“เอ่อ… แม่คะ… หนูอยากคุยกับคุณแม่เื่เรียนต่อ… ”
โมนาร์ถือโอกาสถามเื่สำคัญ…
่นี้เป็ระยะหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต ตอนนี้เพื่อนๆ ที่เพิ่งเรียนจบวิชาการเรือนมาด้วยกันบางคนก็กำลังมองหาที่เรียนต่อ
แต่หลายคนต้องออกเรือนไปมีคู่ครอง จำต้องดำเนินชีวิตไปตามครรลองที่พ่อแม่วางเส้นทางเอาไว้ให้ ในยุคที่บทบาทของสตรียังคงมีความสำคัญอยู่แค่เพียงในบ้านในเรือนเท่านั้น
ส่วนการงานและเื่นอกบ้านถูกยกให้เป็บทบาทหน้าที่ของผู้ชายเท่านั้น
“ดีแล้วที่หนูถามเื่นี้… แม่มีเื่สำคัญกำลังบอกอยู่พอดี”
ซาร่าห์ตั้งใจเอาไว้ว่าจะบอกเื่นี้ในวันที่ลูกสาวเรียนจบวิชาการเรือนและมีอายุเกินสิบแปดปี
“เื่อะไรคะแม่… ”
โมนาร์แสดงท่าทางสนใจ
“แม่ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ให้หนูเรียนต่อ… ”
“ทำไมคะ… ”
คิดอยู่แล้วเชียว… ไม่แปลกที่โมนาร์ไม่ได้แสดงอาการใมากนัก
“เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ‘คูเปอร์’ เพิ่งเดินทางมาทาบทามสู่ขอหนูไปเป็ภรรยา… ”
“คูเปอร์… คนไหนคะแม่… ”
โมนาร์หรี่ตาครุ่นคิด…
หล่อนพยายามทบทวนความทรงจำ คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยได้ยินชื่อนี้มาจากไหนสักแห่ง
“หนูจำวันนั้นได้ไหมจ๊ะ… วันที่คฤหาสน์จัดงานเลี้ยงวันเกิดคุณยายเมื่อสามปีก่อน ผู้ชายผิวเข้มคล้ำตัวใหญ่ๆ หน้าตามีหนวดเคราที่ขนเอาของขวัญมากมายมาให้คุณยายนั่นแหละคูเปอร์… ”
ซาร่าห์ช่วยบรรยายรูปพรรณสัณฐานของชายที่กำลังจะมาเป็สามีในอนาคตของโมนาร์
“อ๋อ… จำได้แล้วค่ะ ผู้ชายคนที่ขอหนูเต้นรำ”
โมนาร์นึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ในค่ำคืนหนึ่งเมื่อสามปีก่อน
คูเปอร์ที่ถูกกล่าวถึงคือผู้ชายสูงวัยตัวอ้วน ผิวดำคล้ำ หัวล้านเหม่งที่เข้ามาขอหล่อนเต้นรำในงานวันเกิดมาดามโรสซี่ผู้เป็ยาย
ภาพของการกินที่สุดแสนจะมูมมาม ท่าทางราวกับเ้าหมูสกปรกและแววตาที่จ้องมองหล่อนอย่างกระหายราคะในค่ำคืนนั้น โมนาร์ไม่เคยลืม ยังจดจำได้มาจนถึงทุกวันนี้
“จากนี้ไป… หนูต้องเตรียมตัวเพื่อไปเป็ภรรยาของคูเปอร์ แม้จะแก่แต่เขาเป็ผู้ชายที่ร่ำรวยมาก คนนี้แหละคือเ้าของเหมืองแร่ทองคำ… ”
ซาร่าห์บรรยายสรรพคุณของคูเปอร์…
เขาเป็พ่อม่ายเมียตายที่ครองตัวโสดมานานหลายปีแล้ว พอได้เจอโมนาร์ครั้งแรกก็ถูกใจ รีบมาแอบจับจองไว้ั้แ่เมื่อสามปีก่อน
รอจนกระทั่งหญิงสาวเรียนจบวิชาการเรือนก็เลยมาทวงสัญญา จัดการสู่ขอตามที่ได้ตกลงกันไว้กับผู้ใหญ่
“แม่คิดว่าหนูคงไม่ขัดข้องนะจ๊ะ… ”
“ค่ะแม่… ”
โมนาร์ตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ไม่อาจปฏิเสธเมื่ออยู่ต่อหน้าซาร่าห์ผู้เป็มารดา
ทว่าเมื่อกลับเข้ามาที่ห้องของตัวเอง…
หล่อนถึงกับทิ้งร่างลงบนที่นอน แนบหน้าซบกับหมอน สะอื้นไห้กับความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ภายใน
“ไอ้หมูสกปรก… นี่ฉันจะต้องไปเป็เมียแกจริงๆ หรือ… ”
โมนาร์ร้องไห้…
ปล่อยให้หยาดน้ำตาใสๆ ไหลรินออกจากหางตา หยดลงบนหมอนสีขาวแล้วซึมวาบเป็วงชุ่มอยู่กับหมอน ในวันที่รู้ว่าอีกไม่กี่วันหล่อนจะต้องไปเป็ภรรยาของคูเปอร์ ชายแก่อ้วนฉุอายุรุ่นราวคราวปู่
อีกสัปดาห์ต่อมา
ตอนสาย มาดามโรสซี่เรียกโมนาร์ให้มาพบที่ห้องของหล่อน
“สวัสดีค่ะคุณยาย… ”
โมนาร์กล่าวเมื่อเข้ามาถึงห้องรับแขกที่แลเห็นสตรีผู้เป็นายใหญ่ของคฤหาสน์ กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ราคาแพง
ภายในห้องรับแขกตกแต่งไว้อย่างหรูหรา หอมอบอวลไปด้วยกลิ่นของชากุหลาบราคาแพงกรุ่นกำจายออกมาจากแก้วพอร์ซเลนสีขาว วางอยู่บนโต๊ะหินอ่อนข้างๆ มาดามเ้าของคฤหาสน์ที่ยังดูสาวกว่าวัยที่แท้จริงแม้อายุจะมากแล้วก็ตาม
“ยัยหนู… นั่งลงสิ ยายมีเื่จะคุยด้วย”
“ค่ะคุณยาย… ”
“เหลือเวลาอีกเพียงแค่เจ็ดวันก่อนเข้าพิธีวิวาห์กับคูเปอร์ และตลอดเจ็ดวันนี้หนูจะต้องฝึกวิชา ‘กามสูตรสู่สม’ อย่างจริงจัง… ”
มาดามโรสซี่บอกธุระสำคัญที่ทำให้เรียกโมนาร์มาพบในวันนี้
“คะคุณยาย… ”