เนี่ยเซิงเสี่ยวจิกนิ้วตัวเอง “ฉันจะรอคุณเหยียนอยู่ตรงนี้” สมองสั่งการบอกว่าเธออย่าเข้าไปใกล้มาก
“ไม่ใช่บอกให้ฉันรับผิดชอบหรือ? ฉันอยากจะฟังแล้วว่าฉันเข้าใจผิดความบริสุทธิ์ของเธอได้อย่างไร แล้วไปมีความสัมพันธ์อย่างไรกับเธอ” น้ำตาเขาจะไหล เหยียนจิ่งจื้อรู้สึกว่ามาจนถึงขนาดนี้แล้วยังสามารถล้อเล่นกับเธอได้ เขาคิดว่าเขาคงเป็บ้าไปแล้ว
เนี่ยเซิงเสี่ยวยังคงไม่ขยับ “คำพูดเมื่อครู่เป็แค่แค่กลยุทธ์เท่านั้น คุณเหยียนก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ถ้าหากถูกไล่ออกไปแล้วฉันก็เกาะติดคุณไม่ได้”
“ตอนนี้คนที่พยายามหลบฉันแทบตายก็คือเธอ ตอนนี้คนที่พยายามเกาะติดฉันก็คือเธอ เนี่ยเซิงเสี่ยว ในสมองเธอมีรอยรั่วหรือเปล่า?”
ครั้งที่อยู่ที่โรงเรียนอนุบาล เธอเคยหลบเขาจริงๆ แต่ว่าเนี่ยเซิงเสี่ยวไม่ได้คิดว่านั่นคือพยายามจนถึงที่สุดนี่ แล้วแค่ไหนถึงจะเรียกว่าพยายามจนถึงที่สุดแล้ว? เธอเกาหัว “ฉันเคยพูดไปแล้วว่าครั้งนี้ที่ฉันมาหาคุณก็เพราะหวังว่าคุณจะไปช่วยลูกชายฉันที่โรงพยาบาล”
“ไม่มีเหตุผล ทำไมฉันจะต้องไปช่วยลูกชายเธอด้วย!”
เนี่ยเซิงเสี่ยวยังคงก้มหัว มีเหตุผลสิ เหตุผลใหญ่ๆ ด้วย แต่ว่าพูดออกไปไม่ได้ เธอเองก็รู้สึกว่าจู่ๆ มาให้เขายอมไปโรงพยาบาลกับเธอเพื่อตรวจอะไรพวกนี้นั้นเป็อะไรที่กะทันหันเกินไปหน่อย แต่ว่าในตอนนี้เธอคิดเหตุผลอะไรที่ดีกว่าความจริงไม่ออก
“ถ้าหากคุณเหยียน้าเหตุผล ฉันสามารถคิดเหตุผลให้คุณหนึ่งข้อ”
เหยียนจิ่งจื้อกำหมัดแน่น แต่กลับพบว่าน้ำเหลวเกินไปทุบอย่างไรก็ไม่ได้ ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็หันตัวกลับมา พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงระรื่นและยกยิ้มมุมปาก “ถ้าอย่างนั้นก็เข้ามาปรนนิบัติฉันสิ เสร็จแล้วฉันจะไปโรงพยาบาลกับเธอ”
เนี่ยเซิงเสี่ยวเงยหน้าขึ้นมาครุ่นคิดถึงความเป็จริงของเงื่อนไขจากเขา จากนั้นก็พิจารณาความเป็ไปได้ สุดท้ายเธอก็กอดตัวเอง “คุณเหยียนจะเปลี่ยนมาชอบที่แบบนี้ก็ช่างคุณเถอะ แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น”
“พูดเหมือนเธอรู้ว่าแต่ก่อนฉันเป็คนอย่างไรเลย” เหยียนจิ่งจื้อร้องหึออกมาเบาๆ “ให้เวลาเธอสามวิ ฉันนับถึงสามแล้วยังไม่มาก็ไสหัวไปซะ”
