ้นมา ซึ่งก็เรียกเสียงหัวเราะ และ ความครื้นเครงได้ในกลุ่มของสมาชิกเกือบทุกคน ยกเว้นอยู่บ้างบางคน เช่น “ เกสร “ นี่แหล่ะ....แหม่...หมูจะหามอยู่แล้วดันเอาคานเข้ามาสอดซะได้...
“ เอาเถอะ...ถ้าเป็เื่เสี่ยงโชค เสี่ยงดวง อะไรพรรค์แบบนี้ ฉันเองก็ไม่เคยแพ้ใครหรอกนะจะบอกให้...”
หญิงสาวร่างเล็ก ชยังคงแสดงความมั่นใจออกมาทางสีหน้า พลางขยับคอเสื้อ หยิบจี้ห้อยคอ ที่เป็รูปเด็กทารกเล็กๆ และ รูปสัตว์อะไรซักอย่างสองตัว ออกมา ให้ทั้ง “ พาฝัน “ และก็ “ เทียร์ “ ได้เห็น พลันก็มีไอพลังิญญาพวยพุ่งออกมาเป็รูปเด็กเล็กๆ ใส่ชุดไทย สีสันฉูดฉาด มานั่งอยู่บนบ่าของ “ เกสร” ซึ่งสร้างความลำบากใจให้กับคู่แข่งทางความรัก อย่าง “ เทียร์ “ เป็อย่างมาก เพราะถ้าเป็ในเื่นี้ เธอก็ไม่อาจจะทำอะไรแบบนี้ได้จริงๆ
“ กุมารทองลูกแม่ เดี๋ยวลูกจงไปจับสลาก ให้ แม่ได้อยู่กับ ผู้ชายคนนี้นะลูก...งานง่ายๆ เดี๋ยวแม่เลี้ยงน้ำหวาน กับ ซื้อของเล่นให้หลังงานเสร็จ “
สาวน้อย “ เกสร “ พูดด้วยน้ำเสียง อ่อนหวาน กับ กุมารทอง ที่ได้เรียกออกมา...
“ ได้ครับแม่...ของแบบนี้กล้วยๆ เลขท้ายสองตัว ผมยังจับให้แม่ออกบ่อยไป “
กุมารทองเจื้อยแจ้วเจรจาอย่างฉะฉาน
“ เฮ้ยยยย....แบบนี้มันได้ด้วยเหรอ...มันโกงกันชัดๆนี่....ทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ ? แบบนี้มันไม่แฟร์นี่หว่า ... “
พอเจอแบบนี้ สาว “ เทียร์ “ ที่เห็นิญญาเด็กกุมารทองได้ด้วยเหมือนกัน ก็โวยวายยกใหญ่...ส่วน ชายหนุ่มอย่าง “ พาฝัน “ ที่ก็เห็นิญญากับเขาเต็มๆ ได้อยู่แล้ว ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี....จะเข้าข้างก็ไม่เห็นอีกฝั่งเขาจะโกงอะไร เพราะทางนู้นเขาก็มีความสามารถแบบนั้น จะไปว่าเขาโกง ก็ไม่เต็มปากเท่าไหร่ ที่สำคัญรสััอันนุ่มนวลอ่อนหวานของสาวเ้าเมื่อกี้ ก็ทำให้ ชายหนุ่มที่มีความเป็มนุษย์ปุถุชนอย่างเขานั้นก็จิตใจหวั่นไหวอยู่เหมือนกัน แต่ไอ้ครั้นจะไปแก้ต่างให้สาวแว่น “ เกสร “ แบบออกนอกหน้า ก็นึกถึงสภาพของตัวเองว่าภัยอาจจะมาถึงตน หัวข้างซ้ายที่โน กับสีข้างที่ เจ็บอย่างกับกระดูกจะร้าวจากตอนที่แล้ว ก็ยังแปล็บๆอยู่เลย....ขืนพูดไม่เข้าหู แม่เสือโหด อย่าง “ เทียร์ “ อีก คงได้ไปนอนที่โรงพยาบาลแทนที่จะได้ไปเข้าค่าย งานนี้ตรู ขออยู่ฝั่งไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดก็แล้วกัน...