หลังจากที่หยวนชิงหลิงอาการดีขึ้น บรรยากาศภายในกองทัพก็ดูผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด ต่างจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง กำหนดการเดินทางสู่เมืองหลวงแคว้นเซี่ยได้ถูกกำหนดขึ้นอีกครั้ง ภายหลังที่ทุกคนรู้ว่าเื่ที่ทำให้ท่านแม่ทัพมีท่าทีเคร่งเครียดก่อนหน้านี้ เป็เพราะสตรีบรรณาการที่มาจากแคว้นฉิน พวกเขาต่างก็มองนางด้วยสายตาแปลกประหลาด
หนึ่งเดือนต่อมา ขบวนกองทัพก็เดินทางมาถึงต้าเหลียง เมืองหลวงของแคว้นเซี่ย เหล่าสตรีบรรณาการที่ถูกส่งมาจากแคว้นฉินต่างก็ถูกส่งตัวเข้าไปในวังหลวงพร้อมกับเซี่ยหวายอีผู้เป็แม่ทัพที่เป็บุคคลสำคัญในการต่อสู้ในศึกครั้งนี้
“ถวายบังคมฮ่องเต้แห่งแคว้นเซี่ย ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปี”
หยวนชิงหลิงเดินนำหน้าเหล่าสตรีที่มาจากแคว้นฉิน เพื่อทำความเคารพต่อผู้ครองแคว้น สาวงามทั้งยี่สิบคนคุกเข่าก้มหน้าอยู่ตรงกลางท้องพระโรงอันใหญ่โตด้วยท่าทีสงบนิ่ง
เพราะก่อนหน้านี้ในระหว่างการเดินทาง หยวนชิงหลิงได้พูดคุยกับพวกนางแล้วว่า ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นเมื่อเดินทางไปถึงแคว้นเซี่ยแล้ว ขอให้พวกนางจงสงบนิ่งเอาไว้ อย่าได้แสดงท่าทีหวาดกลัวหรือด้อยค่าเกียรติยศของตนเอง ต่อให้พวกนางจะถูกดูแคลนจากคนแคว้นเซี่ยก็ตามที
เหล่าขุนนางที่อยู่พร้อมหน้าภายในท้องพระโรง ต่างก็ส่งเสียฮือฮาออกมาอย่างตกตะลึง ไม่คิดว่าสตรีที่ถูกส่งมาเพื่อเป็บรรณาการจากแคว้นฉิน จะงดงามและมีท่าทีสงบนิ่งได้น่าใเช่นนี้ ดูเหมือนพวกนางจะถูกคัดสรรมาเป็อย่างดีเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
“กลับมาแล้วหรือจิ้นอ๋อง ครั้งนี้เ้าทำหน้าที่ของตนได้อย่างไร้ที่ติจนทำให้พวกเราแคว้นเซี่ยได้ชัยเหนือแคว้นฉิน หลายปีผ่านไปใครจะไปคิดว่าแม่ทัพผู้เกรียงไกรอย่างหยวนิจะมาสิ้นท่าให้เด็กคราวลูกอย่างเ้า”
เซี่ยนหวายอีโค้งคำนับให้ผู้เป็ลุงที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ด้วยท่าทีเคารพ ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไร้อารมณ์
“ขอบพระทัยฝ่าาที่ทรงชื่นชมพ่ะย่ะค่ะ ที่กระหม่อมสามารถกำชัยชนะในครั้งนี้ได้ เป็เพราะแม่ทัพหยวนิอายุมากแล้ว หากเป็ครั้งที่เขายังอายุรุ่นราวคราวเดียวกับกระหม่อม เห็นทีว่าศึกในครั้งนี้คงจะไม่ง่าย”
“ฮ่าๆๆๆๆ เ้าเด็กคนนี้ ไม่ว่าเมื่อใดก็เอาแต่ถ่อมตัว ไม่โอ้อวดความสามารถของตนเอง เรารู้ว่าเ้านั้นชื่นชมหยวนิในความสามารถเื่การสู้รบ ดั่งเช่นที่แม่ทัพทั้งหลายต่างชื่นชมผู้ที่มีฝีมือเหนือกว่า แต่เ้าหลานชาย ตอนนี้เ้าได้ก้าวข้ามผู้ที่เ้าชื่นชมได้แล้ว จงภูมิใจเสียเถิด”