“หนึ่ง สอง…” เหยียนจิ่งจื้อมองไปยังหญิงสาวที่ยืนเฉยอยู่ตรงนั้น และใช้มือโบกไล่ “ไปเถอะ” เขาเหนื่อยพอแล้วจริงๆ
“คุณยังไม่นับสามเลยนี่”
เหยียนจิ่งจื้อหันกลับมาทันใดนั้นก็เห็นเนี่ยเซิงเสี่ยวเข้ามาอยู่ข้างกายเขาอย่างรวดเร็ว แววตามีความประหลาดใจปรากฏออกมาเล็กน้อยแต่ว่าเพียงครู่เดียวก็กลับมาเป็ปกติ “ที่แท้คุณเนี่ยก็เป็คนที่ยอมขายิญญาง่ายๆ”
เพิ่งพูดจบบนหน้าผากก็ถูกมือเย็นเล็กๆ ข้างหนึ่งยกขึ้นมาวางไว้ เขาแช่อยู่ในน้ำร้อนๆ นี้ได้สักพักแล้ว อุณหภูมิของมือนี้กลายเป็ขั้วตรงข้ามพอดี ทำให้เขารับรู้ถึงอุณหภูมิ และรวมถึงความเรียวและบางของมือนี้ได้อย่างชัดเจน
เธอเริ่มนวดขมับให้เขา คุ้นเคยจนเหมือนกับพนักงานซาวน่ามืออาชีพ แรงบีบไม่มากไม่น้อยจนเกินไป สบายจนอยากจะหลับ
แต่ขมับของเหยียนจิ่งจื้อกลับปวดตุบๆ ขึ้นมา “พอแล้ว!”
ความรู้สึกแบบนี้ อดีตมากมาย ถ้าหากในตอนนี้เขายังสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้เช่นนั้นก็คงไม่ใช่เหยียนจิ่งจื้อแล้ว
เขายกมือขึ้นจับเข้าที่มือของเธอ และดึงเธอลงมาในน้ำโดยที่ไม่คิดจะสนใจว่าในตอนนี้เธอได้ใส่เสื้อผ้าหรือไม่
ั้แ่เด็กเนี่ยเซิงเสี่ยวก็เป็เหมือนเป็ดที่ว่ายน้ำไม่เป็ หลังจากที่รู้จักเหยียนจิ่งจื้อก็เคยถูกเขาบังคับไปว่ายน้ำ จนกระทั่งสอนเธอจนว่ายน้ำเป็ แต่หลายปีมานี้กลับไม่มีเวลาและก็ไม่มีอารมณ์ผ่อนคลายไปว่ายน้ำเลย การว่ายน้ำเป็อย่างไรน่ะหรือ? เธอลืมไปจนหมดสิ้นแล้ว บวกกับมือที่ถูกดึงอย่างแรง ทำให้ในตอนนั้นเธอคว้าอะไรได้ก็จับคว้าเอาอันนั้น สุดท้ายในตอนที่ขวัญแตกกระเจิงไปเธอก็เอาตัวไปเกาะอยู่บนตัวของเหยียนจิ่งจื้อ เธอมองตรงเข้าไปยังดวงตาที่มืดดำราวกับเกลียวคลื่น เธอรู้สึกว่าตัวเองอาจจะทำอะไรก็ผิดไปหมด
แขนยังคงกอดอยู่ที่คอของเขา ทันทีที่เนี่ยเซิงเสี่ยวรู้ตัวก็รีบปล่อยมือ แต่เหยียนจิ่งจื้อในตอนนี้ก็หมุนตัวมาแล้วกดเธอลงมา ก่อนจะออกคำสั่งอย่างบ้าอำนาจว่า “จูบฉัน”
จำได้ว่าตอนที่เขาสอนเธอว่ายน้ำ ทุกครั้งที่ว่ายได้หนึ่งเมตรเขาก็จะแกล้งมาขวางตรงหน้าเธอแล้วพูดอย่างเอาแต่ใจว่า “จูบฉัน”
“เป็ผลลัพธ์ความพยายามของฉัน ทำไมจะต้องให้รางวัลคุณด้วย” เธอในตอนนั้นก็ยังไม่ยอม
“ถ้าอย่างนั้นฉันให้รางวัลเธอก็ได้” พูดจบมุมปากเขาก็ยิ้มเ้าเล่ห์แล้วกดเธอลงไป
แต่ตอนนี้
