“ ทั้งหมดอยู่ที่พลังของเ้าที่จะควบคุมให้เป็แบบไหน สิ่งต่อไปที่เ้าจะต้องเรียนรู้และหาเพิ่มใส่ตัวก็คือพลัง เ้าก็เห็นว่าแดนนี้พลังสำคัญที่สุด”
“ จากนี้อีกเจ็ดวันให้เ้าเร่งฝึกฝนเื่ การเขียนยันต์ตาข่ายอาคมทั้งสามให้ชำนาญและให้ทดลอง ส่วนพลังของเ้าก็หาเพิ่มเติมทีหลัง”
เย่วซิงเร่งฝึกฝนตามที่อาจารย์สั่ง ส่วนพลังอาจารย์บอกว่ามีหลายวิธี รวมทั้งจินตานของสัตว์อสูรหรือแก่นพลังตบะ ของสัตว์อสูริญญา วันข้างหน้านางต้องไปเสาะแสวงหามาเพิ่มพลังให้ตน
“ อาจารย์ได้ทำสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจหมดแล้ว และพร้อมที่จะไปยมโลกเพื่อตัดสินบุญบาปและไปเกิดใหม่ เ้าเข้ามาใกล้ๆอาจารย์มีของจะมอบให้”
เยว่ซิงเข้าไปนั่งอยู่ใกล้ๆ อาจารย์ผู้เฒ่า อยู่ด้วยกันมาเดือนกว่า พออาจารย์จะไปนางก็รู้สึกใจหายเหมือนกัน
“ นี่คือเส้นด้าย ที่ทรงพลังเส้นหนึ่งถ้าเ้าทำดีช่วยเหลือสรรพสิ่งบนโลกนี้ เส้นด้ายเส้นนี้จะกลายเป็กำไลที่งดงาม และมันยังคุ้มครองชีวิตเ้าได้ด้วย ยังมีความลับอีกมากมายที่ซ่อนอยู่ในเส้นด้ายเส้นนี้ เพราะอาจารย์ก็ยังไม่รู้ถึงขอบสิ้นสุดของมันจบที่ตรงไหน”
“ ท่านอาจารย์ไม่ได้เป็ผู้สร้างเองหรือเ้าค่ะ ถึงไม่รู้ขอบเขตสิ้นสุดของกำไลว่าไปถึงจุดไหน”
“ อาจารย์ไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอก เส้นด้ายนี้เป็มรดกตกทอดกันมา ทีแรกอาจารย์คิดว่าจะให้มันสูญหายไปพร้อมกับอาจารย์ แต่เมื่อมีเ้าเป็ลูกศิษย์อาจารย์จึงได้มอบให้เ้า ยื่นมือมาอาจารย์จะผูกให้”
เส้นด้ายเล็กบางสีเขียวถูกมัดเข้ากับข้อมือ ข้างซ้ายของเย่วซิง ซึ่งพอมัดเสร็จ เส้นด้ายสีเขียวก็ปรับขนาดพอดีกับข้อมือของนางและไม่มีรอยต่อ ลักษณะเหมือนกำไลแต่เป็เส้นด้าย
“และนี่คือพู่กันของจริง ที่ให้เ้าใช้วาดยันต์อาคม เ้าไม่ต้องพกติดตัวแค่นึก หรืออัญเชิญพู่กันนี้ก็มาปรากฏตัวตรงหน้า และยันต์ที่วาดได้ ข่ายอาคม จะแข็งแกร่งกว่าพู่กันที่อาจารย์ให้เ้าฝึก”
