ทุกคนต่างตกตะลึง จากนั้นก็ตื่นตระหนก คนภายนอกอาจไม่รู้ แต่คนที่อาศัยอยู่ในบ้านตระกูลอวิ๋นต่างก็รู้ดีว่า อวิ๋นโส่วจงและครอบครัวต่างก็ประคองอวิ๋นเจียวไว้กลางฝ่ามือ รักและเอ็นดูนางราวกับแก้วตาดวงใจ
การที่เถาซื่อพุ่งเข้าหาอวิ๋นเจียวเช่นนี้ หากอวิ๋นเจียวเป็อะไรไป ครอบครัวของอวิ๋นโส่วจงคงผูกความแค้นกับคนบ้านเดิมเป็แน่
ผู้เฒ่าอวิ๋นเองก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดเื่แบบนี้ขึ้น เขาตกตะลึง ยายแก่คนนี้ตั้งใจจะมาป่วนโดยเฉพาะใช่หรือไม่
เ้ารองของเขาเข้า... ต่างไปจากผู้อื่น คำพูดบางอย่าง แม้แต่เขาที่เป็พ่อก็ยังไม่กล้าพูด แต่เถาซื่อไม่เพียงแต่พูดจาหยาบคาย แถมยังลงมืออีกด้วย
อวิ๋นโส่วเย่าน้องชายคนที่สามเห็นดังนั้น ก็คิดว่าเื่แย่ลงแล้ว รีบเข้าไปดึงเถาซื่อ ส่วนอวิ๋นโส่วจง อวิ๋นฉี่เยว่ และอวิ๋นฉี่ซานก็รีบเข้าไปดึงอวิ๋นเจียวกับเถาซื่อเช่นกัน
แต่ไม่มีใครเร็วเท่าเสี่ยวไป๋ ทุกคนเห็นเพียงแสงสีขาววาบผ่านไป จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของเถาซื่อที่ล้มลงไปกองกับพื้น เสี่ยวไป๋กระโจนใส่ร่างของเถาซื่อ อ้าปากกว้างกัดไปที่ลำคอและใบหน้าของนางอย่างบ้าคลั่ง
ถึงแม้มันจะยังตัวเล็ก ฟันน้ำนมก็ยังไม่ขึ้น กัดได้ไม่ลึกมากนัก แต่มันก็ทำให้เถาซื่อมีาแเือาบ ดูน่ากลัวเป็อย่างยิ่ง
อวิ๋นเจียวตกตะลึง เ้าตัวน้อยตัวนี้ นางเพิ่งให้อาหารมันไปมื้อเดียวยังรู้จักปกป้องเ้านายแล้ว
ชาวบ้านที่ยืนดูอยู่ต่างก็ตกตะลึงไปตามๆ กัน หลายคนเอ่ยชมว่าลูกสุนัขตัวนี้เก่งจริงๆ ไม่มีใครสงสารเถาซื่อเลยแม้แต่น้อย แสดงให้เห็นว่าปกติแล้วเถาซื่อคงมีชื่อเสียงไม่ดีในหมู่บ้าน
อวิ๋นโส่วจงตั้งใจจะให้เถาซื่อเ็ปอีกสักหน่อย ดังนั้นหลังจากที่เสี่ยวไป๋กัดเถาซื่อ เขาก้าวไปข้างหน้าก็ได้ แต่เขาเลือกที่จะหยุดก้าวนั้นไว้
อวิ๋นเจียวมองดูคนของบ้านตระกูลอวิ๋น คนบ้านลุงใหญ่เห็นได้ชัดว่าไม่อยากช่วยเถาซื่อ ส่วนคนบ้านสามทำท่าทางเหมือนอยากช่วยแต่ก็จนปัญญา
ส่วนอวิ๋นเหมยเอ๋อร์และผู้เฒ่าอวิ๋น มีท่าทีเหมือนอยากช่วยแต่ก็กลัวจนไม่กล้า ท่าทีของพวกเขาทำให้เจียวเอ๋อร์รู้สึกพอใจเป็อย่างมาก
อวิ๋นฉี่ซานแอบกระซิบข้างหูอวิ๋นเจียวว่า “เสี่ยวไป๋เก่งมาก ต่อไปนี้พอพี่รองหาเงินได้ พี่รองจะซื้อเนื้อให้มันกินทุกวันเลย”
อวิ๋นฉี่เยว่มองอวิ๋นฉี่ซานด้วยหางตา ก่อนจะบีบมืออวิ๋นเจียวเบาๆ “พรุ่งนี้พอพี่ใหญ่เลิกเรียน พี่ใหญ่จะซื้อเนื้อกลับมาให้เสี่ยวไป๋”
อวิ๋นเจียว : ...
