สวี่เยว่เห็นจูฉีเจี้ยนเงียบไม่พูดไม่จา นึกว่าเขาไม่ยอมช่วย ดวงตาก็แดงก่ำขึ้นมาทันที
เธอถอดกำไลเงินออกจากข้อมือ ยัดใส่มือจูฉีเจี้ยนพลางพูดปนสะอื้น “นายเคยบอกว่ารักฉัน ที่แท้ก็หลอกกันทั้งนั้น ขอให้นายช่วยแค่นี้ก็ไม่ยอมช่วย”
จูฉีเจี้ยนร้อนรน รีบอธิบายทันที “ไม่ใช่ว่าฉันไม่ยอมช่วยเธอ แต่พี่สาวเธอ...เหมือนจะไม่ชอบฉันแล้ว ั้แ่สอบเข้ามหาลัยจนตอนนี้เธอก็ไม่เคยมาหาฉันเลย”
สีหน้าสวี่เยว่เคร่งขรึมขึ้นมาฉับพลัน
หรือว่า...ยัยงั่งจะรู้ความสัมพันธ์ของเธอกับจูฉีเจี้ยนแล้ว?
แต่เธอกังวลแค่เสี้ยววิเท่านั้นก็สบายใจแล้ว
ต่อให้สวี่ฮุ่ยรู้แล้วมันยังไง?
ขอแค่เธอกับจูฉีเจี้ยนยืนกรานปฏิเสธว่าพวกเขาบริสุทธิ์ใจ
เป็สวี่ฮุ่ยกับจูฉีเจี้ยนเองต่างหากที่ไม่บริสุทธิ์ใจ โดนเธอจับได้คาหนังคาเขา สวี่ฮุ่ยเลยใส่ร้ายป้ายสีเธอ แบบนั้นต่อให้สวี่ฮุ่ยะโลงแม่น้ำเหลืองก็ไม่มีวันล้างมลทินได้
แต่เื่เร่งด่วนที่สุดตอนนี้คือต้องทำให้สวี่ฮุ่ยยอมให้เธอสวมรอยไปเรียนมหาลัยแทนก่อน
แม้ว่าดูจากสถานการณ์ปัจจุบันแล้วจะมีความเป็ไปได้น้อย แต่ก็ต้องลองทำทุกวิถีทาง สวี่เยว่จะไม่ยอมปล่อยโอกาสใด ๆ ไปทั้งนั้น
สวี่เยว่ผลักจูฉีเจี้ยน “พี่สาวชอบนายมาั้แ่มัธยมต้น เธอโกรธอยู่นายแน่ ๆ นายไปง้อเธอดี ๆ เธอต้องยอมทำตามที่นายบอกทุกอย่างอยู่แล้ว”
จูฉีเจี้ยนเซไปเซมาตอนที่โดนสวี่เยว่ผลักจนชาไปทั้งตัว น้องชายถึงกับมีปฏิกิริยาตอบสนอง
เขาพยักหน้า “ตกลง ฉันจะลองดู”
สวี่เยว่ถึงให้จูฉีเจี้ยนสวมกำไลเงินให้เธอใหม่ แล้วกลับบ้านอย่างพึงพอใจ
แต่สวี่เยว่ถอดกำไลเงินออกจากข้อมือก่อนเข้าบ้าน เพราะกลัวพ่อแม่เห็นแล้วจะอธิบายไม่ได้
เธอตั้งใจว่าจะหาโอกาสเหมาะๆ กุเื่โกหกเพื่อให้กำไลเงินวงนี้มีที่มาที่ไป
สวี่ต้าซานทำอาหารเย็นเสร็จแล้ว เห็นลูกสาวคนเล็กกลับมา จึงยกอาหารไปวางบนโต๊ะ
สวี่เยว่เห็นสวี่ฮุ่ยไม่อยู่ในห้องนั่งเล่น คงอยู่ในห้อง ก็พูดเสียงหวาน “หนูไปเรียกพี่มากินข้าวนะคะ”
ถึงแม้กู่ซิ่วจะไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
สวี่เยว่เดินเข้าไปในห้องสวี่ฮุ่ย เอาสร้อยข้อมือที่จูฉีเจี้ยนให้มาอวดสวี่ฮุ่ย
“พี่ นี่คือของขวัญวันเกิดที่ฉันได้จากคนที่มาจีบ สวยไหมคะ?”
เธอจงใจพูดแบบนี้ก็เพื่อยั่วโมโหสวี่ฮุ่ย ้าแสดงให้เห็นว่าตัวเองมีเสน่ห์ มีผู้ชายให้ของขวัญวันเกิดราคาแพง
การแสดงแบบนี้ เธอแอบทำต่อหน้าสวี่ฮุ่ยหลายครั้งทุกปี โดยที่คนในครอบครัวไม่รู้
ชาติที่แล้ว สวี่ฮุ่ยถูกการกระทำเช่นนี้ของสวี่เยว่บั่นทอนจนด้อยค่าตัวเอง
สวี่ฮุ่ยจำกำไลเงินวงนี้ได้ทันที
กำไลเงินวงนี้ไม่ใช่กำไลที่จูฉีเจี้ยนทำหล่นลงมาจากตัวเขา หลังจงใจขี่จักรยานชนเธอจนตัวเองล้มลงไปพร้อมกับรถ ตอนเธอไปทวงเงินสองร้อยหยวนที่เคยจ่ายให้เขากับคุณย่า ่สอบเข้ามหาลัยเสร็จใหม่ๆ เหรอ?