เพื่อสภาพชีวิตและสังขารของตรู ซึ่งแค่นี้ก็ตัวระบมไปหมดแล้ว ถ้าจะโทษ ก็โทษตัวเองเถอะ...แม่เสือจอมโหด...ตอนนี้ขอตรูเปิดโหมดเอ๋อละ...ว่าแล้ว ชายหนุ่ม ก็เปิดโหมด “ เอ๋อ “ ยืนตรงน้ำลายไหลยืด ไร้การตอบสนองใดๆไปชั่วครู่ นี่ถ้าเอาหัวมุดดินแบบนกกระจอกเทศได้ ชายหนุ่มก็คงมุดไปแล้ว ( มีอะไรโทษตรูไม่ได้ละนะงานนี้ ตรูขอไม่ออกความคิดเห็น )
“ ฮึๆ ทำใจซะเถอะ...นะ...ฉันจะต้องได้นั่งกับ “ พาฝัน “ เขาแน่ๆ... มีเื่อะไรอยากคุยกันตั้งเยอะแยะ ส่วนคนที่ไม่เกี่ยวอย่างเธอ ก็จะไปอยู่ตรงไหนก็แล้วแต่เถอะ....
ว่าแล้ว สาวน้อยใส่แว่น ที่ดูจะมีความร้ายกาจซุกซ่อนอยู่ มากกว่า สภาพตัวจริงๆที่เห็นมากนัก ก็เตรียมกลับหลังหันเพื่อจะเดินไปยังที่ มีการจับสลากอยู่....
แต่ทันใดนั้นก็เหมือนมีสายลมที่รุนแรงอันหนึ่งพัดผ่านตัวของเธอไปอย่างรวดเร็ว...ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น ก็คือสาวผู้มีพลังสมิงอยู่ในตัวนั่นเอง ซึ่งตอนนี้ เรียกได้ว่า แทบจะเรียกพลังิญญาออกมาจนแทบจะมีหางโผล่ออกมาแล้ว
“ จะเห็นสลากแล้วยังไงล่ะ...ถ้าฉันวิ่งไปจับได้ก่อน ก็ได้ลุ้นก่อนเหมือนกันล่ะฟระ “
เสียงสาวพลังสมิงคำรามออกมาในลำคอเบาๆแบบมุ่งมั่นเต็มที่ ก่อนจะวิ่งด้วยความเร็วสูง ในระดับที่ถ้าจับเวลาอาจจะไปลงแข่งวิ่ง 100 เมตร ชิงเหรียญทองกีฬาแห่งชาติได้สบายๆ
“ กุมารทอง ลูกแม่...ไปจับขา ยัยสมิงสาวนั่นเอาไว้...อย่าให้วิ่งได้เร็วแบบนั้น !!! “
สาวแว่นตัวน้อย พูดแล้วก็ส่งสัญญาณ โบกมือไปข้างหน้า จากนั้นเงาดำรูปเด็กน้อยก็พุ่งวูบไปหาสมิงสาวอย่างรวดเร็วซึ่งเื่ที่เกิดขึ้นนี้ นอกจากทั้งสองคนและพ่อหนุ่ม “ พาฝัน “ ของเราแล้ว ถ้าเป็คนธรรมดาๆมามอง ก็จะไม่มีใครเห็นอะไรที่ผิดแปลก ทุกคนก็เห็นเป็แค่ สองคนนี้กำลังวิ่งไล่กันธรรมดา เพียงแต่สาวทิ่วิ่งอยู่ข้างหน้านั้น ถ้ามีการจับความเร็วนี่ น่าจะวิ่งเร็วในระดับ นักวิ่งโอลิมปิคเลยทีเดียว ...ส่วนอีกคนที่วิ่งตามหลังมานั้นก็ความเร็วธรรมดาๆ ออกไปทางช้าๆ เท่านั้นเอง เพียงแต่ตอนนี้ ทุกๆคนในรถ กำลังทำการจับสลากกันอยู่ ก็เลยมีแต่ความฮาเฮในหมู่คณะ ไม่มีใครที่หันมามองทั้งสามคนนี้เลยซักคน....