เนี่ยเซิงเสี่ยวยังไม่ทันได้ลูบน้ำบนหน้าของตัวเอง ไอน้ำที่ตกลงมาทำให้เธอรู้สึกหวาดหวั่นอยู่เล็กๆ เหยียนจิ่งจื้อในตอนนี้กับเหยียนจิ่งจื้อในสมัยก่อนเริ่มที่จะมารวมกันอีกครั้ง
“คุณ…คุณเหยียน”
ในตอนที่เพิ่งจะเอ่ยปากพูด ลมหายใจที่มาพร้อมคำพูดสองคำว่าคุณเหยียนก็ถูกเหยียนจิ่ง
จื้อกลืนลงไปจนหมด
หลังจากที่เขาสูญเสียความทรงจำไป นี่เป็จูบครั้งที่สองระหว่างพวกเขา ซึ่งจูบนี้กเหมือนกับจูบแรกที่ทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เต็มไปด้วยความไม่ชัดเจนและความคุ้นเคย สิ่งเดียวที่ไม่เหมือนก็คือ ครั้งนี้เนี่ยเซิงเสี่ยวไม่ได้ผลักเขาออก แต่ตอนนี้เนี่ยเซิงเสี่ยวกำลังต่อต้านเขาอย่างชัดเจน
ถ้าหากมีคนเข้ามาตอนนี้ก็จะเห็นชายหนุ่มจับหัวหญิงสาวเพื่อบังคับจูบ แต่หญิงสาวกลับขบกัดเพื่อต่อต้าน แม้แต่คนที่ผ่านไปมาก็จะต้องเก็บภาพร้อนแรงนี้เอาไว้ในหัวไปอีกนานแน่
“เหยียนจิ่งจื้อ ปล่อยฉันนะ!” ในที่สุดเนี่ยเซิงเสี่ยวก็ดิ้นหลุด เขามีแรงเยอะเื่นั้นเธอรู้ดี แต่คิดไม่ถึงว่าจะบ้าพลังขนาดนี้
เหยียนจิ่งจื้อถูกเธอผลักจนถอยหลังไปก้าวใหญ่ แต่เมื่อไม่มีหลักยึด เนี่ยเซิงเสี่ยวก็กลับมาเป็เป็ดที่ว่ายน้ำไม่เป็ตัวนั้นอีกครั้ง จู่ๆ ก็ถูกเขาปล่อยตัวออกทั้งตัวของเธอก็เริ่มจมลงไป
สุดท้ายในตอนที่กลืนน้ำเข้าไปหลายอึกเธอก็ถูกเขาดึงขึ้นมาจากน้ำ เหยียนจิ่งจื้อขมวดคิ้วแน่นก่อนจะใช้นิ้วลูบไปยังริมฝีปากที่บวมเจ่อพร้อมกับพูดว่า “ที่แท้ก็ยังว่ายน้ำแย่เหมือนเดิม”
จู่ๆ เนี่ยเซิงเสี่ยวก็รู้สึกไม่เข้าใจอยู่หน่อยๆ อะไรที่เรียกว่าที่แท้ “เมื่อกี้…คุณพูดว่าอะไรนะ?”
เหยียนจิ่งจื้อกลับไม่ตอบและโยนเธอขึ้นไปบนฝั่งก่อนจะขึ้นตามมา เขาเริ่มใส่เสื้อผ้าั้แ่กางเกงในไปจนถึงเสื้อสูทต่อหน้าเนี่ยเซิงเสี่ยวโดยไม่คิดจะหลบ แถมตลอดเวลาที่สวมเสื้อผ้าดวงตาก็มองเธอไปด้วย เหมือนสิ่งที่เขาสวมนั้นไม่ใช่เสื้อผ้า แต่เป็ตัวเนี่ยเซิงเสี่ยว
ั้แ่เขาใส่เสื้อผ้าชิ้นแรก เนี่ยเซิงเสี่ยวก็หันหลังใส่เขา บนริมฝีปากตอนนี้ยังมีรสชาติของเขาอยู่ เสื้อผ้าเองก็เปียกไปหมดจนแนบสนิทติดกับตัวทำให้เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนมาก ในตอนที่กำลังคิดว่าอีกเดี๋ยวจะออกไปอย่างไรก็พบว่าเขาที่สวมเสื้อผ้าเสร็จก็เดินดุ่มๆ ออกไปเลย
“คุณเหยียนรอก่อน” เนี่ยเซิงเสี่ยวเรียกเขา “ไม่ใช่ตกลงกันไว้แล้วหรือว่าจะไปโรงพยาบาลกับฉัน?”