“ โอ้! ตัวสวยงามมากเ้าค่ะด้ามสีดำคาดแดงขนสีทอง จับถนัดมือกว่าพู่กันใหญ่ที่อาจารย์ให้ฝึกมาก แต่ดูใหญ่กว่าพู่กันธรรมดาทั่วไปแล้ว หลายเท่าตัวอยู่เหมือนกัน นะเ้าคะ”
“ ใหญ่แบบนี้แหละดี สมัยปรมาจารย์บรรพจารย์ ใช้กันแค่เอาพู่กัน ออกมาพวกิญญาร้ายมองเห็นแต่ไกล ก็พากันหนีไม่กล้าเข้าใกล้แล้ว”
“แล้วอาจารย์จะให้ข้าท่องมนต์คาถา ส่งิญญาไปปรโลกตอนไหนเ้าคะ อยู่ด้วยกันมาหลายวันในสองวันที่ผ่านมาข้าเห็นร่างโปร่งแสงอาจารย์เริ่มเบาบางลง”
“ เ้าท่องมนต์คาถามาเลยอาจารย์พร้อมแล้ว พออาจารย์ไปเ้าก็กลับไปอยู่ที่บ้านอยู่ที่นี่คนเดียวไม่ปลอดภัย จงจำเอาไว้ช่วยชีวิตหรือสรรพสิ่งทำให้เ้ามีพลังเพิ่มขึ้น โดยไม่ต้องไปฆ่าสัตว์เพื่อแย่งเอาจินตานหรือก้อนพลังของมันมา”
“ เ้าค่ะศิษย์ จะจำไว้และหมั่นทำความดีช่วยเหลือทั้งมนุษย์และิญญา รวมถึงสัตว์ิญญาตามที่อาจารย์สั่งไว้เ้าค่ะ ข้าจะทำให้เส้นด้ายกลายเป็กำไลแขนที่สวยงามให้ได้เ้าค่ะ”
“ดีๆ อาจารย์พร้อมแล้ว เ้าท่องมนต์คาถาส่งิญญาได้เลย” ร่างโปร่งแสงของอาจารย์ชรายืนกะพริบอยู่สองสามครั้งก่อนจะหายไป ระหว่างที่เย่วซิงยืนท่องมนต์คาถาส่งิญญาไปปรโลก
“ ขอให้อาจารย์ไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดีนะเ้าค่ะ”เย่วซิงเก็บของใช้ ผ้าห่มผ้าปูที่นอนมัดวางไว้บนหลังม้าสีเทา
“ ไปกลับบ้านกันก่อน รออีกสักพักค่อยเข้ามาใหม่เราต้องไปหาผลไม้ที่มีพลังและสมุนไพร ในป่าแห่งนี้อีก”
“ คุณหนูกลับมาแล้ว หายไปเป็เดือนเลยพวกข้าคิดถึงและเป็ห่วงคุณหนู ยังดีที่มีจดหมายที่เ้าสีเทา คอยเอามาส่งให้” สองสาวใช้รับสัมภาระบนหลังม้าลงมา พวกนางต้องเอาเครื่องนุ่งห่มและเสื้อผ้าไปซัก
“ พี่สาวข้าไม่อยู่เดือนกว่ามีเื่ราวอะไรหรือไม่ วันหลังพวกท่านถ้าอ่านหนังได้ เขียนไม่ได้ก็ฝากข้อความเสียงให้กับเ้าม้าไปก็ได้ ข้าสื่อสารกับเ้าเทารู้เื่”
“ ที่นี่ปกติดีไม่มีข่าวคราวอะไรที่เป็ผลร้ายกับพวกเรา หรือกับชาวบ้านที่อยู่แถวนี้ เ้าค่ะคุณหนู”
“ อย่างงั้นก็ดีข้าจะพักให้หายเหนื่อย แล้วจะเข้าป่าไปหาสมุนไพรและผลไม้มีพลังมาขาย เก็บมุกิญญาไว้ใช้ในภายภาคหน้า”เย่วซิงเดินเข้าห้องนอน เปิดหน้าต่างรับอากาศบริสุทธิ์จากข้างนอก