“เ้าใหญ่ ไอ้ลูกอกตัญญู ยังไม่รีบมาลากไอ้สัตว์เดรัจฉานนี่ออกไปอีก มันจะกัดข้าตายแล้ว!”
เนื่องจากเถาซื่อขัดขืน เสี่ยวไป๋จึงถูกสะบัดออกไปหลายครั้ง แต่มันก็พลิกตัวอย่างคล่องแคล่ว แล้วพุ่งเข้ามากัดอีกครั้ง
รอบนี้เสี่ยวไป๋กัดข้อมือของเถาซื่อแน่น ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ เถาซื่อสะบัดไม่หลุด ใบหน้าที่อาบไปด้วยเืได้แต่กรีดร้องโหยหวน
ผู้เฒ่าอวิ๋นได้ยินเสียงกรีดร้องของเถาซื่อจึงรู้สึกตัว รีบหันไปบอกอวิ๋นโส่วจงว่า “เ้ารอง รีบลากลูกสุนัขของเ้าออกไป”
สายตาของอวิ๋นโส่วจงมองข้ามผู้เฒ่าอวิ๋นไป เมื่อเห็นอากุ้ยพาคนมาถึง เขาจึงเดินเข้าไปอุ้มเสี่ยวไป๋ขึ้นมา ลูบหัวมันเบาๆ เพื่อปลอบประโลม สักพักเสี่ยวไป๋จึงยอมอ้าปาก
อวิ๋นฉี่ซานรีบวิ่งเข้าไปรับเสี่ยวไป๋จากมืออวิ๋นโส่วจง แล้วรีบยัดเนื้อสามชั้นเข้าไปในปากของมัน นี่คือเนื้อที่เขาแอบวิ่งกลับไปหยิบที่ห้องครัว พี่ใหญ่บอกว่าพรุ่งนี้เลิกเรียนแล้วจะซื้อเนื้อมาให้มัน งั้นเขาก็ให้มันคืนนี้เลยแล้วกัน!
พอเสี่ยวไป๋ได้กินเนื้อ ก็ดิ้นไปมาในอ้อมกอดของอวิ๋นฉี่ซานอย่างกระวนกระวาย เงยหน้าเล็กๆ ขึ้น ดวงตากลมโตสีดำสนิทจ้องมองอวิ๋นเจียวไม่วางตา พลางส่งเสียงครางอู้อี้ในลำคออย่างออดอ้อน
อวิ๋นเจียวรับมันมาจากอ้อมกอดของอวิ๋นฉี่ซาน มันเอาหัวถูไถไปมาในอ้อมแขนของนาง ก่อนจะซุกหัวลงบนอกของนาง ดวงตาดุดันจ้องมองเถาซื่ออย่างระแวดระวัง
“ข้าไม่ทนแล้ว! เ้ารองตั้งใจจะฆ่าข้า! ท่านเทพเ้าเบื้องบน ตระกูลอวิ๋นทำกรรมอันใดไว้กันแน่ ถึงได้มีลูกหลานอกตัญญูเช่นนี้?”