ตอนนั้นจูฉีเจี้ยนนึกว่าเธอไม่เห็นกำไลวงนี้ เลยเอามาให้สวี่เยว่เป็ของขวัญวันเกิด แต่หารู้ไม่ว่าสวี่ฮุ่ยเห็นชัดเจนแจ่มแจ้ง
ทันใดนั้นสวี่ฮุ่ยก็เข้าใจว่าความจริงแล้วสวี่เยว่กับจูฉีเจี้ยนเป็แฟนกัน
มิน่าล่ะชาติก่อนจูฉีเจี้ยนถึงคอยเป่าหูเธอ บอกว่าเธอเป็พี่สาว ควรเสียสละเพื่อสวี่เยว่
ที่แท้สวี่เยว่ก็คือคนรักของเขา
ถึงว่าทำไมตอนที่จูฉีเจี้ยนคืนเงินเธอ เขาเลือกมาดักรอเจอเธอที่สถานีขนส่งตำบลเถาฮวาอย่างกับนกรู้ เพราะได้ยินจากปากสวี่เยว่ว่าเธอจะลงรถที่ตำบลเถาฮวานี่เอง
จูฉีเจี้ยนผลักเธอตกน้ำหวังจะฆ่าเธอครั้งนั้น คงเป็สวี่เยว่ที่บงการแน่ ๆ
เื่ราวมากมายที่เคยไม่เข้าใจ ตอนนี้สวี่ฮุ่ยหาคำตอบได้ทั้งหมดแล้ว
สวี่ฮุ่ยหัวเราะเยาะอย่างดูถูก “ที่แท้คนที่มาจีบเธอก็คือจูฉีเจี้ยนนี่เอง!”
“เด็กผู้หญิงคนอื่น ๆ ต่างกลัวด่างพร้อยจากลูกชายนักโทษ แต่เธอกลับเอามาอวดต่อหน้าฉัน น่าสมเพชจริง ๆ !”
“แต่จะว่าไป ผีเน่ากับโล่งผุก็เหมาะสมกันดีนะ คุ้มค่าแก่การอวดจริง ๆ นั่นแหละ!”
สวี่เยว่หน้าซีดเผือด ทั้งใและโกรธ
ยัยงั่งรู้ได้ยังไงว่ากำไลวงนี้จูฉีเจี้ยนให้?
แต่ช่างเถอะ ในเมื่อยัยงั่งรู้แล้วก็ยั่วโมโหให้มันตายไปเลย!
สวี่เยว่กลับมาเป็เหมือนเดิมในพริบตา เธอโต้กลับทันควัน “เธอหัวเราะเยาะเขาว่าเป็ลูกนักโทษ แต่เธอเลียแข้งเลียขาเขา เขาก็ยังไม่สนใจเธอเลยนี่? ”
เธอแกว่งกำไลเงินที่จูฉีเจี้ยนให้ต่อหน้าสวี่ฮุ่ย “ได้ยินมาว่ากำไลเงินวงนี้ซื้อด้วยเงินที่เธอให้เขาไปนี่ คนในดวงใจเอาเงินของเธอไปซื้อของขวัญให้ฉัน ถามหน่อยว่าเธอเจ็บใจไหม?”
สวี่ฮุ่ยทำท่าทีเฉยเมย “ไม่เจ็บ เพราะฉันทวงเงินคืนมาหมดแล้ว หมาจูมันไม่ได้บอกเธอเหรอ? เพราะงั้นกำไลเงินวงนี้ไม่ได้ซื้อด้วยเงินของฉันหรอกนะ”
“อย่านึกว่าฉันจงใจพูดแบบนี้เพื่อยั่วโมโหเธอ เธอไปถามผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านจูได้ ตอนที่จูฉีเจี้ยนคืนเงินให้ฉัน เขาก็อยู่ด้วย”
สวี่เยว่อึ้งจนตาค้าง
สวี่ฮุ่ยยังคงโจมตีต่อไป “ฉันก็ได้กำไลเงินจากคนอื่นมาเหมือนกัน”
เธอหยิบกำไลเงินที่สามพี่น้องลู่ฉี่โหย่วให้ขึ้นมาอวดสวี่เยว่ “หนักกว่ากำไลเงินของเธอเยอะเลยใช่ไหมล่ะ?”
“จริง ๆ ฉันไม่อยากอวดเธอหรอก แต่เธอเป็ฝ่ายบังคับฉันต้องทำให้เธอขายหน้าเอง”
“ในเมื่อขายหน้าแล้ว ก็เอาให้มันสุด ๆ ไปเลยแล้วกัน”
“กำไลเงินวงนี้ลู่ฉี่เสียนให้เป็ของขวัญวันเกิดฉัน”
“ถามหน่อยสิว่าเธอประหลาดใจไหม ใหรือเปล่า?”