“ นกฮูกเ้าไม่ได้อยู่ในป่ารึ แล้วกลางวันไม่ต้องนอนพักผ่อนในถ้ำ ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะหรือว่ามีเื่อะไร”เย่วซิงเปิดหน้าต่างก็เจอกับนกฮูกที่บินมาเกาะหน้าต่างที่นางเปิดพอดี
“ ข้ารู้สึกเหงาท่านผู้เฒ่าก็ไม่อยู่เลยบินไปทั่วป่า เจอิญญาหญิงสาวผู้หนึ่งนั่งโดดเดี่ยวอยู่ข้างน้ำตก และตรงที่ิญญาอยู่มีผลไม้ที่มีพลังอยู่ต้นหนึ่ง เ้าไม่อยากไปดูรึ”
“ ข้าเพิ่งกลับมาถึงเ้าก็ชวนข้าไปแล้วหรือ เอาไว้พรุ่งนี้ก็แล้วกัน หากเ้าเหงาก็บินมาเล่นที่บ้านบ่อยๆได้เดี๋ยวข้าจะสั่งพี่สาวไว้”
เย่วซิงอยู่พักผ่อนที่บ้านได้หนึ่งคืนยังไม่ทันสว่างดี นกฮูกก็บินมาเกาะหน้าต่างปากของคาบกิ่งไม้ ที่มีผลไม้สีแดงสองลูกติดอยู่
“ เ้ามาแต่เช้าเลยรึ เอ๊ะ! ผลไม้ที่เ้าคาบอยู่เอามาให้ข้าดูใช่หรือไม่”เย่วซิงหยิบกิ่งไม้ ที่มีผลสีแดงสองผลติดอยู่ ขึ้นมาพิจารณาดู
“ ผลไม้นี้มีพลังจริงด้วย ดูเหมือนพลังจะเยอะกว่าที่เ้าขนมาให้ข้ากินตอนที่อยู่ในถ้ำ เอาผลไม้มาล่อแบบนี้้าให้ข้าตามไปโดยไวใช่หรือไม่ ก็ได้ข้าขอเตรียมตัวก่อน”
“ คุณหนูจะเข้าป่าอีกแล้วหรือเ้าค่ะเพิ่งจะมาเมื่อวานนี้แท้ๆ พักผ่อนสักสองสามวันแล้วค่อยเข้าไปเถอะเ้าค่ะ”
“ พี่สาวเวลารอไม่ได้ นกฮูกคาบผลไม้มีพลังมาให้ข้าดูแล้ว ถ้าไม่รีบไปเก็บกลัวจะมีคนเจอเข้าเสียก่อน ผลไม้เราต้องขายไหนจะต้องกินเพิ่มพลังอีกข้าต้องรีบไป อ้อ! ถ้าพี่สาวทั้งสองคนเห็นนกฮูกบินไปมาในบ้านไม่ต้องในะ มันเป็นกฮูกที่ดี”
“ เ้าม้าเทาเข้าป่ากันรอให้ข้าแข็งแรงและโตกว่านี้อีกสักหน่อยข้าจะไปเอง ไม่อยากให้เ้าเดินเข้าออกป่าบ่อยกลัวจะมีคนมาเจอแล้วจับไป”
“ นกฮูกิญญาที่เ้าว่าอยู่ไหนล่ะ หรือว่ากลางวันิญญาไม่ได้มาปรากฏตัว ต้นผลไม้สีแดงนั่นใช่มั้ยที่เ้าคาบไปให้ข้าดู”
“ หรือว่าข้างน้ำตกอาจจะมีถ้ำอยู่ ิญญาอาจจะไม่ชอบแสงสว่างแต่ชอบที่สลัว เ้าลองบินเข้าไปดูให้หน่อยข้าจะเก็บผลไม้รอ” นกฮูกบินเข้าไปในถ้ำ