“ขอโทษนะ เธอไม่ได้ปรนนิบัติฉันดีๆ” เหยียนจิ่งจื้อไม่หันกลับมาด้วยซ้ำ ในวินาทีที่ถูกเธอผลักออก ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายก็ได้ถูกทำลายไปจนหมด เธอยังมีแก่ใจมาถามเขาว่าทำไมถึงไม่ยอมช่วย ตอนนี้เขาอยากจะอยู่คนเดียวเงียบๆ
แต่เนี่ยเซิงเสี่ยวก็ยังตามเขามาอย่างไม่ยอมแพ้ จากนั้นที่หน้าประตูก็ถูกพนักงานหญิงสี่คนนั้นขวางเอาไว้ ที่แท้ทุกคนก็ไม่ได้ไปไหนไกล แต่คอยรอคำสั่งอยู่ที่หน้าประตู
ในวินาทีที่เห็นเธอเดินออกมาก็เข้ามาขวางไว้ “คุณผู้หญิง เสื้อผ้าของคุณเปียกไปหมดแล้ว พวกเราเอาไปอบให้แห้งให้ไหมคะ?” น้ำเสียงตอนนี้เกรงใจมากกว่าเมื่อครู่เยอะเลย เนี่ยเซิงเสี่ยวมองสำรวจพวกเธอในตอนนี้ก็รู้สึกว่าท่าทางการบริการมันกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็หลังมือ
กว่าจะทำให้เสื้อผ้าแห้งทั้งตัวได้ ตอนที่เนี่ยเซิงเสี่ยวออกมาจากสโมสรชายหนุ่ม เธอก็ลูบคอของตัวเองไปด้วย ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรแต่ก็ยังรู้สึกเหนื่อยมาก ในขณะเดียวกันภายในใจก็มีความรู้สึกแปลกๆ ไม่จางหายไป
“เนี่ยเซิงเสี่ยวทำไมกลับมาช้าแบบนี้!” เหนี่ยวเหนี่ยวที่นั่งอยู่บนเตียงมองแม่ที่เดินเข้ามาทางประตูก็ไม่พอใจขึ้นมา ตอนลูกบ้านอื่นกำลังป่วย แม่ของเขาก็จะคอยซื้อของกินหลากหลายมาให้ เธอก็ช่างเป็แม่ที่ดี แต่ตอนนี้ั้แ่เขาตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอเธอแล้ว มีเพียงแค่พี่ถงซินที่ดูแลเขา
ถงซินบีบแก้มเหนี่ยวเหนี่ยว “พี่บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าเสี่ยวเสี่ยวออกไปทำธุระน่ะ เป็เด็กดีสิ”
เนี่ยเซิงเสี่ยวไม่พูดอะไรออกมาสักคำพร้อมกับส่งโจ๊กข้าวเหนียวไปให้เหนี่ยวเหนี่ยว ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย
เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวเห็นสภาพของเธอก็ไม่สามารถโกรธต่อได้ จึงปีนขึ้นมาจับมือของเธอ “เสี่ยวเสี่ยว ใครรังแกแม่หรือ?”
เมื่อเห็นลูกชายทำท่าทางอยากปกป้อง น้ำตาแห่งความตื้นตันก็เกือบไหลออกมา ทั้งๆ ที่สองคนนี้หน้าตาเหมือนกันขนาดนี้ แต่ทำไมระยะห่างถึงได้ไกลกันมากนักนะ