“ พลั่กกกกก....แหมะ... “
เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งล้มคะมำลงไปกับพื้นแบบหน้าฟาดลงไปบนดินทั้งใบหน้า ก่อนจะลุกขึ้นมาแล้วหันหน้าที่เต็มไปด้วย กรวด ทรายเล็กๆ แปะเต็มหน้ามาช้าๆ มองไปยัง สาวแว่น ที่กำลังวิ่งตามมาอย่างเดือดดาลก่อนเอื้อมมือไปทำท่าฟาดไปมาที่ขาของตัวเอง ซึ่งคนทั่วๆ ไป มองดู ก็จะเห็นเป็แค่การปัดฝุ่นที่เข่าธรรมดา แต่ในสายตาของชายหนุ่มที่มองเห็นก็คือ สาวพลังสมิง ใช้อุ้งมือ ที่ตอนนี้มีพลังของเสือสถิตอยู่จนเห็นเป็รัศมีได้ชัดเจน ฟาดเข้าใส่กุมารทองอย่างไม่ยั้ง เหมือนเสือตะปบเหยื่อ แล้วจากนั้นก็เอามือปัดจนกุมารทองที่มาฉุดขาเอาไว้ นอนหมอบราบคาบแก้ว แล้วจากนั้นก็กระทืบๆ ไม่ยั้ง แล้วก็เตะ จนเ้ากุมารทองกระเด็นกลิ้งโคโล่ไปเหมือนลูกขนุนเลยทีเดียว เรียกได้ว่าจัดหนัก แบบไม่คิดห่วง ภาพลักษณ์ความเป็ผู้หญิง กับ สวัสดิภาพเด็กเล็ก อย่างนางสาวไทยกันเลยทีเดียวเชียว....จน กุมารทองน้อย ต้องรีบวิ่งแจ้น คลานมาเกาะขา แม่สาวแว่น ผู้เป็เ้าของแบบกลัวลนลานเลยทีเดียว
“ แม่ๆ อีเสือสมิง นี่มันโหดเหลือเกิน มันทั้งตบ ทั้งกระทืบ จนหนูช้ำในไปหมดแล้วจ๊ะแม่...โหดแบบนี้ให้มันไปสู้กับเทวฑูตทั้ง 13 ตน ที่จะมาทำลายโลก ในการ์ตูนที่แม่เปิด ให้หนูดูยามว่างเถอะเื่ “ อีวาๆ “ อะไรซักอย่างนี่แหล่ะ ถ้ามันจะโหดขนาดนี้...หนูไม่ไหวจริงๆแม่...”
ชายหนุ่มรีบวิ่งไปขวางหน้าสมิงสาวที่ตอนนี้ เหมือนจะสติหลุดไปเรียบร้อยแล้ว และกำลังเดินตาขวางเยื้องย่างกรายเข้ามาหา สาวแว่น อย่างกับ เสือ กำลังจะมาขย้ำเหยื่อก็ไม่ปาน...
“ หยุดนะ.... เทียรรรรรรรรรรร์ ..... แอ๊กกกกกกกกกซ์ !!!! “
เรียบร้อย...พระเอกของเรา กระเด็นออกไปนอนดมปริมาณฝุ่น PM 2.5 อยู่ตรงพื้นข้างทางใกล้ๆ ไปเรียบร้อย อย่างง่ายดาย...สำหรับเอ็งน่ะ ยืนเป็ต้นไม้อยู่เฉยๆ เหมือนตอนแรกก็ดีแล้ว...ปัทโธ่...เอ๊ย...