ฮ่องเต้หัวเราะออกมาเสียงดังอย่างอารมณ์ดี วันนี้เป็วันที่เขามีความสุขยิ่งกว่าวันไหนๆ หลายสิบปีมาแล้วที่ตระกูลหยวนแห่งแคว้นฉินนั้น เป็ดั่งหินผาที่ตั้งตระหง่านขวางกั้นระหว่างสองดินแดน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่สิบปีหินผาอันแข็งแกร่งก็มิเคยสั่นคลอน ในยามนี้สิ้นแล้วภูผาหินลูกนั้น ถึงเวลาที่แคว้นเซี่ยจะขึ้นครองเป็อันดับหนึ่งในใต้หล้า
แม้หยวนชิงหลิงจะรู้ว่าที่บิดาของตนต้องสิ้นชีพไป มิได้เป็เพราะฝีมือของคนแคว้นเซี่ย แต่เป็เพราะความโลภในอำนาจของคนแคว้นฉินที่พวกเขาตระกูลหยวนใช้เืเนื้อเพื่อปกป้อง แต่เมื่อได้ยินพวกเขาเอ่ยถึงบิดาของตนเช่นนั้น นางก็รู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก
ดูเหมือนเซี่ยหวายอีจะเข้าใจความรู้สึกของนาง ที่ต้องมาทนฟังเื่ราวของบิดาผู้ล่วงลับของตน เขาจึงเอ่ยเพื่อตัดบทหันเหความสนใจที่ทุกคนมีต่อหยวนิออกไป
“ฝ่าาพ่ะย่ะค่ะ นอกจากสิ่งของที่แคว้นฉินส่งมาเพื่อเป็บรรณาการแด่พระองค์แล้ว ฉินฮ่องเต้ยังส่งสาวงามมาอีกยี่สิบนาง พระองค์คิดจะทำอย่างไรต่อไป กับพวกนางหรือพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ที่ละความสนใจไปจากสตรีบรรณาการเ่าั้แล้วก่อนหน้านี้ หันมาพินิจสาวงามเ่าั้อย่างตั้งใจ ยามนี้ตนเองก็อายุล่วงเลยไปห้าสิบปีแล้ว ไม่มีความคิดที่จะรับสนมนางในใดๆ อีก แต่กลับต้องมาสะดุดตากับสตรีที่งดงามนางหนึ่งที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าตน
“เ้าที่คุกเข่าอยู่ข้างหน้าเรา เงยหน้าขึ้นซิ”
ฮ่องเต้ชี้ไปที่หยวนชิงหลิงอย่างเจาะจง ก่อนที่นางจะทำตามรับสั่งอย่างว่าง่าย เมื่อหยวนชิงหลิงเงยหน้าขึ้น จากที่ทุกคนคิดเอาไว้ว่านางนั้นดูงดงามโดดเด่นกว่าสตรีทุกคนที่ถูกส่งมา กลับต้องมาตกตะลึงอีกครั้งกับความงามที่แม้แต่สตรีแคว้นเซี่ยก็มิอาจเทียบได้
“เ้า... หรือว่า เ้าคือบุตรสาวของหยวนิอย่างนั้นหรือ”
หยวนชิงหลิงนิ่งไปกว่าอึดใจ ก่อนที่นางจะพยักหน้ายอมรับ
“เพคะ หม่อมฉันคือบุตรสาวคนโตของหยวนิ แม่ทัพแคว้นฉินผู้ล่วงลับ”
ที่ฮ่องเต้สามารถจดจำนางได้นั้นเป็เพราะเมื่อครั้งที่พระองค์ยังเป็เพียงองค์รัชทายาท เคยแอบเดินทางไปยังแคว้นฉินในฐานะพ่อค้าต่างแดน และเพราะความบังเอิญทำให้พระองค์เคยได้รับความช่วยเหลือจากฮูหยินของหยวนิ สตรีที่งดงามที่สุดในดินแดนแคว้นฉิน แม้พระองค์จะได้พบกับสตรีผู้นั้นเพียงแค่ครั้งเดียว ก็ถึงกับเก็บเอานางมาฝันถึงเสียหลายเดือน
ช่างน่าเสียดายที่ในเวลานั้น นางแต่งงานกับหยวนิไปก่อนแล้ว ไม่อย่างนั้นพระองค์คงจะพานางกลับมายังแคว้นเซี่ยในฐานะพระชายาของตนอีกคนเป็แน่
และสตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าของเขานางนี้ มีใบหน้าที่เหมือนกันกับสตรีที่เคยช่วยเหลือตนเอาไว้ถึงแปดส่วน แต่นางดูมีความมั่นใจและโดดเด่นกว่ามารดาของนางนัก
“เราเคยได้รับความช่วยเหลือจากท่านแม่ของเ้าเมื่อนานมาแล้ว ไม่คิดว่าเราทั้งสองจะมีวาสนาได้พบกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้คนที่เราได้พบกลับเป็เป็บุตรสาวของนาง ท่านแม่ของเ้านางคงจะสบายดีกระมัง”
