แม้จะใช้เวลาร่วมกันไม่มากนัก แต่หลังจากผ่านการต่อสู้แย่งชิงอำนาจในตระกูล ดิ้นรนในวงการบันเทิง และประสบกับความแตกต่างทางสังคม
ลึกๆ แล้วเย่ชิงโหรวก็อิจฉาเฉินเฟิง อิจฉาที่เขาจำเื่ราวในอดีตไม่ได้ เอาแต่ทุ่มเทให้กับการเลี้ยงดูลูกสาว ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและมีความสุข
พร้อมกันนั้น เธอก็รู้สึกขอบคุณเขาอยู่ไม่น้อยและมีความรู้สึกชายหญิงต่อเขาอยู่บ้าง
สำหรับเฉินเชียนลูกสาวต่างสายเื ด้วยความที่เธอมีปัญหาไม่สามารถมีลูกได้ เย่ชิงโหรวจึงเลี้ยงดูเฉินเชียนเสมือนลูกสาวแท้ๆ
มิเช่นนั้น เฉินเชียนคงไม่มีทางยอมรับคุณแม่ดาราที่นานๆ จะได้เจอกันสักครั้งคนนี้แน่
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เย่ชิงโหรวก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"เฉินเฟิง คุณไม่มีค่ามาต่อรองอะไรกับฉัน! ่นี้ฉันยุ่งกับเื่การแย่งชิงอำนาจในตระกูลเลยไม่มีเวลามาเยี่ยมลูกที่โรงพยาบาล จริงๆ แล้ว ฉันตั้งใจจะรอถึงตอนเย็นหลังจากเยี่ยมลูกเสร็จแล้วค่อยคุยกับคุณ แต่ในเมื่อตอนนี้คุณทำร้ายลุงสามาเ็สาหัส และยังหักหน้าฉันต่อหน้าคนอื่น เราหย่ากันเถอะ แม้ตระกูลเย่ของฉันเป็ตระกูลใหญ่ แต่ตระกูลนี้ไม่มีที่สำหรับคุณอีกต่อไปแล้ว ฉันห่างหายไปนานเพื่อก่อตั้งบริษัทเอนเตอร์เทนเมนต์มูลค่าหลายพันล้านด้วยตัวเองก็จริง แต่เพื่อให้ได้อำนาจมา ฉันตกปากรับคำกับปู่ทวดและเหล่าผู้าุโภายในตระกูลไว้แล้วว่า เมื่อฉันเข้ากุมอำนาจได้สำเร็จ ฉันจะแต่งงานกับคุณชายตระกูลเฉิน ตระกูลผู้ทรงอำนาจที่สุดในเจียงเฉิง พรุ่งนี้ฉันจึงจะแต่งงานใหม่ เพื่อการนั้นแล้ว ตอนนี้ วินาทีนี้ คุณในฐานะสามีลับของฉัน ฉันขอทิ้งคุณตรงนี้"
เย่ชิงโหรวถือว่านี่เป็การแก้แค้นเล็กๆ น้อยๆ ที่เฉินเฟิงไม่ยอมตอบคำถามเื่ข้อตกลงอย่างตรงไปตรงมา จนเธอต้องเดาไปเอง
"ฉันเป็ถึงชายหนุ่มรูปงามร่างสูงใหญ่ แต่ถูกทิ้ง?" เฉินเฟิงกัดฟันพึมพำกับตัวเองเบาๆ ด้วยหมัดของเขาที่กำแน่น
"คุณชายตระกูลเฉิน? เธอ้าแต่งงานกับสถานะคุณชายตระกูลเฉิน ไม่ใช่ไอ้ขี้แพ้เฉินฝูนั่นสินะ!"
เดิมทีเฉินเฟิงเป็ลูกชายคนโต หลานชายคนโต เหลนชายคนโตแห่งตระกูลเฉิน หากเขาเติบโตขึ้นตามปกติ เขาจะกลายเป็คุณชายตระกูลเฉินอย่างแน่นอน น่าเสียดายที่เขาถูกวินิจฉัยว่าเป็โรคชีพจรเก้าหยาง และมีชีวิตอยู่ได้ไม่พ้นเก้าขวบ ทำให้เขาถูกตระกูลเฉินขับไล่ั้แ่เด็ก เฉินฝูจึงขึ้นเป็ผู้สืบทอดคนใหม่
"ใช่ ฉันสัญญากับเหล่าผู้าุโว่าจะแต่งงานใหม่ แต่งงานกับคุณชายตระกูลเฉิน ฉันไม่สนใจหน้าตาหรือนิสัยเ้าสำราญของเฉินฝูอะไรทั้งนั้น นี่คือชะตาอันน่าเศร้าของลูกหลานตระกูลใหญ่ เพื่อแย่งชิงอำนาจและรักษาอำนาจไว้ ฉันต้องแต่งงานใหม่"
ใบหน้างดงามของเย่ชิงโหรวปรากฏรอยยิ้มเจื่อนๆ แล้วใบหน้านั้นก็ถอนหายใจด้วยความขมขื่น
แต่เธอจะทำอย่างไรได้?