ส่วน สาวแว่น ที่ตอนนี้เหมือนจะหลับตาลงเล็กน้อย และรำพึงออกมาพอที่จะได้ยินกันทั้งสามคน
“ ฉันขอพูดอะไรสั้นๆ ซักสามคำได้ไหม.... “
และก็มีเสียงของคนที่กำลังเดินย่างกรายเข้ามา พูดขึ้นมาช้าๆ
“ ถ้าคิดว่า จะพูดว่า “ ขอโทษนะ “ แล้วมันจะจบได้ทุกเื่จริงๆ าโลก คงไม่มีแล้วล่ะว่ะ !!! ตะกี้ตอนล้มนี่ ปากฉันแตกเลยเห็นไหม ที่ล้มไปหน้าฟาดอ่ะ !!!! ดีเท่าไหร่แล้ว ฟันไม่หัก....ยัยแว่น โอตาคุ มูเตลู !!! วันนี้ฉันขอโบกให้จั๋งหนับ เอาให้แว่นกระเด็น ซักทีเถอะว่ะ...เหย็ดแหม๋...หัวดร่ออ...เดื่ออนนน....”
สาวแว่นตัวเล็ก จึงได้แต่เหลือบมอง พลางยักคอเอียงลงนิดหน่อย ถอนหายใจนิดๆ แล้วก็พูดสั้นๆว่า….
“ เปล๊า...ฉันก็ไม่ได้คิดว่า ฉันจะห้ามอะไรเธอได้หรอก ฉันเองก็รู้สันดานเธอมาั้แ่เด็กๆแล้ว ก็แค่อยากพูดว่า...
“ ก็มาดิ...!!! ( สัส ) “
สาวแว่นตัวน้อยพูดเสร็จก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าหยิบเอาวัตถุบางสิ่งออกมาจากกระเป๋าย่ามใบเล็ก ก่อนแบมือแล้วเป่าลมใส่วัตถุนั้นเบาๆ น่าอัศจรรย์ ที่หลังจากเป่าลมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เกิดฝุ่นฟุ้งขึ้นมาข้างหน้าของสาวน้อยและฝุ่นพวกนั้นก็ค่อยๆจางหาย และ ปรากฏร่างของบางสิ่งขึ้นมา ที่มีขนาดใหญ่ดุจดังูเาย่อมๆมันเป็ ภาพของมหิงสาขนาดใหญ่ที่มีเนื้อตัวสีโทนแดงสด และ สีโทนดำจนดำมะเมื่อมเป็เงาไปทั้งตัว มหิงสาิญญาทั้งสองตน มีความสูงแทบจะท่วมหัวผู้ใหญ่ที่สูงกว่า 190 เมตรเลยทีเดียว เฉียดๆ 2 เมตรก็ไม่ปาน...โผล่ขึ้นมาอยู่ที่ด้านหน้า โดยที่เ้ากระทิงเวทย์มนตร์ทั้งสองตัว มีอักขระยันต์อยู่เต็มตัว และ ดวงตาลุกเป็ไฟแดงฉาน...ทั้งสองฝั่งกำลังทำท่าเตรียมจะเข้าปะทะกันเต็มที่....
