“เช่นนั้นข้ามอบให้ท่าน หากคิดถึงข้า จะได้ไม่ทรมานเกินไปนัก” คำพูดของนางทำให้ชายหนุ่มหลุดยิ้ม แล้วใช้มือบีบจมูกนางเบา ๆ
“ในเมื่อเ้ารู้ว่าข้าทรมาน เช่นนั้น ข้าจะรีบให้ท่านพ่อไปสู่ขอเ้าโดยเร็วที่สุด ข้าจะได้ไม่ต้องทรมานเช่นนี้ เ้าว่าดีหรือไม่” คำหวานของเขาทำให้ซินหยางปล่อยยิ้มกว้าง พร้อมคุณชายหวงรีบเก็บผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นในทันที
ท่ามกลางสายตาของฟางเหมยที่ยืนดูเหตุการณ์อย่างเงียบ ๆ รับรู้ได้ว่าทั้งสองไม่ใช่เพียงแค่คนรู้จัก ทว่าพวกเขามีใจให้กันอยู่ก่อนแล้ว มือบางค่อย ๆ เผลอกำแน่นอย่างไม่รู้ตัว ก่อนชายหนุ่มจะหันมายังฟางเหมย แล้วขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“นั่นเป็สหายของข้า ที่ข้าเคยเล่าให้ท่านฟังบ่อย ๆ นามว่าฟางเหมยเ้าค่ะ” สิ้นคำแนะนำ ชายหนุ่มทอดสายตามองฟางเหมยครู่หนึ่ง แล้วหันกลับไปยังซินหยางโดยไม่สนใจอีกฝ่ายเท่าใดนัก
“เราไปหาที่นั่งกินชากันเถอะ ข้ามีเื่มากมายอยากคุยกับเ้า” เขาเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเช่นเดิม ซินหยางยิ้มรับ พลันหันมายังฟางเหมยแล้วเอื้อมมาจับมือนาง พาเดินไปยังโรงเตี๊ยมใกล้ ๆ
เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในโรงเตี๊ยม ฟางเหมยทำได้เพียงนิ่งเงียบ มองพวกเขาพูดคุยกันโดยไม่เอ่ยแทรก จับใจความได้ว่า บุรุษงดงามผู้นี้ เป็คุณชายสกุลหวง นามว่าหวงโจวเหริน บิดาของเขารั้งตำแหน่งเสนาบดีกรมพระคลัง มีอำนาจใหญ่โตไม่ต่างจากสกุลหลี่เท่าใดนัก
“เ้าอยากกินอะไรเพิ่มหรือไม่ บอกข้าได้ ข้าจะสั่งให้” ชายหนุ่มหันมายังฟางเหมยที่นั่งเงียบอยู่นานแล้ว ทว่าทำให้หญิงสาวรีบเผลอยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ที่เขาหันมาสนใจนางบ้าง
“เท่านี้ก็พอแล้วเ้าค่ะ” นางตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ท่าทางเจียมเนื้อเจียมตัวของนาง ทำให้เขายิ้มออกมา และนั่นทำให้ฟางเหมยใจสั่นรัวไม่เป็จังหวะ ตลอดเวลานางพยายามแอบมองคุณชายหวงเป็ระยะ เก็บความปลาบปลื้มไว้ในใจอย่างเงียบ ๆ เพียงแค่คำใส่ใจง่าย ๆ จากชายผู้นั้นก็ทำให้ฟางเหมยมีความสุขได้ตลอดทั้งวัน
กลางดึกคืนนั้น หลี่ซินหยางเดินตามหาหลิวฟางเหมยทั่วจวน เนื่องจากหิมะตกหนัก อากาศด้านนอกหนาวเหน็บ สองเท้าของซินหยางจ้ำอ้าวมองหาเพื่อนรักด้วยความเป็ห่วง ก่อนจะพบกับอีกฝ่าย กำลังยืนมองสระน้ำหน้าจวนอย่างเงียบ ๆ ตามลำพัง ซินหยางเดินเข้าไปพร้อมเสื้อคลุมหนา ยกคลุมกายให้อีกฝ่ายด้วยความหวังดี
“เหตุใดเ้าจึงออกมายืนลำพังคนเดียวเช่นนี้ คิดถึงท่านพ่อของเ้างั้นรึ” คำถามของคุณหนูหลี่ ทำให้อีกฝ่ายคลี่ยิ้มออกมาบางเบา แล้วพูดขึ้น