เมื่อเอ่ยถึงสตรีที่เคยอยู่ในใจของตนเช่นนี้ พระองค์ก็อดที่จะรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมามิได้ ไม่ใช่เพราะตนเองเคยชอบนาง แต่เป็เพราะตนเป็หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้สามีของนางต้องเสียชีวิต
หยวนชิงหลิงส่ายหน้า
“หม่อมฉันเองก็ไม่ทราบเพคะ แต่คิดว่าคงจะไม่ดีเท่าใดนัก”
หยวนชิงหลิงเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเศร้าสร้อย ก่อนจะก้มหน้าหลบสายตาคมกริบของฮ่องเต้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ ฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลงมองท่าทีการแสดงออกของนางด้วยความสงสัย ก่อนจะโบกมือให้ทุกคนแยกย้ายกันออกไป
สตรีบรรณาการทั้งยี่สิบนาง ได้ถูกส่งไปยังตำหนักรับรอง ยังมิได้ตัดสินใจว่าพระองค์จะทำเช่นไรกับพวกนาง แต่หยวนชิง หลิงกลับได้รับการดูแลเป็อย่างดีจากนางกำนัล เพราะเป็คำสั่งโดยตรงจากฮ่องเต้ ทุกคนในวังหลวงต่างก็คิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า บางทีครั้งนี้ฝ่าาอาจจะรับสนมเข้าวังหลังอีกคน หลังจากที่ห่างหายไปนานหลายปี
“อีเอ๋อ เ้าคิดอย่างไรเกี่ยวกับเื่ที่เราจะรับนางเข้าวังหลัง”
ฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลงเอ่ยหยั่งเชิงหลานชายที่นั่งทำหน้านิ่งเป็ก้อนหินของตน เซี่ยหวายอีที่นั่งจิบชาอย่างสบายอารมณ์ในห้องทรงงาน เงยหน้าขึ้นแสดงอาการตกตะลึงออกมา
“พระองค์หมายถึงใครหรือพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้จับสังเกตท่าทีของหลานชาย ก่อนจะเปรยออกมาเบาๆ
“จะใครซะอีกเล่า ก็เด็กสาวคนนั้น หยวนชิงหลิง....”
“มิได้นะพ่ะย่ะค่ะ พระองค์จะรับสตรีใดเข้าวังหลังก็ได้ทั้งนั้น แต่ต้องมิใช่นาง”
ยังไม่ทันที่ฮ่องเต้จะเอ่ยจบเซี่ยหวายอีก็เอ่ยขัดขึ้น เขาแสดงท่าทีไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“เหตุใดจะมิได้เล่า นางเป็สตรีบรรณาการจากแคว้นฉินที่ถูกส่งมาให้เรา เหตุใดเราจะแต่งตั้งให้นางเป็สนมมิได้”
เซี่ยหวายอีตกตะลึงอีกครั้ง ไม่คิดว่าลุงของตนจะเอ่ยออกมาเช่นนั้น ชายหนุ่มลุกขึ้นด้วยท่าทางไม่พอใจ ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยนำเสียงกระด้าง
“นางเป็ของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ หากฝ่าา้าแต่งตั้งให้นางเป็นางสนม กระหม่อมจะพานางหนีออกไปจากแคว้นเซี่ย แล้วจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกเลย”
ฮ่องเต่เซี่ยเฟยหลงเพียง้าหยั่งเชิงดูความรู้สึกของหลานชายเท่านั้น พระองค์ไม่คิดว่าเ้าเด็กคนนี้จะแสดงท่าทีจริงจังออกมามากมายถึงเพียงนี้ เห็นทีรายงานที่ถูกส่งมาจากกองทัพจะเป็เื่จริงเสียแล้วกระมัง
“เ้าชอบนางอย่างนั้นหรือ”