เห็นสวี่เยว่เหมือนได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง สวี่ฮุ่ยก็ยิ้มมีความสุข
สวี่ต้าซานกับภรรยารออยู่นาน เห็นว่าไม่ใช่แค่สวี่ฮุ่ยที่ไม่ออกมากินข้าว แม้แต่สวี่เยว่ก็หายเข้ากลีบเมฆไปด้วย
กู่ซิ่วบ่นพึมพำอย่างไม่พอใจ “กินข้าวแค่นี้ยังต้องให้คนไปตามถึงรอบสองรอบ หาที่พึ่งพิงอย่างตระกูลลู่ได้แล้วนี่ คิดจะเหาะเหินเดินอากาศเลยหรือไง!”
สวี่ฮุ่ยเดินออกจากห้อง ตอบกลับอย่างเ็า “ใช่แล้วล่ะ! เพราะงั้นพวกคุณอย่ามายุ่งกับหนู ไม่อย่างนั้นหนูจะไปฟ้องคุณย่าลู่!”
กู่ซิ่วได้แต่กัดฟันกรอด ๆ
หลังกินข้าวเสร็จ สวี่ฮุ่ยถามขึ้น “ใครเป็คนรับใบตอบรับเข้าเรียนของหนู?”
กู่ซิ่วพูดแดกดัน “แกอยู่บ้านทุกวัน มีใบตอบรับเข้าเรียนมาหรือเปล่า แกเองไม่รู้เหรอ?”
สวี่ฮุ่ยไม่ต่อปากต่อคำกับเธอ พูดอย่างใจเย็น “ใครที่เอาใบตอบรับเข้าเรียนของหนูไว้แล้วไม่ยอมเอามาให้หนู รับผิดชอบผลที่ตามมาเองนะ”
ค่ำคืนล่วงเลยไป ทุกคนในบ้านเข้านอนกันหมดแล้ว แต่สวี่ฮุ่ยกลับไม่รู้สึกง่วงสักนิด เธอนอนเล่นกำไลเงินที่ลู่ฉี่เสียนให้ท่ามกลางความมืด
พลิกตัวไปมาบนเตียงพลางนึกถึงคำพูดของจ้าวชิงชิง
ในเมื่อเธอไม่ใช่มือที่สาม แถมยังเก่งอีกต่างหาก ทำไมจะจีบพี่ลู่ไม่ได้?
ถ้าในใจพี่ลู่มีเพียงคนที่เขาแอบชอบแล้วไม่ยอมรับเธอ อย่างน้อยเธอก็ได้พยายามแล้ว จะได้ไม่ต้องมานึกเสียใจภายหลัง
อีกคนที่นอนไม่หลับก็คือลู่ฉี่เสียน
บ่ายวันนี้ยังไม่ทันเลิกงาน ลู่ฉี่โหย่วน้องชายคนที่สามก็โทรมาหาเขา
บอกว่าวันนี้เป็วันเกิดของสวี่ฮุ่ย เขากับน้องชายอีกสองคนซื้อเค้กวันเกิดกับของขวัญวันเกิดให้สวี่ฮุ่ยแทนเขา เป็กำไลเงินวงหนึ่ง หมดไปร้อยกว่าหยวน
ลู่ฉี่โหย่วบอกว่าเขาต้องจ่ายเงินคืน
ตอนที่น้องสามพูดเื่นี้กับเขา ลู่ฉี่เสียนก็ไม่ได้คิดอะไร
พรุ่งนี้เขาหยุดพอดี กะว่าจะไปหาสวี่ฮุ่ยเพื่อแก้ไขเื่เข้าใจผิดนี้
แต่พอตกดึก ทุกอย่างเงียบสงัด ลู่ฉี่เสียนนึกถึงเื่นี้อีกที ภาพใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสของสวี่ฮุ่ยก็ผุดขึ้นมาในหัว รอยยิ้มนั้นช่างน่ารักเหลือเกิน
มีอยู่แวบหนึ่งที่เขาไม่อยากอธิบายเื่เข้าใจผิด ปล่อยให้สวี่ฮุ่ยคิดว่าเขาเป็คนให้ของขวัญวันเกิดดีแล้ว
ถึงแม้จะเป็ความคิดชั่ววูบ แต่ก็ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจนัก
ลู่ฉี่เสียนลุกขึ้นนั่งบนเตียง เปิดไฟ หยิบรูปถ่ายคู่กับเถาเถาที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงขึ้นมาดู
เขาใช้นิ้วลูบรูปเถาเถา พูดพึมพำกับตัวเอง “เถาเถา เธอรีบติดต่อกลับมาหาฉันเร็ว ๆ สิ ถ้าเธอยังไม่ปรากฏตัวอีก ฉันกลัวว่าฉันจะเปลี่ยนใจแล้วนะ”