“อวิ๋นเจียชาง! เ้านี่นะตาแก่ไม่ตาย! จะปล่อยให้ลูกชายเ้าฆ่าข้าเช่นนี้หรือ เ้าใหญ่! ไอ้ลูกใจดำ เ้ารอให้ไอ้น้องชายอกตัญญูของเ้าฆ่าข้าตาย แล้วเ้าจะได้ยึดทรัพย์สมบัติของตระกูลอวิ๋นไปใช่หรือไม่?...”
“พวกเ้าล้วนเป็ไอ้ลูกอกตัญญู อยากให้ข้าตายกันทั้งนั้น งั้นวันนี้ข้าจะตายให้ดูเสียตรงนี้เลย! ต่อให้เป็ผีก็จะไม่ปล่อยพวกเ้าที่ใจคอโเี้ไปแน่...” เถาซื่อนั่งอยู่บนพื้น ร้องไห้คร่ำครวญพลางสาปแช่ง
อีกด้านหนึ่งอากุ้ยถือโคมไฟนำทาง ผู้ใหญ่บ้านและหัวหน้าตระกูลก็มาถึง ผู้เฒ่าอวิ๋นรีบเดินเข้าไปต้อนรับ “พี่ใหญ่... ท่านผู้ใหญ่บ้าน ทำให้พวกท่านต้องมาเห็นเื่น่าอายแล้ว”
อวิ๋นเจียหรง หัวหน้าตระกูลอวิ๋นแค่นเสียง “อวิ๋นเจียชาง เ้าดูแลเมียของเ้าไม่ได้ เช่นนั้นก็ให้ทางตระกูลสั่งสอนเอง!”
ผู้เฒ่าอวิ๋นหน้าแดงก่ำ ยังไม่ทันได้เอ่ยปากอะไร เสียงแหบแห้งของเถาซื่อก็ดังขึ้น “พี่ใหญ่! ท่านจะลำเอียงไปหาเ้ารองไม่ได้นะเ้าคะ! เ้ารองมันจะฆ่าข้า”
“ท่านดูาแบนตัวข้าสิ ล้วนเป็ฝีมือของสุนัขที่เ้ารองปล่อยมากัดข้า ท่านต้องจัดการมัน ไอ้ลูกอกตัญญูที่ทำร้ายทารุณแม่เลี้ยง ไร้มโนธรรมเกินไปแล้ว!”
“ยายแก่! เ้าเงียบปากเสียที!” ผู้เฒ่าอวิ๋นจ้องมองเถาซื่ออย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะหันไปประสานมือคำนับหัวหน้าตระกูล “พี่ใหญ่... ท่านผู้ใหญ่บ้าน เถาซื่อถูกสุนัขของโส่วจงกัดจนเป็แบบนี้ ถึงอย่างไรเถาซื่อก็เป็แม่เลี้ยงของเขานะ”
“แล้วก็เ้าสี่กับภรรยา ศาลาว่าการอำเภอเป็สถานที่ที่คนอยู่กันได้หรือ? แต่เ้ารอง... ไม่เพียงแต่ไม่ห้ามปรามนายอำเภอ แถมยังให้คนขับเกวียนช่วยเ้าหน้าที่ทางการพาคนไปส่งถึงที่ศาลาว่าการอีก”
“เป็พี่น้องกันแท้ๆ เหตุใดถึงผลักไสคนในครอบครัวลงหลุมไฟเช่นนี้เล่า?”
หัวหน้าตระกูลแค่นเสียง “เพราะเช่นนั้นเ้าถึงได้พาคนในครอบครัวมาโวยวายที่บ้านของโส่วจงตอนกลางดึกเช่นนี้หรือ?”
“เ้าคิดว่าศาลาว่าการอำเภอเป็ของโส่วจงหรือยังไง? ไม่ลองคิดดูหน่อยหรือว่าเ้าสี่กับภรรยาของมันทำเื่อะไรไว้ถึงได้ถูกจับไป!”