“ รสชาติอร่อยไม่พอพลังยังเยอะด้วย เ้าม้าเทาเ้าวิ่งไปมากินแต่หญ้า ลองกินผลไม้นี่ดูสิ พลังเยอะแบบนี้อาจจะทำให้เ้ามีพลังเพิ่มขึ้นก็ได้”เย่วซิงโยนผลไม้สีแดงลงมา ม้าสีเทาะโอ้าปากงับผลไม้ เพราะมันกลัวผลไม้จะร่วงลงพื้นแตกเสียหาย
“ เ้ารีบเข้าไปดูข้างในเถอะเหมือนิญญา จะป่วยนอนอยู่ในถ้ำนั้น” เสียงนกฮูกทำให้เย่วซิงรีบปีนลงมาจากต้นไม้ และเดินเข้าไปในถ้ำ
พบิญญาหญิงสาวอายุประมาณยี่สิบกว่าปี นอนโปร่งแสงอยู่ในมุมหนึ่งของถ้ำ เย่วซิงรีบท่องมนต์คาถา เพื่อการรักษาออกไปยังร่างโปร่งแสงนั้น
“ เด็กน้อยขอบใจเ้ามากที่ช่วยทำให้ข้าดีขึ้น แต่มันคงถึงเวลาที่ข้าต้องไปแล้ว เสียดายที่ไม่ได้ทำความหวังสุดท้ายให้สำเร็จ”
“ ท่านยังมีความหวังสุดท้ายอะไรอยู่หรือ ที่ทำให้ไม่ไปยังปรโลกหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่”
“ ข้าจะปรุงยารักษาโรค ช่วยลูกหลานของตระกูลข้า ที่กำลังป่วยหนักอยู่ตอนนี้ ถึงข้าจะตายมานานหลายร้อยปีแล้ว แต่ยาตัวสุดท้ายที่จะทำให้พวกเขาหรือทายาทของตระกูล ไม่ต้องทุกข์ทรมานเพราะโรคร้ายนั้น”
“ เป็โรคร้ายชนิดไหนกัน ถึงเจ็บป่วยยาวนานส่งผลถึงกรรมพันธุ์ไปถึงลูกหลานได้ หรือจะเป็กล้ามเนื้ออ่อนแรงตาบอดสี เืไหลไม่หยุด”
“ เด็กน้อยเ้ารู้ได้ยังไงทายาทลูกหลานที่ออกจากตระกูลเรา เป็โรคเืไหลไม่หยุด แค่มีาแก็มีอันตรายถึงชีวิตแล้ว”
“ ที่แท้โรคโรคธาลัสซีเมีย,โรคฮีโมฟีเลีย (โรคเืไหลไม่หยุด) ก็มีมาั้แ่โบราณนี่เอง เราก็ไม่ได้เรียนแพทย์มาด้วยสิ”
“ แล้วยาที่ปรุงไม่เสร็จยังขาดสมุนไพรตัวไหน หรือว่าขั้นตอนที่เหลือคืออะไรเ้าคะเผื่อข้าจะได้ช่วยได้”
“ สมุนไพรข้าเตรียมไว้หมดแล้ว แต่เ้าก็เห็นข้าเป็ร่างโปร่งแสงไม่สามารถจับหรือััได้อีกแล้ว ก่อนหน้านี้พลังข้ายังแข็งแรงสามารถหยิบจับได้ แต่หลายปีมานี่ข้าไม่สามารถทำสิ่งเ่าั้ได้แล้ว”
“ หรือว่า?เด็กน้อย เ้าช่วยหยิบจับแทนข้า ปรุงยาขึ้นมาโดยที่มีข้าเป็ผู้บอก ถ้าเ้าตกลงจะช่วยข้า มีตำราที่กองอยู่ข้างผนังถ้ำ ใช้เวลาศึกษาไม่นานหรอกดูเหมือนเ้าจะมีความจำที่ดี”