จากนั้น สติของชายหนุ่ม ก็หล่นวูบลงไป...ไม่ได้เห็นอะไรนอกเหนือจากนั้นอีกแล้ว
ชายหนุ่มรู้สึกตัวขึ้นมาอีกที ก็เมื่อได้กลิ่นอะไรหอมๆ เย็นๆ อยู่ที่ปลายจมูก ก่อน ลืมตาตื่นขึ้นมา รู้สึกมีนงง ตาพร่ามัว ต้องปรับสายตาซักนิด ก่อนที่จะได้เจอเห็นภาพของเพื่อนๆ ที่มาล้อมวงอยู่รอบๆตัว แต่เหมือนกับว่าเขาจะอยู่บนรถเรียบร้อยแล้ว และ รถก็กำลังวิ่งอยู่
“ เอ้า ตื่นแล้วเหรอ...แหม่ สลบไปพักหนึ่งเลยนะเอ็ง...โดนผู้หญิงซัดซะสลบคาที่เลย โถ พ่อคนเสน่ห์แรงห้ามผู้หญิงตีกันยังไง...ให้ตัวเองไปนอนหลับผล๋อย ดมกองฝุ่นซะอย่างนั้นเล่า... “
ชายหนุ่มชื่อ “ ต้อม “ พูดแล้วก็หัวเราะดังลั่น แบบคนอารมณ์ดี
“ ไอ้ต้อมเอ๊ย...เอ็ง...ก็ลองมาโดน ยัยเทียร์ ตอนิญญาสมิงสำแดงเดช ซัดดูบ้างดิ ...ตรูว่า แรงมันก็พอๆกับ โดน นักมวยดังๆ ในตำนาน อย่าง บัวขาว หรือ นักชกอย่าง เขาทราย กาแล็คซี่ มาหวดชายโครง หรือ ฮุคเข้าหน้าท้องเต็มๆ นั่นแหล่ะ...ตรูไม่นอนคายของเก่าอยู่กับที่ หรือ โดนหามไปโรงพยาบาลก็บุญแล้ว ขนาดนี่เป็นักว่ายน้ำของคณะฯ ก็มีร่างกายแข็งแรงพอสมควร ยังสภาพเป็แบบนี้เลย ถ้านายโดนเสียเองไม่ใช่ฉันๆ ว่าดีไม่ดี มีหามเข้าโรงพยาบาล...”
ชายหนุ่มได้แต่คิดในใจแต่ไม่กล้าพูดออกไป เดี๋ยวคนจะหาว่าเขาเป็บ้าเป็บอไป ก็ในเมื่อเป็สิ่งที่มีแค่คนไม่กี่คนที่จะเห็นได้เท่านั้น...คนที่มีความพิเศษอย่างเขา และ พวกเธอมีไม่กี่คนในโลกหรอก
“ พาฝัน “ เกาหัวแกรกๆ แบบยังสงสัยไม่หายว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วพอมองไปทางซ้าย ก็เจอสาวแว่นตัวน้อยยิ้มเผล่ให้อย่างเป็ปกติ มองไปทางขวา ก็เจอ สาวแกร่งอีกคน ฉีกยิ้มให้เหมือนกัน แม้ว่าที่รอยปากจะมีร่องรอยของคราบเืจากปากที่แตกให้สังเกตเห็นอยู่นิดหน่อย ให้เห็นว่า เื่ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ความฝันก็ตาม แต่เขาก็ยังงงๆ อยากรู้ว่าตกลงแล้ว เื่มันเป็มายังไงอยู่ดี....
แต่เหมือนสองสาวจะอ่านใจชายหนุ่มได้ ก็เลยได้ยินประโยคเฉลยเื่ราวอ่อยๆ มาแทบจะพร้อมกันว่า
“ พอดี อาจารย์ แกเห็นเราไม่เดินไปจับซะที แถมมัวแต่ตั้งท่าจะทะเลาะกันอยู่ใกลๆอีก...แกรำคาญ เลยจับฉลากให้เองเสร็จตั้งนานแล้วอ่ะ...แล้วพวกเราก็ได้อยู่ด้วยกัน ก็เลยโอเค....ไม่อยากจะทะเลาะกันต่อละอ่ะ...แถมโดนอาจารย์ทั้งสองคนอบรมมาชุดใหญ่แล้ว จนหูแฉะละด้วย ตอนเตงสลบไปอ่ะ....บอกถ้าทะเลาะกันอีกที จะโดนตัดคะแนนความประพฤติแล้วอ่ะ...พวกเราเข็ดละ ไม่อยากทะเลาะกัน ( ในตอนนี้ ) อีกแล้วอ่ะ...”