“ข้าแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ตอนนี้ข้ากับท่านแม่มาอยู่ที่จวนสกุลหลี่แรมเดือนแล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าจวนของข้าจะขายออก ข้ารู้สึกเกรงใจเ้าเหลือเกิน หากนานกว่าที่กำหนดไว้ ข้าจะทำเช่นใด” คำพูดของฟางเหมย ทำให้ซินหยางยิ้ม แล้วลากตัวนางมานั่งยังโต๊ะไม้ด้านข้าง
“ข้ากับท่านแม่ เต็มใจให้อยู่ เ้าอยู่ที่นี่ได้นานเท่าที่้า เมื่อใดที่ขายจวนได้แล้ว อยากทำการค้า ข้าจะสนับสนุนเต็มที่” ฟางเหมยชะงักนิ่ง
“การค้างั้นรึ”
“อื้ม!” ซินหยางพยักหน้า แล้วพูดแนะนำด้วยความจริงใจ
“ตอนนี้สถานะของเ้ากับท่านน้า ไม่ได้เป็ขุนนางแล้ว เงินเดือนจากใต้เท้าหวังก็ไม่ได้แล้ว สิ่งเดียวที่จะทำให้รอดพ้นไปได้ก็คือการค้า หากได้เงินจากการขายจวนแล้ว ข้าแนะนำว่าควรทำการค้าเป็ดีที่สุด” สิ้นเสียงของซินหยาง ฟางเหมยก็ส่ายศีรษะ
“ข้าไม่ชอบการค้า คนพวกนั้นเอาแต่โหวกเหวกโวยวาย ทั้งเล่ห์เหลี่ยมก็มากมาย เป็ได้มากสุดก็แค่พ่อค้าเท่านั้น ไม่มีศักดิ์ศรีเฉกเช่นขุนนาง” คำพูดของฟางเหมย สะกิดใจให้ซินหยางนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
“เหตุใดจึงคิดเช่นนั้น ไม่ว่าจะเป็ขุนนางหรือเป็พ่อค้า หากขยัน ซื่อสัตย์ ไม่คดโกง สุดท้ายชีวิตย่อมได้ดี มีศักดิ์ศรีไม่ต่างกัน”
‘เ้าก็พูดได้สิ ในเมื่อเ้าอยู่ในฐานะคุณหนูสกุลหลี่ มีพ่อเป็ถึงเสนาบดีกรมโยธา ที่ใคร ๆ ต่างให้ความเคารพ ไม่ว่าจะเป็ข้าวของเครื่องใช้ เงินทอง บ่าวไพร่ เ้าก็มีมากมายจนล้น! คำพูดสวยหรู จะพ่นออกมามากมายเท่าใดก็ย่อมได้’ ฟางเหมยมองอีกฝ่ายแล้วขบคิดในใจ ก่อนมือของซินหยางจะเอื้อมมาจับเบา ๆ
“เอาล่ะ...อย่าพึ่งพูดถึงเื่นี้เลยดีกว่า ข้ามีอะไรจะให้เ้าด้วยแหละ” ว่าแล้วซินหยางก็หยิบเอาเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ขึ้นมา แล้วยื่นให้พร้อมรอยยิ้ม
“นี่คือชุดที่ข้าสั่งตัด ตั้งใจเอาไว้ให้เ้าโดยเฉพาะ สัดส่วนของเ้าไม่ต่างจากข้าเท่าใดนัก” ฟางเหมยเห็นชุดที่ซินหยางมอบให้ ก็จำได้ว่าเป็ชุดที่ซินหยางเข้าไปรับที่ร้านตัดผ้า เมื่อ่เย็นที่ผ่านมา
“นี่เป็ชุดที่เ้าเพิ่งไปรับมามิใช่เหรอ? แท้จริงแล้วเ้าสั่งตัดให้ข้างั้นเหรอ” ฟางเหมยเอ่ยถาม พลางเอื้อมไปหยิบชุดที่พับไว้อย่างเรียบร้อย ด้วยสายตาเป็ประกาย
“ใช่แล้วล่ะ ส่วนชุดพวกนี้ เป็ชุดเก่าที่ข้าไม่ได้ใส่นานแล้ว หวังว่าเ้าจะชอบ” ฟางเหมยเลื่อนสายตาไปยังเสื้อผ้าอีกกองหนึ่ง ที่ซินหยางยื่นให้ ก่อนชะงักนิ่ง เมื่อเห็นว่าผ้ากองนั้นเป็ชุดเหลือที่อีกฝ่ายไม่ใส่แล้ว จึงนิ่งเงียบมองเสื้อผ้ากองนั้นด้วยสายตาแน่นิ่ง
“ชุดพวกนี้ข้าใส่ไม่กี่ครั้ง ทุกอย่างยังดีอยู่ หวังว่าเ้าจะชอบ” ซินหยางพูดพร้อมแววตาจริงใจ