เหล่าเืเนื้อเชื้อไขของตระกูลรุ่นที่สามอย่างเย่เฉินซึ่งเป็พ่อของเธอ ล้วนแล้วแต่เป็คนไร้ความสามารถ เป็ลูกชายผู้เกียจคร้าน รู้จักแต่การดื่มกินไปวันๆ
แต่เด็กรุ่นสี่กลับมีความสามารถโดดเด่น มีพร์ด้านการต่อสู้ หรือบางคนก็มีหัวการค้า
ในฐานะลูกสาวคนโต เย่ชิงโหรวจำต้องแบกรับภารกิจอันหนักหนานี้ไว้
ท้าทายขนบธรรมเนียมดั้งเดิม แต่งคนนอกเข้าตระกูลเพื่อให้ได้รับสิทธิ์การแย่งชิงอำนาจ
"ฉันไม่มีค่าต่อรองกับเธอ? สามสิบปีอยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำ สามสิบปีอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำ อย่าดูถูกคนหนุ่มจน! [1] ั้แ่วินาทีนี้ ฉันต่างหากที่ไม่้าเธอ ผู้หญิงไร้ความสามารถในการร่วมรักและมีลูก ฉันนี่ละคนถอนรากถอนโคนลูกๆ ลุงสามของเธอ บีบให้เธอขอหย่าร้าง! แต่ฉันก็ต้องขอบคุณ ที่อุตส่าห์รับฉันกับลูกสาวที่เพิ่งเกิดและไร้ญาติขาดมิตรเข้ามาอยู่ในตระกูลเย่เมื่อห้าปีก่อน ต่อแต่นี้ พวกเราไปทำเื่หย่าร้างที่สำนักงานเขตกัน จะได้ไม่รบกวนเวลา ให้เธอแต่งกับคุณชายตระกูลเฉินพรุ่งนี้ แต่ฉันขอเตือนเธอไว้ก่อน เมื่อเธอเซ็นใบหย่านี้แล้ว หากวันหน้าเธอนำพาเกี้ยวแบกหามแปดคนมาสู่ขอฉันใหม่ ก็ไม่มีวัน..."
เฉินเฟิงลูบหัวลูกสาวที่ใกล้จะร้องไห้เต็มที เธอไม่อยากให้ทั้งสองหย่าร้างกันด้วยท่าทีที่ไม่ครุ่นคิดอะไรเลย และไม่อยากให้พ่อตอบรับคำขอหย่าร้างขั้นเด็ดขาดของเย่ชิงโหรวแบบนั้น
แต่ในขณะที่เย่ชิงโหรวได้ยินเฉินเฟิงยินยอมหย่าร้างอย่างง่ายดาย แถมยังพูดจาไม่ยอมแพ้ เธอก็รู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบรัด
'ไม่คิดจะรั้งกันไวสักนิดเลยเหรอ? ชีวิตคู่สามีภรรยาห้าปีที่ผ่านมา น่าอัปยศสำหรับเขาขนาดนั้นหรือไงกัน?!' เย่ชิงโหรวคิดในใจอย่างขุ่นเคือง
หลังจากนั้นเฉินเฟิงก็อุ้มลูกสาวด้วยใบหน้าสดใส แล้วขึ้นรถลีมูซีนกันะุอย่างดีของเย่ชิงโหรวที่เต็มไปด้วยความหมองหม่น เพื่อมุ่งหน้าไปยังสำนักงานเขต
ทั้งคู่ไม่มีการไกล่เกลี่ยใดๆ ประกอบกับเส้นสายตระกูลเย่ การหย่าร้างจึงไม่ต้องใช้เวลายาวนานเป็เดือน
ใบหย่าถูกจัดการเสร็จสิ้นในเวลาอันรวดเร็ว
เมื่อออกจากสำนักงานเขต เย่ชิงโหรวรู้สึกราวกับไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง
เธอไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าวันหนึ่งเธอจะหย่าร้างกับเฉินเฟิง สามีไร้ค่าหน้าตาดีคนนี้
เย่ชิงโหรวปั้นแต่งตัวเองให้เป็หญิงแกร่ง แต่เธอก็แสดงด้านอ่อนแอของผู้หญิงต่อหน้าเฉินเฟิง หรือสามีไร้ค่าความจำเสื่อมคนนี้บ่อยครั้ง