แล้วทั้งสองคนก็พูดกันต่ออีกว่า
“ เสร็จแล้วเขาก็จับเรามาอยู่ด้วยกัน กะให้อยู่ด้วยกัน เสียให้เข็ดแบบนี้แหล่ะ...”
สองสาวสารภาพมาน้ำเสียงอ่อยๆ...ชายหนุ่มฟังแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ...พลางคิดว่า “ เจ็บตัวฟรี อีกละตรู “ ถ้าเป็แบบนี้บ่อยๆ คงไม่ดี ชีวิตเราจะสั้นเอานะเนี่ย....เฮ้อ...แต่อย่างน้อย เื่จบด้วยดีได้ก็ดีแล้ว เขานึกถึงตอนสมัยเด็กๆ ที่ไปเล่นกับพวกเ้าหล่อน แล้วเวลาพวกเ้าหล่อนทะเลาะกันที ก็ตีกันยับ จนปากเปิกแตกตาปิดไม่ได้ เแต่อีตอนใหนที่ดีๆกันนี่ ก็พอจะดูเข้ากันได้ เป็เพื่อนรักกันดีอยู่หรอกนะ...บางทีก็อาจจะเรียกได้ว่า “ สนิท เพราะตบตีกันบ่อย ก็ได้มั้ง... “ ก็คงเหมือน ลูกผู้ชายแหล่ะ ถึงแม้ว่าจะเคยเขม่น เคยต่อยกันบ่อยๆตอนวัยรุ่นแต่พอถึงเวลาโตเป็ผู้ใหญ่แล้ว ก็กลับกลายเป็เพื่อนตาย พึ่งพิงซึ่งกันและกันได้มากว่า คนที่ดูพูดดีๆ ต่อกันซะอีก เยอะแยะไป นึกๆแล้วชายหนุ่มก็แอบอมยิ้มอยู่คนเดียวเงียบๆ ไม่ได้....
ส่วนสองสาว ก็ได้แต่ แอบชายตามามอง ที่ชายหนุ่ม แล้วก็ได้แต่คิดอยู่ในใจเงียบๆ...ความคิดของทั้งสองคนล้วนคล้ายกันอยู่ในที...
“ ดูนั่นซิ...พ่อตัวการ ยังเหมือนไม่รู้สึกตัวเลยนะ...ว่าทำไม ผู้หญิงสองคนถึงต้องมาเขม่นกันแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะว่า ต่างคน ก็รู้ว่า ต่างก็รัก คนๆเดียวกัน มีเหรอ ที่จะต้องมาเขม่นแย่งชิงความรักกันถึงขนาดนี้...พ่อคนซื่อบื้อเอ๊ยย...ช่างไม่รู้ใจของผู้หญิงเอาซะเลย...แต่ก็โทษเธอไม่ได้หรอกนะ เธอเองก็มีสาเหตุที่ทำให้ไม่อาจตัดใจ เลือกใครคนหนึ่ง เพียงคนเดียว จากพวกเราสองคนได้นี่นะ...จริงๆพวกเราก็เข้าใจเธอดีนั่นแหล่ะ...แต่ก็นะอดจะมีความหึงหวงกันอยู่บ้างไม่ได้หรอก ...”
“ จริงๆแล้วถ้าเพื่อนของเราอีกคนหนึ่งยังคงมีชีวิตอยู่เหมือนคนทั่วไป....”พาฝัน “ คำตอบที่แท้จริง ในเื่ของความรักของเธอ อาจจะไม่ใช่พวกเราทั้งสองคนเลย ก็เป็ไปได้ซินะ... “
สองสาวได้แต่รำพึงรำพันในใจเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย...พร้อมด้วยความเจ็บแปล๊บ เข้าไปที่ก้นบึ้งของหัวใจ....กับคำถามที่ไม่้าคำตอบ...เพราะต่างก็รู้คำตอบอยู่ในใจของตนลึกๆอยู่แล้ว....
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้