เซี่ยหวายอีพึ่งรู้สึกตัวว่าตนเองถูกผู้เป็ลุงเล่นงานเข้าให้แล้ว ร่างสูงมีท่าทีอึกอัก ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมยอมรับ แต่นางคิดเช่นไรนั้นตอนนี้ยังไม่รู้”
ฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลงที่เฝ้ามองการเติบโตของเด็กคนนี้อย่างใกล้ชิด มีหรือที่พระองค์จะไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไร แต่หลายปีมานี้เด็กที่ทำทุกอย่างได้เป็อย่างดีมาตลอด แม้กระทั่งตอนที่มาขออนุญาตตนเข้าร่วมกองทัพั้แ่อายุยังน้อย พระองค์ก็ไม่เคยเห็นเขามีท่าทีจนมุมเช่นนี้มาก่อน
“เสด็จพ่อของเ้าคงจะดีใจที่ได้เห็นบุตรชายของตนเริ่มมองหาสตรีแล้ว หากเ้ายังครองตัวเป็โสดอยู่เช่นนี้ต่อไป อีกไม่นานคงมีข่าวลือออกไปว่าจิ้นอ๋องกลายเป็พวกตัดแขนเสื้อ”
ฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลงเอ่ยถึงน้องชายร่วมอุทรผู้ล่วงลับของตนด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย ั้แ่ที่เซี่ยหวายอีอายุห้าขวบ อดีต จิ้นอ๋องก็ด่วนจากไปด้วยโรคร้าย จิ้นหว่างเฟยที่ต้องสูญเสียสามีไปอย่างกะทันหันยอมรับไม่ได้ถึงกับล้มป่วย และเพียงไม่นานพระนางก็มาจากไปอีกคน
เซี่ยหวายอีที่ในเวลานั้นอายุยังน้อย ต้องมาแบกรับทุกอย่างเอาไว้ด้วยตนเอง ยังดีที่ฮ่องเต้รับเขาเข้ามาอยู่ในความดูแล พระองค์เลี้ยงดูเด็กชายดั่งบุตรในอุทร แม้ว่าในข่าวลือเซี่ยหวายอีจะดูเป็คนเ็าและอำมหิต แต่ความเป็จริงแล้วเขานั้นอ่อนไหวและมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นยิ่งนัก
“เอาเถอะ เื่นี้เราจะไม่ยุ่งปล่อยให้เป็หน้าที่ของเ้าก็แล้วกัน ส่วนเื่สารลับที่เ้าส่งมาก่อนหน้านี้นั้น สืบมาอย่างกระจ่างแล้วใช่หรือไม่”
ฮ่องเต้ที่เคยเอ่ยเย้าแหย่หลานชาย กลับมามีท่าทีจริงจังอีกครั้ง เมื่อเอ่ยถึงสารลับที่เซี่ยหวายอีส่งมาก่อนที่เขาจะเคลื่อนทัพกลับมายังเมืองหลวง
“แม้ในยามนี้ จะสิ้นแม่ทัพหยวนิไปแล้ว แต่ก็ไม่อาจดูแคลนในความสามารถของแม่ทัพคนใหม่ที่ขึ้นมาทำหน้าที่แทนได้นะพ่ะย่ะค่ะ นอกจากนี้ภายในแคว้นฉินนั้นจากที่กระหม่อมได้ตามสืบดู ดูเหมือนกำลังจะมีคลื่นใต้น้ำ เหล่าองค์ชายต่างก็ต่อสู้แย่งชิงอำนาจกันอย่างลับๆ และผู้ที่พวกเราต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดนั้นคืออ๋องเจ็ด แม้ตัวเขาจะแสดงออกว่าไม่้ายุ่งเกี่ยวกับการแย่งชิงใดๆ แต่ที่ชายแดนกลับซ่องสุมกำลังพลเตรียมเอาไว้ กระหม่อมคิดว่าอีกไม่นานแคว้นฉินจะต้องเกิดศึกภายในอย่างแน่นอน”
เซี่ยหวายอีเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ หลังจากที่สนทนาหารือกับฮ่องเต้เกี่ยวกับเื่ภายในกองทัพ ชายหนุ่มก็ขอทูลลาเพื่อกลับไปยังจวนของตนที่ไม่ได้กลับมานานหลายปี ที่นั่นได้พ่อบ้านเหวินที่เข้มงวดเป็ผู้ดูแล ทำให้เซี่ยหวายอีไม่จำเป็ต้องห่วงมากนัก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้