ผู้เฒ่าอวิ๋นแก้ตัว “แม้เ้าสี่จะทำผิด แต่ข้าผู้เป็พ่อยังสั่งสอนมันได้มิใช่หรือ ศาลาว่าการอำเภอเป็สถานที่แบบไหนกัน หากเข้าไปแล้ว ไม่เพียงแต่จะไม่มีอะไรดีขึ้น แถมยังทำให้ตระกูลอวิ๋นเสียชื่อเสียงอีก!”
ผู้ใหญ่บ้านเองก็แค่นเสียงเช่นกัน “ในเมื่อรู้ว่าศาลาว่าการอำเภอไม่ใช่สถานที่ที่คนดีๆ เขาอยู่กัน หากข้ากับผู้าุโตระกูลอวิ๋นมาไม่ทัน และหากโส่วจงไม่มีทะเบียนบ้านแสดงเป็หลักฐาน บัดนี้ผู้ที่ถูกมัดไปที่ศาลาว่าการอำเภอก็คือพวกผู้หญิงและเด็กๆ ในครอบครัวของเ้ารองแล้ว!”
“อวิ๋นเจียชาง ตอนนั้นเ้าสี่ยังกระทืบเท้าบอกว่าทะเบียนบ้านของโส่วจงเป็ของปลอมอยู่เลย ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์หลายคนเห็นกับตา ท่าทีเช่นนั้น เหมือนกับอยากให้โส่วจงกับครอบครัวไม่มีหนทางรอด!”
ทันทีที่ผู้ใหญ่บ้านพูดจบ ชาวบ้านก็เริ่มพูดคุยกันเสียงดัง “ใช่ๆ! พวกเราเห็นกับตา!”
“อวิ๋นโส่วจู่กับภรรยาของมันช่างเลวร้ายยิ่งนัก!”
“มีพี่น้องแบบนี้ ชีวิตคงอาภัพมาแปดชาติ!”
“มีพ่อแม่ที่ลำเอียงอย่างเห็นได้ชัดเช่นนี้ต่างหาก ถึงเรียกว่าอาภัพมาแปดชาติ!”
คนตระกูลอวิ๋นแต่ละบ้านมีสีหน้าแตกต่างกันไป แต่ไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไร ภายใต้แสงไฟ แววตาของผู้เฒ่าอวิ๋นสั่นไหว สีหน้าดูย่ำแย่
คำพูดของผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน ทำให้เขาไม่สามารถแก้ตัวได้ สิ่งที่เ้าสี่กับภรรยาทำนั้นไร้คุณธรรมเกินไปจริงๆ
เดิมทีเขาคิดจะใช้อำนาจของผู้ใหญ่กดดันเ้ารอง เพื่อให้เขาไปอธิบายที่ศาลาว่าการอำเภอพรุ่งนี้เช้า ว่าเป็เื่เข้าใจผิด จะได้ช่วยเ้าสี่กับภรรยาออกมา
แต่ไม่คิดว่ากลับกลายเป็ยิ่งแก้ก็ยิ่งแย่ เ้ารองไม่เพียงแต่ไม่ยอมทำตาม แถมยังให้คนไปตามหัวหน้าตระกูลกับผู้ใหญ่บ้านมา ไม่ให้เกียรติเขาผู้เป็พ่อเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเื่ของเ้าสี่ไม่สามารถแก้ตัวได้อีก ผู้เฒ่าอวิ๋นจึงชี้ไปที่ใบหน้าของเถาซื่อที่เต็มไปด้วยาแ แล้วพูดขึ้นว่า “ต่อให้... แต่สุนัขของบ้านเ้ารองกัดเถาซื่อจนเป็แบบนี้... ในฐานะที่เป็ผู้น้อย ทำเช่นนี้ใจคอโเี้เกินไปแล้วกระมัง”