เย่วซิงเดินไปยังผนังถ้ำที่มีหนังสือวางทับกันไว้หลายเล่ม“ ตำราสมุนไพร มีภาพประกอบด้วย ถ้าเราอ่านจบทั้งเล่มนี้ก็สามารถเก็บสมุนไพรป่าไปขายได้แล้วสินะ”
“ อีกเล่มหนึ่งการปรุงยา ถ้าเรียนจบเล่มนี้ก็ไม่ต้องซื้อโอสถกินแล้ว แถมยังขายได้ด้วย ไม่แน่วันข้างหน้าอาจจะเปิดเป็ ร้านขายสมุนไพรหรือร้านขายโอสถ”
“ เล่มที่สามอาการของโรคต่างๆ และการรักษา มีการฝังเข็มด้วยเล่มนี้น่าจะยากสุด แต่ถ้าให้เรียนทั้งหมดนี้ไม่ใช่ว่าต้องใช้เวลาเป็ปีหรือกว่าจะปรุงยาออกมาได้”
“ ขอแค่เ้าตั้งใจไม่มีอะไรยากหรอก เริ่มจากสิ่งที่เ้าถนัดก่อน และความชอบจะตามมาทีหลัง”
“ ข้าจะพยายามหรือเ้าค่ะ เริ่มจากหนังสือสมุนไพรก่อนก็แล้วกัน”เย่วซิงเริ่มต้นเรียนเื่สมุนไพรที่ชื่อและหน้าตาในโลกอนาคตยังไม่มี
“ ท่าทางน่าจะใช้เวลาหลายวันอยู่ ให้ม้าเทากลับไปที่บ้านส่งข่าว ให้พี่สาวทั้งสองคนจัดเสื้อผ้าเครื่องนอนมาให้ก่อนดีกว่า”เย่วซิงเขียนจดหมายโดยใช้ถ่านไม้ ที่เก็บไว้ั้แ่เรียนกับอาจารย์ผู้เฒ่า
“ นกฮูกเ้าก็บินไปด้วย เผื่อมีอะไรเกิดขึ้นจะได้ช่วยกัน ม้าเทาเ้าต้องรอรับสิ่งของที่จำเป็ที่ข้าต้องใช้ รอพี่สาวขนขึ้นหลังให้เสร็จก่อน แล้วค่อยเดินทางกลับเข้าป่ามาที่นี่ เ้าทำได้ใช่ไหม”
“ ข้าทำได้ แค่ยืนรอและฟังทั้งสองคุยกันว่าขนของเสร็จแล้วข้าก็เดินทางกลับ”ม้าเทาและนกฮูกพากันเดินทางออกจากป่า
เย่วซิงหันมาตั้งใจอ่านตำราสมุนไพร โดยมีิญญาโปร่งแสงของหญิงสาวนั่งคอยแนะนำอยู่ใกล้ๆเวลาไม่เข้าใจ
“ มีความรู้สึกว่าเหมือนเรียนตัวต่อตัวกับอาจารย์โดยตรงเลยนะนี่ แถมเหมือนความจำจะดีขึ้นอ่านแค่รอบสองรอบก็จำได้แล้ว ถ้าความจำแบบนี้ในโลกอนาคตเราต้องเรียนจบดอกเตอร์เป็แน่”เย่วซิงเดินคิดเล่นๆอยู่แถวน้ำตก นางออกมายืดเส้นยืดสายหลังจากจดจ่อกับการอ่านตำรา
“ น้ำตกนี้ก็น่าเล่นไม่เบา รอม้าเทาขนเสื้อผ้ากลับมาแล้ว ่เย็นต้องมาอาบน้ำเล่นซะแล้ว หรือว่า่ไหนที่ต้องพักสายตามาเป็เก็บผลไม้ดี แต่ถ้าเก็บไว้หลายวันกว่าจะออกป่ากว่าจะเสีย เก็บไว้แค่พอกินก็แล้วกัน”เย่วซิงปีนขึ้นไปเก็บผลไม้ พอกินแทนอาหารมื้อเย็นก็กลับเข้าทำไปเรียนต่อ