"ฮ่าๆ... ในที่สุดก็หย่ากันแล้ว ตัวฉัน เฉินเฟิงไม่ใช่คนตระกูลเย่อีกต่อไป ไม่งั้นกลับไปพบอาจารย์ ข้าคงโดนท่านอาจารย์ล้อเลียนเป็แน่" เฉินเฟิงหัวเราะคิกคัก ขว้างใบหย่าในมือขึ้นไปบนยอดตึกสำนักงานเขตราวกับเป็การเล่นไพ่
ทางด้านเย่ชิงโหรวที่กำลังก้าวขึ้นรถ เมื่อเธอได้ยินเสียงหัวเราะอย่างตื่นเต้นของเฉินเฟิง เธอโมโหจนตัวสั่น หันขวับไปด่าเขาอย่างโกรธเคือง
"เฉินเฟิง! ฉันเกลียดคุณ! หย่ากับฉันมันน่าดีใจขนาดนั้นเลยหรือไง? พรุ่งนี้ฉันจะแต่งงานกับคุณชายตระกูลเฉิน คุณกับลูกก็มาร่วมเป็สักขีพยานด้วยแล้วกัน ฉันจะทำให้คุณดีใจยิ่งกว่านี้อีก!"
เย่ชิงโหรวไม่ทันสังเกตเห็นว่าเฉินเฟิงขว้างใบหย่าขึ้นไปบนผนังด้านนอกของสำนักงานเขตซึ่งสูงถึงห้าสิบเมตร โดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้เลย
เธอจึงไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมเฉินเฟิง อดีตสามีไร้ค่าคนนี้ถึงได้ดีใจขนาดนั้น
"จะเกลียดก็เกลียดไปสิ ถ้าไม่มีความเกลียดชัง จะเกิดเป็ความรักฝังใจได้อย่างไร..." เฉินเฟิงหัวเราะพร้อมส่ายหน้าเบาๆ
ไม่ต้องให้เย่ชิงโหรวเชิญ ยังไงเขาก็จะอุ้มลูกไปแย่งเ้าสาวในวันพรุ่งนี้อยู่ดี
เฉินเชียนอยู่ในอ้อมแขนของเฉินเฟิงตลอดเวลา เธอไม่ได้ยินเฉินเฟิงตอบตกลงไปร่วมงานแต่งสักคำ เธอคิดว่าเื่ชิงตัวเ้าสาวที่พ่อบอกเธอเมื่อก่อนหน้านี้เป็เพียงการปลอบใจเธอเท่านั้น ในเมื่อใบหย่าก็เซ็นแล้ว แถมยังถูกขว้างขึ้นไปบนตึกจนหายไปอย่างไร้ร่องรอย เฉินเชียนจึงคิดว่าพรุ่งนี้เฉินเฟิงจะไม่ไปร่วมงานแต่งงาน ไม่ต้องพูดถึงเื่ชิงตัวเ้าสาว
เธอจึงรีบพูดด้วยความตื่นตระหนกระคนกังวล
"ปะป๊า ปะป๊าต้องกลับไปหาอาจารย์ปู่ใช่ไหมคะ? แต่หนูรู้สึกว่าร่างกายหนูดีขึ้นแล้วนะ คืนนี้หนูขอนอนกับแม่ได้ไหมคะ ไม่อย่างนั้น ถ้าแม่แต่งงานกับคนอื่น หนูคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว"
เฉินเชียนใช้วิธีนี้เป็การให้ตัวเองได้อยู่ที่ตระกูลเย่ต่อ และบีบให้เฉินเฟิงต้องไปงานแต่งงานพรุ่งนี้ ไม่ว่าเขาจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม
ด้วยทักษะการแพทย์อันทรงพลังของเฉินเฟิงที่ปลดผนึกความทรงจำแล้ว เขามองออกได้ทันทีว่าลูกสาวของเขามีชีวิตเหลืออีกห้าวัน ไม่ใช่แค่วันสองวันอย่างที่หมอลวงโลกอย่างหวังจงหลี่บอกไว้!
เชิงอรรถ
[1] สามสิบปีอยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำ สามสิบปีอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำ อย่าดูถูกคนหนุ่มจน ตรงกับสำนวนไทยที่ว่า น้ำมาปลากินมด น้ำลดมดกินปลา มีน้ำขึ้นก็มีน้ำลง สถานะของคนเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลา หนุ่มสาวยากจนในอดีตก็สามารถร่ำรวยได้ในอนาคต
